ผมแพ้ต่อบาปบ่อยๆ
จะทำเยี่ยงไรดีครับ
แงแง
แงแง
- Immanuel (MichaelPaul)
- ~@
- โพสต์: 2887
- ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ม.ค. 17, 2005 8:49 pm
- ที่อยู่: กรุงเทพมหานคร
ไม่ต้องคิดมากครับพยายามทำให้ดีที่สุดละกันครับ ผมเชื่อว่าทุกคนเป็นแบบนี้กันบ่อยครับ (รวมทั้งผมด้วยแหะๆ)
คนเราล้มกันได้ทุกคน เพียงแต่ล้มแล้วให้ลุก และไม่ตั้งใจจะล้มอีก ไม่ใช่ไหนๆล้มแล้วต้องล้มอีกแน่เลย แบบนี้ไม่ลุกดีกว่า
...อย่าหนีจงสู้สุดชีวันแม่(พระ)เป็นประกันบาปมันจะพ่ายแพ้เอย
ผมก็ต้องสู้กับการผจญเหมือนกัน แพ้ก็บ่อยครับ เคยหมักบาปไว้เป็นปี ๆ ไม่ไปสารภาพแล้วมันก็แย่กว่าเก่า รู้ตัวเสมอนะครับว่าหากตายไปนรกเปิดประตูรออยู่แน่ ๆ แล้วปีศาจมันต้องมาเยาะเย้ยซ้ำเติมแน่นอนว่า "ดูซิเจ้าสารรูปแบบนี้ยังมีอารมณ์ทำบาประเภทนี้ด้วยรึ ทุเรศว่ะ สมน้ำหน้า มาอยู่กับข้าเลยมาๆๆ" แต่พอมาทีหลัง เลยเปลี่ยนวิถีชีวิตใหม่ เมื่อทำบาปแล้วรีบขอโทษพระเจ้าก่อนเลย แล้วหาโอกาสไปสารภาพบาปกับพระสงฆ์ ไม่ต้องอายท่านแม้เราจะสารภาพแต่บาปเดิม ๆ แล้วทีละน้อนเราจะทำบาปนั้นน้อยลง เพราะอย่างน้อยเราก็เบื่อมันด้วย ไม่ใช่เบื่อการสารภาพบาปหรอกนะครับ แต่เบื่อการทำบาปนั้น ผมบอกกับปีศาจในใจเลยว่า "ฉันเคยทำบาปนี้ไม่ตั้งเยอะแล้ว มันน่าเบื่อแล้ว การประจญของเจ้าไม่สำเร็จหรอก ฉันรู้แล้วว่ามันเป็นยังไง พอกันทีเถอะ" เพราะผมรู้สึกว่าชีวิตที่มีสันติสุขของพระเจ้านี้ช่างเป็นสิ่งที่มีค่า และไม่อยากให้สิ่งนี้หายไปเพราะบาปอีก ชีวิตดูสดใสเบิกบาน ไม่ต้องกลัวตายแล้วปีศาจจะมารอรับ
ผมก็ต้องสู้กับการผจญเหมือนกัน แพ้ก็บ่อยครับ เคยหมักบาปไว้เป็นปี ๆ ไม่ไปสารภาพแล้วมันก็แย่กว่าเก่า รู้ตัวเสมอนะครับว่าหากตายไปนรกเปิดประตูรออยู่แน่ ๆ แล้วปีศาจมันต้องมาเยาะเย้ยซ้ำเติมแน่นอนว่า "ดูซิเจ้าสารรูปแบบนี้ยังมีอารมณ์ทำบาประเภทนี้ด้วยรึ ทุเรศว่ะ สมน้ำหน้า มาอยู่กับข้าเลยมาๆๆ" แต่พอมาทีหลัง เลยเปลี่ยนวิถีชีวิตใหม่ เมื่อทำบาปแล้วรีบขอโทษพระเจ้าก่อนเลย แล้วหาโอกาสไปสารภาพบาปกับพระสงฆ์ ไม่ต้องอายท่านแม้เราจะสารภาพแต่บาปเดิม ๆ แล้วทีละน้อนเราจะทำบาปนั้นน้อยลง เพราะอย่างน้อยเราก็เบื่อมันด้วย ไม่ใช่เบื่อการสารภาพบาปหรอกนะครับ แต่เบื่อการทำบาปนั้น ผมบอกกับปีศาจในใจเลยว่า "ฉันเคยทำบาปนี้ไม่ตั้งเยอะแล้ว มันน่าเบื่อแล้ว การประจญของเจ้าไม่สำเร็จหรอก ฉันรู้แล้วว่ามันเป็นยังไง พอกันทีเถอะ" เพราะผมรู้สึกว่าชีวิตที่มีสันติสุขของพระเจ้านี้ช่างเป็นสิ่งที่มีค่า และไม่อยากให้สิ่งนี้หายไปเพราะบาปอีก ชีวิตดูสดใสเบิกบาน ไม่ต้องกลัวตายแล้วปีศาจจะมารอรับ
แก้ไขล่าสุดโดย Andreas เมื่อ เสาร์ พ.ค. 28, 2005 8:15 pm, แก้ไขไปแล้ว 1 ครั้ง.
-
- ~@
- โพสต์: 2546
- ลงทะเบียนเมื่อ: อังคาร ม.ค. 18, 2005 10:54 pm
เป็นกำลังใจให้ เราจะจับมือกันไปค่อยช่วยเหลือกันเสมอจนถึงวันที่พระเยซูเสด็จมาครับ^^
คนเราทุกคนก็เคยแพ้กันมาก่อนแหละครับ ก็อย่าลืมสวดมากๆนะครับ ถ้าหากกังวลขึ้นมาอีกก็คิดเสียว่า "ต้องแพ้เสียก่อน จึงจะชนะได้" ก็แล้วกันนะครับ ;)
ผมเองก็เคยพ่ายแพ้ต่อบาป ต่อการล่อลวงของปีศาจ อยู่บ่อยๆ ครับ แต่หลังๆ นี่เอาชนะได้มากขึ้น ไม่ค่อยแพ้บ่อยเหมือนแต่ก่อน เมื่อถูกประจญก็เรียกหาพระ สวดภาวนา แล้วก็จินตนาการไปด้วยว่า เจ้าปีศาจมันกำลังพูดเยาะเย้ยดูถูกพระเป็นเจ้าว่า "คอยดูนะ เดี๋ยวเจ้ามนุษย์คนนี้ จะต้องฟังเสียงข้าอย่างแน่นอน ไม่ฟังพระองค์หรอก", "เห็นมั้ย ข้าพูดไม่ผิดเลย", "555 สมน้ำหน้าพระองค์" อะไรประมาณนี้ครับ ซึ่งผมจะรู้สึกว่า ถ้าผมทำบาป พระองค์จะต้องช้ำพระทัย และโดนศัตรูของพระองค์หมิ่นประมาทและดูถูกพระองค์ แต่เมื่อผมเอาชนะบาปได้ ทั้งสวรรค์ต่างโห่ร้องแสดงความยินดี (เหมือนเชียร์บอลเลย) ผมเลยสามารถเอาชนะมันได้มากขึ้น เพราะไม่อยากให้พระองค์เสียพระทัยครับ แม้บางครั้งจะมีพ่ายแพ้บ้าง แต่สักวันผมจะเอาชนะมันได้ทุกครั้ง นี่เป็นเคล็ดลับเล็กๆ น้อยๆ ครับ แต่ถ้าได้ผลที่สุดก็คือ สวดขอความช่วยเหลือจากเบื้องบนครับ ร้องเรียกหาพระเจ้า หาพระแม่มารีอา ขอความช่วยเหลือจากพระองค์ เพราะเราไม่สามารถเอาชนะมันได้ด้วยกำลังของเราเพียงลำพังครับ เรามาสู้กับเจ้าปีศาจพวกนี้จนถึงที่สุดกันนะครับ... >:(
แก้ไขล่าสุดโดย Cho เมื่อ อาทิตย์ พ.ค. 29, 2005 12:03 am, แก้ไขไปแล้ว 1 ครั้ง.
ขอโทดนะครับทุกคน เเล้วการสำเร็จความใคร่ด้วยตนเองตกลงมันเป็นบาปหรือเปล่า
ถ้าเป็นจะสารภาพบาปต่อพระเป็นเจ้าว่ายังไงดีครับ :'(
ถ้าเป็นจะสารภาพบาปต่อพระเป็นเจ้าว่ายังไงดีครับ :'(
อ่านที่นี่เลยครับขอโทดนะครับทุกคน เเล้วการสำเร็จความใคร่ด้วยตนเองตกลงมันเป็นบาปหรือเปล่า
ถ้าเป็นจะสารภาพบาปต่อพระเป็นเจ้าว่ายังไงดีครับ
http://www.issara.com/article/mastur.html
ร่างกายเราคือพระวิหารของพระเป็นเจ้าครับ เมื่อเรารับศีลมหาสนิท นั่นคือเราเปิดรับพระเป็นเจ้ามาประทับอยู่กับเรา ดังนั้นเราควรให้เกียรติพระองค์นะครับ พระองค์ประทานความสุขแบบนั้นเพื่อการสืบเผ่าพันธุ์ นี่คือน้ำพระทัยของพระองค์ครับ ลองสำรวจมโนธรรมดูสิครับ ว่าหลังจากทำแบบนั้นแล้ว เรารู้สึกละอายไหม ผิดไหม เสียใจไหม ถ้ารู้สึกเช่นนั้น นั่นแหละครับบาป แต่พระองค์รู้ถึงความอ่อนแอของเราอยู่แล้ว และทุกวันนี้ก็มีสิ่งยั่วยุมากมาย ต้องสู้ครับ แล้วอย่าเปิดโอกาสแม้แต่นิดเดียวครับ สวดภาวนามากๆครับ เวลาแก้บาปก็บอกว่า กระทำอุลามกต่อตนเอง หรือต่อผู้อื่น ลองปรึกษาคุณพ่อด้วยก็ได้ครับ *ok
แก้ไขล่าสุดโดย Cho เมื่อ อาทิตย์ พ.ค. 29, 2005 1:03 am, แก้ไขไปแล้ว 1 ครั้ง.
จากปัญหาดังกล่าวพ่อขอแนะนำในด้านการอภิบาลดังต่อไปนี้
หนึ่ง เมื่อเกิดความรู้สึกอยากช่วยตัวเองทางเพศ ขอให้พยายามต่อสู้และปัดความคิดไปทางอื่น เรียกหาพระองค์ช่วย บอกพระองค์ว่าลูกไม่อยากทำให้พระองค์เสียพระทัย นั่นจะช่วยตั้งมโนธรรมของเราให้อยู่ในทางที่ตรงได้ แม้เราจะทำผิดอีกก็จะช่วยได้ว่าเจตจำนงของเราไม่ได้ต้องการทำบาปแต่มันอาจจะเกิดจากภาวะของฮอร์โมนผลักดันหรือสภาพแวดล้อมผลักดัน
สอง ถ้าทำผิดแล้วมโนธรรมเตือนเรา เราควรจะทำอย่างไร ก็ให้ขอโทษพระองค์ในใจ หรืออาจทำกิจการดีอื่นชดเชย การช่วยตัวเองคงไม่ร้ายแรงถึงเป็นบาปหนัก (แต่ถ้าลุ่มหลงในมันมากเกินไปก็จะนำไปสู่บาปหนักได้เนื่องจากอภัยตัวเองจนเคยตัว) ดังนั้นการชดเชยเช่น การสวดสายประคำ การทำบุญให้ทาน การร่วมมิสซาอย่างดีก็จะช่วยชดเชยความผิดได้
สาม จำเป็นเสมอไปหรือไม่ที่ต้องบอกบาปกับคุณพ่อเวลาช่วยตัวเอง คำตอบคือไม่จำเป็นเสมอไป เนื่องด้วยเหตุผลที่ว่า เครื่องหมายของการกลับใจนั้นทำโดยวิธีอื่นก็ได้ เช่น ร่วมมิสซาอย่างดี สวดเรียกหาพระองค์ให้มากขึ้น ไปสวดตามวัดต่างๆ ดังนี้เป็นต้น แต่ถ้าเป็นบาปหนักอื่นก็จำเป็นต้องแก้บาปกับคุณพ่อครับเพราะพระศาสนจักรสอนว่าบาปหนักนั้นต้องการศีลแก้บาปเป็นเครื่องเยียวยา
หวังว่าคงจะช่วยให้กระจ่างได้บ้างต่อปัญหาข้อนี้นะครับ
;) Thank you หลายๆๆๆๆๆๆ
หนึ่ง เมื่อเกิดความรู้สึกอยากช่วยตัวเองทางเพศ ขอให้พยายามต่อสู้และปัดความคิดไปทางอื่น เรียกหาพระองค์ช่วย บอกพระองค์ว่าลูกไม่อยากทำให้พระองค์เสียพระทัย นั่นจะช่วยตั้งมโนธรรมของเราให้อยู่ในทางที่ตรงได้ แม้เราจะทำผิดอีกก็จะช่วยได้ว่าเจตจำนงของเราไม่ได้ต้องการทำบาปแต่มันอาจจะเกิดจากภาวะของฮอร์โมนผลักดันหรือสภาพแวดล้อมผลักดัน
สอง ถ้าทำผิดแล้วมโนธรรมเตือนเรา เราควรจะทำอย่างไร ก็ให้ขอโทษพระองค์ในใจ หรืออาจทำกิจการดีอื่นชดเชย การช่วยตัวเองคงไม่ร้ายแรงถึงเป็นบาปหนัก (แต่ถ้าลุ่มหลงในมันมากเกินไปก็จะนำไปสู่บาปหนักได้เนื่องจากอภัยตัวเองจนเคยตัว) ดังนั้นการชดเชยเช่น การสวดสายประคำ การทำบุญให้ทาน การร่วมมิสซาอย่างดีก็จะช่วยชดเชยความผิดได้
สาม จำเป็นเสมอไปหรือไม่ที่ต้องบอกบาปกับคุณพ่อเวลาช่วยตัวเอง คำตอบคือไม่จำเป็นเสมอไป เนื่องด้วยเหตุผลที่ว่า เครื่องหมายของการกลับใจนั้นทำโดยวิธีอื่นก็ได้ เช่น ร่วมมิสซาอย่างดี สวดเรียกหาพระองค์ให้มากขึ้น ไปสวดตามวัดต่างๆ ดังนี้เป็นต้น แต่ถ้าเป็นบาปหนักอื่นก็จำเป็นต้องแก้บาปกับคุณพ่อครับเพราะพระศาสนจักรสอนว่าบาปหนักนั้นต้องการศีลแก้บาปเป็นเครื่องเยียวยา
หวังว่าคงจะช่วยให้กระจ่างได้บ้างต่อปัญหาข้อนี้นะครับ
;) Thank you หลายๆๆๆๆๆๆ
แล้วถือเป็นการเสียพรหมจรรย์หรือเปล่าครับclaustrophobia เขียน: ขอโทดนะครับทุกคน เเล้วการสำเร็จความใคร่ด้วยตนเองตกลงมันเป็นบาปหรือเปล่า
ถ้าเป็นจะสารภาพบาปต่อพระเป็นเจ้าว่ายังไงดีครับ :'(
- ~@Little lamb@~
- Defender of lawS
- โพสต์: 9396
- ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ม.ค. 17, 2005 3:00 pm
- ติดต่อ:
เออ....ผู้ชายนี่ ....อธิบายยากแฮะ... ::)
เรื่องการสำเร็จความใคร่ ลองอ่านกระทู้นี้ประกอบดูนะจ๊ะ
http://www.newmana.com/yabb/http://newm ... eadid=1001
เรื่องการสำเร็จความใคร่ ลองอ่านกระทู้นี้ประกอบดูนะจ๊ะ
http://www.newmana.com/yabb/http://newm ... eadid=1001
-
- ~@
- โพสต์: 12724
- ลงทะเบียนเมื่อ: อังคาร ม.ค. 18, 2005 2:28 pm
- ที่อยู่: Thailand
สวดมาก ๆ ครับ
พยายามหาเวลาสวดภาวนาบ่อยๆครับ ตัวผมเองก้อเป็นเหมือนกัน แล้วมโนธรรมในจิตใจเราจะบอกเองว่าสิ่งนั้นไม่ควรทำอย่างยิ่ง และเราจะรู้สึกรังเกียจหรือไม่ต้องการที่จะทำสิ่งที่เราทำบาปบ่อยๆไปเอง
เห็นด้วยกะพี่เอิร์ท อย่างยิ่ง *no1 *no1Claire de Lune เขียน: พยายามหาเวลาสวดภาวนาบ่อยๆครับ ตัวผมเองก้อเป็นเหมือนกัน แล้วมโนธรรมในจิตใจเราจะบอกเองว่าสิ่งนั้นไม่ควรทำอย่างยิ่ง และเราจะรู้สึกรังเกียจหรือไม่ต้องการที่จะทำสิ่งที่เราทำบาปบ่อยๆไปเอง
แก้ไขล่าสุดโดย Ot@ เมื่อ ศุกร์ มิ.ย. 03, 2005 10:30 am, แก้ไขไปแล้ว 1 ครั้ง.
คนเราทุกคนก็แพ้ต่อบาปได้บ่อยๆนะคะ สมัยนี้สิ่งยั่วยุมันเยอะ
แต่เราก็จะไปโทษสิ่งเหล่านั้นอย่างเดียวก็ไม่ได้ เราก็ต้องคิดด้วยว่า
เพราะเราไม่รู้จักหักห้ามใจตัวเองต่างหาก
หนูก็เคยแพ้ต่อบาปนะคะ แต่พอเราคิดได้ว่ามันไม่ดีๆ เลิกทำๆ
แล้วในใจก็คิดถึงพระตลอด มันก็รู้สึกโล่งนะ รู้สึกดีขึ้นกว่าเดิมด้วย
เอาเป็นว่าเมื่อไหร่ที่มารมันมาผจญเราก็ให้คิดเสมอว่าเรามีพระอยู่นะ
เราจะยอมให้พระเจ็บหรือ เราทำแบบนี้มันบาปนะ แล้วเราก็จะเลิกทำไปเอง
นึกถึงพระบ่อยๆแล้วพระก็จะช่วยเราเองค่ะ
แต่เราก็จะไปโทษสิ่งเหล่านั้นอย่างเดียวก็ไม่ได้ เราก็ต้องคิดด้วยว่า
เพราะเราไม่รู้จักหักห้ามใจตัวเองต่างหาก
หนูก็เคยแพ้ต่อบาปนะคะ แต่พอเราคิดได้ว่ามันไม่ดีๆ เลิกทำๆ
แล้วในใจก็คิดถึงพระตลอด มันก็รู้สึกโล่งนะ รู้สึกดีขึ้นกว่าเดิมด้วย
เอาเป็นว่าเมื่อไหร่ที่มารมันมาผจญเราก็ให้คิดเสมอว่าเรามีพระอยู่นะ
เราจะยอมให้พระเจ็บหรือ เราทำแบบนี้มันบาปนะ แล้วเราก็จะเลิกทำไปเอง
นึกถึงพระบ่อยๆแล้วพระก็จะช่วยเราเองค่ะ
แกะหลงก็แพ้ต่อมาร แต่แม้นชีวิตเราแต่ละคนมารมันรู้ว่าเรามีจุดอ่อนตรงไหน จะแพ้อย่างไร แต่แกะหลงเสียความเชื่อที่เคยเต็มล้นกลับหดหาย ความรักของพระเจ้าที่ล้นปิ่มกลับแห้งเหือด ไปกับโลก กับ สังคมในชีวิตนี้ แต่ตอนนี้แกะหลงเองก็กำลังยืนด้วยความเชื่ออีกครั้ง
แก้ไขล่าสุดโดย spirit เมื่อ จันทร์ มิ.ย. 06, 2005 12:09 pm, แก้ไขไปแล้ว 1 ครั้ง.
ธรรมชาติคนเรามักจะโน้มเอียงลงไปในทางต่ำ เราจึงแพ้ต่อบาปบ่อยๆ
บาปเบาที่ทำบ่อยๆ ไม่ใช่เรื่องเล็กน้อยอย่างที่เราคิด
" สิงโตอาจฆ่าคนได้ด้วยการกัดเพียงครั้งเดียว แต่ถ้าเราโยนคนนี้ไปใส่รังต่อ ก็อาจตายได้เหมือนกันโดยถูกต่อรุมต่อย"
ต้องอาศัยพระบารมีพระเยซู และ แม่พระ กับความตั้งใจจริงของเรา ถึงจะสู้กับมันได้
บาปเบาที่ทำบ่อยๆ ไม่ใช่เรื่องเล็กน้อยอย่างที่เราคิด
" สิงโตอาจฆ่าคนได้ด้วยการกัดเพียงครั้งเดียว แต่ถ้าเราโยนคนนี้ไปใส่รังต่อ ก็อาจตายได้เหมือนกันโดยถูกต่อรุมต่อย"
ต้องอาศัยพระบารมีพระเยซู และ แม่พระ กับความตั้งใจจริงของเรา ถึงจะสู้กับมันได้