พอดีได้คุยกับน้องคนหนึ่งแล้วเขาสงสัยเกี่ยวกับพระเจ้า พอผมตอบเขาก็บอกว่าไม่ตรงกับที่ถามก็เลยอยากให้ผู้รู้ช่วยทีนะคับ
ทำไมพระเจ้าจึงไม่ได้ให้ความเท่าเทียมเมื่อให้กำเนิด รักเท่ากันมั้ย ทั้งที่รู้ว่าพระเจ้ามีอำนาจบันดาลอะไรก็ได้ และบอกว่ารักทุกคน
แต่แน่นอนว่าเด็กที่เกิดมาพิการย่อมเป็นทุกข์มากกว่าเด็กปกติแต่แรกเกิดอยู่แล้ว
มีคนฝากถามมา อยากได้ความคิดของเพ่ือนๆว่าคิดอย่างไง
-
- ~@
- โพสต์: 698
- ลงทะเบียนเมื่อ: อังคาร ม.ค. 18, 2005 5:52 pm
แก้ไขล่าสุดโดย Anonymous เมื่อ อังคาร มี.ค. 31, 2009 12:29 am, แก้ไขไปแล้ว 1 ครั้ง.
- ~@Little lamb@~
- Defender of lawS
- โพสต์: 9396
- ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ม.ค. 17, 2005 3:00 pm
- ติดต่อ:
พระเยซูเจ้าทรงรักษาคนตาบอด
9 (1)ขณะที่พระเยซูเจ้าทรงพระดำเนินผ่านไป พระองค์ทอดพระเนตรเห็นคนตาบอดแต่กำเนิดคนหนึ่ง
(2)บรรดาศิษย์ทูลถามพระองค์ว่า “พระอาจารย์ ใครทำบาป ชายคนนี้ หรือบิดามารดาของเขา เขาจึงเกิดมาตาบอด”
(3)พระเยซูเจ้าตรัสตอบว่า “มิใช่ชายคนนี้ หรือบิดามารดาของเขาทำบาป แต่เขาเป็นเช่นนี้ก็เพื่อให้กิจการของพระเจ้าปรากฏในตัวเขา”
9 (1)ขณะที่พระเยซูเจ้าทรงพระดำเนินผ่านไป พระองค์ทอดพระเนตรเห็นคนตาบอดแต่กำเนิดคนหนึ่ง
(2)บรรดาศิษย์ทูลถามพระองค์ว่า “พระอาจารย์ ใครทำบาป ชายคนนี้ หรือบิดามารดาของเขา เขาจึงเกิดมาตาบอด”
(3)พระเยซูเจ้าตรัสตอบว่า “มิใช่ชายคนนี้ หรือบิดามารดาของเขาทำบาป แต่เขาเป็นเช่นนี้ก็เพื่อให้กิจการของพระเจ้าปรากฏในตัวเขา”
1คร 12:12-26 การเปรียบเทียบกับร่างกาย
(12)แม้ร่างกายเป็นร่างกายเดียว แต่ก็มีอวัยวะหลายส่วน อวัยวะต่าง ๆ เหล่านี้แม้จะมีหลายส่วนก็ร่วมเป็นร่างกายเดียวกันฉันใด พระคริสตเจ้า ก็ฉันนั้น (13)เดชะพระจิตเจ้าพระองค์เดียว เราทุกคนจึงได้รับการล้างมารวมเข้าเป็นร่างกายเดียวกัน ไม่ว่าจะเป็นชาวยิวหรือชาวกรีก ไม่ว่าจะเป็นทาสหรือไทยก็ตาม เราทุกคนต่างได้รับพระจิตเจ้าพระองค์เดียวกัน (14)ร่างกายไม่ได้ประกอบด้วยอวัยวะส่วนเดียว แต่มีอวัยวะหลายส่วน (15)ถ้าเท้าจะพูดว่า
(12)แม้ร่างกายเป็นร่างกายเดียว แต่ก็มีอวัยวะหลายส่วน อวัยวะต่าง ๆ เหล่านี้แม้จะมีหลายส่วนก็ร่วมเป็นร่างกายเดียวกันฉันใด พระคริสตเจ้า ก็ฉันนั้น (13)เดชะพระจิตเจ้าพระองค์เดียว เราทุกคนจึงได้รับการล้างมารวมเข้าเป็นร่างกายเดียวกัน ไม่ว่าจะเป็นชาวยิวหรือชาวกรีก ไม่ว่าจะเป็นทาสหรือไทยก็ตาม เราทุกคนต่างได้รับพระจิตเจ้าพระองค์เดียวกัน (14)ร่างกายไม่ได้ประกอบด้วยอวัยวะส่วนเดียว แต่มีอวัยวะหลายส่วน (15)ถ้าเท้าจะพูดว่า
ตอบไม่ตรงคำถาม หรือตอบไม่ตรงกับที่เค้าอยากได้ยิน ::001::
เราไม่รู้ว่า เรากำลังทำอะไรหรือคิดอะไร เราก็คิดตามบริบทเรา แต่เราก็ไม่รู้ว่า พระเจ้ากำลังทำอะไร หรือคิดอะไรอยู่ การให้เด็กคนนึงเกิดมาพิการ รู้ได้ไงว่า เค้าทุกข์ เรามองเค้าจากมุมของเรา และรู้ได้ไงว่า พระเจ้าไม่รักเค้า เอาแค่ตรงนั้นมาตัดสินเหรอ ถ้าขอเงินพ่อแม่ไม่ได้ ก็ว่า พ่อแม่ไม่ีรักเหรอ ::001::
แล้วทำไมคนเรา เกิดมาต้องไม่ทุกข์ด้วย ทำไมการไม่ทุกข์จึงเป็นชีวิตที่ดี คนที่ไม่ทุกข์ในโลกนี้หลายคน เค้าพบว่า ชีวิตเค้่าว่างเปล่านะ ::001::
ไม่รู้เคยเล่าให้ฟังรึยัง เรื่องซิสเตอร์บริจ แมคเคนนา ซิสเตอร์ได้รับพระพรในการรักษา วันนึงมีคนตาบอดมาหา เค้าอยากตามองเห็นเพราะทุกวันนี้ทุกข์มาก อยากมองเห๋็น พระเป็นเจ้าก็ให้เค้าได้เห็นจริงๆ รู้มั้ยเกิดอะไรขึ้น พอหลังจากนั้นไม่นาน เค้ากลับมาหาซิสเตอร์ บอกว่า อยากกลับไปตาบอดอีก เค้าเสียอะไรดีๆเยอะแยะที่มีในชีวิต ผลประโยชน์ต่างๆ ความช่วยเหลือต่างๆก็หายไป ตอนเค้าตาบอด เค้าไม่เคยเห็นพระพระที่เค้าได้รับเลย และวันนี้เค้าเห็นแล้ว ::001::
เราว่า อย่าไปเถียงกับเค้าเลยเธอ เอาแต่ใจตัวเอง พูดด้วยไม่จบหรอก
เราไม่รู้ว่า เรากำลังทำอะไรหรือคิดอะไร เราก็คิดตามบริบทเรา แต่เราก็ไม่รู้ว่า พระเจ้ากำลังทำอะไร หรือคิดอะไรอยู่ การให้เด็กคนนึงเกิดมาพิการ รู้ได้ไงว่า เค้าทุกข์ เรามองเค้าจากมุมของเรา และรู้ได้ไงว่า พระเจ้าไม่รักเค้า เอาแค่ตรงนั้นมาตัดสินเหรอ ถ้าขอเงินพ่อแม่ไม่ได้ ก็ว่า พ่อแม่ไม่ีรักเหรอ ::001::
แล้วทำไมคนเรา เกิดมาต้องไม่ทุกข์ด้วย ทำไมการไม่ทุกข์จึงเป็นชีวิตที่ดี คนที่ไม่ทุกข์ในโลกนี้หลายคน เค้าพบว่า ชีวิตเค้่าว่างเปล่านะ ::001::
ไม่รู้เคยเล่าให้ฟังรึยัง เรื่องซิสเตอร์บริจ แมคเคนนา ซิสเตอร์ได้รับพระพรในการรักษา วันนึงมีคนตาบอดมาหา เค้าอยากตามองเห็นเพราะทุกวันนี้ทุกข์มาก อยากมองเห๋็น พระเป็นเจ้าก็ให้เค้าได้เห็นจริงๆ รู้มั้ยเกิดอะไรขึ้น พอหลังจากนั้นไม่นาน เค้ากลับมาหาซิสเตอร์ บอกว่า อยากกลับไปตาบอดอีก เค้าเสียอะไรดีๆเยอะแยะที่มีในชีวิต ผลประโยชน์ต่างๆ ความช่วยเหลือต่างๆก็หายไป ตอนเค้าตาบอด เค้าไม่เคยเห็นพระพระที่เค้าได้รับเลย และวันนี้เค้าเห็นแล้ว ::001::
เราว่า อย่าไปเถียงกับเค้าเลยเธอ เอาแต่ใจตัวเอง พูดด้วยไม่จบหรอก
คิดว่าเป็นพวกเราเองนี่เเหล่ะค่ะ ที่ไปตัดสินว่าอาการ "พิการ" คือความผิดพลาดในการสร้างของพระเจ้า,
ผิดพลาดในลักษณะการเป็นมนุษย์ เเละบางครั้งก็ไม่เปิดโอกาสให้บุคคลเหล่านั้น จริงๆเเล้วทุกสิ่งที่พระองค์สร้าง สร้างมา"ดี" เเล้ว
ผิดพลาดในลักษณะการเป็นมนุษย์ เเละบางครั้งก็ไม่เปิดโอกาสให้บุคคลเหล่านั้น จริงๆเเล้วทุกสิ่งที่พระองค์สร้าง สร้างมา"ดี" เเล้ว
ถูก!!! พี่สวดขอพระนะ ถ้าได้แต่งงาน มีลูก ขอมีลูกพิการ คือถ้าพระองค์มีพระประสงค์จะสร้างเด็กพิการขึ้นมา แล้วไม่มีใครรับ ลูกขอรับเอง และจะเลี้ยงให้ดี ถ้าให้เลือก จะขอเลือก ดาวน์ซินโดรมLaurentius เขียน: คิดว่าเป็นพวกเราเองนี่เเหล่ะค่ะ ที่ไปตัดสินว่าอาการ "พิการ" คือความผิดพลาดในการสร้างของพระเจ้า,
ผิดพลาดในลักษณะการเป็นมนุษย์ เเละบางครั้งก็ไม่เปิดโอกาสให้บุคคลเหล่านั้น จริงๆเเล้วทุกสิ่งที่พระองค์สร้าง สร้างมา"ดี" เเล้ว
สมมติ
ถ้าพระเจ้าสร้างมนุษย์ให้มีแต่ผู้ชาย
หรือสร้างให้มีแต่ผู้หญิง
มนุษยชาติจะดำรงอยู่ได้ทุกวันนี้รึเปล่าครับ
ในเรื่องของความทุกข์
พระเจ้าทรงมีความละเอียดรอบคอบในการสร้างมนุษย์
พระองค์สร้างมนุษย์เหมือนจิ้กซอว์
พระองค์อาจจะให้คนๆหนึ่งมีพรสวรรค์ที่คนอื่นๆไม่มี
แต่พระองค์ก้จะให้คนนั้นๆขาดในสิ่งๆหนึ่งเพื่อให้เขาแสวงหาและพึ่งพาสิ่งนั้นจากพี่น้องเพื่อนมนุษย์ครับ
นั่นการเติมเต็มความรักซึ่งกันและกันอย่างสมบูรณ์
ถ้าพระเจ้าสร้างมนุษย์ให้มีแต่ผู้ชาย
หรือสร้างให้มีแต่ผู้หญิง
มนุษยชาติจะดำรงอยู่ได้ทุกวันนี้รึเปล่าครับ
ในเรื่องของความทุกข์
พระเจ้าทรงมีความละเอียดรอบคอบในการสร้างมนุษย์
พระองค์สร้างมนุษย์เหมือนจิ้กซอว์
พระองค์อาจจะให้คนๆหนึ่งมีพรสวรรค์ที่คนอื่นๆไม่มี
แต่พระองค์ก้จะให้คนนั้นๆขาดในสิ่งๆหนึ่งเพื่อให้เขาแสวงหาและพึ่งพาสิ่งนั้นจากพี่น้องเพื่อนมนุษย์ครับ
นั่นการเติมเต็มความรักซึ่งกันและกันอย่างสมบูรณ์
จริงหรือที่ว่า เด็กที่เกิดมาพิการ มีความทุกข์มากกว่าเด็กปกติ???MarioAntonio เขียน: แต่แน่นอนว่าเด็กที่เกิดมาพิการย่อมเป็นทุกข์มากกว่าเด็กปกติแต่แรกเกิดอยู่แล้ว
เท็นคิดว่า เด็กพิการบางคน ยิ้มได้มากกว่าเด็กปกติเสียอีก...
คนบางคนที่เราคิดว่ามีความสุข แท้จริงอาจไม่มีความสุข...
คนบางคนที่เราคิดว่าไม่มีความสุข แท้จริงอาจมีความสุขมากกว่าที่เราคิดเสียอีก...
ผู้มีใจยากจน ย่อมเป็นสุข เพราะอาณาจักรสวรรค์เป็นของเขา
ผู้เป็นทุกข์โศกเศร้า ย่อมเป็นสุข เพราะเขาจะได้รับการปลอบโยน
ผู้มีใจอ่อนโยน ย่อมเป็นสุข เพราะเขาจะได้รับแผ่นดินเป็นมรดก
ผู้หิวกระหายความชอบธรรม ย่อมเป็นสุข เพราะเขาจะอิ่ม
ผู้มีใจเมตตา ย่อมเป็นสุข เพราะเขาจะได้รับพระเมตตา
ผู้มีใจบริสุทธิ์ ย่อมเป็นสุข เพราะเขาจะได้เห็นพระเจ้า
ผู้สร้างสันติ ย่อมเป็นสุข เพราะเขาจะได้ชื่อว่าเป็นบุตรของพระเจ้า
ผู้ถูกเบียดเบียนข่มเหงเพราะความชอบธรรม ย่อมเป็นสุข เพราะอาณาจักรสวรรค์เป็นของเขา
ท่านทั้งหลายย่อมเป็นสุข เมื่อถูกดูหมิ่น ข่มเหงและใส่ร้ายต่าง ๆ นานาเพราะเรา
จงชื่นชมยินดีเถิด เพราะบำเหน็จรางวัลของท่านในสวรรค์นั้นยิ่งใหญ่นัก เขาได้เบียดเบียนบรรดาประกาศกที่อยู่ก่อนท่านดังนี้ด้วยเช่นเดียวกัน
(มัทธิว 5:3-12)
จริงค่ะBuddy เขียน: แล้วทำไมคนเรา เกิดมาต้องไม่ทุกข์ด้วย ทำไมการไม่ทุกข์จึงเป็นชีวิตที่ดี คนที่ไม่ทุกข์ในโลกนี้หลายคน เค้าพบว่า ชีวิตเค้่าว่างเปล่านะ ::001::
ป.ล. เห็นด้วยกับทุกคำตอบที่ทุกคนตอบค่ะ
แก้ไขล่าสุดโดย Viridian เมื่อ อังคาร มี.ค. 31, 2009 10:24 pm, แก้ไขไปแล้ว 1 ครั้ง.
ส่วนใหญ่คำถามประเภทนี้มาจากผู้ที่มองแต่โลกนี้และโลกก่อนหน้านี้โดยไม่ได้มองไปถึงโลกหน้านะครับ ผมคิดว่า
คำตอบง่ายๆของคนไทยเราสำหรับปัญหาแบบนี้คือบุญทำกรรมแต่ง ตอบไม่ได้ก็ว่าไว้ก่อนว่าชาติก่อนมาแบบนั้นแบบนี้ ถามว่าถ้าพาไปตัดบุญตัดกรรมอย่างนี้แม่ชีหรือใครต่อใครสามารถทำกันได้และออกโทรทัศน์กันเป็นล่ำเป็นสันแล้ว เขาคนนั้นจะหายขาลีบ สมองพิการอะไรขึ้นมาทันทีหรือไม่
ดังนั้นก่อนอื่นหมดเราต้องเชื่อมั่นว่าพระเจ้าทรงยุติธรรม เมื่อพระองค์ทรงให้กิจการของพระองค์ปรากฏบนโลกนี้โดยผ่านผู้ดูเหมือนว่าจะด้อยกว่าผู้อื่น เมื่อเขาสิ้นจากโลกนี้ไปพระย่อมเตรียมรางวัลไว้ให้เขา อาจจะดีกว่าเราเสียด้วยซ้ำไปอีก
เวลาคุยกับผู้ที่มีปัญหาประเภทนี้ต้องปูพืนกันสักหน่อยมังครับ ว่าความเชื่อของเราไม่ได้เชื่อโลกก่อนหน้านี้และโลกถัดจากโลกหน้า เราเชื่อโลกนี้และโลกหน้าเท่านั้นแล้วจึงค่อยยกพระยุติธรรมของพระเจ้าให้ฟัง แต่ผมว่ายาวแหละครับกว่าเขาจะเห็นว่าข้อเชื่อนี้จริง เพราะว่าตอนที่เขาถามเขาอาจจะยังไม่ได้คิดอยากจะเชื่อ อาจจะใช้วิธีอธิบายข้ออื่นๆไปพลางๆก่อนจนกว่าเห็นว่าเขาจะรับได้แล้วจึงค่อยวกเข้ามาอธิบายให้ฟังใหม่
ความคิดผมถูกผิดอย่างไร เชิญพี่น้องช่วยแนะนำได้นะครับ
คำตอบง่ายๆของคนไทยเราสำหรับปัญหาแบบนี้คือบุญทำกรรมแต่ง ตอบไม่ได้ก็ว่าไว้ก่อนว่าชาติก่อนมาแบบนั้นแบบนี้ ถามว่าถ้าพาไปตัดบุญตัดกรรมอย่างนี้แม่ชีหรือใครต่อใครสามารถทำกันได้และออกโทรทัศน์กันเป็นล่ำเป็นสันแล้ว เขาคนนั้นจะหายขาลีบ สมองพิการอะไรขึ้นมาทันทีหรือไม่
ดังนั้นก่อนอื่นหมดเราต้องเชื่อมั่นว่าพระเจ้าทรงยุติธรรม เมื่อพระองค์ทรงให้กิจการของพระองค์ปรากฏบนโลกนี้โดยผ่านผู้ดูเหมือนว่าจะด้อยกว่าผู้อื่น เมื่อเขาสิ้นจากโลกนี้ไปพระย่อมเตรียมรางวัลไว้ให้เขา อาจจะดีกว่าเราเสียด้วยซ้ำไปอีก
เวลาคุยกับผู้ที่มีปัญหาประเภทนี้ต้องปูพืนกันสักหน่อยมังครับ ว่าความเชื่อของเราไม่ได้เชื่อโลกก่อนหน้านี้และโลกถัดจากโลกหน้า เราเชื่อโลกนี้และโลกหน้าเท่านั้นแล้วจึงค่อยยกพระยุติธรรมของพระเจ้าให้ฟัง แต่ผมว่ายาวแหละครับกว่าเขาจะเห็นว่าข้อเชื่อนี้จริง เพราะว่าตอนที่เขาถามเขาอาจจะยังไม่ได้คิดอยากจะเชื่อ อาจจะใช้วิธีอธิบายข้ออื่นๆไปพลางๆก่อนจนกว่าเห็นว่าเขาจะรับได้แล้วจึงค่อยวกเข้ามาอธิบายให้ฟังใหม่
ความคิดผมถูกผิดอย่างไร เชิญพี่น้องช่วยแนะนำได้นะครับ
ผมว่าพระองค์ให้มนุษย์มาเท่ากันครับนั่นคือร่างกาย 32 ประการ ส่วนคนที่ไม่สมบูรณ์ผมเชื่อว่ามันต้องมีเหตุผลในตัวมันเองผมคิดว่าหากมนุษย์สมบูรณ์แบบเหมือนกันหมดร่ำรวยเหมือนกันหมดมนุษย์จะไม่สามารถมองเห็นถึงความลำบากและไม่มีทางสำนึกในบาปของตนการ ที่พระองค์ทำเช่นนี้เพื่อให้มนุษย์ได้เห็นถึงความแตกต่าง ผมไม่อาจตอบแทนได้ว่าทำไมเด็กคนหนึ่งถึงเกิดมาตาบอดหรือไม่มีขา แต่ผมเชื่ออย่างหนึ่งว่า...พวกเขาเหล่านั้นได้รับบดทดสอบที่ต่างกันออกไปจากเราๆ คนที่สมบูรณ์แบบก็ยิ่งเป็นเรื่องยากเข้าไปอีกเพราะคิดว่าตนเองสมบูรณ์ความโลภความหลง ความต้องการที่มากขึ้นก็ตามมา จนบางทีหลงลืมพระเป็นเจ้า ดังนั้นคนทั้งสองกลุ่มนี้(คนสมบูรณ์-คนพิการ)ล้วนมีบททดสอบที่ต่างกันออกไป สิ่งนี้เองที่จะกระตุ้นให้มนุษย์รู้จักช่วยเหลือซึ่งกันและกัน เพราะเราทุกคนเท่าเทียมกันหมดในสายตาพระเป็นเจ้า...
และอย่าลืมครับว่ามนุษย์คือผู้ที่ถูกตัดขาดจากพระหรรษทานศักดิ์สิทธิ์(ชีวิตเหนือธรรมชาติที่มีแต่ความสุข) เพราะบาปกำเนิดที่มนุษย์ได้ก่อโดยเริ่มต้นจากบรรพบุรุษของเรา (อดัม-เอวา)ผลร้ายของบาปกำเนิดตกทอดมาสู่ลูกหลานด้วย ความผิดของพ่อมิใช่ทำร้ายเฉพาะตัว ยังทำร้ายต่อทั้งครอบครัวด้วย....เมื่อพ่อล้มละลายก็จะเอาอะไรมายกเป็นมรดกแก่ลูกหลานเล่า?อดัมทำให้สถานะเดิมของมนุษย์เสียไป ท่านไม่มีชีวิตเหนือธรรมชาติหรือพรพิเศษลูกหลานเกิดมาก็พลอยขาดคุณไปด้วย มนุษย์คนแรกซึ่งเป็นหัวหน้าของมนุษยชาติได้ตกอยู่ในสถานะของศัตรูของพระเป็นเจ้า ดังนั้นเราเกิดมาจึงมีแต่ชีวิตธรรมชาติไม่มีชีวิตเหนือธรรมชาติ การปราศจาก ชีวิตพระ ตั้งแต่เกิดมานั่นแหละ เป็นมลมลทิน เป็นหายนะ....มลทินนี้เองเรียกว่า "บาปกำเนิด"
เพราะเป็นดังนั้น พระองค์จึงให้มนุษย์ ฝ่ายร่างกาย ต้องทำงานหาเลี้ยงตนเองด้วยกำลัง มีเจ็บไข้ได้ป่วย สุดท้ายต้องตาย ในแง่ของสติปัญญาก็มืดลง ตกเป็นเหยื่อของความลุ่มหลง ความโง่เขลา ส่วนเจตนาก็อ่อนเปลี้ยโอนเอียงทางกิเลศตัณหา ความตั้งใจดีดำรงอยู่ไม่สู้นาน
นอกจากนั้นเพราะมนุษย์ขัดสู้พระผู้เป็นเจ้า พระองค์ก็ยังทรงให้ธรรมชาติเป็นกบฏต่อมนุษย์ ก่อนหน้านี้ สัตว์ร้าย แมลงมีพิษต่างๆที่ทำร้ายมนุษย์ไม่มี...แผ่นดินไร้ซึ่งหญ้าหนามร้าย แต่เมื่อมนุษย์ทำบาปภัยธรรมชาติก็เบียดเบียนราวี ทั้งน้ำท่วม แผ่นดินไหว ข้าวยากหมากแพง ตลอดจนสงคราม
แต่ไม่ใช่เพราะรักหรือพระองค์จึงส่งพระบุตรที่รักเพียงพระองค์เดียวเพื่อมาหาทางให้มนุษย์ได้คืนดีกับพระองค์โดยอาศัยพระบารมีของพระผู้ไถ่
ผมว่านี่คือบททดสอบของพระเป็นเจ้าในโลกที่ไม่แน่นอนว่ามนุษย์จะสามารถพิสูจน์ตนเองเพื่อให้กลับไปคืนดีกับพระองค์ได้หรือไม่ เพราะชีวิตที่สุขสบายมนุษย์ได้ละทิ้งไปแล้ว เพื่อที่จะให้มนุษย์อดทนและมีศรัทธาชีวิตคนเราที่เป็นอยู่ทุกๆวันคือบททดสอบจากพระองค์เพื่อที่จะให้มนุษย์กลับไปหาพระองค์อีกครั้ง
ป.ล.เพราะรักมนุษย์พระองค์จึงสร้างมนุษย์ตามพระฉายาของพระองค์และให้เป็นนายเหนือสรรพสิ่ง
และอย่าลืมครับว่ามนุษย์คือผู้ที่ถูกตัดขาดจากพระหรรษทานศักดิ์สิทธิ์(ชีวิตเหนือธรรมชาติที่มีแต่ความสุข) เพราะบาปกำเนิดที่มนุษย์ได้ก่อโดยเริ่มต้นจากบรรพบุรุษของเรา (อดัม-เอวา)ผลร้ายของบาปกำเนิดตกทอดมาสู่ลูกหลานด้วย ความผิดของพ่อมิใช่ทำร้ายเฉพาะตัว ยังทำร้ายต่อทั้งครอบครัวด้วย....เมื่อพ่อล้มละลายก็จะเอาอะไรมายกเป็นมรดกแก่ลูกหลานเล่า?อดัมทำให้สถานะเดิมของมนุษย์เสียไป ท่านไม่มีชีวิตเหนือธรรมชาติหรือพรพิเศษลูกหลานเกิดมาก็พลอยขาดคุณไปด้วย มนุษย์คนแรกซึ่งเป็นหัวหน้าของมนุษยชาติได้ตกอยู่ในสถานะของศัตรูของพระเป็นเจ้า ดังนั้นเราเกิดมาจึงมีแต่ชีวิตธรรมชาติไม่มีชีวิตเหนือธรรมชาติ การปราศจาก ชีวิตพระ ตั้งแต่เกิดมานั่นแหละ เป็นมลมลทิน เป็นหายนะ....มลทินนี้เองเรียกว่า "บาปกำเนิด"
เพราะเป็นดังนั้น พระองค์จึงให้มนุษย์ ฝ่ายร่างกาย ต้องทำงานหาเลี้ยงตนเองด้วยกำลัง มีเจ็บไข้ได้ป่วย สุดท้ายต้องตาย ในแง่ของสติปัญญาก็มืดลง ตกเป็นเหยื่อของความลุ่มหลง ความโง่เขลา ส่วนเจตนาก็อ่อนเปลี้ยโอนเอียงทางกิเลศตัณหา ความตั้งใจดีดำรงอยู่ไม่สู้นาน
นอกจากนั้นเพราะมนุษย์ขัดสู้พระผู้เป็นเจ้า พระองค์ก็ยังทรงให้ธรรมชาติเป็นกบฏต่อมนุษย์ ก่อนหน้านี้ สัตว์ร้าย แมลงมีพิษต่างๆที่ทำร้ายมนุษย์ไม่มี...แผ่นดินไร้ซึ่งหญ้าหนามร้าย แต่เมื่อมนุษย์ทำบาปภัยธรรมชาติก็เบียดเบียนราวี ทั้งน้ำท่วม แผ่นดินไหว ข้าวยากหมากแพง ตลอดจนสงคราม
แต่ไม่ใช่เพราะรักหรือพระองค์จึงส่งพระบุตรที่รักเพียงพระองค์เดียวเพื่อมาหาทางให้มนุษย์ได้คืนดีกับพระองค์โดยอาศัยพระบารมีของพระผู้ไถ่
ผมว่านี่คือบททดสอบของพระเป็นเจ้าในโลกที่ไม่แน่นอนว่ามนุษย์จะสามารถพิสูจน์ตนเองเพื่อให้กลับไปคืนดีกับพระองค์ได้หรือไม่ เพราะชีวิตที่สุขสบายมนุษย์ได้ละทิ้งไปแล้ว เพื่อที่จะให้มนุษย์อดทนและมีศรัทธาชีวิตคนเราที่เป็นอยู่ทุกๆวันคือบททดสอบจากพระองค์เพื่อที่จะให้มนุษย์กลับไปหาพระองค์อีกครั้ง
ป.ล.เพราะรักมนุษย์พระองค์จึงสร้างมนุษย์ตามพระฉายาของพระองค์และให้เป็นนายเหนือสรรพสิ่ง
แก้ไขล่าสุดโดย 13PM. เมื่อ พฤหัสฯ. เม.ย. 02, 2009 3:43 pm, แก้ไขไปแล้ว 1 ครั้ง.