สั่งห้ามสำนักปฎิบัติธรรมพิสดารปิดตานร.ขังกรงนอนกับงูเหลือม
โพสต์แล้ว: ศุกร์ พ.ค. 29, 2009 5:48 pm
คมชัดลึก :ผู้ปกครองโวยสำนักปฎิบัติธรรมพิสดารใช้ผ้าปิดตา นร.หญิงโรงเรียนเมืองพิจิตรขังกรงนอนกับงูเหลือม จนถูกงูรัดตัว - ลำคอ ครูต้องหามส่งโรงพยาบาลแพทย์ระบุเส้นเลือดฝอยในตาแตกจนตาแดง - หน้าบวม ผอ.โรงเรียนเผยรู้สึกเสียใจ พร้อมรับผิดชอบ ด้าน ผอ.สำนักพุทธฯบางมูลนาก นายอำเภอ เจ้าคณะอำเภอ บุกตรวจซ้ำสั่งห้ามเจ้าสำนักใช้หลักสูตรโลงศพ - งู ใช้กับนักเรียนที่เข้าค่าย
เหตุสถานปฎิบัติธรรมใช้วิธีปฎิบัติธรรมแบบพิสดาร นำผ้าปิดตานักเรียนที่มาเข้าค่ายแล้วให้นอนกับงูเหลือมในกรง จนถูกงูรัดลำตัวและคอต้องเข้ารักษาตัวในโรงพยาบาลเพราะมีอาการผื่นขึ้นตามตัว ใบหน้าบวม และมีเส้นเลือดฝอยแตกในตาทั้งสองข้างถูกเปิดเผยโดยผู้สื่อข่าว"คมชัดลึก"ได้สัมภาณ์นายเพียร ต๊ะผัด ข้าราชการสำนักงานขนส่งอำเภอโพทะเล จ.พิจิตร บิดาของเด็กนักเรียนที่ประสบเหตุว่า เมื่อวันที่ 11 พ.ค. 2552 น.ส.รติรถ ต๊ะผัด อายุ 15 ปี บุตรสาว ซึ่งเรียนอยู่ที่ชั้น ม.4 โรงเรียนบางมูลนากภูมิวิทยาคม อ.บางมูลนาก ได้เดินทางไปเข้าค่ายปฎิบัติธรรมกับโรงเรียนที่สำนักสงฆ์ปฎิบัติธรรมบ้านสะพานยาว ม.11 ต.เนินมะกอก อ.บางมูลนาก
ต่อมาเมื่อเวลา 23.00 น.ของคืนวันที่ 12 พ.ค. สำนักสงฆ์ให้นักเรียนเลือกปฎิบัติธรรมระหว่างนอนในโลงศพ หรือนอนในกรงกับงูเหลือม บุตรสาวของตนเองเลือกนอนในกรงกับงูเหลือม ทางสำนักสงฆ์จึงนำผ้ามาปิดตาแล้วให้นอนอยู่ในกรง ระหว่างนอนอยู่ถูกงูเหลือมรัดลำตัวและเลื่อยมารัดลำคอจนรู้สึกเจ็บปวดจึงร้องให้คนช่วยนานกว่า 10 นาที พระที่นอนปฎิบัติธรรมอยู่ในกรงใกล้ๆจึงได้ยินเสียงและเรียกให้ครูมาช่วย เมื่อนำงูที่รัดลำตัวออกยังให้บุตรสาวนอนในกรงต่ออจนครบ 1 ชั่วโมง ก่อนนำตัวบุตรสาวไปนอนพักและให้ทานยาแก้แพ้ เนื่องจากใบหน้าและลำตัวมีผื่นขึ้น
กระทั่งถึงช่วงเช้าวันที่ 13 พ.ค.เพื่อนสังเกตุเห็นอาการของบุตรสาวไม่ดีขึ้นจึงแจ้งให้ครูทราบ ต่อมาในเวลา 08.30 น.ครูจึงนำตัวส่งไปรักษาที่โรงพยาบาลบางมูลนาก และโทรศัพท์แจ้งตนเองในเวลา 09.00 น. เมื่อเดินทางมาถึงโรงพยาบาลสอบถามอาการจากแพทย์ ระบุว่าบุตรสาวมีอาการเส้นเลือดฝอยในตาทั้งสองข้างแตก มีผื่นขึ้นตามใบหน้าและใบหน้าบวม มีสาเหตุจากถูกงูรัดจนขาดอากาศหายใจ โดยโรงพยาบาลบางมูลนากได้ส่งตัวไปเอ็กซเรย์ที่โรงพยาบาลศรีสวรรค์ จ.นครสวรรค์ แล้วส่งตัวกลับมาที่โรงพยาบาลเดิม
นายเพียร กล่าวว่า ภรรยาของตนเองสงสารบุตรสาวจึงขอแพทย์นำตัวไปรักษาต่อที่โรงพยาบาลในกรุงเทพฯ โดยก่อนหน้านี้ผู้อำนวยการโรงเรียนฯได้ช่วยค่าเดินทางเป็นเงิน 6,000 บาท และเมื่อเดินทางไปโรงพยาบาลกรุงเทพฯ ผู้อำนวยการได้ช่วยเหลือค่าเดินทางและค่ารักษาเพิ่มเติมอีก 10,000 บาท ส่วนค่ารักษาทั้งหมดได้ใช้สิทธิ์ข้าราชการเบิก
"เมื่อเดินทางไปรักษาต่อที่โรงพยาบาลในกรุงเทพ โดยนอนพักอยู่ 1 คืนแพทย์ก็ให้กลับบ้านได้แต่บอกว่าอาการเส้นเลือดฝอยแตกในตาทั้งสองข้างต้องใช้เวลาไม่ต่ำกว่า 1 เดือนจึงจะหาย ส่วนอาการผื่นที่ขึ้นตามใบหน้าและลำตัวหายเป็นปกติแล้ว สำหรับอาการบวมที่ใบหน้าก็ยุบลงเป็นปกติเช่นกัน"นายเพียรกล่าว
นายเพียร กล่าวอีกว่า แม้สภาพจิตใจของบุตรสาวจะดีขึ้นและเมื่อวันที่ 27 พ.ค.ที่ผ่านมาได้เดินทางไปโรงเรียนตามปกติ ส่วนการเจรจากับผู้อำนวยการโรงเรียนในเบื้องต้น พร้อมรับผิดชอบทุกอย่าง แต่โดยส่วนตัวอยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องตรวจสอบสำนักปฎิบัติธรรมดังกล่าวว่ากระทำการเหมาะสมหรือไม่ เหตุใดจึงใช้วิธีปฎิบัติธรรมที่พิสดารเช่นนี้กับเด็ก หากช่วยเหลือบุตรสาวตนเองไม่ทันอาจเกิดเหตุการณ์เศร้าสลดขึ้นได้
นายเกษม นวมครุฑ ผู้อำนวยการ โรงเรียนบางมูลนากภูมิวิทยาคม กล่าวว่า รู้สึกเสียใจกับเรื่องที่เกิดขึ้น ได้ช่วยเหลือค่ารักษาพยาบาลกับครองครัว น.ส.รติรถไปแล้วเป็นจำนวน 16,000 บาท แต่ได้บอกครอบครัวว่าหากไม่พอให้ประสานมาอีกครั้ง ส่วนเรื่องที่เกิดขึ้นได้รายงานให้ผู้ว่าราชการจ.พิจิตร ทราบแล้ว เบื้องต้นหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง คือสำนักพุทธศาสนา จ.พิจิตร คงจะเข้าไปตรวจสอบอีกครั้ง
"เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นโรงเรียนและครูที่ควบคุมไม่ทราบล่วงหน้ามาก่อนว่า สำนักปฎิบัติธรรมจะนำเด็กไปฝึกปฎิบัติธรรมแบบนี้ เพราะไม่มีในโปรแกรมมาก่อนและช่วงดังกล่าวก็หมดเวลาการปฎิบัติธรรมไปแล้ว ครูจึงปล่อยให้เด็กเข้านอน แต่ทราบว่ามีพระมาชักชวนเด็กกลุ่มหนึ่งไปปฎิบัติธรรมโดยให้เลือกระหว่างการนั่งสมาธิในโลงศพและนอนในกรงกับงู"นายเกษมกล่าว
นายเกษม กล่าวเพิ่มเติมว่า แต่ละปีโรงเรียนจะนำเด็กนักเรียนที่เข้าศึกษาใหม่ในระดับชั้น ม.4 เข้าค่ายปฎิบัติธรรม เพื่อพัฒนาคุณธรรมจริยธรรมก่อนจะเปิดเทอม ก่อนหน้านี้ครูในโรงเรียนทราบว่ามีสำนักปฎิบัติธรรมดังกล่าวอยู่จึงไปตรวจสอบ เห็นมีนักเรียนตำรวจ 200 คนมาฝึกนั่งสมาธิอยู่จึงสนใจและติดต่อนำเด็กนักเรียนมาปฎิบัติธรรมในช่วงก่อนเปิดภาคเรียน ไม่คาดคิดมาก่อนว่าสำนักปฎิบัติธรรมแห่งนี้จะมีวิธีการฝึกปฎิบัติธรรมในลักษณะนี้มาก่อน
ส่วนกรณีมีเด็กนักเรียนในชั้น ม. 4 อีกกลุ่มหนึ่งหลังเสร็จกิจกรรมเข้าค่ายปฎิบัติธรรมแล้วเกิดอาการอุปทานหมู่ ซึ่งเป็นผลจากการเข้าค่ายแต่ไม่เกี่ยวกับการไปปฎิบัติธรรมแบบพิสดาร แต่เป็นเพราะเด็กกลุ่มนี้บางรายมีจิตใจอ่อนไหว เมื่อฟังเทศธรรมที่พระสอน หลังกลับบ้านก็เกิดอาการนอนผวา วิตกกังวล ผู้ปกครองได้มาปรึกษากับโรงเรียน จึงพาทั้งหมดไปรดน้ำมนต์เพื่อความสบายใจ และเตรียมนำจิตแพทย์จากโรงพยาบาลจิตเวช ใน จ.นครสวรรค์มาพูดคุยกับเด็กทั้งหมดแล้ว
นายประพันธ์ ตั้นวัฒนา ผู้อำนวยการ สำนักงานพระพุทธศาสนาจ.พิจิตร กล่าวว่า หลังเกิดเหตุสำนักพุทธฯ พร้อมนายอำเภอและเจ้าคณะอำเภอ ได้เข้าไปตวรจสอบสำนักปฎิบัติธรรมดังกล่าวแล้ว และเดินทางไปตรวจสอบซ้ำอีกครั้งเมื่อช่วงเช้าวันที่ 29 พ.ค. พร้อมกำชับให้เจ้าสำนักฯงดเว้นหลักสูตรปฎิบัติธรรมในส่วนของการนั่งสมาธิในโลงศพ หรือนอนในกรงกับงูไปก่อน โดยเฉพาะกับเด็กนักเรียน
ส่วนหลักสูตรอื่นให้ดำเนินการได้ตามปกติ ซึ่งเจ้าสำนักฯก็รับปากจะปฎิบัติตาม และขอร้องว่าอย่าปล่อยให้เหตุการณ์ในลักษณะนี้เกิดขึ้นอีก อย่างไรก็ตามในส่วนของการเอาผิดหรือลงโทษสำนักปฎิบัติธรรมเป็นเรื่องของฝ่ายสงห์โดยเจ้าคณะอำเภอจะดำเนินการ
http://www.komchadluek.net/detail/20090 ... B8%A1.html
ฟังพระให้สัมภาษณ์ในรายการ เจาะข่าวเด่น แล้ว ยังหัวเราะได้อีก - -" ไม่ไหวแระนะ
เหตุสถานปฎิบัติธรรมใช้วิธีปฎิบัติธรรมแบบพิสดาร นำผ้าปิดตานักเรียนที่มาเข้าค่ายแล้วให้นอนกับงูเหลือมในกรง จนถูกงูรัดลำตัวและคอต้องเข้ารักษาตัวในโรงพยาบาลเพราะมีอาการผื่นขึ้นตามตัว ใบหน้าบวม และมีเส้นเลือดฝอยแตกในตาทั้งสองข้างถูกเปิดเผยโดยผู้สื่อข่าว"คมชัดลึก"ได้สัมภาณ์นายเพียร ต๊ะผัด ข้าราชการสำนักงานขนส่งอำเภอโพทะเล จ.พิจิตร บิดาของเด็กนักเรียนที่ประสบเหตุว่า เมื่อวันที่ 11 พ.ค. 2552 น.ส.รติรถ ต๊ะผัด อายุ 15 ปี บุตรสาว ซึ่งเรียนอยู่ที่ชั้น ม.4 โรงเรียนบางมูลนากภูมิวิทยาคม อ.บางมูลนาก ได้เดินทางไปเข้าค่ายปฎิบัติธรรมกับโรงเรียนที่สำนักสงฆ์ปฎิบัติธรรมบ้านสะพานยาว ม.11 ต.เนินมะกอก อ.บางมูลนาก
ต่อมาเมื่อเวลา 23.00 น.ของคืนวันที่ 12 พ.ค. สำนักสงฆ์ให้นักเรียนเลือกปฎิบัติธรรมระหว่างนอนในโลงศพ หรือนอนในกรงกับงูเหลือม บุตรสาวของตนเองเลือกนอนในกรงกับงูเหลือม ทางสำนักสงฆ์จึงนำผ้ามาปิดตาแล้วให้นอนอยู่ในกรง ระหว่างนอนอยู่ถูกงูเหลือมรัดลำตัวและเลื่อยมารัดลำคอจนรู้สึกเจ็บปวดจึงร้องให้คนช่วยนานกว่า 10 นาที พระที่นอนปฎิบัติธรรมอยู่ในกรงใกล้ๆจึงได้ยินเสียงและเรียกให้ครูมาช่วย เมื่อนำงูที่รัดลำตัวออกยังให้บุตรสาวนอนในกรงต่ออจนครบ 1 ชั่วโมง ก่อนนำตัวบุตรสาวไปนอนพักและให้ทานยาแก้แพ้ เนื่องจากใบหน้าและลำตัวมีผื่นขึ้น
กระทั่งถึงช่วงเช้าวันที่ 13 พ.ค.เพื่อนสังเกตุเห็นอาการของบุตรสาวไม่ดีขึ้นจึงแจ้งให้ครูทราบ ต่อมาในเวลา 08.30 น.ครูจึงนำตัวส่งไปรักษาที่โรงพยาบาลบางมูลนาก และโทรศัพท์แจ้งตนเองในเวลา 09.00 น. เมื่อเดินทางมาถึงโรงพยาบาลสอบถามอาการจากแพทย์ ระบุว่าบุตรสาวมีอาการเส้นเลือดฝอยในตาทั้งสองข้างแตก มีผื่นขึ้นตามใบหน้าและใบหน้าบวม มีสาเหตุจากถูกงูรัดจนขาดอากาศหายใจ โดยโรงพยาบาลบางมูลนากได้ส่งตัวไปเอ็กซเรย์ที่โรงพยาบาลศรีสวรรค์ จ.นครสวรรค์ แล้วส่งตัวกลับมาที่โรงพยาบาลเดิม
นายเพียร กล่าวว่า ภรรยาของตนเองสงสารบุตรสาวจึงขอแพทย์นำตัวไปรักษาต่อที่โรงพยาบาลในกรุงเทพฯ โดยก่อนหน้านี้ผู้อำนวยการโรงเรียนฯได้ช่วยค่าเดินทางเป็นเงิน 6,000 บาท และเมื่อเดินทางไปโรงพยาบาลกรุงเทพฯ ผู้อำนวยการได้ช่วยเหลือค่าเดินทางและค่ารักษาเพิ่มเติมอีก 10,000 บาท ส่วนค่ารักษาทั้งหมดได้ใช้สิทธิ์ข้าราชการเบิก
"เมื่อเดินทางไปรักษาต่อที่โรงพยาบาลในกรุงเทพ โดยนอนพักอยู่ 1 คืนแพทย์ก็ให้กลับบ้านได้แต่บอกว่าอาการเส้นเลือดฝอยแตกในตาทั้งสองข้างต้องใช้เวลาไม่ต่ำกว่า 1 เดือนจึงจะหาย ส่วนอาการผื่นที่ขึ้นตามใบหน้าและลำตัวหายเป็นปกติแล้ว สำหรับอาการบวมที่ใบหน้าก็ยุบลงเป็นปกติเช่นกัน"นายเพียรกล่าว
นายเพียร กล่าวอีกว่า แม้สภาพจิตใจของบุตรสาวจะดีขึ้นและเมื่อวันที่ 27 พ.ค.ที่ผ่านมาได้เดินทางไปโรงเรียนตามปกติ ส่วนการเจรจากับผู้อำนวยการโรงเรียนในเบื้องต้น พร้อมรับผิดชอบทุกอย่าง แต่โดยส่วนตัวอยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องตรวจสอบสำนักปฎิบัติธรรมดังกล่าวว่ากระทำการเหมาะสมหรือไม่ เหตุใดจึงใช้วิธีปฎิบัติธรรมที่พิสดารเช่นนี้กับเด็ก หากช่วยเหลือบุตรสาวตนเองไม่ทันอาจเกิดเหตุการณ์เศร้าสลดขึ้นได้
นายเกษม นวมครุฑ ผู้อำนวยการ โรงเรียนบางมูลนากภูมิวิทยาคม กล่าวว่า รู้สึกเสียใจกับเรื่องที่เกิดขึ้น ได้ช่วยเหลือค่ารักษาพยาบาลกับครองครัว น.ส.รติรถไปแล้วเป็นจำนวน 16,000 บาท แต่ได้บอกครอบครัวว่าหากไม่พอให้ประสานมาอีกครั้ง ส่วนเรื่องที่เกิดขึ้นได้รายงานให้ผู้ว่าราชการจ.พิจิตร ทราบแล้ว เบื้องต้นหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง คือสำนักพุทธศาสนา จ.พิจิตร คงจะเข้าไปตรวจสอบอีกครั้ง
"เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นโรงเรียนและครูที่ควบคุมไม่ทราบล่วงหน้ามาก่อนว่า สำนักปฎิบัติธรรมจะนำเด็กไปฝึกปฎิบัติธรรมแบบนี้ เพราะไม่มีในโปรแกรมมาก่อนและช่วงดังกล่าวก็หมดเวลาการปฎิบัติธรรมไปแล้ว ครูจึงปล่อยให้เด็กเข้านอน แต่ทราบว่ามีพระมาชักชวนเด็กกลุ่มหนึ่งไปปฎิบัติธรรมโดยให้เลือกระหว่างการนั่งสมาธิในโลงศพและนอนในกรงกับงู"นายเกษมกล่าว
นายเกษม กล่าวเพิ่มเติมว่า แต่ละปีโรงเรียนจะนำเด็กนักเรียนที่เข้าศึกษาใหม่ในระดับชั้น ม.4 เข้าค่ายปฎิบัติธรรม เพื่อพัฒนาคุณธรรมจริยธรรมก่อนจะเปิดเทอม ก่อนหน้านี้ครูในโรงเรียนทราบว่ามีสำนักปฎิบัติธรรมดังกล่าวอยู่จึงไปตรวจสอบ เห็นมีนักเรียนตำรวจ 200 คนมาฝึกนั่งสมาธิอยู่จึงสนใจและติดต่อนำเด็กนักเรียนมาปฎิบัติธรรมในช่วงก่อนเปิดภาคเรียน ไม่คาดคิดมาก่อนว่าสำนักปฎิบัติธรรมแห่งนี้จะมีวิธีการฝึกปฎิบัติธรรมในลักษณะนี้มาก่อน
ส่วนกรณีมีเด็กนักเรียนในชั้น ม. 4 อีกกลุ่มหนึ่งหลังเสร็จกิจกรรมเข้าค่ายปฎิบัติธรรมแล้วเกิดอาการอุปทานหมู่ ซึ่งเป็นผลจากการเข้าค่ายแต่ไม่เกี่ยวกับการไปปฎิบัติธรรมแบบพิสดาร แต่เป็นเพราะเด็กกลุ่มนี้บางรายมีจิตใจอ่อนไหว เมื่อฟังเทศธรรมที่พระสอน หลังกลับบ้านก็เกิดอาการนอนผวา วิตกกังวล ผู้ปกครองได้มาปรึกษากับโรงเรียน จึงพาทั้งหมดไปรดน้ำมนต์เพื่อความสบายใจ และเตรียมนำจิตแพทย์จากโรงพยาบาลจิตเวช ใน จ.นครสวรรค์มาพูดคุยกับเด็กทั้งหมดแล้ว
นายประพันธ์ ตั้นวัฒนา ผู้อำนวยการ สำนักงานพระพุทธศาสนาจ.พิจิตร กล่าวว่า หลังเกิดเหตุสำนักพุทธฯ พร้อมนายอำเภอและเจ้าคณะอำเภอ ได้เข้าไปตวรจสอบสำนักปฎิบัติธรรมดังกล่าวแล้ว และเดินทางไปตรวจสอบซ้ำอีกครั้งเมื่อช่วงเช้าวันที่ 29 พ.ค. พร้อมกำชับให้เจ้าสำนักฯงดเว้นหลักสูตรปฎิบัติธรรมในส่วนของการนั่งสมาธิในโลงศพ หรือนอนในกรงกับงูไปก่อน โดยเฉพาะกับเด็กนักเรียน
ส่วนหลักสูตรอื่นให้ดำเนินการได้ตามปกติ ซึ่งเจ้าสำนักฯก็รับปากจะปฎิบัติตาม และขอร้องว่าอย่าปล่อยให้เหตุการณ์ในลักษณะนี้เกิดขึ้นอีก อย่างไรก็ตามในส่วนของการเอาผิดหรือลงโทษสำนักปฎิบัติธรรมเป็นเรื่องของฝ่ายสงห์โดยเจ้าคณะอำเภอจะดำเนินการ
http://www.komchadluek.net/detail/20090 ... B8%A1.html
ฟังพระให้สัมภาษณ์ในรายการ เจาะข่าวเด่น แล้ว ยังหัวเราะได้อีก - -" ไม่ไหวแระนะ