บาทหลวงมีเงินเดือนประจำป่ะ
-
- โพสต์: 291
- ลงทะเบียนเมื่อ: เสาร์ ก.พ. 14, 2009 1:34 pm
ม่ะรู้นะครับว่าบาทหลวงมีเงินเดือนประจำหรือ่ปาว เพราะเห็นมีคนบอกว่าบาทหลวงมีเงินเดือน แล้วพระสันตปาปา มีเงินเดือนหรือป่าว ผมฟังเค้ามาอีกทีหนึ่ง เลยอยากจะทราบว่าความจิงเป็นยังงัยกันแน่
-
- ~@
- โพสต์: 12724
- ลงทะเบียนเมื่อ: อังคาร ม.ค. 18, 2005 2:28 pm
- ที่อยู่: Thailand
พระสงฆ์มีครับ แต่ไม่เยอะนะ
-
- โพสต์: 291
- ลงทะเบียนเมื่อ: เสาร์ ก.พ. 14, 2009 1:34 pm
ก้อคนที่มอร์มอน บอกว่าบาทหลวงมีเงินเดือน ไม่เหมือนกับเอลเดอร์ ที่ทำงานด้วยใจ เลยอยากทราบว่าบาทหลังมีจิงป่าว แล้วเอลเดอร์เค้าไม่มีเงินเดือนจิงเหรอ
-
- ~@
- โพสต์: 12724
- ลงทะเบียนเมื่อ: อังคาร ม.ค. 18, 2005 2:28 pm
- ที่อยู่: Thailand
บาทหลวงมีจริงครับ แต่เท่าที่ †Ecclesia บอกครับsatoshi_b1 เขียน: ก้อคนที่มอร์มอน บอกว่าบาทหลวงมีเงินเดือน ไม่เหมือนกับเอลเดอร์ ที่ทำงานด้วยใจ เลยอยากทราบว่าบาทหลังมีจิงป่าว แล้วเอลเดอร์เค้าไม่มีเงินเดือนจิงเหรอ
ไม่ได้จ้าง แต่เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายส่วนตัวนิดหน่อยครับ ตกแล้ววันละ 100 บาท
ไม่ใช่เป็นเงินจ้างเพื่อเป็นบาทหลวง
ผมว่าคนพูดอคติไปนิดนึงนะ เพราะงานแบบนี้มีแต่คนทำด้วยใจทั้งนั้น คนที่ไม่ทำด้วยใจคือพวกเอาศาสนาบังหน้าหากินจนตัวเองรวยเสียมากกว่าsatoshi_b1 เขียน: ก้อคนที่มอร์มอน บอกว่าบาทหลวงมีเงินเดือน ไม่เหมือนกับเอลเดอร์ ที่ทำงานด้วยใจ เลยอยากทราบว่าบาทหลังมีจิงป่าว แล้วเอลเดอร์เค้าไม่มีเงินเดือนจิงเหรอ
อย่าเรียกเงินเดือนเลย เรียกเบื้ยเลี้ยงยังชีพดีกว่า เพราะคนเราอยู่ที่ไหนต้องกินกินต้องใช้ ไหนจะต้องกินข้าววันละสามมื้อ สบู่ยาสีฟัน เครื่องใช้จำเป็นส่วนตัวของตนเอง แล้วยิ่งมาอุทิศตนตลอดชีวิตแล้ว จะเอาเงินจากที่ไหนมาใช้จ่ายสิ่งเหล่านี้ แต่พระศาสนจักรก็ยังกรุณาในเรื่องนี้ แต่เท่าที่จำเป็นสำหรับบาทหลวง แต่สำหรับเอลเตอร์มอร์มอน เคยมาหาแถวบ้านเหมือนกันเขาบอกว่ามาแค่สองปีแล้วก็กลับไปแล้วคนใหม่ก็มาต่อ
ลองคิดดูแล้วกัน คนหนึ่งอุทิศตนตลอดชีวิต ไม่สามารถหาเงินได้ เพราะถือความยากจน ยังชีพด้วยเบี้ยเลี้ยงเล็ก ๆ น้อย ๆ แต่อีกคนหนึ่งมาสองปี แน่นอนถ้ามีเงินสะสมมาก่อนก็ทำได้ หรือทำสองปีแล้วออกไปหางานทำต่อก็สบายไม่มีปัญหา และส่วนใหญ่มาด้วยใจก็จริงแต่เมื่อจบไปแล้วก็สามารถได้ทุนเรียนต่อที่มหาวิทยาลัยของศาสนาของเขาได้ ถ้าไม่มาเป็นเอลเดอร์ก็จะไม่ได้ทุนส่วนนี้
สรุป มาด้วยใจทั้งสองจริง แต่ต่างกันในบางแง่มุม
ลองคิดดูแล้วกัน คนหนึ่งอุทิศตนตลอดชีวิต ไม่สามารถหาเงินได้ เพราะถือความยากจน ยังชีพด้วยเบี้ยเลี้ยงเล็ก ๆ น้อย ๆ แต่อีกคนหนึ่งมาสองปี แน่นอนถ้ามีเงินสะสมมาก่อนก็ทำได้ หรือทำสองปีแล้วออกไปหางานทำต่อก็สบายไม่มีปัญหา และส่วนใหญ่มาด้วยใจก็จริงแต่เมื่อจบไปแล้วก็สามารถได้ทุนเรียนต่อที่มหาวิทยาลัยของศาสนาของเขาได้ ถ้าไม่มาเป็นเอลเดอร์ก็จะไม่ได้ทุนส่วนนี้
สรุป มาด้วยใจทั้งสองจริง แต่ต่างกันในบางแง่มุม
อันนี้ไม่ใช่นะครับ ไม่เป็นเอลเดอร์ก็ได้ทุนได้ เป็นเอลเดอร์ไม่ได้ทุนก็ได้ลินดา เขียน: ส่วนใหญ่มาด้วยใจก็จริงแต่เมื่อจบไปแล้วก็สามารถได้ทุนเรียนต่อที่มหาวิทยาลัยของศาสนาของเขาได้ ถ้าไม่มาเป็นเอลเดอร์ก็จะไม่ได้ทุนส่วนนี้
ทุนส่วนทุน ออกมิชชั่นส่วนออกมิชชั่นครับ ไม่มีความเกี่ยวข้องกันแต่อย่างใด
อ่านได้จากตรงนี้ครับ
http://saas.byu.edu/financialAid/schola ... iteria.php
Do LDS students receive preference for scholarships?
Other than the Thomas S. Monson Presidential Scholarship and a few private scholarships, membership in The Church of Jesus Christ of Latter-day Saints is not a requirement and does not give candidates preference. However, the value of most university scholarships is based on LDS tuition.
แปลว่านอกจากไม่กี่ทุนรายบุคคลแล้ว ไม่จำเป็นต้องเป็นสมาชิกของศาสนาจักรด้วยซ้ำจึงจะได้ทุนนะครับ แต่ค่าเทอมของทุนส่วนใหญ่จะคิดจากค่าเทอมสำหรับคนที่เป็นสมาชิกศาสนาจักร คือ คนที่เป็นสมาชิกศาสนาจักรจ่ายค่าเทอมน้อยกว่าคนที่ไม่เป็นครับ ดังนั้นถ้าไม่ได้เป็นสมาชิกแต่ได้ทุน ก็จะลดค่าใช้จ่ายในส่วนที่เป็นค่าเทอมของสมาชิกศาสนาจักร คล้ายๆกับระบบมหาวิทยาลัยรัฐของอเมริกา ที่คนที่เป็นคนของรัฐจะจ่ายเรทหนึ่งและคนนอกรัฐหรืออินเตอร์จะจ่ายอีกเรทหนึ่ง เพราะถือว่าเอาภาษีของรัฐมา run มหาวิทยาลัย เช่น คนของรัฐอาจจะจ่ายควอเตอร์ละ $5,000 คนต่างรัฐหรืออินเตอร์ จ่ายควอเตอร์ละ $15,000 พอได้ทุนของม. ก็จะลดค่าใช้จ่ายแค่ $5,000 อีก $10,000 ยังต้องจ่ายเอง อันนี้ประสบการณ์ตัวเองที่เคยเรียน ม.ของรัฐมา
http://saas.byu.edu/financialAid/schola ... iteria.php
Do LDS students receive preference for scholarships?
Other than the Thomas S. Monson Presidential Scholarship and a few private scholarships, membership in The Church of Jesus Christ of Latter-day Saints is not a requirement and does not give candidates preference. However, the value of most university scholarships is based on LDS tuition.
แปลว่านอกจากไม่กี่ทุนรายบุคคลแล้ว ไม่จำเป็นต้องเป็นสมาชิกของศาสนาจักรด้วยซ้ำจึงจะได้ทุนนะครับ แต่ค่าเทอมของทุนส่วนใหญ่จะคิดจากค่าเทอมสำหรับคนที่เป็นสมาชิกศาสนาจักร คือ คนที่เป็นสมาชิกศาสนาจักรจ่ายค่าเทอมน้อยกว่าคนที่ไม่เป็นครับ ดังนั้นถ้าไม่ได้เป็นสมาชิกแต่ได้ทุน ก็จะลดค่าใช้จ่ายในส่วนที่เป็นค่าเทอมของสมาชิกศาสนาจักร คล้ายๆกับระบบมหาวิทยาลัยรัฐของอเมริกา ที่คนที่เป็นคนของรัฐจะจ่ายเรทหนึ่งและคนนอกรัฐหรืออินเตอร์จะจ่ายอีกเรทหนึ่ง เพราะถือว่าเอาภาษีของรัฐมา run มหาวิทยาลัย เช่น คนของรัฐอาจจะจ่ายควอเตอร์ละ $5,000 คนต่างรัฐหรืออินเตอร์ จ่ายควอเตอร์ละ $15,000 พอได้ทุนของม. ก็จะลดค่าใช้จ่ายแค่ $5,000 อีก $10,000 ยังต้องจ่ายเอง อันนี้ประสบการณ์ตัวเองที่เคยเรียน ม.ของรัฐมา
- thanachard
- โพสต์: 134
- ลงทะเบียนเมื่อ: อังคาร ต.ค. 30, 2007 3:00 pm
- ที่อยู่: ฺBangkok, Thailand
แต่ว่าไปแล้ว เงินเดือนละ 3-4 พันถือว่าน้อยนะครับ น่าจะเป็นค่าครองชีพมากกว่าครับ
ส่วนในมอรมอน คนที่จะมาเป็นผู้สอนนั้น ต้องเก็บเงินมาเองครับ
แต่ถ้าใครที่เงินไม่พอ ก็จะมีลักษณะของทุนให้ด้วยครับ
แต่ก็ต้องจ่ายบางส่วนเองด้วยเช่นกัน
ส่วนในมอรมอน คนที่จะมาเป็นผู้สอนนั้น ต้องเก็บเงินมาเองครับ
แต่ถ้าใครที่เงินไม่พอ ก็จะมีลักษณะของทุนให้ด้วยครับ
แต่ก็ต้องจ่ายบางส่วนเองด้วยเช่นกัน
-
- ~@
- โพสต์: 8259
- ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ม.ค. 17, 2005 9:56 pm
- ที่อยู่: Bangkok
ก็ประมาณ เท่าที่พวกพี่ๆบอก ไม่น่าจะเรียกว่าเงินเดือน แต่เป็นลักษณะภาษาเด็กๆเรียกว่า "เงินค่าขนม"thanachard เขียน: แต่ว่าไปแล้ว เงินเดือนละ 3-4 พันถือว่าน้อยนะครับ น่าจะเป็นค่าครองชีพมากกว่าครับ
ความจริงก็ไม่น้อยเกินไป เพราะท่านกินอยู่กับกงสีแล้ว
บางนิกาย เช่นโปรเตสแตนต์ นี่เงินเดือนน้อย กว่าพระสงฆ์คาทอลิก เพราะเขาเรียกเงินเดือน ซึ่งบางคน บางที่ได้น้อยกว่า
สาวใช้ต่างด้าวอีก เพราะต้องกินอยู่เองหมด มีลูก มีเมีย อีก ...แต่สิ่งที่เขาเรียนรู้คือ พระเจ้ามิเคยทอดทิ้ง ครับ
-
- โพสต์: 1946
- ลงทะเบียนเมื่อ: พุธ มิ.ย. 01, 2005 8:23 pm
- ที่อยู่: On this earth obviously
คุณพ่อบูได้หกพันมั้ง
ยังจะขอบริจาคจากบูอีก เหอะๆๆ
ยังจะขอบริจาคจากบูอีก เหอะๆๆ
-
- ~@
- โพสต์: 12724
- ลงทะเบียนเมื่อ: อังคาร ม.ค. 18, 2005 2:28 pm
- ที่อยู่: Thailand
คำว่า "มั้ง" คือการคาดคะเนไปเองหรือเปล่าครับ?MaRy MagDaLenE เขียน: คุณพ่อบูได้หกพันมั้ง
ยังจะขอบริจาคจากบูอีก เหอะๆๆ
ถ้าไม่รู้จริง อย่าพูดเลยนะครับ ใครรู้เข้าจะเข้าใจผิดได้นะครับ
1 บิดาของน้องบูเป็นพระสงฆ์และคาดว่าน่าจะได้เงินเดือนหกพันบาทต่อเดือนโดยประมาณ โดยท่านมาขอบริจาคจากบูเพิ่มเติม ถ้าตีความอย่างนี้ก็ให้น่าสงสัยว่าเป็นพ่อเป็นลูกกันไม่รู้เหรอว่าพ่อได้เท่าไหร่ และมีความน่าสนใจตรงที่พ่อบูบวชคณะไหน เป็นพระสงฆ์ตอนบูอายุเท่าไหร่ มีกระแสเรียกเกิดขึ้นได้อย่างไร คำพยานของท่านคงมีค่ามากทีเดียวMaRy MagDaLenE เขียน: คุณพ่อบูได้หกพันมั้ง
ยังจะขอบริจาคจากบูอีก เหอะๆๆ
2 คุณพ่อที่วัดของบูน่าจะได้เงินเดือนเดือนละหกพันบาทโดยประมาณ และท่านก็ได้ขอบริจาคจากบูเพิ่มอีกด้วย ถ้าตีความอย่างนี้ก็ให้น่าสงสัยว่าบูคงใช้ภาษาไทยไม่เก่ง เพราะอ่านแล้วตีความได้สองอย่าง เพราะคำว่าคุณพ่อของบูชวนให้นึกถึงบิดาของบูมากกวาคุณพ่อที่วัดของบู (เป็นพ่อเจ้าวัดหรือไม่ไม่ใช่ประเด็น)
3 เมื่อบิดาขอหรือคุณพ่อที่วัดของบูขอ บูมีปฏิกิริยาตอบรับยังไงครับ
-
- .
- โพสต์: 1739
- ลงทะเบียนเมื่อ: อาทิตย์ ต.ค. 28, 2007 5:58 pm
- ที่อยู่: In the Christ
เค้าทำกันด้วยใจครับผม
ความยากจนก้อคืออีกหนึ่งพระพรนะ
ความยากจนก้อคืออีกหนึ่งพระพรนะ
-
- โพสต์: 1946
- ลงทะเบียนเมื่อ: พุธ มิ.ย. 01, 2005 8:23 pm
- ที่อยู่: On this earth obviously
ไม่มั้งก้อได้ ก้อพ่อว่างั้นอ่า
บูก้อไม่ได้ไปจุ้นเรื่องส่วนตัวพ่อมากเท่าไร
เออ พ่อที่วัดค่ะ เหอะๆๆ ใช้ภาษาแย่ไปหน่อย ขออภัยๆ
หา บูก้อบอกว่า ขอเก็บตังค์ก่อนละกัน
กะเก็บให้พ่อซักเดือนละพันห้า
เห็นเค้าบ่นว่าค่าข้าวม่ะพอ
บูก้อไม่ได้ไปจุ้นเรื่องส่วนตัวพ่อมากเท่าไร
เออ พ่อที่วัดค่ะ เหอะๆๆ ใช้ภาษาแย่ไปหน่อย ขออภัยๆ
หา บูก้อบอกว่า ขอเก็บตังค์ก่อนละกัน
กะเก็บให้พ่อซักเดือนละพันห้า
เห็นเค้าบ่นว่าค่าข้าวม่ะพอ
- ~@Little lamb@~
- Defender of lawS
- โพสต์: 9396
- ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ม.ค. 17, 2005 3:00 pm
- ติดต่อ:
MaRy MagDaLenE เขียน: ไม่มั้งก้อได้ ก้อพ่อว่างั้นอ่า
บูก้อไม่ได้ไปจุ้นเรื่องส่วนตัวพ่อมากเท่าไร
เออ พ่อที่วัดค่ะ เหอะๆๆ ใช้ภาษาแย่ไปหน่อย ขออภัยๆ
หา บูก้อบอกว่า ขอเก็บตังค์ก่อนละกัน
กะเก็บให้พ่อซักเดือนละพันห้า
เห็นเค้าบ่นว่าค่าข้าวม่ะพอ
ไม่จำเป็นต้องทำแบบนั้นค่ะ
ทำแล้วแต่ที่เต็มใจจะทำ
ไม่มีบู พระเจ้าก็จะทรงเลี้ยงดูด้วยวิธีของพระองค์
ยิ่งบูมาพูดแบบนี้ พ่อจะยิ่งดูน่าเกลียดเข้าไปใหญ่
ไม่รู้ว่าตอนที่พ่อพูด พ่อพูดล้อเล่นกับบูรึเปล่า
ยังงัยก็ขอให้บู พิจารณาการเอาเรื่อง บาทหลวงมาพูดในที่สาธารณะด้วย
เพราะในที่นี้มีคนหลายประเภท อาจจะมีคนไม่ประสงค์ดี
พูดต่อ ๆ ไป ทำให้คุณพ่อเสื่อมเสียได้
ก็ขอให้บูคิดให้เยอะ ๆ ก่อนจะพูดพาดพิงถึงเรื่องคุณพ่อทั้งหลายนะคะ
-
- โพสต์: 1946
- ลงทะเบียนเมื่อ: พุธ มิ.ย. 01, 2005 8:23 pm
- ที่อยู่: On this earth obviously
ขอโทษค้าบ
ความจริงก้อตั้งใจจะเก็บให้อยู่แล้วแหละ อืม
ความจริงก้อตั้งใจจะเก็บให้อยู่แล้วแหละ อืม
-
- ~@
- โพสต์: 12724
- ลงทะเบียนเมื่อ: อังคาร ม.ค. 18, 2005 2:28 pm
- ที่อยู่: Thailand
เค้าถึงบอกว่า "ความจริง" จะทำให้ท่านเป็นอิสระMaRy MagDaLenE เขียน: ขอโทษค้าบ
ความจริงก้อตั้งใจจะเก็บให้อยู่แล้วแหละ อืม
MaRy MagDaLenE เขียน: ไม่มั้งก้อได้ ก้อพ่อว่างั้นอ่า
บูก้อไม่ได้ไปจุ้นเรื่องส่วนตัวพ่อมากเท่าไร
เออ พ่อที่วัดค่ะ เหอะๆๆ ใช้ภาษาแย่ไปหน่อย ขออภัยๆ
หา บูก้อบอกว่า ขอเก็บตังค์ก่อนละกัน
กะเก็บให้พ่อซักเดือนละพันห้า
เห็นเค้าบ่นว่าค่าข้าวม่ะพอ
พ่อที่มีแบบไม่ขาดแคลน มักจะเป็นพ่อที่ถวายตัวให้กับพระมากแบบสุดๆ และพระจะเลี้ยงเค้าแบบสุดๆ ... เค้าจะไม่ขาดอะไร ถ้าเค้าให้พระแบบสุดๆ .... ถ้าให้แบบครึ่งๆกลางๆ ก็จะขาดแน่นอน
แก้ไขล่าสุดโดย Buddy เมื่อ เสาร์ มิ.ย. 13, 2009 12:57 am, แก้ไขไปแล้ว 1 ครั้ง.
เท่าเงินเดือนครูใช่มั้ยคะ ไม่ได้มากกว่าใช่มั้ยrameses เขียน: แต่ไปเห็นที่ร.ร.เรานะหมืนขึ้นอ่ะซิสเตอร์ด้วย ยังไงแน่
ขึ้นกับความจำเป็นต้องใช้นะคะ และบางทีก็มีระบบแบบเป็นเงินเดือน ถ้าซิสเตอร์ไม่ได้อยู่ใน community และเค้าต้องขับรถเอง ไม่งั้นจะกินอะไรล่ะคะ ก็ต้องให้ได้มีเงินเดือน ด้วยการทำงานแลกเปลี่ยน ถ้าอยู่โรงเรียน ก็เป็นครู ก็เงินเดือนเท่าครู ก็สมเหตุสมผลนะคะ
ที่อเมริกา ซิสเตอร์ก็ต้องออกไปทำงานข้างนอก บางคนเป็นหมอ เป็นพยาบาล เป็นวิศวกร เป็นครู เค้าก็เงินเดือนตามนั้น แต่รู้สึกว่า ได้เงินมา ก็ต้องเอามาเข้าคณะนะคะ และบางที ไม่ได้อยู่ใน community อยู่อพาร์ตเมนต์ ก็ต้องมีเงินค่าเช่า ซึ่งได้มาจากการทำงานประจำนี่ล่ะค่ะ
โถ เงิน 6000 บาท เป็นค่าอะไรบ้าง จะบอกให้
ค่าขนมเลี้ยงเด็ก ค่าคนมาขอเงิน(ขอตรงๆเลย)
ค่าเสื้อผ้า กางเกง ชุดนอน ผ้าเช็ดตัว ถงุเท้า รองเท้าฯลฯ
ค่ารถ ค่าน้ำมันรถ ค่าอาหาร น้ำดื่ม (เวลาเดินทาง)
สารพัด จะมีรายจ่าย กิจกรรมที งานวัดที หมดแหละ
ค่าขนมเลี้ยงเด็ก ค่าคนมาขอเงิน(ขอตรงๆเลย)
ค่าเสื้อผ้า กางเกง ชุดนอน ผ้าเช็ดตัว ถงุเท้า รองเท้าฯลฯ
ค่ารถ ค่าน้ำมันรถ ค่าอาหาร น้ำดื่ม (เวลาเดินทาง)
สารพัด จะมีรายจ่าย กิจกรรมที งานวัดที หมดแหละ
-
- โพสต์: 291
- ลงทะเบียนเมื่อ: เสาร์ ก.พ. 14, 2009 1:34 pm
กลายเป็นเรื่องใหญ่โตเลยเนอะ ผมว่าถ้ามีผมก้อว่าไม่ผิดหรอก แต่มันต้องสมเหตุผลมากกว่า ว่าเราทำงานแบบไหน ทำเพราะเงิน หรือ พระเจ้า ที่ผมถามคือว่าอยากรู้เท่านั้นเอง ทำไมต้องให้คนเค้าว่าเราด้วยว่าเราทำงานเพราะอยากได้เงิน (เค้าพูดทำนองเนี่ย) ผมเลยมาถามความคิดเห็นว่ามีป่าว
- Nicolas.Not
- โพสต์: 306
- ลงทะเบียนเมื่อ: อาทิตย์ ก.ย. 30, 2007 1:47 pm
- ติดต่อ:
จะให้คุณพ่อกินดินเหรอครับ