หน้า 1 จากทั้งหมด 1
/ บทสัมภาษณ์คุณแหม่ม จินตรา สุขพัตน์ / เหตุที่เข้า2ศาสนา
โพสต์แล้ว: อังคาร ก.ค. 28, 2009 7:07 pm
โดย Holy
ส่วนหนึ่งจาก บทสัมภาษณ์คุณแหม่ม จินตรา สุขพัตน์ ที่ลงในนิตยสาร The Secret เล่มล่าสุด เพื่อฟังจากเธอว่าทำไมเธอจึงมี2ศาสนา
เริ่มสนใจเรื่องธรรมะตั้งแต่ตอนไหนครับ
จริง ๆ
แหม่มเป็นคาทอลิก คุณพ่อเป็นคริสต์ คุณแม่เป็นพุธ แหม่มเลยเหมือนเป็นสองศาสนา ตอนเด็กเรียนในโรงเรียนคริสต์ตามคุณพ่อไปโบสถ์ตลอด
แต่พอโตขึ้นได้เข้ามาทำงานในวงการ คนรอบข้างส่วนใหญ่เป็นพุธ มีวันหนึ่งทำงานเหนื่อยมาก อยากทำสมาธิ รู้สึกว่าใจฟุ้งซ่านไม่มีสมาธิจะอ่านบท อ่านเท่าไรก็ไม่เข้าหัว เลยปรึกษาคุณบุ๋ม
Re: / บทสัมภาษณ์คุณแหม่ม จินตรา สุขพัตน์ / เหตุที่เข้า2ศาสนา
โพสต์แล้ว: อังคาร ก.ค. 28, 2009 7:52 pm
โดย My Hope
ขอบคุณครับ่ที่แบ่งปันครับ พี่Holy
Re: / บทสัมภาษณ์คุณแหม่ม จินตรา สุขพัตน์ / เหตุที่เข้า2ศาสนา
โพสต์แล้ว: อังคาร ก.ค. 28, 2009 8:38 pm
โดย sea dog's wife
ขออนุญาตแสดงความเห็นซึ่งเป็นความเห็นโดยส่วนตัวนะคะ คิดว่า ศาสนาทุกศาสนา สอนในสิ่งที่ดีงาม และสร้างสันติ หากเข้าถึงแก่นคำสอนของศาสนานั้นจริงๆ ที่ต้องทะลุผ่านเปลือกของพิธีกรรม (บางอย่าง) จึงคิดว่าไม่แปลกหากคุณแหม่ม (ที่คิดว่าเธอได้รับรับศีลศักดิ์สิทธิ์ต่างๆอย่างถูกต้องตามลำดับของช่วงชีวิต เพราะคุณพ่อเป็นคาทอลิก) จะเป็นคาทอลิกที่น้อมนำเรื่องของการฝึกสมาธิของพุทธ มาใช้เพียงเพื่อให้เกิดพลังสมาธิ ความสงบของจิตใจ และการดำเนินชีวิตเท่านั้น ดังนั้น ตราบใดที่เธอมิได้ปฏิบัติศาสนกิจต่างๆ ที่เป็นการแสดงตนว่าเป็น พุทธศาสนิกชน ก็คิดว่าคงไม่เสียหายนะคะ อีกประการหนึ่งคือ การปฏิบัติจิตภาวนานั้น มีหลากหลายรูปแบบมาก และมีอยู่ในทุกศาสนาด้วย ซึ่งไม่ได้หมายความว่า มนุษย์คนหนึ่ง จะถูกจริตกับทุกวิธีการ จึงต้องเป็นหน้าที่ของเราเองที่จะแสวงหาวิธีการปฏิบัติที่เหมาะสมกับจริตของเรา (แน่นอนว่า อาจมีมากกว่า 1 วิธีการ) และพากเพียรจนกว่าจะค้นพบ "ความจริงอันยิ่งใหญ่" แต่ในฐานะที่เราเป็นคริสตชน การปฏิบัติจิตภาวนาขั้นสูง มีความเห็นว่า จะต้องเป็นแนวทางคำสอนขององค์พระเยซูคริสตเจ้า และบรรดานักบุญ เท่านั้น เพราะเป้าหมายของเราคริสตชน คือการเป็นหนึ่งเดียวกับพระบิดาเจ้าค่ะ
ขอบพระคุณ คุณโฮลี่ ค่ะ ที่ให้โอกาส มาแบ่งปัน
Re: / บทสัมภาษณ์คุณแหม่ม จินตรา สุขพัตน์ / เหตุที่เข้า2ศาสนา
โพสต์แล้ว: อังคาร ก.ค. 28, 2009 10:37 pm
โดย saroonram
เป็นคำให้การที่บัวไม่ให้ช้ำน้ำไม่ให้ขุ่น เอาใจใส่ทังสอง รักพี่เสียดายน้อง อึมคนหลายใจ บ้านะตัวเอง เพลงบัวตูมบัวบานใง
Re: / บทสัมภาษณ์คุณแหม่ม จินตรา สุขพัตน์ / เหตุที่เข้า2ศาสนา
โพสต์แล้ว: พุธ ก.ค. 29, 2009 7:39 am
โดย Jeab Agape
โอ้มายก็อด...ใครก็ตามที่เริ่มออกห่างจากองค์พระเยซูเจ้า ก็มักจะใช้วิชา apologistic= หลักปกป้องตัวเอง เสมอฮะ
เถอะน่า...ดังนั้นคริสเตียน มักจะห้ามการสมรสกับคนต่างความเชื่อ จนมีคำว่า "ห้ามเทียมแอกกับคนต่างชาติ" เพราะความเป็น
ห่วงเรื่อง การประนีประนอมจนแยกไม่ถูก ห่วงลูกหลานเหลน ที่ออกมา เพราะเรามีความเชื่อว่าคนที่อยู่ในพระคริสต์ คือคน
ที่อยู่ภายใต้ร่มพระคุณแล้ว ดังนั้นจึงต้องให้ร่มพระคุณนั้นกางไปให้กว้าง นำคนอื่นๆ มาหาพระเยซูเจ้าด้วย

Re: / บทสัมภาษณ์คุณแหม่ม จินตรา สุขพัตน์ / เหตุที่เข้า2ศาสนา
โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. ก.ค. 30, 2009 4:08 pm
โดย Deo Gratias
สงคราม(ฝ่ายวิญญาณ) ยังไม่จบ ยังนับศพไม่ได้
ตราบใดเขายังชีวิตอยู่สักวันหนึ่งเขาอาจจะกลับมาหาพระเจ้าก็ได้
Re: / บทสัมภาษณ์คุณแหม่ม จินตรา สุขพัตน์ / เหตุที่เข้า2ศาสนา
โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. ก.ค. 30, 2009 4:20 pm
โดย Porpalad
จริงๆผมได้อ่านบทสัมภาษณ์นี้มาสักพักแล้วละครับ
แล้วก็เคยเหนรายการท่องเทียวรายการหนึ่ง ที่ไปสองคอน มุกดาหาร เขาก็เชิญคุณแหม่มนี่แหละ
เป็นผู้ร่วมดำเนินรายการ เพราะเธอเป็นคาทอลิก ในรายการเธอก็บอกว่าเป็นคาทอลิกและ
ดูภูมิใจในความเป็นคริสตัง
แต่ที่อ่านมา เธอคงอยากมีการพักผ่อนจิตแบบสมาธิ เลยไปทางพุทธ ซึ่งก็โชคดีว่าไม่เจอพุทธสายเคร่งที่เขาบังคับโน่นนี่
แต่ก็นะฝากใครที่รู้จักเธอ ลองแนะนำให้คุณแหม่มไปฝึกสมาธิกับภราดาชุมพล ดีสุดจิต ที่ นวกสถานมงฟอร์ต สันทรายสิครับ
(ผมไม่แน่ใจว่าท่านยังอยู่ที่นี่หรือเปล่านะ)อาจจะเจอสิ่งที่เหมาะมากกว่า
Re: / บทสัมภาษณ์คุณแหม่ม จินตรา สุขพัตน์ / เหตุที่เข้า2ศาสนา
โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. ก.ค. 30, 2009 4:40 pm
โดย Jeab Agape
Porpalad เขียน:
แต่ก็นะฝากใครที่รู้จักเธอ ลองแนะนำให้คุณแหม่มไปฝึกสมาธิกับภราดาชุมพล ดีสุดจิต ที่ นวกสถานมงฟอร์ต สันทรายสิครับ
(ผมไม่แน่ใจว่าท่านยังอยู่ที่นี่หรือเปล่านะ)อาจจะเจอสิ่งที่เหมาะมากกว่า
พ่อปลัด น่าจะเหมาะสมที่สุดนะครับ เขียนจดหมายไปแนะนำเลย จะล่ารายชื่อพวกเราว่าสนับสนุนยังได้เลยนะฮะ
บราเด้อร์ ชุมพล คงจะยังอยู่นะครับ~~ มีคุณพ่อท่านหนึ่งแนะให้เจี๊ยบไปหา แต่พอดีวิธีที่ บ.ชุมพลใช้ เจี๊ยบขวัญอ่อน ไม่กล้าไปฮะ

Re: / บทสัมภาษณ์คุณแหม่ม จินตรา สุขพัตน์ / เหตุที่เข้า2ศาสนา
โพสต์แล้ว: ศุกร์ ก.ค. 31, 2009 7:15 am
โดย ignatius
Jeab Agape เขียน:
Porpalad เขียน:
แต่ก็นะฝากใครที่รู้จักเธอ ลองแนะนำให้คุณแหม่มไปฝึกสมาธิกับภราดาชุมพล ดีสุดจิต ที่ นวกสถานมงฟอร์ต สันทรายสิครับ
(ผมไม่แน่ใจว่าท่านยังอยู่ที่นี่หรือเปล่านะ)อาจจะเจอสิ่งที่เหมาะมากกว่า
พ่อปลัด น่าจะเหมาะสมที่สุดนะครับ เขียนจดหมายไปแนะนำเลย จะล่ารายชื่อพวกเราว่าสนับสนุนยังได้เลยนะฮะ
บราเด้อร์ ชุมพล คงจะยังอยู่นะครับ~~ มีคุณพ่อท่านหนึ่งแนะให้เจี๊ยบไปหา
แต่พอดีวิธีที่ บ.ชุมพลใช้ เจี๊ยบขวัญอ่อน ไม่กล้าไปฮะ
น้องเจี๊ยบ..เอ๊ย แบ่งปันหน่อยซิ..พี่ก็อยากรู้น่ะ ขอบคุณมาล่วงหน้าเลย
bangkokthirdocd เขียน:
ขออนุญาตแสดงความเห็นซึ่งเป็นความเห็นโดยส่วนตัวนะคะ คิดว่า ศาสนาทุกศาสนา สอนในสิ่งที่ดีงาม และสร้างสันติ หากเข้าถึงแก่นคำสอนของศาสนานั้นจริงๆ ที่ต้องทะลุผ่านเปลือกของพิธีกรรม (บางอย่าง) จึงคิดว่าไม่แปลกหากคุณแหม่ม (ที่คิดว่าเธอได้รับรับศีลศักดิ์สิทธิ์ต่างๆอย่างถูกต้องตามลำดับของช่วงชีวิต เพราะคุณพ่อเป็นคาทอลิก) จะเป็นคาทอลิกที่น้อมนำเรื่องของการฝึกสมาธิของพุทธ มาใช้เพียงเพื่อให้เกิดพลังสมาธิ ความสงบของจิตใจ และการดำเนินชีวิตเท่านั้น ดังนั้น ตราบใดที่เธอมิได้ปฏิบัติศาสนกิจต่างๆ ที่เป็นการแสดงตนว่าเป็น พุทธศาสนิกชน ก็คิดว่าคงไม่เสียหายนะคะ อีกประการหนึ่งคือ การปฏิบัติจิตภาวนานั้น มีหลากหลายรูปแบบมาก และมีอยู่ในทุกศาสนาด้วย ซึ่งไม่ได้หมายความว่า มนุษย์คนหนึ่ง จะถูกจริตกับทุกวิธีการ จึงต้องเป็นหน้าที่ของเราเองที่จะแสวงหาวิธีการปฏิบัติที่เหมาะสมกับจริตของเรา (แน่นอนว่า อาจมีมากกว่า 1 วิธีการ) และพากเพียรจนกว่าจะค้นพบ "ความจริงอันยิ่งใหญ่" แต่ในฐานะที่เราเป็นคริสตชน การปฏิบัติจิตภาวนาขั้นสูง มีความเห็นว่า จะต้องเป็นแนวทางคำสอนขององค์พระเยซูคริสตเจ้า และบรรดานักบุญ เท่านั้น เพราะเป้าหมายของเราคริสตชน คือการเป็นหนึ่งเดียวกับพระบิดาเจ้าค่ะ
ขอบพระคุณ คุณโฮลี่ ค่ะ ที่ให้โอกาส มาแบ่งปัน
อันนี้ก็ถูกต้องทีเดียว..
แต่เราที่เป็นคริสตชนเองก็ต้องรักษาความเชื่อด้วยการปฎิบัติและสำนึกอยู่เสมอว่า..เราเป็นคริสตชน
และเราควรจะจะเลือกแนวทางในการทำสมาธิให้เหมาะกับสถานะของเราในปัจจุบัน..
เช่น สมัยก่อนเราเองเป็นพุทธ เราก็เลือกที่จะนั่งสมาธิแบบพุทธ
ครั้นเรามาเป็นคริสตชนเต็มตัวแล้ว..เราเองก็เลือกที่จะทำสมาธิแบบคริสต์..
อย่างใน..http://www.newmana.com/Holy/meditation/meditation01.htm
จริงแล้วเรื่องพวกนี้เป็นความเชื่อเฉพาะคน และถ้าเราต้องใช้ชีวิตเป็นพยานในองค์พระเยซูเจ้า..
อย่างที่เขียนในนี่..http://www.newmana.com/yabb/index.php?topic=8223.0
การฟื้นฟูงานคริสตสัมพันธ์ ศาสนสัมพันธ์ และวัฒนธรรมสัมพันธ์
73. ขณะเดียวกัน คาทอลิกทุกคนโดยเฉพาะฆราวาส ซึ่งมีชีวิตอยู่ในหมู่ของพี่น้องที่นับถือศาสนาอื่น
ต้องเป็นเครื่องหมายแสดงพระเยซูเจ้า เป็นประจักษ์พยานถึงพระเยซูเจ้าอย่างจริงใจ
ด้วยแบบอย่างการดำเนินชีวิตกิจการและการเสวนา โดยเฉพาะ การเสวนาด้วยชีวิต
ตามสภาพสังคมและวัฒนธรรมของตน อันจะนำไปสู่เอกภาพ ความรัก ความจริง
ความยุติธรรมและสันติ เป็นหนทางหนึ่งที่นำไปสู่พระอาณาจักรของพระเจ้า
การที่เราไปนั่งสมาธิแบบพุทธ วิปัสนากรรมฐาน เราจะทำได้หรือ..?
จากในบทความสัมภาษณ์คุณแหม่ม..ตอนหนึ่งที่ว่า..
"..มีวันหนึ่งทำงานเหนื่อยมาก อยากทำสมาธิ รู้สึกว่าใจฟุ้งซ่านไม่มีสมาธิจะอ่านบท อ่านเท่าไรก็ไม่เข้าหัว
เลยปรึกษาคุณบุ๋ม
Re: / บทสัมภาษณ์คุณแหม่ม จินตรา สุขพัตน์ / เหตุที่เข้า2ศาสนา
โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. ส.ค. 06, 2009 10:24 am
โดย bomzaiya
สมัยที่ผมอยู่เชียงใหม่ ผมก็พยายามแสวงหาความจริง หาธรรมะ กับชีวิตตัวเองครับ
ผมพักกับคุณพ่อและบราเดอร์ ที่ อ.แม่แจ่ม จ.เชียงใหม่
เวลากลางวัน วันธรรมดา ผมจะว่าง ก็จะขี่มอร์เตอร์ไซต์ ไปตามวัด บนเขา
เพื่อไปอ่านหนังสือพระฯ แล้วก็ไปนั่งสมาธิที่นั่น
สิ่งหนึ่งที่ผมได้มา ก็คือ ความระแวง และแคลงใจ ในเรื่อง ชีวิตหลังความตาย
ทางพุทธว่า หากไม่ได้ บรรลุเป็นโสดาบัน หรือเป็นอรหันต์ไปเลย ก็ต้องกลับมาเวียนว่ายตายเกิดอีก
ซึ่งรู้สึกว่า ชีวิตเรา จะต้องละทิ้ง และตั้งมั่น เพื่อจะได้ไม่ต้องกลับมาเวียนว่ายตายเกิดอีก
และสิ่งที่มันเป็นข้อสงสัยคือ แล้ว พระเจ้าของเราละ จะปล่อยให้เราเวียนว่ายตายเกิดหรือไม่
แล้วพระเจ้าของเรา เป็นเพียงเทวดา เท่านั้นหรือ พระองค์จะช่วยอะไรเราได้ หากเราไม่ช่วยตัวเอง
ไม่ละทิ้งให้บรรลุถึง อรหันตผล
ความคิดเป็นแบบนั้นจริงๆ
หลังจากนั้น ผมกลับมาอยู่ที่ศรีราชา ได้สนทนากับซิสเตอร์
ท่านบอกว่า "เชื่อในพระเจ้า มีมากกว่านี้ อีกมากมาย"
ซึ่งความรู้สึกผม ก็แย้งๆ อยู่ในใจ เพราะ ประสบการณ์กับพระเจ้า ยังน้อยอยู่
และแล้ว พระเจ้าก็บันดาลในเกิด สิ่งต่างๆ มากมาย
ปัญหาหลายอย่างทำให้ ผมไม่สามารถพึ่งตนเองได้
ดังนั้น คำว่า "ตนเป็นที่พึ่งแห่งตน" ไม่เพียงพอเสียแล้ว
พระเจ้า ส่องทางชีวิต เป็นผู้ปลอบประโลมใจ
เป็นผู้ที่เข้าใจ และรักเรา ตลอดไป
ในเวลานี้ ผมไม่กังวลถึง ชีวิตหลังความตาย
เพราะเชื่อว่า พระเจ้า ทรงมีแผนการไถ่กู้ ซึ่งผมเพียงทำหน้าที่ของผมตามแผนการนั้น
Re: / บทสัมภาษณ์คุณแหม่ม จินตรา สุขพัตน์ / เหตุที่เข้า2ศาสนา
โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. ส.ค. 06, 2009 10:40 am
โดย :+: seraphim :+:
คุณบุ๋ม
Re: / บทสัมภาษณ์คุณแหม่ม จินตรา สุขพัตน์ / เหตุที่เข้า2ศาสนา
โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. ส.ค. 06, 2009 10:58 am
โดย sinner
bomzaiya เขียน:
ปัญหาหลายอย่างทำให้ ผมไม่สามารถพึ่งตนเองได้
ดังนั้น คำว่า "ตนเป็นที่พึ่งแห่งตน" ไม่เพียงพอเสียแล้ว
พระเจ้า ส่องทางชีวิต เป็นผู้ปลอบประโลมใจ
เป็นผู้ที่เข้าใจ และรักเรา ตลอดไป
เห็นด้วยกับคุณbomzaiya ค่ะ เคยเป็นพุทธมาก่อน
เคยออกแสวงหาความจริง ลองบวชอยู่ในวัดป่าแถบอีสานก็หลายปี
ลองปฏิบัติหลายแบบ แต่ในที่สุดก็รู้ว่าพึ่งตนเองไม่ได้
เหงาและเดียวดาย ต่างคนต่างอยู่
ไม่เหมือนตอนนี้พระรักเรา อบอุ่น มีพี่น้องมีความสัมพันธ์ มีความวางใจในพระค่ะ
"ผู้ที่วางใจในพระย่อมได้รับพระพร" เยเรมีย์ 17:7
Re: / บทสัมภาษณ์คุณแหม่ม จินตรา สุขพัตน์ / เหตุที่เข้า2ศาสนา
โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. ส.ค. 06, 2009 2:04 pm
โดย yack
Deo Gratias เขียน:
สงคราม(ฝ่ายวิญญาณ) ยังไม่จบ ยังนับศพไม่ได้
ตราบใดเขายังชีวิตอยู่สักวันหนึ่งเขาอาจจะกลับมาหาพระเจ้าก็ได้
yack ก็เป็นกำลังใจให้เขาครับ