Belong to the Truth Jesus Christ

กับสิ่งที่มันเป็นไปไม่ได้ เช่น ความรัก ความหวัง ความร่ำรวย    และอื่นที่ไม่สามารถเป็นไปได้ แต่ได้แค่คิดแต่มันไม่สามารถเป็นจริงได้แล้ว ถ้าทุกคนเจอแบบนั้นจริงๆ แล้วทุกคนจะทำยังไงค่ะ และถ้าเจอเหตุการณ์แบบที่หนูเขียนไว้นั้น แล้วทุกคนจะมีวิธีไหนที่จะทำให้สิ่งที่เราหวังเป็นจริง ช่วยกันเขียนคำตอบมากเยอะนะค่ะ 

สิ่งต่าง ๆ เหล่านี้เป็นสิ่งที่ทำให้เรา ออกห่างจากพระ มากขึ้นนะคะ

อย่าคิดที่จะทำให้สิ่งที่หวังเป็นจริง

บางสิ่งบางอย่าง เราอาจจะไม่ได้สมหวังเสียทุกอย่าง

ยิ่งเราคิดที่อยากจะให้มันเป็นจริง พอมันไม่ได้ตามที่หวัง เราจะเจ็บมากนะคะ

เวลาคิดหรือหวังอะไร ให้เผื่อใจไว้บ้าง

คุณ...
ถ้าบอกว่าคุณอยากได้หน้าที่การงานดีๆถึงจะมีความสุข
พอได้แล้วก็ยังบอกว่าต้องมีบ้านดีๆถึงจะมีความสุข
พอได้บ้าน ก็บอกว่าต้องได้รถด้วยถึงจะมีความสุข
มีบ้านแล้ว รถแล้ว ก็ยังไม่พอ อยากได้คู่ครองดีๆสักคนอีก ถึงจะมีความสุข

พอไม่ได้ก็เป็นทุกข์...

----------------------------------------

ส่วนผม..
ไม่ต้องมีตำแหน่งใหญ่โต ผมก็มีความสุข เพราะยังไงผมก็มีกิน
ไม่ต้องมีบ้านสวยๆใหญ่ๆ รถหรู ผมก็สามารถมีความสุข กับบ้านเล็กๆที่แออัด
ตราบเท่าที่ผมมีบ้านซุกหัวนอน และที่สำคัญคือคุณพ่อคุณแม่ ญาติพี่น้องที่เค้ารักผมอยู่ที่บ้าน
ผมไม่มีคู่ครอง นั่นก็ไม่ใช่ปัญหา เพราะผมมีพระเจ้าเคียงข้าง

ผมสามารถมีความสุขได้แม้ไม่มีอะไรเลย

----------------------------------------

ถ้าคิดอยู่ตลอดว่า... "อะไรๆที่ฉันไม่มีคือความสุขของฉัน ฉันต้องมีก่อนจึงจะมีความสุข"

แล้วเมื่อไรเล่า คุณถึงจะมีความสุข... ฝากไปคิดเล่นๆนะครับ

"สุนัขจิ้งจอกยังมีโพรง และนกในอากาศก็ยังมีรัง แต่บุตรมนุษย์ไม่มีที่ที่จะวางศีรษะ" (ลก. 9:58)
เป็นศิษย์พระเยซูต้องไม่กลัวจน ไม่กลัวอด ไม่กลัวเจ็บ ไม่กลัวตายครับ

1. ต้องให้พระเจ้าเป็นที่หนึ่งในชีวิต แล้วเรื่องอื่นว่ากันทีหลัง
"แต่ท่านทั้งหลายจงแสวงหาแผ่นดินของพระเจ้า  
และความชอบธรรมของพระองค์ก่อน แล้วพระองค์จะทรงเพิ่มเติมสิ่งทั้งปวงเหล่านี้ให้"    (มธ.6:33)

2. ถ้าสิ่งเป็นนั้นเป็นน้ำพระทัยของพระเจ้าสำหรับคุณ ไม่มีอะไรที่เป็นไปไม่ได้
"ฝ่ายมนุษย์ก็เหลือกำลังที่จะทำได้ แต่ไม่เหลือกำลังของพระเจ้า
เพราะว่าพระเจ้าทรงกระทำให้สำเร็จได้ทุกสิ่ง" (มก.10:27)

3. เมื่อพระเจ้าประทานสิ่งใดให้ก็จงขอบพระคุณพระเจ้า ใช้สิ่งนั้นถวายเกียรติแด่พระองค์
และอย่าให้ความสำคัญกับสิ่งนั้นมากกว่าพระเจ้าจนกลายเป็นรูปเคารพในชีวิต
"เหตุฉะนั้นเมื่อท่านจะรับประทานจะดื่ม หรือจะทำอะไรก็ตาม  
จงกระทำเพื่อเป็นการถวายพระเกียรติแด่พระเจ้า" (1คร.10:31)

4.   ถ้าสิ่งนั้นไม่ใช่น้ำพระทัยของพระเจ้าสำหรับคุณก็จงของคุณพระเจ้า และอย่าดื้อกับพระองค์อีกเลย
"จงขอบพระคุณในทุกกรณี เพราะนี่แหละเป็นน้ำพระทัยของพระเจ้า
ซึ่งปรากฏอยู่ในพระเยซูคริสต์เพื่อท่านทั้งหลาย " (1ธส.5:18)

ไม่เห็นต้องคาดหวังว่าจะได้หรือไม่ได้อะไรนี่ครับ
ขอเพียงพระเจ้าทรงนำทาง ก็เป็นสุขที่สุดแล้ว

เอามาฝากค่ะ เห็นว่าเกี่ยวข้องกันอยู่ คิดว่าน่าจะเป็นประโยชน์



มานาประจำวันนี้
วันพุธที่ 9 กันยายน 2009

อ่าน: ลูกา 12:13-21
จงระวังและเว้นเสียจากการโลภทุกประการ เพราะว่าชีวิตของคนมิได้อยู่ในการที่มีของฟุ่มเฟือย -ลูกา 12:15

       ผมว่าน่าสนใจที่พระเยซูทรงสอนเกี่ยวกับเงินทองมากกว่าเรื่องอื่น และพระองค์ก็ไม่ได้พยายามที่จะส่ำสมทรัพย์สมบัติใดๆ เรารู้ว่า พระองค์ไม่เคยแม้แต่จะเรียกร้องขอการถวาย ที่พระองค์ทรงสอนเรื่องนี้อย่างเคร่งครัด ก็เพราะไม่มีอะไรที่จะทำให้เส้นเลือดฝ่ายจิตวิญญาณของเราอุดตันได้รวดเร็วเท่าเงินอีกแล้ว ไม่ว่าจะเป็นการทำงานให้ได้เงินมากๆ ร่า หรือความอยากมีอยากได้
       ลองคิดถึงชายที่ทูลพระเยซูอย่างหน้าไม่อายว่า

วันนึงถ้าเรารู้จักการทำตามน้ำพระทัยพระ มากกว่าน้ำใจตัวเอง วันนั้นจะมีความสุขแบบสุดๆค่ะ    หลายครั้งเราคิดว่า เราอยากได้และถ้าเราได้มา เราจะสุขแบบสุดๆ  แต่จริงๆแล้ว พอได้มาจริงๆ ก็งั้นๆแหละ 

ตอนนี้น้องอาจจะยังไม่ค่อยเข้าใจ

แต่พี่ขอให้น้องอ่านและจำความเห็นของ reply ข้างบนใว้นะครับ เผื่อวันนึงน้องโตขึ้นแล้วก็อาจจะเข้าใจ

ขอพระเจ้าอวยพรครับ

เราเองก็มีสิ่งหนึ่งที่ถ้ามนุษย์พูด ให้ตายมันก็เป็นไปไม่ได้ (เอ บางทีมันจะมากกว่าสิ่งหนึ่งน่ะสิ)

มองด้วยสายตามนุษย์ พระเจ้าก็คงไม่ทำให้ล่ะมั้ง

แต่ทุกวันนี้เราก็ยังหวัง....

และเชื่อว่าคนที่จะทำให้มันเป็นไปได้ มีแต่องค์พระผู้เป็นเจ้าเท่านั้น (เราไม่คิดจะเผลอกลับไปก้มหัวให้ซาตานอีกแล้ว เพราะมันเป็นตัวการร้ายที่แท้จริง)

ไม่ขอพูดในนี้อยู่ดี เอาเป็นว่า แล้วแต่พระเจ้า (เพื่อสิ่งนั้น เกียรติภูมิในวิชาชีพ ความร่ำรวย ดวงในการเล่นเกมแบบขึ้น ๆ ลง ๆ หรือแม้แต่ตัวของตัวเอง are nothing)

ไม่เคยหวังค่ะ ไม่หวังอะไร

มันอาจจะเหมือนลอยๆ แต่ก็ ไม่เคยอยากรวย อยากมีคนรักมากมาย

เรายิ่งหวัง เราเองก็ยิ่งลอยไปกับความหวัง

เรื่องแบบนี้ต้องสร้างด้วยตัวเองค่ะ =]

อยากมีคนรักเยอะๆ ก็รักเค้าก่อน (นี่นี่นี่ ไม่ได้หมายความว่ามีกิ๊กนะ 5 5+)
คุณพ่อเคยสอนว่าให้เข้าใจเขา ด้วยใจของเรา  รักเขาแบบบริสุทธิ์ใจ เหมือนที่รักพระ
อารมณ์ดี ยิ้มเสมอเมื่อเจอทุกๆอย่าง 

อยากรวย อยากได้ของอะไรก้เก็บเงินเอง

แล้วของนั้นจะอยู่นานกว่าที่เราคิดไว้ (เป็นอะไรที่ตายตัวมากกกกก 5 5 +)

แต่สวดขอกำลังใจจากพระ ก็เพียงพอแล้วค่ะ

  ...ภาษามนุษย์อันคับแคบของเรา สื่อความหมายของคำว่า "พระพร" ให้นึกถึงเพียงในด้านดี เราก็มองคำว่า "พระพร" ในรูปของความสุข ความสมหวัง ความสำเร็จ นานาประการ อย่างที่เราเรียกว่า "สีชมพูแห่งชีวิต" หรือ "กลีบกุหลาบบนมรรคาแห่งชีวา" .....

  เราชาวคริสต์สวดภาวนาแบบผิดๆ กันมาตลอดเวลา เราขอพระช่วยในเรื่องนั้นเรื่องนี้ ขอความสุขความสำเร็จ ขอเงินขอทอง ขอถูกรางวัลสลากกินแบ่ง ขอตามประสามนุษย์ที่ยังเต็มไปด้วยความโลภ ครั้นไม่ได้ดังใจก็ผิดหวัง โทษพระโทษเจ้าว่าใจร้าย ไม่ช่วยไม่โปรดเรา ไม่เคยมองตัวเราเองเลยว่า เราได้ทำตัวคู่ควรแก่การที่จะได้รับสิ่งนั้น สิ่งนี้จากพระแล้วหรือ เราตั้งหน้าแต่จะ "เอา" ถ่ายเดียว โดยเราไม่คิดจะ "ให้" อะไรเลย ไม่ว่าแก่พระหรือมนุษย์ แล้วเราก็มาหน้ามืดตามัว โมโหโกรธาเอากับพระผู้เป็นเจ้า ที่พระองค์ไม่ทรงตามใจเราสักอย่าง เรามองไม่ออกว่าที่พระไม่ทรงตามใจเรานั้น เป็นเพราะพระทัยปรารถนาดีอันสูงส่งสุดซึ้ง เรามองไม่ออกว่าที่พระไม่ทรงโปรด นั้นแหละคือพระพรยิ่งใหญ่ที่ประทานแก่เรา เพราะสิ่งที่เราขอนั้นอาจนำมาแต่ความเลวร้าย ก่อให้ใจหลงผิด ลำพอง จองหอง เหิมเกริม หมิ่นเหม่ต่อการก่อกรรมทำชั่วได้อย่างง่ายๆ ...

...พระพรของพระซ่อนอยู่ในรูปการปฏิเสธ พระพรของพระซ่อนอยู่แม้ในรูปของการทำลาย หลายคนสูญเสียทรัพย์สิน บ้านช่องวอดวาย บางคนสูญเสียกระทั่งเลือดในอก มองจากสายของมนุษย์ นั่นเป็นภัยพิบัติอันร้ายแรงของชีวิต เป็นสิ่งที่ยอมรับแทบไม่ได้ แล้วลายคนก็ทิ้งศาสนาไป เพียงเพราะเหตุผลที่ว่า "พระใจร้าย" อย่างที่เขาคิด เขามองไม่เห็นว่า
พระองค์เป็นผู้มีพระทัยกรุณา เมื่อทรงทำสิ่งใด พระองค์ย่อมทรงมีเหตุผลของพระองค์เอง ที่เราไม่เข้าใจ หยั่งไม่ถึง ด้วยสมองอันน้อยนิดของเรา พระองค์ทรงเห็นว่า นี้เป็นสิ่งดีที่สุดแล้วสำหรับเรา มันอาจออกมาในรูปของความทุกข์ ความเศร้าหมอง ความผิดหวัง ความเจ็บปวด ฯลฯ แต่ทั้งหมดนั่นแหละคือพระพรที่ซ่อนมา เพื่อเราจะได้คู่ควรแก่การเป็นลูกของพระองค์ เพื่อเราจะได้รู้จักกางเขนของเราเอง เพื่อเราจะได้คู้ตัวกราบลงทั้งๆ ที่น้ำตานองหน้า และเอ่ยด้วยความเสงี่ยมเจียมตนจากสุดบึ้งของหัวใจว่า "ขอให้ทุกสิ่งเป็นไปตามน้ำพระทัย"
    ส่วนหนึ่งจากบทความ พระพรที่ซ่อนรูป ,อุชเชนี นิตยสารแม่พระยุคใหม่ ฉบับที่ 167 ปีที่ 29  กันยายน-ตุลาคม 2009/2552

สิ่ง ต่างๆ ที่น้องเขียนมากนั้น
เปนความต้องการของเนื้อหนังทั้งนั้นครับ

ให้พระเจ้าเป็นใหญ่สุดในชีวิตเราจะดีกว่าครับ

ความรัก คนบนโลกนี้
หายากครับที่จะยาวนาน
ยิ่งถ้าเป็นคนที่ไม่รู้จักพระเจ้าด้วยล่ะก็ ยากครับ
ขนาด คนที่รู้จักพระเจ้าบางคน ถ้าไม่ติดสนิทกับพระเจ้าจริงๆ ก็ เลิกก็ที

แต่ความรัก ที่พระเจ้าให้เรา นั้น จีรัง ไม่มีวันมลายครับ

ก็มี  นะครับ  ไม่ใช่ก็ ที
พิมผิดไปหน่อย หุ หุ

"จงอย่ากังวลใจ จงอย่าได้กลัวเลย

วางใจพระเจ้าไม่ขาดสิ่งใดๆ

จงอย่ากังวลใจ จงอย่าได้กลัวเลย

เพียงพระเจ้าเพียงพอ"


ส่วนตัวแล้ว เวลากังวลในเรื่องต่างๆ ไม่มั่นใจอะไร

ก็จะร้องเพลงนี้ซ้ำไปมา แล้วรู้สึกดีมาก เหมือนพระ

บอกกับเราว่า "อย่ากังวลไปเลย ที่เหลือเราจัดการเอง"

ขอพระเจ้าอวยพรครับ

"ในยามทุกข์ทน จงเพียรภาวนา" ยืมพี่ยศมาก่อน