เลน่า มาเรีย ความพิการไม่ใช่จุดสิ้นสุด สาวที่ไม่เคยยอมแพ้สักครั้งในชีวิต

ใครมาใหม่เชิญทางนี้ก่อน ทักทาย ทดลองโพส
ตอบกลับโพส
ภาพประจำตัวสมาชิก
(⊙△⊙)คุณxuู๓้uxoม(⊙△⊙)
โพสต์: 892
ลงทะเบียนเมื่อ: ศุกร์ ต.ค. 10, 2008 12:38 am

ศุกร์ ก.ย. 11, 2009 1:09 pm

เลน่า  มาเรีย  คลิงวัลล์

        เลน่า มาเรีย  เป็นนักร้องที่มีชื่อเสียงของ สวีเดน  เกิดเมื่อวันที่  28  กันยายน ค.ศ.1968  เธอไม่มีแขนทั้งสองข้าง และมีขาข้างซ้ายยาวเพียงครึ่งเดียวของขาข้างขวามาตั้งแต่เกิดโดยไม่ทราบสาเหตุ

รูปภาพ

        เลน่าเรียนว่ายน้ำตั้งแต่อายุ  3  ขวบ  จนได้เป็นนักกีฬาว่ายน้ำทีมชาติสวีเดน  ได้รับเหรียญรางวัลมากมาย

        เลน่าชอบร้องเพลงมาก หลังจากจบการศึกษาจากวิทยาลัยดนตรี ในกรุงสตอก-โฮล์ม  เมื่อปี ค.ศ.1991 แล้วเธอยึดการร้องเพลงเป็นอาชีพ มีผลงานมาแล้วหลายอัลบั้ม

อาทิ  My life  ,  Best friend, และ  Amazing  Grace


“ไม่มีใครคาดคิดมาก่อนว่าฉันจะแตกต่างไปจากคนอื่นๆ  คือเป็นคนพิการ  อย่างที่เขาเรียกกัน”

          เลน่าพิการแต่กำเนิด โดยแรกคลอดเธอตัวยาว  48 ซม.และหนักเพียง  2400 กรัม เท่านั้น ตรงส่วนที่เป็นแขนไม่มีอะไรเลย ตรงหัวไหล่มีเพียงแค่ปุ่มเล็กๆ 2 ปุ่ม ขาขวาปกติดี แต่ขาซ้ายสั้นกว่าครึ่งหนึ่ง ส่วนเท้าซ้ายชี้ขึ้นข้างบนเกือบจะถึงขา  หมอ ได้อธิบายถึงสถานการณ์ที่เกิดขึ้นและความพิการของเธอให้พ่อ แม่ฟัง โดยได้แจ้งว่าท่านทั้งสองมีสิทธิ์ จะทิ้งฉันไว้ที่สถาบันดูแลเด็กพิการได้และพูดว่า “คุณต้องเข้าใจนะว่า คุณจะต้องเลี้ยงลูกของคุณไปอีกอย่างน้อย 20 ปี”ท่านใช้เวลาคิดหลายวัน มีหลายคนแนะนำให้นำฉันไปฝากไว้ที่สถาบันดูแลเด็กพิการ และท่านทั้งสองก็ตระหนักดีว่าเด็กพิการเป็นภาระหนักมาก  และในที่สุดพ่อได้แสดงความคิดเห็นที่บ่งบอกถึงการตัดสินใจของท่านว่า “การที่เธอไม่มีแขนก็ไม่เป็นไร  แต่เธอต้องมีครอบครัว”

            แม่บอกว่าฉันเป็นคนร่าเริงตั้งแต่เกิด  ซึ่ง ฉันเห็นด้วยกับท่าน แล้วทำไมฉันจะไม่เป็นคนร่าเริงละ เพราะฉันไม่รู้ว่าฉันขาดอวัยวะบางอย่างในร่างกาย และฉันเองก็ไม่ได้มีความเจ็บปวดอะไร  ฉันมีพัฒนาการและเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ ซึ่งฉันอาจ เรียนรู้ไม่ได้ถ้าเป็นปกติเหมือนเด็กคนอื่นๆ  เช่นการใช้เท้าจับขวดนม แต่สำหรับแม่เป็นปีแรกที่หนักมากสำหรับท่าน  เมื่อแม่พาฉันไปโรงพยาบาลทุกคนมักไม่ค่อยถามคำถามธรรมดาๆ เกี่ยวกับเด็กทารกซึ่งทุกคนเต็มใจตอบ เช่น เลน่าหลับสนิทตลอดคืนไหม(  เลน่ากินนมได้ตามปกติไหม(  เลน่าพัฒนาขึ้นไหม(  แน่นอนที่เดียวฉันสามารถทำสิ่งพิเศษต่างๆ ได้หลายอย่างด้วยเท้าขวา  และค่อยๆเรียนรู้ที่จะจับสิ่งของด้วยไหล่และคางช่วย แต่คนที่พบฉันมักจะเน้นถึงอวัยวะที่ผิดปกติมากกว่าคนธรรมดาทั่วไป  ท่าน มองดูฉันในฐานะลูกสาวที่บังเอิญเกิดมาพิการ ไม่ใช่เด็กพิการที่เกิดมาเป็นลูกสาวของท่าน ผู้คนจะสังเกตเห็นว่าพ่อ แม่รักฉันตรงที่ฉันเป็นฉัน ไม่ใช่ฉันไม่สามารถทำสิ่งนี้หรือทำสิ่งนั้นได้  ซึ่งทำให้ฉันรู้สึกมั่นคงทางจิตใจ

            พ่อ แม่สนับสนุนให้ฉันทำในสิ่งที่ฉันชอบ และท่านก็สนับสนุนน้องชายในแบบเดียวกัน เพราะเหตุนี้ฉันจึงไม่รู้สึกโกรธหรือขมขื่นใจต่อสภาพที่ฉันเป็นอยู่ เพราะฉันไม่เคยคิดถึงความพิการของตนเองในแง่ลบ ฉันมักคิดว่าฉันเป็นเหมือนคนอื่นๆ เพียงแต่ทำบางสิ่งบางอย่างที่ต่างไปจากคนอื่นๆบ้าง พ่อแม่ให้เวลาฉันในการทำความเข้าใจว่าจะจัดการกับเรื่องต่างๆ อย่างไร แทนที่จะเข้ามาช่วยเหลือฉันทันทีที่ฉันขอร้อง ด้วยเหตุนี้ฉันจึงเป็นคนไม่ยอมแพ้ และมักจะค้นพบวิธีจัดการกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้น แต่เมื่อฉันทำพลาดพ่อแม่ก็พร้อมจะให้ความช่วยเหลือ ท่านให้ฉันรู้จักความผิดหวังเมื่อฉันไม่สามารถจัดการอะไรได้ด้วยเหตุนี้ฉัน จึงมีอิสระในการแสวงหาความสำเร็จและสามารถรับมือกับความล้มเหลวได้ เมื่อฉันล้มฉันอยากให้แม่มาพยุงฉันขึ้น แต่แม่ไม่อยากทำอย่างนั้น  “คลานไปที่รั้วซิ และพยายามใช้รั้วช่วยให้ลุกขึ้น”  ในความคิดของแม่  สิ่ง ที่สำคัญคือ ฉันควรจะช่วยตัวเองให้ได้ เพราะจากการเป็นนักอาชีวบำบัดของแม่ ท่านได้เห็นตัวอย่างมากมายที่เป็นผลเสียกับเด็กเมื่อพ่อแม่ประคบประหงมลูก มากเกินไป

ในการไปโรงเรียน  ฉันมีผู้ช่วยส่วนตัวตั้งแต่อนุบาล จนถึง ป.5  เธอช่วยฉันได้มากในสิ่งที่ฉันไม่สามารถทำด้วยตนเองได้  แต่ ฉันรู้สึกอยากทำสิ่งต่างๆด้วยตนเอง พ่อและแม่มักย้ำกับผู้ใหญ่ทั้งที่โรงเรียนและที่อื่นๆว่า ให้เลน่าทำด้วยตัวเธอเองเท่าที่เธอสามารถทำได้ หากไม่จำเป็นก็ไม่ต้องช่วยเหลือเธอ ฉันมีเพื่อนมากมายฉันยังเรียนรู้ที่จะสร้างความสัมพันธ์กับคนใหม่ๆได้อย่าง ไม่มีปัญหา ไม่รู้สึกกลัวหรืออับอายผู้คนเนื่องจากความพิการ บางครั้งเพื่อนที่โรงเรียนล้อเลียนเกี่ยวกับความพิการของฉัน ซึ่งบางครั้งก็ตลก แต่บางครั้งก็แรงไปหน่อย แต่เพราะฉันไม่รู้-สึกเจ็บใจ  จึงเกือบไม่มีใครที่ชอบล้อเลียนฉัน พ่อแม่ไม่เคยพาฉันหลบหนีหรือพาไปซ่อนเนื่องจากความพิการของฉัน  ฉันได้รับการสอนมาตั้งแต่แรกว่าคุณค่าของฉันนั้นอยู่ภายใน ไม่ใช่สิ่งที่มองเห็นภายนอก  ดังนั้นจึงไม่มีอะไรที่น่าอับอาย  แทนที่จะอับอายฉันกลับใช้ความพิการของฉันให้เป็นประโยชน์ด้วยซ้ำ  เมื่อ โรงเรียนมีกิจกรรมที่ฉันไม่สามารถทำได้ฉันมักพยายามหาทางเข้าไปมีส่วนร่วม ด้วย เช่น ในวิชาพลศึกษา ฉันจะไม่นั่งอยู่ข้างสนามมองดูคนอื่น เป็นไปไม่ได้ที่ฉันจะเล่นบาสเกตบอล แต่ฉันเป็นกรรมการได้ ฉันจึงวิ่งไปวิ่งมาและมีส่วนร่วมในกีฬานั้นๆ

ฉัน มีความเชื่อในพระเจ้ามาก ฉันไปที่คริสตจักรเกือบวันเว้นวัน ที่นั้นคนพิการอย่างฉันได้เติบโตขึ้นท่ามกลางคนที่ยอมรับฉันในฐานะบุคคลคน หนึ่งและยอมให้ฉันเป็นส่วนหนึ่งของพวกเขา ที่นี้มีคนหลายวัยแต่ผู้นำคริสตจักรก็ได้แสดงให้เห็นว่าคริสตจักรเป็นของคน หนุ่มสาวด้วยพวกเขาไว้ใจให้เราทำสิ่งต่างๆตามวิธีของเรา สำหรับพวกเขาฉันคือ เพื่อนคนหนึ่งที่ชื่อเลน่า ฉันไม่ใช่คนที่ต้องการการปฏิบัติพิเศษจากเพื่อนเลย

มาถึงความสามารถทางด้านดนตรี  ฉันเริ่มเรียนดนตรีในโรงเรียนประจำอำเภอที่เมืองเชอปิงในชั้น ม.3 ฉันมีความสุขกับการร้องเพลง ในชั้น ม.ปลาย เธอเลือกเรียนสายดนตรีและสังคม ฉันพยายามเป็นผู้นำคณะนักร้องเยาวชนในคริสตจักร และฉันก็ทำได้ คณะนักร้องมีการพัฒนาขึ้นมีการจัดคอนเสิร์ตหลายที่ทำให้ฉันได้ร้องเพลง เดี่ยวด้วย รวมทั้งการจัดคอนเสิร์ตส่วนตัวในหลายๆคริสตจักรในจังหวัด ต่อมาฉันได้รับเลือกให้เข้าเรียนต่อที่วิทยาลัยการดนตรีที่กรุงสตอกโฮล์ม  ตั้งแต่เริ่มเรียนอาจารย์ได้บอกว่า ท่านไม่กังวลกับความพิการของฉันมากนัก  ท่านกล่าวว่า “มันขึ้นอยู่กับเธอ เธอต้องเป็นคนบอกเองว่าทำอะไรได้ ทำอะไรไม่ได้”

            ฉัน ต้องการสื่อสารความเชื่อของฉันที่วิทยาลัยด้วย ฉันและเพื่อนๆ มักจะพบและพูดคุยกันถึงความหมายของการมีชีวิต และเรื่องเกี่ยวกับพระเจ้าและฉันก็ได้ตระหนักว่าฉัน ไม่เคยใช้เวลามากในการคิดว่าทำไมจึงมีความเชื่อในพระเจ้าอย่างลึกซึ้ง ฉันเพียงแต่เรียนรู้สิ่งเหล่านี้จากที่บ้าน แต่ตอนนี้ฉันถูกเรียกร้องที่จะให้เหตุผลเกี่ยวกับความคิดเห็นของฉัน ฉันใช้เวลาในการอธิษฐานกับพระเจ้าและอ่านพระคัมภีร์เพื่อค้นหาคำตอบ

         
มีคนถามว่าฉันมองสิ่งต่างๆ ในชีวิตด้วยทัศนคติทางบวกได้อย่างไร(พวกเขาแปลกใจว่าฉันประสบความสำเร็จในหลายสิ่งได้อย่างไร  ทั้งๆที่มีความเสียเปรียบในชีวิตมากมาย

ฉันเชื่อว่ามีเหตุผล  3 ประการอย่างน้อยที่ฉันเห็น

ประการ แรกพูดง่ายๆ ว่า คนเราทุกคนแตกต่างกันตั้งแต่เกิด ฉันมีความสุขและอยากรู้อยากเห็นเกี่ยวกับชีวิตตั้งแต่เกิดมา ตามบุคลิกของฉัน ฉันเป็นคนที่มองดูโอกาสที่เป็นไปได้มากกว่าจะดูที่ความยากลำบาก  ฉันไม่ทำให้สิ่งต่างๆ ยากไปกว่าที่มันเป็นอยู่  ฉันมีทัศนคติในทางบวกต่อตนเอง  กล้ายอมรับสิ่งต่างๆ ตามที่มันเป็น และกล้าที่จะถามคำถาม

ประการที่สอง  คือ  พ่อแม่ของฉัน ท่านไม่กังวลใจเกี่ยวกับความพิการของฉัน ซึ่งมีประโยชน์ต่อฉันอย่างยิ่ง ท่านได้วางรากฐานความมั่นคงปลอดภัยในชีวิตของฉัน  ท่านช่วยฉันให้เรียนรู้ทั้งความสำเร็จและ  ความล้มเหลว

ประการที่สามซึ่งเป็นเหตุผลที่สำคัญที่สุด  ที่ ทำให้ฉันมองดูชีวิตด้วยทัศนคติทางบวก คือ พระเจ้า เท่าที่จำได้ความเชื่อเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตฉัน ในฐานะที่เป็นคริสเตียน ฉันรู้ว่าฉันมีคุณค่าไม่ว่าฉันจะเป็นอย่างไร สิ่งสำคัญที่สุดคือ ความสัมพันธ์ของฉันกับพระองค์  ฉันรู้ว่าพระองค์ทรงรักฉัน

ไม่มีใครที่ดำเนินชีวิตโดยปราศจากปัญหา  แต่ คนที่มีประสบการณ์กับความยากลำบาก จะมีชีวิตที่รุ่งโรจน์มากกว่าคนที่ไม่เคยมีประสบการณ์แบบนี้ และคนที่สามารถเอาชนะอุปสรรคต่างๆ จะยิ่งทำให้ชีวิตของเขายิ่งรุ่งโรจน์ขึ้น

รูปภาพ 
sinner
โพสต์: 2246
ลงทะเบียนเมื่อ: อาทิตย์ มี.ค. 08, 2009 1:24 pm

ศุกร์ ก.ย. 11, 2009 1:17 pm

ขอบคุณค่ะที่แบ่งปัน เลน่าเป็นคนที่สามารถใช้วิธีคิดเชิงบวกได้ดีมากเลยค่ะ

ช่างน่าชื่นชมจริงๆ ::031::
ภาพประจำตัวสมาชิก
(⊙△⊙)คุณxuู๓้uxoม(⊙△⊙)
โพสต์: 892
ลงทะเบียนเมื่อ: ศุกร์ ต.ค. 10, 2008 12:38 am

ศุกร์ ก.ย. 11, 2009 1:23 pm

sinner เขียน: ขอบคุณค่ะที่แบ่งปัน เลน่าเป็นคนที่สามารถใช้วิธีคิดเชิงบวกได้ดีมากเลยค่ะ

ช่างน่าชื่นชมจริงๆ ::031::
อ่านแล้ว ละอายตัวเอง

มีครบทั้งสองมือ สองขา  แต่กลับมองชีวิตของตัวเอง อมทุกข์อยู่ตลอดเวลา
sinner
โพสต์: 2246
ลงทะเบียนเมื่อ: อาทิตย์ มี.ค. 08, 2009 1:24 pm

ศุกร์ ก.ย. 11, 2009 1:43 pm

~Holy Maiden Nerine~ เขียน:
sinner เขียน: ขอบคุณค่ะที่แบ่งปัน เลน่าเป็นคนที่สามารถใช้วิธีคิดเชิงบวกได้ดีมากเลยค่ะ

ช่างน่าชื่นชมจริงๆ ::031::
อ่านแล้ว ละอายตัวเอง

มีครบทั้งสองมือ สองขา  แต่กลับมองชีวิตของตัวเอง อมทุกข์อยู่ตลอดเวลา
ยังไม่สายที่จะเปลี่ยนนี่คะ  เป็นกำลังให้นะคะ  อย่าลืมว่าพระรักเรามากนะคะ ::031::
ภาพประจำตัวสมาชิก
Valkyrie Zero Number
โพสต์: 2081
ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ส.ค. 27, 2007 4:11 am

ศุกร์ ก.ย. 11, 2009 1:58 pm

ไม่มีแขน ขาไม่เท่ากัน แต่ช่างเปี่ยมด้วยพระพรจริง ๆ

อาเมน
กรอกสมบูรณ์
โพสต์: 1413
ลงทะเบียนเมื่อ: อังคาร ก.ย. 02, 2008 11:18 am
ที่อยู่: ต.กรอกสมบูรณ์ อ.ศรีมหาโพธิ จ.ปราจีนบุรี

ศุกร์ ก.ย. 11, 2009 2:21 pm

ขอบคุณ สำหรับบทความและเรื่องราวดีๆอย่างนี้ค่ะ  ::022:: เป็นกำลังใจให้ดีมากๆ ขอพระอวยพรค่ะ
พระเจ้าสถิตย์กับเราเสมอ
~@
โพสต์: 2546
ลงทะเบียนเมื่อ: อังคาร ม.ค. 18, 2005 10:54 pm

ศุกร์ ก.ย. 11, 2009 3:16 pm

กายพิการแต่ใจไม่พิการ


แต่พวกเรา


กายไม่พิการ แต่ใจพิการ
Batholomew
~@
โพสต์: 12724
ลงทะเบียนเมื่อ: อังคาร ม.ค. 18, 2005 2:28 pm
ที่อยู่: Thailand

ศุกร์ ก.ย. 11, 2009 10:38 pm

ขอบคุณที่แบ่งปันครับ : emo045 :
Jesus loves You
โพสต์: 740
ลงทะเบียนเมื่อ: อาทิตย์ ก.ค. 12, 2009 11:36 pm

อาทิตย์ ก.ย. 13, 2009 8:46 pm

ขอบคุณ ครับ
ภาพประจำตัวสมาชิก
ignatius
.
.
โพสต์: 2597
ลงทะเบียนเมื่อ: พฤหัสฯ. ก.พ. 07, 2008 12:48 pm

จันทร์ ก.ย. 14, 2009 11:22 am

ขอบคุณที่แบ่งปันคะ

ของไทยก็มีคะ ตามไปดูต่อกันได้ที่ http://www.wiriya.net/yimsoo.php?type=1

ลองดูนะคะ...  ::031:: ::022::
ภาพประจำตัวสมาชิก
dark-kanita
โพสต์: 317
ลงทะเบียนเมื่อ: อังคาร ก.ย. 18, 2007 2:37 pm

จันทร์ ก.ย. 14, 2009 3:35 pm

: emo045 :สุดยอดเลยคะ  พี่แกเนี่ยเก่งมากเลย  คาณิตาเคยดูวีดีโอ ชีวิตของคุณเลน่ามาแล้ว  อุอุน่านับถือ มีแขนเดียวเลี้ยงลูก ขับรถ ทั้งที่ไม่มีแขน  หนูยังไม่มีปัญญาเลยคะ  ร้องเพลงก้เพราะขอบคุณที่นำเสนอนะคะ
ภาพประจำตัวสมาชิก
Slave of God
โพสต์: 336
ลงทะเบียนเมื่อ: พุธ ก.ค. 02, 2008 10:47 pm

อังคาร ก.ย. 15, 2009 11:13 pm

เคยไปดูการแสดงสดของเขาด้วยครับ ดูแอล้วประทับใจมากครับ สุดยอด
ตอบกลับโพส