Belong to the Truth Jesus Christ

http://www.exitinternational.net/

"ชุดฆ่าตัวตาย" ของ ดร.ฟิลิป นิทชเค  ผู้รณรงค์เรื่องการุณยฆาต

ตั้งใจนำมาเสนอใช้กับคนที่ป่วยหนักเท่านั้น

ขณะนี้ประชากรสูงอายุทั่วโลกมีจำนวนเพิ่มมากขึ้น

ส่งผลให้รัฐบาลหลายชาติต้องเผชิญความคิดเรื่องความตาย

ซึ่งเป็นเรื่องต้องห้ามที่จะพูดว่าสมัครใจตาย

ดร.ฟิลิป นิทชเค  เป็นผู้อำนวนการกลุ่มเอ็กซิท อินเตอร์เนชั่นแนล

มีฉายาว่า "ดร.เดธ" เดินทางไปทั่วโลกเพื่อสอน

ให้คนรู้ว่าจะจบชีวิตอย่างปลอดภัยได้อย่างไร

โดยใช้ชุดยาฉีดฆ่าตัวตาย

                    จากไทยรัฐ

งงจังค่ะ...แล้วศาสนาจะมีประโยชน์อะไร ถ้าเราเลือกที่จะฆ่าตัวตายได้ 

แล้วเค้าไม่คิดจะพึ่งพิงพระเจ้าเพื่อให้จากไปอย่างสงบเลยเหรอ

ยังดีนะ ที่ไม่สามารถเอามาใช้ในบ้านเราได้ ไม่งั้นคงจะแย่ทีเดียว

อีตาคนคิดเวลาไปเจอกับพระเจ้าคงจะต้องตอบคำถามหนักแน่เลย

เป็นถึง ดร. แต่ไม่มีมโนธรรมในจิตใจบ้างเลย

ผมว่าที่เรามีชีวิตอยู่ได้นี่ก็เป็นพระพรของพระเจ้านะครับ แต่ทำไมถึงอยากตายกันนะ

1.ท่าน ดร. ท่านคงไม่มีศาสนาหรอกครับ


2.ท่าน ดร. ท่านก็คงเชื่อว่า การกระทำของท่านเป็นเรื่องของ "การมีเมตตา" ต่อผู้ที่กำลังต่อสู้กับความเจ็บป่วยอย่างหนัก


3.ท่าน ดร. ท่านก็คงเหมือนกับมนุษย์อีกมากมายบนโลกใบนี้ที่เชื่อว่า เมื่อตายแล้วก็จบกัน


4.เพราะความรักที่พระมีต่อลูก ๆ ของพระองค์ พระองค์รู้ว่าในไฟชำระมันทรมานขนาดไหน


5.ความเจ็บปวด ในวาระสุดท้ายจึงมีความสำคัญมากสำหรับมนุษย์ เพราะ ณ เวลานั้นวิญญาณกำลังถูกชำระ จนหมดจด ตั้งแต่บนโลกใบนี้

เมื่อตายไป เขาจะตรงสู่สวรรค์ทันที  แต่มีเงื่อนไขว่า เขาต้องยอมรับความเจ็บปวดทั้งหมดเป็นดังการชำระวิญญาณของเขา


6.ดังนั้น เมื่อเราไปทำให้คนป่วยตายก่อน นั่นหมายความว่าเขาจะต้องไปถูกชำระในไฟชำระอย่างหนักหน่วง และมากกว่าเดิม แทนที่เขาน่าจะรอดพ้นแล้ว

หรือถูกชำระอีกเพียงเล็กน้อย และการถูกชำระในไฟชำระมันทรมานกว่าการเจ็บปวดบนโลกเป็นล้าน ๆ เท่า เพราะมันเป็นการชำระฝ่ายจิต


7.เคยอ่านประสบการณ์ของผู้ที่ประสบกับวิญญาณในไฟชำระบางดวงมาเล่าให้ฟังว่า "...ถ้าพระอนุญาตให้เขากลับมาบนโลกใหม่ แล้วต้องรับความทุกข์ทรมานอย่าง

หนักตลอดชีวิต เขาก็ยินดีที่จะรับข้อเสนอนี้ทันที แม้ว่าจะแลกกับการลดวันในไฟชำระลง เพียงแค่วันเดียวก็ตาม..."


8.ดังนั้น เมื่อเราเจอคนที่ป่วยหนัก โดยเฉพาะคนที่ใกล้จะตาย เราควรจะสวดขอพระให้เขาสามารถที่จะรับความทุกข์ทรมานได้จนสมบูรณ์ เพื่อวิญญาณเขาจะได้บริสุทธิ์

อย่างสมบูรณ์ตั้งแต่ในโลกนี้ และนั่นเป็นสิ่งที่วิญญาณทุกดวงต้องการ

ขอบคุณคุณพ่อมากครับ

การฆ่าตัวตาย เป็นกรรมที่หนักหนา

PeterCartoon เขียน:
7.เคยอ่านประสบการณ์ของผู้ที่ประสบกับวิญญาณในไฟชำระบางดวงมาเล่าให้ฟังว่า "...ถ้าพระอนุญาตให้เขากลับมาบนโลกใหม่ แล้วต้องรับความทุกข์ทรมานอย่าง

หนักตลอดชีวิต เขาก็ยินดีที่จะรับข้อเสนอนี้ทันที แม้ว่าจะแลกกับการลดวันในไฟชำระลง เพียงแค่วันเดียวก็ตาม..."

แตกต่างกับที่ผมได้อ่านจากหนังสือ "ความลับน่าอัศจรรย์ของวิญญาณในไฟชำระ" จากการสัมภาษณ์ มารีอา ซิมมา (หาอ่านได้จากในบอร์ดนี้ครับ)


บัดนี้   ดิฉันจะถามนางมารีอาถึงปัญหาสำคัญ ๆ ดังนี้

คุณมารีอาคะ อย่างไรก็ตาม วิญญาณในไฟชำระทั้ง ๆ ที่ทรมาน แต่ยังมีความยินดีและความหวังใช่ไหม?

ใช่แล้ว! ไม่มีวิญญาณใดอยากออกจากไฟชำระเพื่อกลับมาอยู่ในโลกอีก  พวกเขาได้มีความรู้เกินกว่าขอบเขตของพวกเราแล้ว   พวกเขาไม่ปรารถนาที่จะมาอยู่ในความมืดของโลกอีกเลย

ในที่นี้   เราจะเห็นความต่างกันกับการทรมานบนโลกนี้  ในไฟชำระ แม้วิญญาณจะเจ็บปวดอย่างมากมายก็ตาม    เขาก็ยังมีความแน่ใจว่า   เขากำลังจะได้อยู่กับพระเจ้านิจนิรันดร์   มันเป็นความแน่นอนที่ไม่เปลี่ยนแปลง   พวกเขามีความยินดีมากกว่าความเจ็บปวดที่ได้รับ   ไม่มีอะไรบนโลกที่อาจทำให้เขาอยากมาอยู่ที่โลกนี่อีกซึ่งเป็นที่ไม่แน่นอนสำหรับความรอด


ลิงค์ http://www.newmana.com/yabb/index.php?topic=11249.0

คิดได้ยังไง

ดร.เดธ ช่างเป็นฉายาที่สมกับหัวคิดของพี่แกจริง ๆ

เราว่าเราเกรียนมากแล้วนะ ยังมีคนที่เกรียนกว่าเราอีกได้ขนาดนี้เลยหรือเนี่ย

คนเขาต้องการความหวัง ไม่ใช่รีบไปตาย

คนเรา นี่ก็ขยัน สร้าง ลูก สร้างหลานจน โลก แทบไม่มีที่ยืนกันแล้ว นะ ขออยู่เป็นโสด ดีกว่า

ผมว่าแกเรียนหนักจนเพี้ยน

ปัญหาการุณยฆาตอีกแล้วสินะครับ

ตอนนี้ประเทศไทย

กำลังจะอนุญาตละนะครับ

แต่ไม่ใช่การ "ฆ่า" แต่จะเป็นรูปแบบของการ "ไม่ให้การรักษาต่อ"

ใช้ในกรณีที่รักษาเพื่อจะยื้อชีวิตไปเท่านั้น

คนที่จะทำ ก็ให้เขียนไว้เป็นลายลักษณ์อักษร

พรบ. ก็ออกมาแล้ว ตอนนี้รอกฎกระทรวงอยู่เท่านั้น

ลองมองในมุมอื่นบ้าง

ถ้าเราพยายามยื้อไว้โดยไม่มองถึงเหตุผล

ทำให้คนอื่นๆ ที่จำเป็นต้องใช้พื้นที่ของโรงพยาบาลมากกว่า

ไม่มีโอกาสใช้ อย่างนี้ก็ไม่ถูกต้อง

จริงอยู่ ที่การต่อต้านการุณยฆาต เป็นการแสดงออกถึงชีวิตที่มีความหวัง

แต่สำหรับเราคริสตชน ความหวัง และความศรัทธาของเราอยู่บนเหตุผลครับ

ประเด็นละเอียดอ่อนครับ

อย่าทะเลาะกัน

อย่าฟังความข้างเดียว

พระอวยพรครับ

คนเราเป็นถึงขนาดนี้แล้วหรอเนี้ย! ป่าเถือนที่สุด

antoinetty* เขียน: ปัญหาการุณยฆาตอีกแล้วสินะครับ

ตอนนี้ประเทศไทย

กำลังจะอนุญาตละนะครับ

แต่ไม่ใช่การ "ฆ่า" แต่จะเป็นรูปแบบของการ "ไม่ให้การรักษาต่อ"

ใช้ในกรณีที่รักษาเพื่อจะยื้อชีวิตไปเท่านั้น

คนที่จะทำ ก็ให้เขียนไว้เป็นลายลักษณ์อักษร

พรบ. ก็ออกมาแล้ว ตอนนี้รอกฎกระทรวงอยู่เท่านั้น

ลองมองในมุมอื่นบ้าง

ถ้าเราพยายามยื้อไว้โดยไม่มองถึงเหตุผล

ทำให้คนอื่นๆ ที่จำเป็นต้องใช้พื้นที่ของโรงพยาบาลมากกว่า

ไม่มีโอกาสใช้ อย่างนี้ก็ไม่ถูกต้อง

จริงอยู่ ที่การต่อต้านการุณยฆาต เป็นการแสดงออกถึงชีวิตที่มีความหวัง

แต่สำหรับเราคริสตชน ความหวัง และความศรัทธาของเราอยู่บนเหตุผลครับ

ประเด็นละเอียดอ่อนครับ

อย่าทะเลาะกัน

อย่าฟังความข้างเดียว

พระอวยพรครับ

เห็นด้วยค่ะ
ประเด็นละเอียดอ่อน พิจารณาเป็นกรณีไป
เหมือนกรณีทำแท๊งที่จำเป็นต้องเอาเด็กออกเพราะครรภ์แม่เป็นพิษ ถ้าไม่เอาออกตายทั้งคู่ ถ้าเอาออกเด็กตายคนเดียวแม่รอด แบบนี้ก็ต้องเอาออก จะมาดื้อหัวชนฝาโดยไม่มีเหตุผลก็คงไม่ถูก

ฆ่ากันเลย ...

บางทีความเจ็บป่วยก็ไม่ได้มีใว้เพื่อคนป่วยอย่างเดียว แต่เพื่อคนรอบข้างก็มี

บางคนมีญาติที่ไม่ได้เจอกันนานก็ได้เจอกัน

บางครอบครัวที่แตกแยกกันพอลูกป่วยเข้า ICU ก็คิดได้แล้วกลับมารวมกันอีกครั้งก็มี

ผมเคยไปโรงพยาบาลแห่งหนึ่ง เห็นคนทรมานครวญคราง.. บอกตรงๆ ว่าอยากสงเคราะห์ให้ตายซะจะได้ไม่ทรมานนะ จริงๆครับ -*-

ส่วนตัวผมเองก็เคยทรมาน เป็นกรดในกะเพราะ เพราะว่ากินเป๊ปทีนแล้วนอนเลย มันไม่ย่อย แสบท้องมาก หน้าซีด หายใจสั่น(เพราะมันเจ็บมาก) ใจแรกคิดว่า ใครเสกหนังควายเข้าท้องป่าววะ -*- เพราะเพื่อนมันมาค้างด้วยแล้วมันแบบว่าเขมร
ตอนนั้น บอกจริงๆว่า ทนไม่ได้ เดินไม่ไหว หมดแรง โห สุดๆๆ -*-

เพื่อนจะส่งโรงพยาบาล แต่ผมคิด ผมตายแน่ๆ และไม่อยากตายที่โรงพยาบาล -*-  (จริงๆนะ)
เพื่อนวิ่งไปซื้อยา (เพื่อนนิสัยน่ารักมาก) ระหว่างเพื่อนไม่อยู่ผมโทรหาแม่ (เกือบลาตาย)
เห็นระเบียงห้องแล้ว อยากกระโดดลงไป จะได้จบๆ อื่ม -*-

ตามประวัติชีวิตผมนะ ความทรมาน มันมากกว่า ขาหัก เยอะเลยครับ (ผมเคยหกล้มขาหักตอนเดะๆ)

เรื่องการขอสั่งตายนี่.. มันผิดศีลธรรม แต่มันก็น่าเห็นใจจริงๆ
อีกอย่าง มันแทบจะสงบใจไม่ได้ในการที่จะสวด ไม่มีสมาธิเลยครับ

ปล.ความเห็นจากประสบการณ์ส่วนตัวอ่ะครับ -*-

ค่อยดูกันเป็นรายๆไปดีว่านะ

ใช่ว่าทุกรายควรอยู่ต่อไป หรือทุกรายควรได้รับการุณยฆาต

ของอย่างนี้เป็นเรื่องละเอียดอ่อน ต้องดูหลายปัจจัย

แต่ถ้าว่ากันตามหลักศาสนาเป็ะ ก็คงไม่สมควรทำ ว่ามั้ย?

มีกรณีหนึ่ง แพทย์ลงความเห็นแล้วว่าไม่รอดแน่ๆ ต้องได้รับการรักษาประคับประคองชีวิตไปวันๆ นาทีต่อนาที นอนนิ่งเป็นผักอยู่อย่างนั้นแหละ

คนนอนก็นอนไป แต่ญาตินี่สิ ค่ายาประคองชีวิต ค่าโรงบาล ค่าอุปกรณ์ต่างๆ เดือนละสองแสนกว่าๆ จะเอาที่ไหนมาจ่าย ....

ถ้าไม่มีการยุติการรักษา(Passive Euthanasia) คนที่จะได้ตายจริงๆ ก็คือญาติๆนั่นแหละ  

อันนี้ไม่ได้เห็นแก่ตัว หรือเห็นแก่เงิน อะไรนะครับ 

แต่มันเป็นสถานการณ์ของความจริง ที่เราพบได้ในชีวิต 

Immanuel (MichaelPaul) เขียน:

PeterCartoon เขียน:
7.เคยอ่านประสบการณ์ของผู้ที่ประสบกับวิญญาณในไฟชำระบางดวงมาเล่าให้ฟังว่า "...ถ้าพระอนุญาตให้เขากลับมาบนโลกใหม่ แล้วต้องรับความทุกข์ทรมานอย่าง

หนักตลอดชีวิต เขาก็ยินดีที่จะรับข้อเสนอนี้ทันที แม้ว่าจะแลกกับการลดวันในไฟชำระลง เพียงแค่วันเดียวก็ตาม..."

แตกต่างกับที่ผมได้อ่านจากหนังสือ "ความลับน่าอัศจรรย์ของวิญญาณในไฟชำระ" จากการสัมภาษณ์ มารีอา ซิมมา (หาอ่านได้จากในบอร์ดนี้ครับ)


บัดนี้   ดิฉันจะถามนางมารีอาถึงปัญหาสำคัญ ๆ ดังนี้

คุณมารีอาคะ อย่างไรก็ตาม วิญญาณในไฟชำระทั้ง ๆ ที่ทรมาน แต่ยังมีความยินดีและความหวังใช่ไหม?

ใช่แล้ว! ไม่มีวิญญาณใดอยากออกจากไฟชำระเพื่อกลับมาอยู่ในโลกอีก  พวกเขาได้มีความรู้เกินกว่าขอบเขตของพวกเราแล้ว   พวกเขาไม่ปรารถนาที่จะมาอยู่ในความมืดของโลกอีกเลย

ในที่นี้   เราจะเห็นความต่างกันกับการทรมานบนโลกนี้  ในไฟชำระ แม้วิญญาณจะเจ็บปวดอย่างมากมายก็ตาม    เขาก็ยังมีความแน่ใจว่า   เขากำลังจะได้อยู่กับพระเจ้านิจนิรันดร์   มันเป็นความแน่นอนที่ไม่เปลี่ยนแปลง   พวกเขามีความยินดีมากกว่าความเจ็บปวดที่ได้รับ   ไม่มีอะไรบนโลกที่อาจทำให้เขาอยากมาอยู่ที่โลกนี่อีกซึ่งเป็นที่ไม่แน่นอนสำหรับความรอด


ลิงค์ http://www.newmana.com/yabb/index.php?topic=11249.0

มีเรื่องเล่าอีกมากมายเกี่ยวกับประสบการณ์ในไฟชำระครับ ... ลิงค์ http://www.geocities.com/prakobkit/feastday/0805.htm

ผมไม่เข้าใจว่าจะฆ่าตัวตายไปเพื่ออะไร ทำไมคนเราชอบหนีความเป็นจริงกันนัก ทั้งๆที่ถ้าเรายอมเผชิญมัน อาจจะไม่นาน ความสุขที่ดีกว่าอาจรออยู่ก็ได้ 

Memory เขียน: ผมไม่เข้าใจว่าจะฆ่าตัวตายไปเพื่ออะไร ทำไมคนเราชอบหนีความเป็นจริงกันนัก ทั้งๆที่ถ้าเรายอมเผชิญมัน อาจจะไม่นาน ความสุขที่ดีกว่าอาจรออยู่ก็ได้ 

แต่ความเป็นจริงหลายอย่างมันก็สมควรที่จะหนีสำหรับมนุษย์อยู่หรอก มนุษย์ไม่ใช่พระเจ้าจะให้ยอมตามพระองค์ไปทุกเรื่องมันก็มีขีดจำกัดนะ

Memory เขียน: ผมไม่เข้าใจว่าจะฆ่าตัวตายไปเพื่ออะไร ทำไมคนเราชอบหนีความเป็นจริงกันนัก ทั้งๆที่ถ้าเรายอมเผชิญมัน อาจจะไม่นาน ความสุขที่ดีกว่าอาจรออยู่ก็ได้ 

พระเยซู ตรัสว่า "เราจะต้องอยู่กับท่านอีกนานเท่าไรหนอ คนบาป" (ประมาณนี้ )
พระองค์คงเซ็งน่าดูเลยครับ -*-

คิดมุมกลับ
ถ้าท่านหรือผมหรือใคร โดนถลกหนักเหลือแต่เนื้อแกมเลือดแดงๆ (มะม่วงไร้เปลือก) แล้วไม่ตายสักที
คงทรมานน่าดู -*-

ฉีด K ดีกว่า
ไม่ต้องมาบ้ากับเครื่องนี้

ไม่อยากใช้คำหยาบๆให้พี่น้องฟัง แต่คนที่ทำแบบนี้เลวจริงๆ วิธีการฆ่าตัวตายง่ายๆถูกๆก็แค่ซัดพาราไป50 เม็ด ไม่นานไตคุณก็จะพังแล้วก็ตายไปเองอย่างสงบ

แต่ไอ้ Dog เตอร์บ้านี่มันสร้างเครื่องมือขึ้นมาเพื่อช่วยให้การตายดูดี มีรูปบแบบมาขึ้นก็เพื่อนที่จะหาเงินเข้ากระเป๋าตัวเอง เพราะอย่างน้อยๆมันต้องรู้แล้วว่าคนแก่ๆ หรือคนป่วยที่อยู่มานานน่าจะมีเงินเก็บค่อนข้างมาก อย่าลืมนะครับว่าสวัสดิการเมืองนอกกับเมืองไทยต่างกัน คนแก่เมืองนอกได้เงินทุกเดือน มีบัตรทานอาหารฟรี 3 มือด้วย เหอะๆๆๆ

คนเดียวที่จะกำหนดว่ามนุษย์คนไหนสมควรตายตอนไหน เมื่อไร ที่ไหน หรือตายยังไงคือพระเจ้าครับ การเลือกที่จะตัดทางแต่พอตัวสบาย นั้นหมายถึง เมื่อตายแล้ววิญญาณก็ยังวนเวียนอยู่บนโลกไปเรื่อย รอเวลาที่พระจะเรียกไปชำระโทษในนรก