รบกวนขอคำปรึกษาค่ะ

ใครมาใหม่เชิญทางนี้ก่อน ทักทาย ทดลองโพส
ตอบกลับโพส
ภาพประจำตัวสมาชิก
A Sheep
โพสต์: 1131
ลงทะเบียนเมื่อ: พุธ ธ.ค. 24, 2008 5:44 pm

อาทิตย์ ต.ค. 18, 2009 2:37 pm

ไม่ทราบว่าตั้งถูกหมวดรึเปล่านะค่ะ ถ้าตั้งผิดก็ขออภัยด้วยนะค่ะ




คือ...เมื่อเช้านี้หนูเพิ่งติดต่อทางวัดนักบุญโทมัสฯมีนบุรีไปค่ะ เพื่อไปเรียนคำสอน สำหรับเปลี่ยนศาสนาค่ะ
ก่อนที่จะเข้าเรื่องปัญหาหนูก็ต้องขอโทษคุณพี่หน่อย (sinner) ก่อนนะค่ะที่หนูไปติดต่อทางวัดเองโดยพลักการ
ทั้งๆที่ตอนแรกบอกว่า จะให้พี่ช่วยแนะนำให้อาทิตย์หน้าค่ะ แต่สุดท้ายหนูทนรอไม่ไหวก็ไปกับพี่สาวเองจนได้ค่ะ
แล้วหนูก็ฝากเรื่องไว้กับคุณวินัยด้วยค่ะ (ที่สอนคำสอนอ่ะค่ะ) ต้องขอโทษพี่หน่อยจริงๆนะค่ะ




ส่วนปัญหาก็คือ เมื่อเช้าหนูปลุกพี่สาวให้ขับรถไปที่วัดค่ะ แล้วบัญเอิญว่าคุณพ่อหนูมาได้ยินเข้า

ก็เลยถามว่าจะไปไหนกัน หนูก็ตอบเค้าเบาๆว่า ไปโบสถ์ แต่เขาไม่ได้ยินคำตอบหนูนะค่ะ

แล้วทีนี้เค้าก็ถามขึ้นมาอีกว่า จะไปไหนกัน หนูก็เลยเงียบเพราะน้ำเสียงเขาเริ่มโมโหแล้ว

แล้วทีนี้คุณแม่ที่อยู่แถวนั้นก็บอกว่า "เพิร์ลกับเมย์จะไปโบสถ์" (คือหนูกับพี่บอกคุณแม่เมื่อคืนแล้วค่ะ)

แล้วทีนี้คุณพ่อก็โมโหใหญ่แล้วก็บอกว่า "จะบ้ากันไปแล้วเหรอ? จะไปโบสถ์ทำไม ซื่อบื้อรึเปล่า? พระจงพระเจ้าไม่มีจริงหรอก! ไม่ต้องไป!"

ทีนี้หนูเองก็เริ่มโมโหเช่นกัน ก็เลยพูดขึ้นมาเบาๆอีกว่า "ถ้าไม่มีจริงแล้วพ่อจะมีชีวิตอยู่ทุกวันนี้เหรอ?"

เค้าก็งงแล้วก็ถามว่าพูดอะไร เค้าไม่เข้าใจ หนูก็เลยตอบเค้าเบาๆว่า "ก็ลองถามแม่ดูสิว่าหมายถึงอะไร?"

แม่ก็เลยบอกว่า "ปี2546 ที่คุณป่วยแล้วหมอบอกว่าโอกาสรอดน้อย ฉันก็เลยไปบนกับแม่พระว่า ถ้าคุณรอดฉันจะเปลี่ยนศาสนา"

หลังจากนั้นคุณพ่อก็ไม่พูดอะไรกับหนูหรือพี่สาวหนูเลย แม้แต่ก่อนที่หนูกับพี่จะออกจากบ้าน หนูกับพี่ยกมือไหว้พ่อ

พ่อหนูก็สะบัีดหน้าหนีด้วยความโกรธ แล้วก่อนไปพีี่สาวหนูก็ยื่นใบโอนเงินค่าเทอมให้พ่อก็ไม่รับ จนพี่สาวต้องวางไว้บนโต๊ะข้างๆคุณพ่อแทนค่ะ




คือปัญหาที่ทำให้ตัวหนูสับสนในการเปลี่ยนศาสนาคือ...

1.คุณพ่อไม่ยอมรับการเปลี่ยนศาสนา และญาติของครอบครัวหนูทั้ง 2 ฝ่ายก็ศาสนาพุทธหมด

2.คุณแม่เหมือนจะยอมรับ แต่บางครั้งพอเราพูดถึงศาสนาคริสต์ให้ฟัง คุณแม่ก็ยังคล้ายๆกับพูดประชด และติเตียนศาสนานี้ให้ฟัีงอยู่ (แต่หลังจากที่อาการคุณพ่อดีขึ้น เขาก็เชื่อมากขึ้นค่ะ แต่ก็เหมือนยังมีทิฐิกับศาสนานี้อยู่ค่ะ)

3.น้องสาวคนเล็กพอโตขึ้นมาก็ศรัทธาในพุทธศาสนามาก แล้วเขาก็คอยบอกแม่ตลอดว่า หนูเปิดเว็บเกี่ยวกับศาสนาคริสต์อ่าน ขอไบเบิ้ลมาจากในเน็ตมานั่งอ่าน หนูชวนพี่สาวไปโบสถ์บ้าง คุยกับพี่สาวเรื่องเปลี่ยนศาสนาบ้าง ...มากมายค่ะ

4.ญาติฝั่งพ่อกับฝั่งแม่ คิดว่าหนูกับพี่สาวถูกรร.พระมารดาฯล้างสมอง ถูกคนคริสต์หลอกให้เข้าศาสนา ประมาณนี้ค่ะ แล้วเขาก็พยายามเอาเรื่องบรรพบุรุษว่า เป็นคนพุทธมาพูดบ้าง เล่าอย่างนู้นอย่างนี้บ้างเพื่อให้เราเกิดความลังเลในการเปลี่ยนศาสนา




คือ...ตอนนี้หนูยอมรับว่า ความแน่วแน่ที่จะเปลี่ยนศาสนาที่มีมากขึ้นตลอด 6 ปี หายไปเยอะเลยค่ะ
หนูถึงหนูจะอยากเปลี่ยนศาสนายังไง แต่ตั้งแต่เด็กจนโตหนูก็ถูกปลูกฝังในเรื่องความกตัญญูกับพ่อแม่มาตลอด
ถ้าเกิดหนูกับพี่เปลี่ยนก็จะทำให้พวกท่านเสียใจมาก แต่หนูกับพี่เองก็รอมา 6 ปีเต็มๆแล้วค่ะ
แึค่จะให้รอต่อไปอีกนิด หนูว่าหนูก็ทนไม่ไหวแล้วๆยิ่งเมื่อวานได้รับไบเบิ้่ลที่ขอทางนิวมานาไป
ก็นั่งอ่านตั้งแต่บ่าย 3 โมงจนถึง ตี 3 ก็ยิ่งเกิดความศรทธามากขึ้น และเชื่อในพระเจ้ามากขึ้นค่ะ


หนูไม่รู้จะทำยังไงแล้วค่ะ แล้วถ้าหนูเปลี่ยน หนูก็อยากให้คนรอบข้างหนูยอมรับในการตัดสินใจของหนูด้วย
แล้วก็ไม่อยากให้ทุกคนเข้าใจผิดคิดว่าหนูกับพี่สาวหนูถูกหลอกด้วยค่ะ


หนูควรจะทำยังไงดีคะ จะอธิบายให้ทุกคนเข้าใจว่ายังไงดีคะ?


หนูโทรไปปรึกษาญาติที่สนิทด้วย เขาก็บอกว่า ให้รอจนคุณพ่อคุณแม่เสียก่อนแล้วค่อยเปลี่ยนค่ะ
แต่อย่างที่บอกไปแล้วว่า ตอนนี้หนูไม่ต้องการรอแล้วค่ะ หนูรอมาตั้ง 6 ปีแล้ว
หนูกับพี่สาวพยายามขอร้องคุณแม่ในการเปลี่ยนศาสนาตั้งหลายครั้ง แต่คุณแม่ก็บอกว่า
ให้รอจนครบตามปีที่บนก่อน แล้วมาจนถึงตอนนี้หนูกับพี่สาวรอจนครบ 6 ปีแล้ว
จนตอนนั้นหนูกับพี่สาวเชื่อและศรัธาในพระเจ้าแล้ว หนูกับพี่ไม่อยากโกหกคุณพ่อคุณแม่อีกแล้วค่ะ
ที่ต้องฝืนเข้าวัด ไหว้พระ อ่านหนังสือธรรมะ ทั้งๆที่ตนเองไม่ได้ศรัทธา และไม่เชื่อ




รบกวนขอคำปรึกษาด้วยนะค่ะ ตอนนี้หนูเครียดมากๆเลยค่ะ
ขอบคุณล่วงหน้าค่ะ








ขอเล่านิดนึงเกี่ยวกับที่คุณแม่เคยบนแม่พระ+ปาฏิหาริย์ที่เกิดกับครอบครัวหนูนะค่ะ
(ไม่ต้องอ่านก็ได้ค่ะ)



คือว่าเมื่อปี 2546 ตอนนั้นหนูเพิ่งเข้าม.1 ส่วนพี่สาวเพิ่งอยู่ม.2 แล้วก็น้องสาวอยู่อนุบาลค่ะ
คือช่วงนั้นคุณพ่อเริ่มป่วยเป็นโรคเบาหวาน และความดันโลหิตสูงค่ะ ก่อนที่ช่วง กรกฏาคม 2546 จะมีอาการป่วย เลยต้องแอดมิดเข้ารพ.
และคุณหมอก็วินิจฉัยว่า เป็นโรคไตวายเรื้อรังเฉียดพลัน (เพิ่งตรวจเจอค่ะ) ค่ะ ช่วงนั้นคุณพ่อเป็นหนักมาก
จนหมอบอกว่าอยู่ได้ถึงปีนึงก็เก่งแล้ว แต่ถ้าอยู่ได้เกิน 1 ปีก็อาจจะไม่ปกติ คือ ตอนนั้นสมองคุณพ่อเริ่มฝ่อค่ะ (คุณหมอว่าแบบนี้นะค่ะ)
ขนาดพูดจายังพูดจาไม่ค่อยรู้เรื่องเลยค่ะ ตอนนั้นทุกคนในครอบครัวสิ้นหวังมากค่ะ แต่ว่าพอดีวันนั้นเพื่อนของพี่สาวหนูที่เป็นคาทอลิกโทรมาหา
พี่สาวหนูพอดีค่ะ แล้วก็บอกว่าให้ไปช่วยงานอะไรสักอย่างที่วัดพระมารดาฯหน่อย (อันนี้ก็ต้องอธิบานอีกนิดนะค่ะ...คือ หนูกับพี่สาวหนู
เคยเรียนที่โรงเรียนพระมารดานิจจานุเคราะห์ ตรงคลองจั่นค่ะ เมื่อก่อนที่นั่นจะแยกห้องเรียนค่ะ เป็นห้องเรียนสำหรับนักเรียนคริสต์ทั้งห้อง
ไว้ 1 ห้องค่ะ นอกนั้นอีก 6 ห้องจะเป็นห้องสำหรับคนศาสนาอื่นค่ะ แต่หลังจากนั้นทางรร.ก็เปลี่ยนค่ะ ให้คละกันทุกศาสนา แล้วพอดีพี่สาวหนู
ไปสนิทกับเพื่อนที่เป็นคาทอลิก เขาก็เลยชวนพี่เข้าโบสถ์ทุกวันศุกร์ไปช่วยงาน แล้วก็เป็นนักขับคาทอลิกด้วยค่ะ จนจบป.6เราก็ย้ายรร.) พอดีวันนั้นพี่สาวก็เลยไปบอกแม่ ว่าเพื่อนโทรมาชวนอะไรแบบนี้ แล้วพี่สาวก็เลยเล่าถึงความศักดิ์สิทธิ์ของแม่พระให้ฟัง คุณแม่ก็เลยบนไว้ว่า
ถ้าคุณพ่ออยู่ได้เกิน 6 ปี คุณแม่จะเปลี่ยนศาสนาค่ะ (แต่ภายหลังคุณแม่ก็ไม่เปลี่ยนค่ะ)



หลังจากนั้นคุณพ่อก็อาการดีขึ้นเรื่อยๆค่ะจนปัจจุบันคุณพ่อไปทำงานได้ ขับรถได้ค่ะ จากคนที่เคยพูดจาไม่รู้เรื่อง
แต่กลับมาปกติ ถึงไม่ 100% แต่ก็ 80% ได้ค่ะสำหรับหนูๆคิดว่ามันปาฏิหาริย์มากๆเลยค่ะ
หลังจากนั้นหนูก็เลยเริ่มเปิดเว็บอ่านเกี่ยวกับศาสนาคริสต์ไปเรื่อยๆึ้ค่ะ จนช่วงต้นปี 2552
ก็ตัดสินใจว่าจะเปลี่ยนศาสนา แต่คุณแม่ก็บอกว่า ยังไม่ครบ 6 ปี ยังไม่ยอมให้เปลี่ยน
หนูกับพี่ก็รอจนเดือนกรกฏาคม 2552 แต่ช่วงนั้นหนูวุ่นวายกับการเตรียมตัวสอบ GAT PAT
ส่วนพี่สาวหนูก็วุ่นวายเกี่ยวกับการปรับตัวในมหา'ลัย ก็เลยยังไม่มีอะไรคืบหน้าสักเท่าไร
จนเมื่อช่วงปลาย กันยายน 2552 หนูก็มาเสิร์จเจอเว็บ Newmana อีกครั้ง ก็เลยตัดสินใจว่าจะเปลี่ยนศาสนาค่ะ
Memory
โพสต์: 390
ลงทะเบียนเมื่อ: อาทิตย์ ก.ย. 06, 2009 1:52 pm
ที่อยู่: Rayong

อาทิตย์ ต.ค. 18, 2009 2:47 pm

ปัญหานี้เจอกันหลายคนครับ ครอบครัวผมเองก็เจอครับ สิ่งหนึ่งที่ทำได้และผมเห็นว่าเป็นจริง จริงๆ คือขอแม่พระครับ ปัจจุบัน จากที่แม่รุนแรงมาก ตอนนี้ปกติแล้วครับ ก็จะมีแซวบ้างนิดๆน้อยๆ แต่ผมไม่คิดอะไรครับ คือถ้าในช่วงแรกอยากให้ทำใจสักนิดนึง ระหว่างนี้นอกจากจะขอแม่พระแล้ว ก็ศึกษาพระคัมภีร์ไปพลางๆก่อนครับ หรือไม่ก็ลอง Search เกี่ยวกับคนที่เผชิญกับเหตุการณ์คล้ายๆกันในบอร์ดก็ได้ พอผมได้อ่าน บางครอบครัว รุนแรงกว่าของเราซะอีกครับ
ภาพประจำตัวสมาชิก
Zion
~@
โพสต์: 3777
ลงทะเบียนเมื่อ: อังคาร ม.ค. 18, 2005 8:37 pm
ติดต่อ:

อาทิตย์ ต.ค. 18, 2009 3:15 pm

"สวดภาวนา" ครับ
พระเจ้าไม่เคยบังคับจิตใจใครครับ

แต่พระองค์จะ"เคาะ"จิตใจ ลูกๆของพระองค์ทุกคนนนะ : xemo026 :

ปล.ถ้ามีโอกาสพยายาม พาคุณแม่มาโบสถฺด้วยนะครับ
ผมเป็นห่วงเพราะว่า การผิดสัญญา จะนำไปสู่อะไรที่เลวร้ายครับผม
ภาพประจำตัวสมาชิก
~~~พระเจ้าทรงคุ้มครอง~~~
โพสต์: 139
ลงทะเบียนเมื่อ: เสาร์ ก.ค. 18, 2009 12:13 am

อาทิตย์ ต.ค. 18, 2009 4:28 pm

หนูโทรไปปรึกษาญาติที่สนิทด้วย เขาก็บอกว่า ให้รอจนคุณพ่อคุณแม่เสียก่อนแล้วค่อยเปลี่ยนค่ะ


ป้าผมก็พูดอย่างนี้แหละคับแต่ของผมบอกว่ารอปู่กับย่าจากไปก่อน...และปู่ผมก็เป็นถึงพระสมุห์ด้วย(ผมก็ไม่รู้ว่าตำแหน่งนี้คืออะไร : xemo017 :)


แต่ตอนนี้ผมก็เริ่มก้าวเข้าสู่ความเป็นคริสต์ประมาณ 70% แล้วแหละคับ...เมื่อคืนนี้ก็สวดสายประคำไป ขอให้แม่พระ พระกุมาร แล้วก็นักบุญทั้ง


หลายช่วยผมภาวนาต่อพระบิดาด้วย : xemo026 : ยังไงก็เป็นกำลังใจให้นะคับ...ขอให้เข้มแข็งแล้วพระท่านก็จะเข้าใจเราคับว่าเรามีเจตนาที่จะ


เป็นลูกท่านจริงๆ...ผมจะอธิษฐานเผื่อนะคับ ^^
ภาพประจำตัวสมาชิก
A Sheep
โพสต์: 1131
ลงทะเบียนเมื่อ: พุธ ธ.ค. 24, 2008 5:44 pm

อาทิตย์ ต.ค. 18, 2009 6:08 pm

ยศิยล:ผู้แสวงหาพระเจ้า เขียน: "สวดภาวนา" ครับ
พระเจ้าไม่เคยบังคับจิตใจใครครับ

แต่พระองค์จะ"เคาะ"จิตใจ ลูกๆของพระองค์ทุกคนนนะ : xemo026 :

ปล.ถ้ามีโอกาสพยายาม พาคุณแม่มาโบสถฺด้วยนะครับ
ผมเป็นห่วงเพราะว่า การผิดสัญญา จะนำไปสู่อะไรที่เลวร้ายครับผม



เคยพูดแล้วค่ะ คุณแม่บอกว่า "ไม่เป็นไร แม่พระน่าจะทรงเข้าใจ"

พยายามหลายครั้งแล้วค่ะ จนตอนนี้เรากับพี่ก็ใกล้จะตัดใจแล้วค่ะ

ส่วนอะไรที่เลวร้ายที่คุณบอกนั่น เราคิดว่า เจอแล้วค่ะ

เพราะคุณพ่อเริ่มอาการทรุดหนักจนแอดมิดอีกครั้ง

(ปีนี้แอดมิดไป 6 รอบแล้วค่ะ (วันนี้ช่วงบ่ายก็เพิ่งเข้าแอดมิดไปค่ะ))

จากที่อาการช่วงแรกคงที่ แต่ตอนนี้ก็เลยแย่ลงแล้ว

พยายามบอกคุณแม่ว่า ให้รักษาสัญญา แต่คุณแม่ก็ยังคงยืนยันเหมือนเดิมว่า

"ไม่มีทางเปลี่ยนศาสนา"
ภาพประจำตัวสมาชิก
A Sheep
โพสต์: 1131
ลงทะเบียนเมื่อ: พุธ ธ.ค. 24, 2008 5:44 pm

อาทิตย์ ต.ค. 18, 2009 6:11 pm

~~~พระเจ้าทรงคุ้มครอง~~~ เขียน: หนูโทรไปปรึกษาญาติที่สนิทด้วย เขาก็บอกว่า ให้รอจนคุณพ่อคุณแม่เสียก่อนแล้วค่อยเปลี่ยนค่ะ


ป้าผมก็พูดอย่างนี้แหละคับแต่ของผมบอกว่ารอปู่กับย่าจากไปก่อน...และปู่ผมก็เป็นถึงพระสมุห์ด้วย(ผมก็ไม่รู้ว่าตำแหน่งนี้คืออะไร : xemo017 :)


แต่ตอนนี้ผมก็เริ่มก้าวเข้าสู่ความเป็นคริสต์ประมาณ 70% แล้วแหละคับ...เมื่อคืนนี้ก็สวดสายประคำไป ขอให้แม่พระ พระกุมาร แล้วก็นักบุญทั้ง


หลายช่วยผมภาวนาต่อพระบิดาด้วย : xemo026 : ยังไงก็เป็นกำลังใจให้นะคับ...ขอให้เข้มแข็งแล้วพระท่านก็จะเข้าใจเราคับว่าเรามีเจตนาที่จะ


เป็นลูกท่านจริงๆ...ผมจะอธิษฐานเผื่อนะคับ ^^



ขอบคุณค่ะ

ส่วนตำแหน่งพระสมุห์ที่คุณเอ่ยถึง เราเคยอ่านเจอใน wiki คืออันนี้ค่ะ

http://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B8%90% ... 3%E0%B8%A1

Memory เขียน: ปัญหานี้เจอกันหลายคนครับ ครอบครัวผมเองก็เจอครับ สิ่งหนึ่งที่ทำได้และผมเห็นว่าเป็นจริง จริงๆ คือขอแม่พระครับ ปัจจุบัน จากที่แม่รุนแรงมาก ตอนนี้ปกติแล้วครับ ก็จะมีแซวบ้างนิดๆน้อยๆ แต่ผมไม่คิดอะไรครับ คือถ้าในช่วงแรกอยากให้ทำใจสักนิดนึง ระหว่างนี้นอกจากจะขอแม่พระแล้ว ก็ศึกษาพระคัมภีร์ไปพลางๆก่อนครับ หรือไม่ก็ลอง Search เกี่ยวกับคนที่เผชิญกับเหตุการณ์คล้ายๆกันในบอร์ดก็ได้ พอผมได้อ่าน บางครอบครัว รุนแรงกว่าของเราซะอีกครับ


ขอบคุณมากค่ะ
ภาพประจำตัวสมาชิก
Holy
Defender of lawS
Defender of lawS
โพสต์: 10011
ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ม.ค. 17, 2005 3:06 pm

อาทิตย์ ต.ค. 18, 2009 6:52 pm

คือปัญหาที่ทำให้ตัวหนูสับสนในการเปลี่ยนศาสนาคือ...

1.คุณพ่อไม่ยอมรับการเปลี่ยนศาสนา และญาติของครอบครัวหนูทั้ง 2 ฝ่ายก็ศาสนาพุทธหมด

---อันนี้เป้นเรื่องปรกติธรรมดาที่เกิดขึ้นได้ครับ เพราะความไม่เข้าใจ และมีอคติต่างๆ ซึ่งต้องใช้เวลาในการทำความเข้าใจ แต่ผมเองก็เคยแบ่งปันไปหลายครั้งว่า ในชีวิตคนเรา สิ่งสำคัญที่สุดคืออะไร เรามาใช้ชีวิตในโลกนี้เพียงเพื่อตักตวงความสุขทางโลกกันหรือ ชีวิตเราสั้นนัก ถ้าพระเจ้าไม่กรุณา ใครจะมีอายุยืนได้ คนมากมายอายุสั้น มีเวลาในโลกนี้น้อยมาก แต่ชีวิตนิรันดร์ วิญญาณของเราเป้นนิรันดร์ในสวรรค์ เทียบเวลาในโลกต่อให้มีความสุขมาก ก็เหมือนได้เดทกับแฟนหนึ่งวัน แต่ชีวิตนิรันดร์ในสวรรค์กับพระเจ้า เหมือนแต่งงานกับผู้ชายแสนดีที่รักเราที่สุดทั้งชีวิต ดังนั้น เราจำเป้นต้องเลือกและตัดสินใจในสิ่งที่ดีที่สุดด้วยตัวเองครับ มีคนมากมายเลือกเอ็นทรานเข้าคณะที่ตัวเองชอบแต่พ่อแม่ไม่ชอบจนขัดใจกัน มีคนมากมายขัดในพ่อแม่เลือกคู่ครองที่ตนต้องการแต่พ่อแม่ไม่ชอบ มีคนมากมายขัดใจครอบครัวเพื่อประกอบอาชีพที่ตัวเองรัก และถ้าทบทวนกันดีๆในชีวิตเราขัดใจพ่อแม่ในเรื่องไร้สาระกว่านี้ยังมีอีกมาก แต่เรื่องของควาศรัทธาทั้งชีวิต ความเชื่อ และวิญญาณอันเป้นนิรันดร์ สำคัญกว่าคู่รักในโลก อาชีพ หรือการเอ็นทรานซ์มากมายนัก ในเมื่อสิ่งที่คุณเลือกคือสิ่งที่ดีสำหรับชีวิตและวิญญาณของคุณเอง มันไม่ผิดอะไรเลย แถมเป้นสิ่งดีมาก และไม่ใช่สิ่งชั่ว ไม่ได้ไปมั่วยา ขายตัว ฯลฯ ที่ทำลงไปจะผิดต่อจริยธรรม พ่อแม่ และตัวเอง  สิ่งที่คุณเลือกนั้นดีประเสริฐ ก็เพียงแต่ไม่ได้เป้นที่ชอบพอของสมาชิกท่านอื่นในบ้าน ก็เพียงแต่พยายามทำให้พวกเขาเข้าใจสิ่งที่คุณเลือกให้ถูกต้อง และให้เข้าใจคุณให้ถูกต้องด้วย แต่ความลังเลในการรักพระเจ้า ไม่ใช่สิ่งจำเป็นต้องเอามาคิดครับ แค่คิดว่าจะพยายามทำอย่างไรให้คนอื่นเข้าใจในความรักและศรัทธาของคุณและพี่สาวก็พอ


2.คุณ แม่เหมือนจะยอมรับ แต่บางครั้งพอเราพูดถึงศาสนาคริสต์ให้ฟัง คุณแม่ก็ยังคล้ายๆกับพูดประชด และติเตียนศาสนานี้ให้ฟัีงอยู่ (แต่หลังจากที่อาการคุณพ่อดีขึ้น เขาก็เชื่อมากขึ้นค่ะ แต่ก็เหมือนยังมีทิฐิกับศาสนานี้อยู่ค่ะ)

---ใช้เวลาต่อไปครับ บางครั้ง เวลาความจริงบางอย่างปรากฎตรงหน้า แต่ยังมีทิฐิ ก็ต้องใช้วิธีตะโกนดังๆให้กลบสียงมโนธรรมในใจตัวเอง การพูดใส่คุณจริงๆเขาก็อาจกำลังต่อสู้กับข้างในของตัวเองด้วย แล้วเอาคุณกับพี่เป็นตัวแทนในการที่เขาจะพูดให้ตัวเองข้างในฟัง ดังนั้นถ้าคุณหนักแน่นมั่นคงไม่ลังเล ไม่เสียใจ แต่มั่นใจในสิ่งที่เชื่อ คุณจะเป็นตัวแทนของเสียงในใจคุณแม่ในด้านที่แม่กำลังต่อสู้อยู่ และวันหนึ่ง แม่จะเปิดใจมากขึ้นครับ



3.น้องสาวคนเล็กพอโตขึ้นมา ก็ศรัทธาในพุทธศาสนามาก แล้วเขาก็คอยบอกแม่ตลอดว่า หนูเปิดเว็บเกี่ยวกับศาสนาคริสต์อ่าน ขอไบเบิ้ลมาจากในเน็ตมานั่งอ่าน หนูชวนพี่สาวไปโบสถ์บ้าง คุยกับพี่สาวเรื่องเปลี่ยนศาสนาบ้าง ...มากมายค่ะ

---กรณีเด็กขี้ฟ้องอันนี้ก็น่าจะตามประสาครับ อยากทำคะแนนนิยมกับพ่อแม่ ก็ต้องใช้วิธีแบบนี้ ฟ้องคนอื่นหนูจะดูดี อยู่ข้างแม่พ่อ ปล่อยแกทำไปครับ ตรงข้าม คุณใช้ความรักกับแก ให้แกเห็นเลยว่า เมื่อมาเป็นคริสต์ นอกจากไม่ขี้ฟ้องแล้วยังจิตใจงดงามขึ้น ให้อภัย และรักทุกคน วันหนึ่งเธอจะสำนึกเองครับ



4.ญาติ ฝั่งพ่อกับฝั่งแม่ คิดว่าหนูกับพี่สาวถูกรร.พระมารดาฯล้างสมอง ถูกคนคริสต์หลอกให้เข้าศาสนา ประมาณนี้ค่ะ แล้วเขาก็พยายามเอาเรื่องบรรพบุรุษว่า เป็นคนพุทธมาพูดบ้าง เล่าอย่างนู้นอย่างนี้บ้างเพื่อให้เราเกิดความลังเลในการเปลี่ยนศาสนา

---อันนี้ปัญหาคลาสสิคครับ ถ้าเอาบรรพบุรุษจริงๆเลย คนไทยนับถือพราหมณ์มาก่อนพุทธครับ และก่อนศาสนาพราหมณ์นับถือผีครับ แล้วบรรพบุรุษไทยเรายอมเปลี่ยนไปนับถือศาสนาจากอินเดียนี้กันได้อย่างไรถ้าเขาคิดเอาว่าบรรพบุรุษนักถืออย่างไรต้องห้ามเปลี่ยน

อันนี้มานับถือคริสต์ ก็แค่รับนับถือศาสนาจากอิสราเอลแทนศาสนาจากอินเดีย สุดท้ายก็ไหว้แขกกันทั้งคู่ครับ

ส่วนเรื่องความเข้าใจผิด จากอคติ และทิฐิ ต้องใช้เวลาทำความเข้าใจครับ อย่างที่แจ้งตอนต้น คุณเองเห็นอัศจรรย์ด้วยตาตัวเอง เชื่อด้วยใจตัวเอง ไม่ได้เชื่อเพราะการโฆษณาชวนเชื่อที่ไหน แล้วไหงแค่คำพูดชวนเชื่อของญาติจึงมาคลอน "ความจริงในชีวิตคุณ" ได้ การที่คุณมาเป็นคริสต์ ไม่ได้เป็นการอกตัญญูหรือไม่ดีตรงไหน การที่ใครสักคนจะเป็นคนอกตัญญู ก็เพราะเขาเนรคุณไม่นับถือไม่เลี้ยงดูตบตีทำไม่ดีกับพ่อแม่ ไม่ใช่เพียงเพราะเขาทำสิ่งที่ดีสิ่งที่ประเสริฐ แต่พ่อแม่ไม่ชอบ เพราะถ้ากตัญญูนับเอาจากการตามใจก็พอไม่ดุความดีความชั่วประกอบ พวกพ่อแม่ใช้ไปขายยาบ้า ใช้ไปขายตัว หรือยอมให้พ่อโรคจิตข่มขืน หรือไปทำเรื่องผิดกฎหมายเพื่อพ่อแม่ ก็คงกลายเป็นลูกดีเด่นกันหมด แต่มันก็ไม่ใช่ ดังนั้นกลับมาดูสิ่งที่คุณกำลังทำและกำลังเลือก มันคือสิ่งดีครับ และลูกที่เลือกทำสิ่งดีสิ่งประเสริฐ ก็คือลูกที่กตัญญูต่อพ่อแม่อย่างที่สุดแล้ว สิ่งที่คุณทำคือสิ่งดี และไม่มีความผิดใดๆ สิ่งเดียวที่ยังพลาดคลาดเคลื่อนอยู่ ก้คือความเข้าใจของคนในครอบครัวที่ยังเข้าใจผิด มีอคติ และยังมีทิฐิอยู่เท่านั้น ดังนั้นแก้ปัญหาและเผชิญปัญหาให้ถูกทางครับ คิดว่าจะพยายามทำอย่างไร ให้เขาเข้าใจให้ถูก

ถ้าคุณรู้จักยาดีที่ช่วยชุบชีวิต รักษาได้ทุกโรค แล้วพ่อแม่คุณไม่ยอมกินมัน เพราะกลัว เข้าใจสรรพคุณผิด ฯลฯ คุณจะรอท่านตายก่อนแล้วคุณกินคนเดียวหรือ มีแต่จะเอาให้พ่อแม่กินด้วยก่อนท่านจะตายแล้วไม่มีโอกาสกินครับ คุณกินให้ท่านดูเป็นตัวอย่างเลยว่า นี่ไงกินแล้วดี สวยขึ้น น่ารักขึ้น จิตใจดีขึ้น พอท่านเห็นพยานจากตัวคุณเองแล้ว ทีนี้ความเข้าใจผิดและอคติย่อมจะคลายลงครับ




เรื่องบางเรื่องรอจังหวะเวลาบ้างก็ดี แต่ถ้ารอนานเกินไปไม่ดีครับ

ขอพระเจ้าอวยพรครับ
sinner
โพสต์: 2246
ลงทะเบียนเมื่อ: อาทิตย์ มี.ค. 08, 2009 1:24 pm

อาทิตย์ ต.ค. 18, 2009 7:57 pm

เป็นกำลังใจให้ละกันนะจ๊ะ : xemo026 :

จะสวดเผื่อนะคะ ::022::


ปล.แอบบุกเดี่ยวเลยนะเนี่ย น่ารักจริงๆ : xemo026 :
ภาพประจำตัวสมาชิก
A Sheep
โพสต์: 1131
ลงทะเบียนเมื่อ: พุธ ธ.ค. 24, 2008 5:44 pm

อาทิตย์ ต.ค. 18, 2009 8:05 pm

sinner เขียน: เป็นกำลังใจให้ละกันนะจ๊ะ : xemo026 :

จะสวดเผื่อนะคะ ::022::


ปล.แอบบุกเดี่ยวเลยนะเนี่ย น่ารักจริงๆ : xemo026 :


พี่หน่อยขอโทษจริงๆค่ะ ที่ไม่ได้โทรไปบอกพี่
แล้วอีกเรื่องที่ต้องขอโทษคือ คุณวินัยเขาถามว่าใครแนะนำมา
หนูก็เลยตอบไปว่าพี่หน่อยค่ะ ขอโทษที่อ้างชื่อพี่ค่ะ
ตอนนั้นนึกถึงพี่คนเดียว ขอโทษจริงๆนะค่ะ

ส่วนเรื่องเรียนคำสอน คุณวินัยเขาบอกว่า
น่าจะได้เรียนประมาณช่วง พฤศจิกายนค่ะ
ขอบคุณพี่มากๆเลยนะค่ะ ที่จะเป็นธุระให้ค่ะ ^^
sinner
โพสต์: 2246
ลงทะเบียนเมื่อ: อาทิตย์ มี.ค. 08, 2009 1:24 pm

อาทิตย์ ต.ค. 18, 2009 8:08 pm

เป็นไรค่ะ  เจอคุณวินัยก็ดีมากเลยค่ะ : xemo026 :

เป็นครูคำสอนที่มีศรัทธามั่นคงดีมากค่ะ  คนนี้ไว้ใจได้เลยค่ะ ::031::
Jesus loves You
โพสต์: 740
ลงทะเบียนเมื่อ: อาทิตย์ ก.ค. 12, 2009 11:36 pm

อาทิตย์ ต.ค. 18, 2009 8:47 pm

    แบบนี้ เป็นกันหลายครอบครัว ครับ
สำหรับพวกผู้เขื่อใหม่
สวดหรือ อธิษฐาน เผื่อช่วยได้ครับ
(ให้คน ที่เป็น คริสตชน อยู่แล้ว สวดหรือ อธิษฐานเพื่อก็ได้ ครับ)

สู้ๆ ครับๆ

พระเจ้ารอคุณอยู่ ::022:: ::022::
synner
โพสต์: 455
ลงทะเบียนเมื่อ: เสาร์ ส.ค. 22, 2009 10:27 pm

อาทิตย์ ต.ค. 18, 2009 8:56 pm

ถ้ามีสายประคำก็สวดวิงวอนพระเจ้า และแม่พระนะ  ไม่มีอะไรที่พระเจ้าท่านทำไม่ได้ ยิ่งท่านไม่อยากให้คุณเป็นคริสต์ยิ่งต้องทำให้ท่านเห็นว่า เป็นแล้วดียังไง ปฏิบัติตนเป็นคริสต์ชนที่ดีให้ท่านเห็น แล้ววันนึงท่านก็จะจนใจที่จะห้ามคุณ เอาความดีและความรัก ชนะความไม่เข้าใจและอคติให้ได้นะ  เราจะช่วยสวดอีกแรง
ภาพประจำตัวสมาชิก
KaVe
โพสต์: 60
ลงทะเบียนเมื่อ: เสาร์ ก.ย. 26, 2009 7:38 pm
ที่อยู่: ซ.เรวดี จ.นนทบุรี
ติดต่อ:

อาทิตย์ ต.ค. 18, 2009 8:59 pm

สร้างความเชื่อของเราให้มั่นคงก่อนนะครับ หมั่นศึกษาพระคัมภีร์ และสวดภาวนา

ขอให้พระเจ้าอวยพรนะครับ ทุกอย่างต้องดีขึ้นแน่ครับ  : xemo026 :

ผมจะสวดเผื่อน้องและครอบครัวด้วยครับ  : emo027 :
Like a Heaven
.
.
โพสต์: 1739
ลงทะเบียนเมื่อ: อาทิตย์ ต.ค. 28, 2007 5:58 pm
ที่อยู่: In the Christ

อาทิตย์ ต.ค. 18, 2009 11:15 pm

หนูโทรไปปรึกษาญาติที่สนิทด้วย เขาก็บอกว่า ให้รอจนคุณพ่อคุณแม่เสียก่อนแล้วค่อยเปลี่ยนค่ะ
ตอนนี้พ่อแม่ผมยังไม่เสีย

และผม ก้อเปนคาทอลิก เรียบร้อยแล้ว ...  น้ำเสกรดหัวผมวันที่ 11 เมษ 2009 พ่อแมนราดให้


ของแบบนี้อยู่ที่เราเพียวๆเลยครับว่าจะบริหารความสัมพันธ์ระหว่างพระกับพ่อแม่ยังไง


ผมทำได้ .. คุณก้อน่าจะทำได้ครับ

ล้างบาปเมื่อไหร่บอกด้วยนะครับ จะไปร่วมยินดี ^ ^
ตอบกลับโพส