รบกวนขอคำปรึกษาค่ะ
โพสต์แล้ว: อาทิตย์ ต.ค. 18, 2009 2:37 pm
ไม่ทราบว่าตั้งถูกหมวดรึเปล่านะค่ะ ถ้าตั้งผิดก็ขออภัยด้วยนะค่ะ
คือ...เมื่อเช้านี้หนูเพิ่งติดต่อทางวัดนักบุญโทมัสฯมีนบุรีไปค่ะ เพื่อไปเรียนคำสอน สำหรับเปลี่ยนศาสนาค่ะ
ก่อนที่จะเข้าเรื่องปัญหาหนูก็ต้องขอโทษคุณพี่หน่อย (sinner) ก่อนนะค่ะที่หนูไปติดต่อทางวัดเองโดยพลักการ
ทั้งๆที่ตอนแรกบอกว่า จะให้พี่ช่วยแนะนำให้อาทิตย์หน้าค่ะ แต่สุดท้ายหนูทนรอไม่ไหวก็ไปกับพี่สาวเองจนได้ค่ะ
แล้วหนูก็ฝากเรื่องไว้กับคุณวินัยด้วยค่ะ (ที่สอนคำสอนอ่ะค่ะ) ต้องขอโทษพี่หน่อยจริงๆนะค่ะ
ส่วนปัญหาก็คือ เมื่อเช้าหนูปลุกพี่สาวให้ขับรถไปที่วัดค่ะ แล้วบัญเอิญว่าคุณพ่อหนูมาได้ยินเข้า
ก็เลยถามว่าจะไปไหนกัน หนูก็ตอบเค้าเบาๆว่า ไปโบสถ์ แต่เขาไม่ได้ยินคำตอบหนูนะค่ะ
แล้วทีนี้เค้าก็ถามขึ้นมาอีกว่า จะไปไหนกัน หนูก็เลยเงียบเพราะน้ำเสียงเขาเริ่มโมโหแล้ว
แล้วทีนี้คุณแม่ที่อยู่แถวนั้นก็บอกว่า "เพิร์ลกับเมย์จะไปโบสถ์" (คือหนูกับพี่บอกคุณแม่เมื่อคืนแล้วค่ะ)
แล้วทีนี้คุณพ่อก็โมโหใหญ่แล้วก็บอกว่า "จะบ้ากันไปแล้วเหรอ? จะไปโบสถ์ทำไม ซื่อบื้อรึเปล่า? พระจงพระเจ้าไม่มีจริงหรอก! ไม่ต้องไป!"
ทีนี้หนูเองก็เริ่มโมโหเช่นกัน ก็เลยพูดขึ้นมาเบาๆอีกว่า "ถ้าไม่มีจริงแล้วพ่อจะมีชีวิตอยู่ทุกวันนี้เหรอ?"
เค้าก็งงแล้วก็ถามว่าพูดอะไร เค้าไม่เข้าใจ หนูก็เลยตอบเค้าเบาๆว่า "ก็ลองถามแม่ดูสิว่าหมายถึงอะไร?"
แม่ก็เลยบอกว่า "ปี2546 ที่คุณป่วยแล้วหมอบอกว่าโอกาสรอดน้อย ฉันก็เลยไปบนกับแม่พระว่า ถ้าคุณรอดฉันจะเปลี่ยนศาสนา"
หลังจากนั้นคุณพ่อก็ไม่พูดอะไรกับหนูหรือพี่สาวหนูเลย แม้แต่ก่อนที่หนูกับพี่จะออกจากบ้าน หนูกับพี่ยกมือไหว้พ่อ
พ่อหนูก็สะบัีดหน้าหนีด้วยความโกรธ แล้วก่อนไปพีี่สาวหนูก็ยื่นใบโอนเงินค่าเทอมให้พ่อก็ไม่รับ จนพี่สาวต้องวางไว้บนโต๊ะข้างๆคุณพ่อแทนค่ะ
คือปัญหาที่ทำให้ตัวหนูสับสนในการเปลี่ยนศาสนาคือ...
1.คุณพ่อไม่ยอมรับการเปลี่ยนศาสนา และญาติของครอบครัวหนูทั้ง 2 ฝ่ายก็ศาสนาพุทธหมด
2.คุณแม่เหมือนจะยอมรับ แต่บางครั้งพอเราพูดถึงศาสนาคริสต์ให้ฟัง คุณแม่ก็ยังคล้ายๆกับพูดประชด และติเตียนศาสนานี้ให้ฟัีงอยู่ (แต่หลังจากที่อาการคุณพ่อดีขึ้น เขาก็เชื่อมากขึ้นค่ะ แต่ก็เหมือนยังมีทิฐิกับศาสนานี้อยู่ค่ะ)
3.น้องสาวคนเล็กพอโตขึ้นมาก็ศรัทธาในพุทธศาสนามาก แล้วเขาก็คอยบอกแม่ตลอดว่า หนูเปิดเว็บเกี่ยวกับศาสนาคริสต์อ่าน ขอไบเบิ้ลมาจากในเน็ตมานั่งอ่าน หนูชวนพี่สาวไปโบสถ์บ้าง คุยกับพี่สาวเรื่องเปลี่ยนศาสนาบ้าง ...มากมายค่ะ
4.ญาติฝั่งพ่อกับฝั่งแม่ คิดว่าหนูกับพี่สาวถูกรร.พระมารดาฯล้างสมอง ถูกคนคริสต์หลอกให้เข้าศาสนา ประมาณนี้ค่ะ แล้วเขาก็พยายามเอาเรื่องบรรพบุรุษว่า เป็นคนพุทธมาพูดบ้าง เล่าอย่างนู้นอย่างนี้บ้างเพื่อให้เราเกิดความลังเลในการเปลี่ยนศาสนา
คือ...ตอนนี้หนูยอมรับว่า ความแน่วแน่ที่จะเปลี่ยนศาสนาที่มีมากขึ้นตลอด 6 ปี หายไปเยอะเลยค่ะ
หนูถึงหนูจะอยากเปลี่ยนศาสนายังไง แต่ตั้งแต่เด็กจนโตหนูก็ถูกปลูกฝังในเรื่องความกตัญญูกับพ่อแม่มาตลอด
ถ้าเกิดหนูกับพี่เปลี่ยนก็จะทำให้พวกท่านเสียใจมาก แต่หนูกับพี่เองก็รอมา 6 ปีเต็มๆแล้วค่ะ
แึค่จะให้รอต่อไปอีกนิด หนูว่าหนูก็ทนไม่ไหวแล้วๆยิ่งเมื่อวานได้รับไบเบิ้่ลที่ขอทางนิวมานาไป
ก็นั่งอ่านตั้งแต่บ่าย 3 โมงจนถึง ตี 3 ก็ยิ่งเกิดความศรทธามากขึ้น และเชื่อในพระเจ้ามากขึ้นค่ะ
หนูไม่รู้จะทำยังไงแล้วค่ะ แล้วถ้าหนูเปลี่ยน หนูก็อยากให้คนรอบข้างหนูยอมรับในการตัดสินใจของหนูด้วย
แล้วก็ไม่อยากให้ทุกคนเข้าใจผิดคิดว่าหนูกับพี่สาวหนูถูกหลอกด้วยค่ะ
หนูควรจะทำยังไงดีคะ จะอธิบายให้ทุกคนเข้าใจว่ายังไงดีคะ?
หนูโทรไปปรึกษาญาติที่สนิทด้วย เขาก็บอกว่า ให้รอจนคุณพ่อคุณแม่เสียก่อนแล้วค่อยเปลี่ยนค่ะ
แต่อย่างที่บอกไปแล้วว่า ตอนนี้หนูไม่ต้องการรอแล้วค่ะ หนูรอมาตั้ง 6 ปีแล้ว
หนูกับพี่สาวพยายามขอร้องคุณแม่ในการเปลี่ยนศาสนาตั้งหลายครั้ง แต่คุณแม่ก็บอกว่า
ให้รอจนครบตามปีที่บนก่อน แล้วมาจนถึงตอนนี้หนูกับพี่สาวรอจนครบ 6 ปีแล้ว
จนตอนนั้นหนูกับพี่สาวเชื่อและศรัธาในพระเจ้าแล้ว หนูกับพี่ไม่อยากโกหกคุณพ่อคุณแม่อีกแล้วค่ะ
ที่ต้องฝืนเข้าวัด ไหว้พระ อ่านหนังสือธรรมะ ทั้งๆที่ตนเองไม่ได้ศรัทธา และไม่เชื่อ
รบกวนขอคำปรึกษาด้วยนะค่ะ ตอนนี้หนูเครียดมากๆเลยค่ะ
ขอบคุณล่วงหน้าค่ะ
ขอเล่านิดนึงเกี่ยวกับที่คุณแม่เคยบนแม่พระ+ปาฏิหาริย์ที่เกิดกับครอบครัวหนูนะค่ะ
(ไม่ต้องอ่านก็ได้ค่ะ)
คือว่าเมื่อปี 2546 ตอนนั้นหนูเพิ่งเข้าม.1 ส่วนพี่สาวเพิ่งอยู่ม.2 แล้วก็น้องสาวอยู่อนุบาลค่ะ
คือช่วงนั้นคุณพ่อเริ่มป่วยเป็นโรคเบาหวาน และความดันโลหิตสูงค่ะ ก่อนที่ช่วง กรกฏาคม 2546 จะมีอาการป่วย เลยต้องแอดมิดเข้ารพ.
และคุณหมอก็วินิจฉัยว่า เป็นโรคไตวายเรื้อรังเฉียดพลัน (เพิ่งตรวจเจอค่ะ) ค่ะ ช่วงนั้นคุณพ่อเป็นหนักมาก
จนหมอบอกว่าอยู่ได้ถึงปีนึงก็เก่งแล้ว แต่ถ้าอยู่ได้เกิน 1 ปีก็อาจจะไม่ปกติ คือ ตอนนั้นสมองคุณพ่อเริ่มฝ่อค่ะ (คุณหมอว่าแบบนี้นะค่ะ)
ขนาดพูดจายังพูดจาไม่ค่อยรู้เรื่องเลยค่ะ ตอนนั้นทุกคนในครอบครัวสิ้นหวังมากค่ะ แต่ว่าพอดีวันนั้นเพื่อนของพี่สาวหนูที่เป็นคาทอลิกโทรมาหา
พี่สาวหนูพอดีค่ะ แล้วก็บอกว่าให้ไปช่วยงานอะไรสักอย่างที่วัดพระมารดาฯหน่อย (อันนี้ก็ต้องอธิบานอีกนิดนะค่ะ...คือ หนูกับพี่สาวหนู
เคยเรียนที่โรงเรียนพระมารดานิจจานุเคราะห์ ตรงคลองจั่นค่ะ เมื่อก่อนที่นั่นจะแยกห้องเรียนค่ะ เป็นห้องเรียนสำหรับนักเรียนคริสต์ทั้งห้อง
ไว้ 1 ห้องค่ะ นอกนั้นอีก 6 ห้องจะเป็นห้องสำหรับคนศาสนาอื่นค่ะ แต่หลังจากนั้นทางรร.ก็เปลี่ยนค่ะ ให้คละกันทุกศาสนา แล้วพอดีพี่สาวหนู
ไปสนิทกับเพื่อนที่เป็นคาทอลิก เขาก็เลยชวนพี่เข้าโบสถ์ทุกวันศุกร์ไปช่วยงาน แล้วก็เป็นนักขับคาทอลิกด้วยค่ะ จนจบป.6เราก็ย้ายรร.) พอดีวันนั้นพี่สาวก็เลยไปบอกแม่ ว่าเพื่อนโทรมาชวนอะไรแบบนี้ แล้วพี่สาวก็เลยเล่าถึงความศักดิ์สิทธิ์ของแม่พระให้ฟัง คุณแม่ก็เลยบนไว้ว่า
ถ้าคุณพ่ออยู่ได้เกิน 6 ปี คุณแม่จะเปลี่ยนศาสนาค่ะ (แต่ภายหลังคุณแม่ก็ไม่เปลี่ยนค่ะ)
หลังจากนั้นคุณพ่อก็อาการดีขึ้นเรื่อยๆค่ะจนปัจจุบันคุณพ่อไปทำงานได้ ขับรถได้ค่ะ จากคนที่เคยพูดจาไม่รู้เรื่อง
แต่กลับมาปกติ ถึงไม่ 100% แต่ก็ 80% ได้ค่ะสำหรับหนูๆคิดว่ามันปาฏิหาริย์มากๆเลยค่ะ
หลังจากนั้นหนูก็เลยเริ่มเปิดเว็บอ่านเกี่ยวกับศาสนาคริสต์ไปเรื่อยๆึ้ค่ะ จนช่วงต้นปี 2552
ก็ตัดสินใจว่าจะเปลี่ยนศาสนา แต่คุณแม่ก็บอกว่า ยังไม่ครบ 6 ปี ยังไม่ยอมให้เปลี่ยน
หนูกับพี่ก็รอจนเดือนกรกฏาคม 2552 แต่ช่วงนั้นหนูวุ่นวายกับการเตรียมตัวสอบ GAT PAT
ส่วนพี่สาวหนูก็วุ่นวายเกี่ยวกับการปรับตัวในมหา'ลัย ก็เลยยังไม่มีอะไรคืบหน้าสักเท่าไร
จนเมื่อช่วงปลาย กันยายน 2552 หนูก็มาเสิร์จเจอเว็บ Newmana อีกครั้ง ก็เลยตัดสินใจว่าจะเปลี่ยนศาสนาค่ะ
คือ...เมื่อเช้านี้หนูเพิ่งติดต่อทางวัดนักบุญโทมัสฯมีนบุรีไปค่ะ เพื่อไปเรียนคำสอน สำหรับเปลี่ยนศาสนาค่ะ
ก่อนที่จะเข้าเรื่องปัญหาหนูก็ต้องขอโทษคุณพี่หน่อย (sinner) ก่อนนะค่ะที่หนูไปติดต่อทางวัดเองโดยพลักการ
ทั้งๆที่ตอนแรกบอกว่า จะให้พี่ช่วยแนะนำให้อาทิตย์หน้าค่ะ แต่สุดท้ายหนูทนรอไม่ไหวก็ไปกับพี่สาวเองจนได้ค่ะ
แล้วหนูก็ฝากเรื่องไว้กับคุณวินัยด้วยค่ะ (ที่สอนคำสอนอ่ะค่ะ) ต้องขอโทษพี่หน่อยจริงๆนะค่ะ
ส่วนปัญหาก็คือ เมื่อเช้าหนูปลุกพี่สาวให้ขับรถไปที่วัดค่ะ แล้วบัญเอิญว่าคุณพ่อหนูมาได้ยินเข้า
ก็เลยถามว่าจะไปไหนกัน หนูก็ตอบเค้าเบาๆว่า ไปโบสถ์ แต่เขาไม่ได้ยินคำตอบหนูนะค่ะ
แล้วทีนี้เค้าก็ถามขึ้นมาอีกว่า จะไปไหนกัน หนูก็เลยเงียบเพราะน้ำเสียงเขาเริ่มโมโหแล้ว
แล้วทีนี้คุณแม่ที่อยู่แถวนั้นก็บอกว่า "เพิร์ลกับเมย์จะไปโบสถ์" (คือหนูกับพี่บอกคุณแม่เมื่อคืนแล้วค่ะ)
แล้วทีนี้คุณพ่อก็โมโหใหญ่แล้วก็บอกว่า "จะบ้ากันไปแล้วเหรอ? จะไปโบสถ์ทำไม ซื่อบื้อรึเปล่า? พระจงพระเจ้าไม่มีจริงหรอก! ไม่ต้องไป!"
ทีนี้หนูเองก็เริ่มโมโหเช่นกัน ก็เลยพูดขึ้นมาเบาๆอีกว่า "ถ้าไม่มีจริงแล้วพ่อจะมีชีวิตอยู่ทุกวันนี้เหรอ?"
เค้าก็งงแล้วก็ถามว่าพูดอะไร เค้าไม่เข้าใจ หนูก็เลยตอบเค้าเบาๆว่า "ก็ลองถามแม่ดูสิว่าหมายถึงอะไร?"
แม่ก็เลยบอกว่า "ปี2546 ที่คุณป่วยแล้วหมอบอกว่าโอกาสรอดน้อย ฉันก็เลยไปบนกับแม่พระว่า ถ้าคุณรอดฉันจะเปลี่ยนศาสนา"
หลังจากนั้นคุณพ่อก็ไม่พูดอะไรกับหนูหรือพี่สาวหนูเลย แม้แต่ก่อนที่หนูกับพี่จะออกจากบ้าน หนูกับพี่ยกมือไหว้พ่อ
พ่อหนูก็สะบัีดหน้าหนีด้วยความโกรธ แล้วก่อนไปพีี่สาวหนูก็ยื่นใบโอนเงินค่าเทอมให้พ่อก็ไม่รับ จนพี่สาวต้องวางไว้บนโต๊ะข้างๆคุณพ่อแทนค่ะ
คือปัญหาที่ทำให้ตัวหนูสับสนในการเปลี่ยนศาสนาคือ...
1.คุณพ่อไม่ยอมรับการเปลี่ยนศาสนา และญาติของครอบครัวหนูทั้ง 2 ฝ่ายก็ศาสนาพุทธหมด
2.คุณแม่เหมือนจะยอมรับ แต่บางครั้งพอเราพูดถึงศาสนาคริสต์ให้ฟัง คุณแม่ก็ยังคล้ายๆกับพูดประชด และติเตียนศาสนานี้ให้ฟัีงอยู่ (แต่หลังจากที่อาการคุณพ่อดีขึ้น เขาก็เชื่อมากขึ้นค่ะ แต่ก็เหมือนยังมีทิฐิกับศาสนานี้อยู่ค่ะ)
3.น้องสาวคนเล็กพอโตขึ้นมาก็ศรัทธาในพุทธศาสนามาก แล้วเขาก็คอยบอกแม่ตลอดว่า หนูเปิดเว็บเกี่ยวกับศาสนาคริสต์อ่าน ขอไบเบิ้ลมาจากในเน็ตมานั่งอ่าน หนูชวนพี่สาวไปโบสถ์บ้าง คุยกับพี่สาวเรื่องเปลี่ยนศาสนาบ้าง ...มากมายค่ะ
4.ญาติฝั่งพ่อกับฝั่งแม่ คิดว่าหนูกับพี่สาวถูกรร.พระมารดาฯล้างสมอง ถูกคนคริสต์หลอกให้เข้าศาสนา ประมาณนี้ค่ะ แล้วเขาก็พยายามเอาเรื่องบรรพบุรุษว่า เป็นคนพุทธมาพูดบ้าง เล่าอย่างนู้นอย่างนี้บ้างเพื่อให้เราเกิดความลังเลในการเปลี่ยนศาสนา
คือ...ตอนนี้หนูยอมรับว่า ความแน่วแน่ที่จะเปลี่ยนศาสนาที่มีมากขึ้นตลอด 6 ปี หายไปเยอะเลยค่ะ
หนูถึงหนูจะอยากเปลี่ยนศาสนายังไง แต่ตั้งแต่เด็กจนโตหนูก็ถูกปลูกฝังในเรื่องความกตัญญูกับพ่อแม่มาตลอด
ถ้าเกิดหนูกับพี่เปลี่ยนก็จะทำให้พวกท่านเสียใจมาก แต่หนูกับพี่เองก็รอมา 6 ปีเต็มๆแล้วค่ะ
แึค่จะให้รอต่อไปอีกนิด หนูว่าหนูก็ทนไม่ไหวแล้วๆยิ่งเมื่อวานได้รับไบเบิ้่ลที่ขอทางนิวมานาไป
ก็นั่งอ่านตั้งแต่บ่าย 3 โมงจนถึง ตี 3 ก็ยิ่งเกิดความศรทธามากขึ้น และเชื่อในพระเจ้ามากขึ้นค่ะ
หนูไม่รู้จะทำยังไงแล้วค่ะ แล้วถ้าหนูเปลี่ยน หนูก็อยากให้คนรอบข้างหนูยอมรับในการตัดสินใจของหนูด้วย
แล้วก็ไม่อยากให้ทุกคนเข้าใจผิดคิดว่าหนูกับพี่สาวหนูถูกหลอกด้วยค่ะ
หนูควรจะทำยังไงดีคะ จะอธิบายให้ทุกคนเข้าใจว่ายังไงดีคะ?
หนูโทรไปปรึกษาญาติที่สนิทด้วย เขาก็บอกว่า ให้รอจนคุณพ่อคุณแม่เสียก่อนแล้วค่อยเปลี่ยนค่ะ
แต่อย่างที่บอกไปแล้วว่า ตอนนี้หนูไม่ต้องการรอแล้วค่ะ หนูรอมาตั้ง 6 ปีแล้ว
หนูกับพี่สาวพยายามขอร้องคุณแม่ในการเปลี่ยนศาสนาตั้งหลายครั้ง แต่คุณแม่ก็บอกว่า
ให้รอจนครบตามปีที่บนก่อน แล้วมาจนถึงตอนนี้หนูกับพี่สาวรอจนครบ 6 ปีแล้ว
จนตอนนั้นหนูกับพี่สาวเชื่อและศรัธาในพระเจ้าแล้ว หนูกับพี่ไม่อยากโกหกคุณพ่อคุณแม่อีกแล้วค่ะ
ที่ต้องฝืนเข้าวัด ไหว้พระ อ่านหนังสือธรรมะ ทั้งๆที่ตนเองไม่ได้ศรัทธา และไม่เชื่อ
รบกวนขอคำปรึกษาด้วยนะค่ะ ตอนนี้หนูเครียดมากๆเลยค่ะ
ขอบคุณล่วงหน้าค่ะ
ขอเล่านิดนึงเกี่ยวกับที่คุณแม่เคยบนแม่พระ+ปาฏิหาริย์ที่เกิดกับครอบครัวหนูนะค่ะ
(ไม่ต้องอ่านก็ได้ค่ะ)
คือว่าเมื่อปี 2546 ตอนนั้นหนูเพิ่งเข้าม.1 ส่วนพี่สาวเพิ่งอยู่ม.2 แล้วก็น้องสาวอยู่อนุบาลค่ะ
คือช่วงนั้นคุณพ่อเริ่มป่วยเป็นโรคเบาหวาน และความดันโลหิตสูงค่ะ ก่อนที่ช่วง กรกฏาคม 2546 จะมีอาการป่วย เลยต้องแอดมิดเข้ารพ.
และคุณหมอก็วินิจฉัยว่า เป็นโรคไตวายเรื้อรังเฉียดพลัน (เพิ่งตรวจเจอค่ะ) ค่ะ ช่วงนั้นคุณพ่อเป็นหนักมาก
จนหมอบอกว่าอยู่ได้ถึงปีนึงก็เก่งแล้ว แต่ถ้าอยู่ได้เกิน 1 ปีก็อาจจะไม่ปกติ คือ ตอนนั้นสมองคุณพ่อเริ่มฝ่อค่ะ (คุณหมอว่าแบบนี้นะค่ะ)
ขนาดพูดจายังพูดจาไม่ค่อยรู้เรื่องเลยค่ะ ตอนนั้นทุกคนในครอบครัวสิ้นหวังมากค่ะ แต่ว่าพอดีวันนั้นเพื่อนของพี่สาวหนูที่เป็นคาทอลิกโทรมาหา
พี่สาวหนูพอดีค่ะ แล้วก็บอกว่าให้ไปช่วยงานอะไรสักอย่างที่วัดพระมารดาฯหน่อย (อันนี้ก็ต้องอธิบานอีกนิดนะค่ะ...คือ หนูกับพี่สาวหนู
เคยเรียนที่โรงเรียนพระมารดานิจจานุเคราะห์ ตรงคลองจั่นค่ะ เมื่อก่อนที่นั่นจะแยกห้องเรียนค่ะ เป็นห้องเรียนสำหรับนักเรียนคริสต์ทั้งห้อง
ไว้ 1 ห้องค่ะ นอกนั้นอีก 6 ห้องจะเป็นห้องสำหรับคนศาสนาอื่นค่ะ แต่หลังจากนั้นทางรร.ก็เปลี่ยนค่ะ ให้คละกันทุกศาสนา แล้วพอดีพี่สาวหนู
ไปสนิทกับเพื่อนที่เป็นคาทอลิก เขาก็เลยชวนพี่เข้าโบสถ์ทุกวันศุกร์ไปช่วยงาน แล้วก็เป็นนักขับคาทอลิกด้วยค่ะ จนจบป.6เราก็ย้ายรร.) พอดีวันนั้นพี่สาวก็เลยไปบอกแม่ ว่าเพื่อนโทรมาชวนอะไรแบบนี้ แล้วพี่สาวก็เลยเล่าถึงความศักดิ์สิทธิ์ของแม่พระให้ฟัง คุณแม่ก็เลยบนไว้ว่า
ถ้าคุณพ่ออยู่ได้เกิน 6 ปี คุณแม่จะเปลี่ยนศาสนาค่ะ (แต่ภายหลังคุณแม่ก็ไม่เปลี่ยนค่ะ)
หลังจากนั้นคุณพ่อก็อาการดีขึ้นเรื่อยๆค่ะจนปัจจุบันคุณพ่อไปทำงานได้ ขับรถได้ค่ะ จากคนที่เคยพูดจาไม่รู้เรื่อง
แต่กลับมาปกติ ถึงไม่ 100% แต่ก็ 80% ได้ค่ะสำหรับหนูๆคิดว่ามันปาฏิหาริย์มากๆเลยค่ะ
หลังจากนั้นหนูก็เลยเริ่มเปิดเว็บอ่านเกี่ยวกับศาสนาคริสต์ไปเรื่อยๆึ้ค่ะ จนช่วงต้นปี 2552
ก็ตัดสินใจว่าจะเปลี่ยนศาสนา แต่คุณแม่ก็บอกว่า ยังไม่ครบ 6 ปี ยังไม่ยอมให้เปลี่ยน
หนูกับพี่ก็รอจนเดือนกรกฏาคม 2552 แต่ช่วงนั้นหนูวุ่นวายกับการเตรียมตัวสอบ GAT PAT
ส่วนพี่สาวหนูก็วุ่นวายเกี่ยวกับการปรับตัวในมหา'ลัย ก็เลยยังไม่มีอะไรคืบหน้าสักเท่าไร
จนเมื่อช่วงปลาย กันยายน 2552 หนูก็มาเสิร์จเจอเว็บ Newmana อีกครั้ง ก็เลยตัดสินใจว่าจะเปลี่ยนศาสนาค่ะ