ผมเข้าไปเวปของกรมสรรพากรแต่ไม่ค่อยรู้เรื่อง ผมอยากทราบเกี่ยวกับการเสียภาษีเงินได้บุคคล ก็คิดว่าถ้ามีผู้รู้มาอธิบายแบบง่ายๆ และกระจ่างก็จะเป็นประโยชน์ต่อหลาย ๆ คนครับ
1.คนโสดผู้มีรายได้ขั้นต่ำเท่าไรต้องเสียภาษี ผมเจอทั้งที่ว่า ต่ำว่าแสนห้าไม่ต้องเสีย และ คนโสดรายได้เกินปีละสามหมื่นต้องเสียภาษี ก็เลยงง
2.คนที่ไม่มีเงินเดือน (กำลังตกงาน) แต่มีอาชีพเล็ก ๆ น้อย ๆ พอเลี้ยงชีพ แม้รายได้จะไม่แน่นอน ต้องเสียภาษีหรือไม่
3.คนที่มีภาระต้องชำระหนี้ธนาคารต้องเสียภาษีหรือไม่
4.เปิดเวปไซต์ขายของต้องเสียภาษีหรือไม่ (ถ้ารายได้ยังไม่ถึงเกณฑ์)
ถามเรื่องการเสียภาษี
1.คนโสดผู้มีรายได้ขั้นต่ำเท่าไรต้องเสียภาษี ผมเจอทั้งที่ว่า ต่ำว่าแสนห้าไม่ต้องเสีย และ คนโสดรายได้เกินปีละสามหมื่นต้องเสียภาษี ก็เลยงง
ผู้ที่มีเงินได้เกิดขึ้นระหว่างปีภาษีจะมีหน้าที่ต้องยื่นแบบฯ ก็ต่อเมื่อมีเงินได้ถึงเกณฑ์ขั้นต่ำตามที่กฎหมายกำหนด ไม่ว่าเมื่อคำนวณภาษีแล้วจะมีภาษีต้องชำระเพิ่มเติมหรือไม่ก็ตาม ดังนี้
1. ผู้มีเงินได้จากการจ้างแรงงานประเภทเงินเดือน ค่าจ้างที่ได้รับในปีภาษีนั้น (ตั้งแต่ 1 มกราคม ถึง 31 ธันวาคม)
- กรณีไม่มีคู่สมรสต้องมีเงินได้พึงประเมินเกิน 50,000 บาท
- กรณีที่มีคู่สมรสไม่ว่าฝ่ายเดียว หรือทั้งสองฝ่ายต้องมีเงินได้พึงประเมินรวมกัน เกิน 100,000 บาท
2. ผู้มีเงินได้จากการทำธุรกิจการค้าทั่วไปที่มิใช่เกิดจากการจ้างแรงงานที่ได้รับในปีภาษีนั้น (ตั้งแต่ 1 มกราคม ถึง 31 ธันวาคม)
- กรณีไม่มีคู่สมรสต้องมีเงินได้พึงประเมินเกิน 30,000 บาท
- กรณีมีคู่สมรสไม่ว่าฝ่ายเดียวหรือทั้งสองฝ่ายต้องมีเงินได้พึงประเมินรวมกัน เกิน 60,000 บาท
3. กองมรดกของผู้ตายที่ยังไม่แบ่งเกิน 30,000 บาท
4. ห้างหุ้นส่วนสามัญหรือคณะบุคคลที่มิใช่นิติบุคคลเกิน 30,000 บาท
ก็คือ ถ้าคุณมนุษย์เงินเดือนละก็ ถ้ามีรายได้ ตั้งแต่ 50001 บาทขึ้นไป ในปีภาษีนั้น (ตั้งแต่ 1 มกราคม ถึง 31 ธันวาคม) ก็ต้องยื่นแบบ แต่จะต้องเสียภาษีหรือไม่ก็ ต้องไปคำนวณกันอีกที ว่าหลังจาก หักค่าลดหย่อนต่างๆแล้ว จะเหลือเงินรายได้สุทธิที่ต้องเสียภาษีเท่าไหร่ แต่ในกรณีที่เราไม่ใช่ มนุษย์เงินเดือน แต่ทำธุรกิจการค้า เช่นค้าขายเล็กๆน้อยๆ ขายเสื้อผ้า หรือเปิดเว็บขายของ ถ้ามีเงินได้เกิน 30000บาท ก็ต้องยื่นแบบประเมินครับ แต่จะเสียภาษีหรือไม่ก็ต้องรอดูว่าหลังหักลดหย่อนแล้ว จะเหลือเงินได้สุทธิเท่าไหร่นะครับ แต่โดยส่วนมาก รายได้แบบนี้คนจะเฉยๆไม่ยื่นไม่เสียกันนะครับ ก็คือหลบเลี่ยงนั่นเอง
2.คนที่ไม่มีเงินเดือน (กำลังตกงาน) แต่มีอาชีพเล็ก ๆ น้อย ๆ พอเลี้ยงชีพ แม้รายได้จะไม่แน่นอน ต้องเสียภาษีหรือไม่
ถ้าเป็นรายได้ เล็กๆน้อยๆแต่รวมแล้ว เป็นรายได้ รวมเกิน 30000 บาท ในกรณีที่เป็นรายได้อย่างอื่นที่ไม่ใช่เงินเดือน ก็ต้องยื่นแบบนะครับ ถ้าเป็นรายได้ที่ได้มาระหว่างปีภาษีขึ้นอยู่กับว่าเราจะสัตย์ซื่อแค่ไหน อย่างก๋วยเตี๋ยว ที่เขาทำเป็นเหมือนรถซาเล้งที่ติดกับมอเตอร์ไซด์นะ เอาจริงๆก็ต้องเสียนะ
3.คนที่มีภาระต้องชำระหนี้ธนาคารต้องเสียภาษีหรือไม่
อ่าต้องเสียครับ เว้นแต่ เป็นหนี้จากการกู้ซื้อบ้าน หรือที่อยู่อาศัย อันนี้เราเอาไปลดหย่อนได้นะครับ
4.เปิดเวปไซต์ขายของต้องเสียภาษีหรือไม่ (ถ้ารายได้ยังไม่ถึงเกณฑ์)
ไม่ถึงเกณฑ์ก็ไม่ต้องครับ
ผู้ที่มีเงินได้เกิดขึ้นระหว่างปีภาษีจะมีหน้าที่ต้องยื่นแบบฯ ก็ต่อเมื่อมีเงินได้ถึงเกณฑ์ขั้นต่ำตามที่กฎหมายกำหนด ไม่ว่าเมื่อคำนวณภาษีแล้วจะมีภาษีต้องชำระเพิ่มเติมหรือไม่ก็ตาม ดังนี้
1. ผู้มีเงินได้จากการจ้างแรงงานประเภทเงินเดือน ค่าจ้างที่ได้รับในปีภาษีนั้น (ตั้งแต่ 1 มกราคม ถึง 31 ธันวาคม)
- กรณีไม่มีคู่สมรสต้องมีเงินได้พึงประเมินเกิน 50,000 บาท
- กรณีที่มีคู่สมรสไม่ว่าฝ่ายเดียว หรือทั้งสองฝ่ายต้องมีเงินได้พึงประเมินรวมกัน เกิน 100,000 บาท
2. ผู้มีเงินได้จากการทำธุรกิจการค้าทั่วไปที่มิใช่เกิดจากการจ้างแรงงานที่ได้รับในปีภาษีนั้น (ตั้งแต่ 1 มกราคม ถึง 31 ธันวาคม)
- กรณีไม่มีคู่สมรสต้องมีเงินได้พึงประเมินเกิน 30,000 บาท
- กรณีมีคู่สมรสไม่ว่าฝ่ายเดียวหรือทั้งสองฝ่ายต้องมีเงินได้พึงประเมินรวมกัน เกิน 60,000 บาท
3. กองมรดกของผู้ตายที่ยังไม่แบ่งเกิน 30,000 บาท
4. ห้างหุ้นส่วนสามัญหรือคณะบุคคลที่มิใช่นิติบุคคลเกิน 30,000 บาท
ก็คือ ถ้าคุณมนุษย์เงินเดือนละก็ ถ้ามีรายได้ ตั้งแต่ 50001 บาทขึ้นไป ในปีภาษีนั้น (ตั้งแต่ 1 มกราคม ถึง 31 ธันวาคม) ก็ต้องยื่นแบบ แต่จะต้องเสียภาษีหรือไม่ก็ ต้องไปคำนวณกันอีกที ว่าหลังจาก หักค่าลดหย่อนต่างๆแล้ว จะเหลือเงินรายได้สุทธิที่ต้องเสียภาษีเท่าไหร่ แต่ในกรณีที่เราไม่ใช่ มนุษย์เงินเดือน แต่ทำธุรกิจการค้า เช่นค้าขายเล็กๆน้อยๆ ขายเสื้อผ้า หรือเปิดเว็บขายของ ถ้ามีเงินได้เกิน 30000บาท ก็ต้องยื่นแบบประเมินครับ แต่จะเสียภาษีหรือไม่ก็ต้องรอดูว่าหลังหักลดหย่อนแล้ว จะเหลือเงินได้สุทธิเท่าไหร่นะครับ แต่โดยส่วนมาก รายได้แบบนี้คนจะเฉยๆไม่ยื่นไม่เสียกันนะครับ ก็คือหลบเลี่ยงนั่นเอง
2.คนที่ไม่มีเงินเดือน (กำลังตกงาน) แต่มีอาชีพเล็ก ๆ น้อย ๆ พอเลี้ยงชีพ แม้รายได้จะไม่แน่นอน ต้องเสียภาษีหรือไม่
ถ้าเป็นรายได้ เล็กๆน้อยๆแต่รวมแล้ว เป็นรายได้ รวมเกิน 30000 บาท ในกรณีที่เป็นรายได้อย่างอื่นที่ไม่ใช่เงินเดือน ก็ต้องยื่นแบบนะครับ ถ้าเป็นรายได้ที่ได้มาระหว่างปีภาษีขึ้นอยู่กับว่าเราจะสัตย์ซื่อแค่ไหน อย่างก๋วยเตี๋ยว ที่เขาทำเป็นเหมือนรถซาเล้งที่ติดกับมอเตอร์ไซด์นะ เอาจริงๆก็ต้องเสียนะ
3.คนที่มีภาระต้องชำระหนี้ธนาคารต้องเสียภาษีหรือไม่
อ่าต้องเสียครับ เว้นแต่ เป็นหนี้จากการกู้ซื้อบ้าน หรือที่อยู่อาศัย อันนี้เราเอาไปลดหย่อนได้นะครับ
4.เปิดเวปไซต์ขายของต้องเสียภาษีหรือไม่ (ถ้ารายได้ยังไม่ถึงเกณฑ์)
ไม่ถึงเกณฑ์ก็ไม่ต้องครับ
ผมเข้าใจแบบนี้ถูกไหมครับ คนโสดที่มีรายได้จากกิจการอื่น ๆ ที่ไม่ใช่เงินเดือน ตั้งแต่ 30000 บาทต่อปีขึ้นไป ต้องยืนแบบ (แบบอะไรหรอครับ) ที่สรรพากร เพื่อให้ทางสรรพากรรับรู้ แต่ในเมื่อยังมีรายได้ไม่ถึง 150000 บาทต่อปี จึงยังไม่ต้องเสียภาษีใช่ไหมครับ
-
Ministry Of Men
- โพสต์: 3972
- ลงทะเบียนเมื่อ: พุธ เม.ย. 18, 2007 3:09 pm
ผมเข้าใจแบบนี้ถูกไหมครับ คนโสดที่มีรายได้จากกิจการอื่น ๆ ที่ไม่ใช่เงินเดือน ตั้งแต่ 30000 บาทต่อปีขึ้นไป ต้องยืนแบบ (แบบอะไรหรอครับ) ที่สรรพากร เพื่อให้ทางสรรพากรรับรู้ แต่ในเมื่อยังมีรายได้ไม่ถึง 150000 บาทต่อปี จึงยังไม่ต้องเสียภาษีใช่ไหมครับ
เอางี้ผม ยกตัวอย่างนะ วิธีคำนวณง่ายๆ คือ สมมุติว่า เราเป็นคนโสด มีเงินเดือน เดือนละ 20,000 บาท เท่ากับมีรายได้ต่อปี 240,000 บาท หักค่าใช้จ่าย ร้อยละ 40 ของรายได้ คิดเป็น 60,000 บาท คงเหลือ 180,000 บาท หักลดหย่อนตัวเองได้ 30,000 บาท เหลือ 150,000 บาท ตามกฎหมายรายได้ 150,000 บาทแรกได้รับการยกเว้น ไม่ต้องนำมาคิดภาษี
พูดง่ายๆก็คือ สำหรับคนที่มีเงินเดือน ปีละ 60000 บาท ในปีภาษี หรือ รายได้อื่นที่ไม่ใช่เงินเดือน 30000 บาท ในปีภาษี ต้องยื่นแบบแสดงรายได้ ส่วนวิธีการคำนวณภาษีนั้นก็คือ นำรายได้ ทั้งปี มาหักลดหย่อน ตามสิทธิที่สามารถลดหย่อนได้ ถ้าหลังจากหักลดหย่อนแล้ว เหลือเงินได้ สุทธิ ไม่เกิน 150000 ก็ไม่ต้องเสียภาษี เพราะ 150000 บาทแรกได้รับการยกเว้นนะครับ
เอางี้ผม ยกตัวอย่างนะ วิธีคำนวณง่ายๆ คือ สมมุติว่า เราเป็นคนโสด มีเงินเดือน เดือนละ 20,000 บาท เท่ากับมีรายได้ต่อปี 240,000 บาท หักค่าใช้จ่าย ร้อยละ 40 ของรายได้ คิดเป็น 60,000 บาท คงเหลือ 180,000 บาท หักลดหย่อนตัวเองได้ 30,000 บาท เหลือ 150,000 บาท ตามกฎหมายรายได้ 150,000 บาทแรกได้รับการยกเว้น ไม่ต้องนำมาคิดภาษี
พูดง่ายๆก็คือ สำหรับคนที่มีเงินเดือน ปีละ 60000 บาท ในปีภาษี หรือ รายได้อื่นที่ไม่ใช่เงินเดือน 30000 บาท ในปีภาษี ต้องยื่นแบบแสดงรายได้ ส่วนวิธีการคำนวณภาษีนั้นก็คือ นำรายได้ ทั้งปี มาหักลดหย่อน ตามสิทธิที่สามารถลดหย่อนได้ ถ้าหลังจากหักลดหย่อนแล้ว เหลือเงินได้ สุทธิ ไม่เกิน 150000 ก็ไม่ต้องเสียภาษี เพราะ 150000 บาทแรกได้รับการยกเว้นนะครับ
เอางี้ผม ยกตัวอย่างนะ วิธีคำนวณง่ายๆ คือ สมมุติว่า เราเป็นคนโสด มีเงินเดือน เดือนละ 20,000 บาท เท่ากับมีรายได้ต่อปี 240,000 บาท หักค่าใช้จ่าย ร้อยละ 40 ของรายได้ คิดเป็น 60,000 บาท (ก็คือ ร้อยละ 40 ของรายได้ แต่ไม่เกิน 60000 บาท นะครับ เช่น มีรายได้ 120000 บาท ร้อยละ 40 ก็ คือ 48000 อันนี้ เราหักลดหย่อย ไป 60000 เลย แต่ในกรณี มีเงินได้พึงประเมิณ 200000 ร้อยละ 40 ก็คือ 80000 แต่เราหักได้ไม่เกิน 60000 นะครับ ) คงเหลือ 180,000 บาท หักลดหย่อนตัวเองได้ 30,000 บาท เหลือ 150,000 บาท ตามกฎหมายรายได้ 150,000 บาทแรกได้รับการยกเว้น ไม่ต้องนำมาคิดภาษี
พูดง่ายๆก็คือ สำหรับคนที่มีเงินเดือน ปีละ 60000 บาท ในปีภาษี หรือ รายได้อื่นที่ไม่ใช่เงินเดือน 30000 บาท ในปีภาษี ต้องยื่นแบบแสดงรายได้ ส่วนวิธีการคำนวณภาษีนั้นก็คือ นำรายได้ ทั้งปี มาหักลดหย่อน ตามสิทธิที่สามารถลดหย่อนได้ ถ้าหลังจากหักลดหย่อนแล้ว เหลือเงินได้ สุทธิ ไม่เกิน 150000 ก็ไม่ต้องเสียภาษี เพราะ 150000 บาทแรกได้รับการยกเว้นนะครับ
พูดง่ายๆก็คือ สำหรับคนที่มีเงินเดือน ปีละ 60000 บาท ในปีภาษี หรือ รายได้อื่นที่ไม่ใช่เงินเดือน 30000 บาท ในปีภาษี ต้องยื่นแบบแสดงรายได้ ส่วนวิธีการคำนวณภาษีนั้นก็คือ นำรายได้ ทั้งปี มาหักลดหย่อน ตามสิทธิที่สามารถลดหย่อนได้ ถ้าหลังจากหักลดหย่อนแล้ว เหลือเงินได้ สุทธิ ไม่เกิน 150000 ก็ไม่ต้องเสียภาษี เพราะ 150000 บาทแรกได้รับการยกเว้นนะครับ
ก็คือ ถ้าเรามีเงินเดือนถึงเกณฑ์ ก็ คือ 60000 บาทต่อปี หรือ 5000 บาทต่อเดือน กฏหมายกำหนดไว้ว่าผู้ที่มีรายได้ถึงเกณฑ์ จะต้องยื่นแบบแสดงรายได้เพื่อ ประเมิณภาษี และสำหรับคนที่มีรายได้จากธุรกิจการค้าทั่วไปก็ ถ้ามีเงินได้ เกิน 30000 บาทต่อปี ก็ต้องยื่นแบบแสดงรายได้ แต่พอยื่นแบบไปแล้ว เมื่อหักค่าลดหย่อน ต่างๆ จะเสียหรือไม่เสียก่ต้องดูอีกที บางครั้งคนที่ทำงานบริษัท เช่นคนที่มีเงินเดือน เดือนละ 17000 บาท โดยทั่วไป บริษัทจะหักภาษีและนำส่งไปก่อนแล้วนะครับ พอครบรอบปีภาษีแล้วก็ ต้องยื่นแบบ ภ.ง.ด 91 นะครับ เราก็กรอกไป ว่าเราสามารถหักลดหย่อนอะไรได้บ้าง เช่น เงินเดือน 17000 ก็รายได้ต่อปี ก็ 204000 บาท หักค่าใช้จ่าย 40 % แต่ไม่เกิน 60000 ก็ คือ หักได้ 60000 และหักค่าลดหย่อนของตัวเองได้ ก็จะเหลือ รายได้ สุทธิ ที่จะต้องนำเอาไปคิดประเมิน ภาษีก็คือ 114000 นะครับ แต่ กฏหมายก็ยกเว้นไว้ว่า ผู้มีรายได้สุทธิหลังจากหักค่าใช้จ่ายและ หักลดหย่อนแล้ว ไม่เกิน 150000 ก็ ไม่ต้องเสียภาษีนะครับ บางคน จะมีรายการหักลดหย่อนเยอะมาก เช่น หักลดหย่อนเงินบริจาค ที่ได้บริจาคให้ องค์กรมูลนิธิ สมาคม โดยต้องมีใบเสร็จนะครับ เช่น บริจาคให้ มูลนิธิร่วมกตัญญู ซึ่งเค้าจะออกใบเสร็จให้ ใบเสร็จนั้น ละ เอาไปเป็นหลักฐาน ในการหักลดหย่อน หรือ หักลดหย่อน ค่าเลี้ยงดู บิดามารดา ที่มีอายุ 60 ปีขึ้นไปและบิดามารดา ไม่มีรายได้นะครับ ก็สามารถหักลดหย่อนได้ หรือ หักลดหย่อน ดอกเบี้ยเงินกู้ยืมซื้อบ้าน หรือ เบี้ยกรมธรรม์ประกันชีวิต เป็นต้น ซึ่งเราสามารถหักลดหย่อนอะไรได้บ้าง ก็มีกฏหมายระบุไว้อยู่แล้วนะครับ
-
Ministry Of Men
- โพสต์: 3972
- ลงทะเบียนเมื่อ: พุธ เม.ย. 18, 2007 3:09 pm
ของแบบนี้แกล้งกันได้เหมือนกัน สำหรับคนทำธุรกิจ..
ได้ข่าวแว่วๆมาว่า ตำรวจ กับ นักภาษี พวกนี้ได้ คอมมิสชั่น จากการปรับและเก็บเงินพวกนี้ด้วย
ไม่รู้จริงแค่ไหน
ถ้าจริงๆ ภาครัฐไทยคงจะมีคุณธรรมที่น่าเชื่อถือต่ำลงมากยิ่งกว่าเดิม ซึ่งต่ำอยู่แล้ว
ปล.พรุ่งนี้ต้องไปยื่นแบบ... เซ็งเป็ด... อิอิ ขอให้ลูกอย่าได้เจอของแปลกเลย เพราะลูกก็ซื่อตรงอยู่แล้วด้วย
ได้ข่าวแว่วๆมาว่า ตำรวจ กับ นักภาษี พวกนี้ได้ คอมมิสชั่น จากการปรับและเก็บเงินพวกนี้ด้วย
ไม่รู้จริงแค่ไหน
ถ้าจริงๆ ภาครัฐไทยคงจะมีคุณธรรมที่น่าเชื่อถือต่ำลงมากยิ่งกว่าเดิม ซึ่งต่ำอยู่แล้ว
ปล.พรุ่งนี้ต้องไปยื่นแบบ... เซ็งเป็ด... อิอิ ขอให้ลูกอย่าได้เจอของแปลกเลย เพราะลูกก็ซื่อตรงอยู่แล้วด้วย