อนุสัญญาว่าด้วยสิทธิเด็ก (CRC)
โพสต์แล้ว: อังคาร พ.ย. 10, 2009 11:49 am
คำว่า
ผู้อยู่ฝ่ายความจริง
https://newmana.com/phpbb/
พระเยซูเจ้าบอกว่าให้เราเป็นเด็กเล็กๆ แต่การเป็นเด็กเล็กๆของพระองค์หมายถึง การเป็นเด็กในจิตใจ เป็นคนจิตใจบริสุทธิ์ไร้เดียงสา ไม่ใช่ทำนิสัยเด็กๆไม่รู้จักโต หรือป่วนคนอื่นแบบเด็กเกเรBOYZ เขียน: ขอบคุณ sinner ครับ
พระเยซูตรัสว่า "ปล่อยให้เด็กเล็ก ๆ มาหาเราเถิด"
(ฝากถึงบางคนว่า ในใจมีพื้นที่มากพอสำหรับเด็กๆหรือไม่)
ความรู้ในพระเจ้าไม่ได้ช่วยให้ชีวิตสมบูรณ์แบบ แต่ความรักต่างหากที่ทำให้สมบูรณ์แบบ : xemo026 :
คลิบสั้นๆ http://www.youtube.com/watch?v=XNCf3c4X3oU : xemo026 :
BOYZ เขียน: ช่วงหนึ่งในชีวิต ที่คริสตจักรแห่งหนึ่ง : xemo026 :
ทางโบสถ์นำเด็กๆมาร่วมนมัสกาลด้วย : emo045 :
แต่เด็กๆเหล่านี้ซุกซน (วัยเด็ก ; ก่อนเข้าสู่วัยเกรียน) : xemo016 :
โดยเฉพาะเด็กผู้ชาย จะซุกซนเหมือนลิง (ก็พระเจ้าสร้างมาแบบนี้)ส่วนเด็กผู้หญิงก็จะเสียงดัง (พระเจ้าออกแบบกล่องเสียงเธอมาหนิ)
ผมโดนเด็กกวนขณะร่วมพิธีในโบสถ์...
สองสามที ไม่ได้ตักเตือนเขา แต่จับแขนจูงมานอกโบสถ์แล้วก็ตำหนิ... เด็กซึม แถมโดน ศบ.ท่านหนึ่งตำหนิว่า ทีหลังไม่พามาแล้ว...
ข้อสังเกตุ
1.ศบ.ผู้เปี่ยมในความรู้พระเจ้า ตำหนิเด็ก โดยไม่ได้ใช้คำเตือนหรือคำแนะนำ
2.ผมใจแคบกับเด็ก แทนที่จะเตือนเค้า เหมือนที่พระเยซูทรงตักเตือนลูกแกะ
3.พี่น้องในโบสถ์คนอื่นๆ ศบ.คนอื่นๆ ไม่ได้รู้สึกรำคาญกับพฤติกรรมของเด็ก แต่กลับยิ้มแย้มชื่นชมยินดีที่โบสถ์มีพระพร เพราะเด็กก็คือของขวัญของคริสตจักรด้วย
ไม่นานเกินรอ พระเจ้าก็ส่งเหตุการณ์หนึ่งมาสอนผม ให้รู้ว่า การให้โอกาสคน การให้พื้นที่ ที่ว่างทางสังคมกับคน ผู้น้อย หรือผู้ใหญ่กว่า คือน้ำพระทัยของพระเจ้า
พระองค์ยังสอนด้วยว่า ไม่ว่าเค้าผู้นั้นซึ่งเป็นผู้น้อย หรือผู้ใหญ่กว่า หากทำผิดพลาด ควรจะให้คำแนะนำ มากกว่าการกีดกันพื้นที่ทางสังคม
และทั้งหมดนี้คือประสบการณ์ส่วนตัวอีกครั้งหนึ่งที่พระเจ้าทรงสอนครับ : xemo026 :
อิอิ ผมโดนเด็กแกล้งประจำ บางทีก็หงุดหงิดใจ แต่เห็นรูปพระเยซูเจ้าทีไร ก็เข้าใจถึงน้ำใจและความรักที่พระเจ้ากำลังสอนทันที : xemo026 :
วัยเกรียนของผม คือ วัยมัธยมHoly เขียน:BOYZ เขียน: ช่วงหนึ่งในชีวิต ที่คริสตจักรแห่งหนึ่ง
ทางโบสถ์นำเด็กๆมาร่วมนมัสกาลด้วย
แต่เด็กๆเหล่านี้ซุกซน (วัยเด็ก ; ก่อนเข้าสู่วัยเกรียน)
โดยเฉพาะเด็กผู้ชาย จะซุกซนเหมือนลิง (ก็พระเจ้าสร้างมาแบบนี้)ส่วนเด็กผู้หญิงก็จะเสียงดัง (พระเจ้าออกแบบกล่องเสียงเธอมาหนิ)
ผมโดนเด็กกวนขณะร่วมพิธีในโบสถ์...
สองสามที ไม่ได้ตักเตือนเขา แต่จับแขนจูงมานอกโบสถ์แล้วก็ตำหนิ... เด็กซึม แถมโดน ศบ.ท่านหนึ่งตำหนิว่า ทีหลังไม่พามาแล้ว...
ข้อสังเกตุ
1.ศบ.ผู้เปี่ยมในความรู้พระเจ้า ตำหนิเด็ก โดยไม่ได้ใช้คำเตือนหรือคำแนะนำ
2.ผมใจแคบกับเด็ก แทนที่จะเตือนเค้า เหมือนที่พระเยซูทรงตักเตือนลูกแกะ
3.พี่น้องในโบสถ์คนอื่นๆ ศบ.คนอื่นๆ ไม่ได้รู้สึกรำคาญกับพฤติกรรมของเด็ก แต่กลับยิ้มแย้มชื่นชมยินดีที่โบสถ์มีพระพร เพราะเด็กก็คือของขวัญของคริสตจักรด้วย
ไม่นานเกินรอ พระเจ้าก็ส่งเหตุการณ์หนึ่งมาสอนผม ให้รู้ว่า การให้โอกาสคน การให้พื้นที่ ที่ว่างทางสังคมกับคน ผู้น้อย หรือผู้ใหญ่กว่า คือน้ำพระทัยของพระเจ้า
พระองค์ยังสอนด้วยว่า ไม่ว่าเค้าผู้นั้นซึ่งเป็นผู้น้อย หรือผู้ใหญ่กว่า หากทำผิดพลาด ควรจะให้คำแนะนำ มากกว่าการกีดกันพื้นที่ทางสังคม
และทั้งหมดนี้คือประสบการณ์ส่วนตัวอีกครั้งหนึ่งที่พระเจ้าทรงสอนครับ
อิอิ ผมโดนเด็กแกล้งประจำ บางทีก็หงุดหงิดใจ แต่เห็นรูปพระเยซูเจ้าทีไร ก็เข้าใจถึงน้ำใจและความรักที่พระเจ้ากำลังสอนทันที![]()
เรื่องเด็กในคริสตจักร หรือในวัด เชื่อว่าหลายคนคงมีประสบการณ์กันด้วยเช่นกัน และคงมีประสบการณ์มากน้อยต่างกัน โดยเฉพาะวัยวุฒิ คุณวุฒิ และหน้าที่ และที่สำคัญแต่ละโบสถ์ แต่ละคริสตจักร มีวิธีดูแลที่แตกต่างกันในเรื่องนี้ คงเอาประสบการณ์ของเราคนเดียวไปตัดสินไม่ได้ว่าถ้าไม่ทำแบบเดียวกับเรา จะไม่ดีหรือผิด
และที่สำคัญ เด็กวัย3-4ขวบ วิ่งเล่นไปมาเสียงดัง ผู้ใหญ่คงยิ้มและให้อภัย เพราะนั่นคือไร้เดียงสา แต่ถ้าเด็กที่โตแล้ว เป็นวัยรุ่นแล้ว อายุ14-15 เสียงแตกหนุ่ม หรือเป็นสาวมีทรวดทรงแล้ว แต่วิ่งเล่นไปมาในคริสตจักรปีนป่ายพระแท่น คนทั่วไปเห็นคงไม่อมยิ้มเอ็นดู แต่คงสงสัยว่า เป็นบ้า หรือเป็นปัญญาอ่อนหรือเปล่า และพ่อแม่ไปไหนไม่อบรมสั่งสอนลูกเลยเหรอ
มีนักบุญในพระศาสนจักรหลายๆท่านใช้วิธีการเป็นเด็กในการเข้าหาพระเจ้า เช่นนักบุญเทเรซาแห่งลีซีเออร์ ท่านไม่ได้กลับไปทำตัวติงต๊องวิ่งเล่นในวัด ไล่จับผีเสื้อแบบเด็กๆ แต่ท่านเป็นเด็กในจิตใจ ในเวลาเข้าหาพระเจ้า แต่พฤติกรรมกลับเป็นผู้ใหญ่มากขึ้น อดทนในเวลาถูกตำหนิ อดกลั้นในเวลาที่ถูกสั่งให้ทำตามระเบียบที่ไม่ชอบ และนบนอบต่อคำสั่งของผู้ดูแลคือแม่เจ้าคณะอย่างยิ่ง ท่านจึงได้บรรลุถึงการเข้าสวรรค์แบบเด็กๆที่พระศาสนจักรแต่งตั้งให้เป็นนักปราชญ์ของพระศาสนจักรทั้งที่ไปสวรรค์เมื่ออายุได้23ปีเท่านั้น
ไม่ได้ว่านะคร๊าบบบบบบบบ (ร้อนตัว) แต่ให้ความรู้เพิ่มเติมครับ จะได้เอาไว้ประดับบารมี (ไม่ได้ว่าจริงๆ น๊า เจตนาดี)iBONT เขียน: ชอบอนุสัญญานี้ครับ
มันเป็นอีกหนึ่งแรงผลักดัน ให้ผมตัดสินใจทำหน้าที่ สมาชิกสภาเด็กและเยาวชน เลยล่ะ ^^,,
ถึงตอนนี้จะอายุ 18 แล้ว แต่ก็ยังพยายามจะจำมาตราต่างๆในอนุสัญญานี้ ไว้ช่วยเหลือน้องๆ ฮ่าๆ
Alphonse เขียน:ไม่ได้ว่านะคร๊าบบบบบบบบ (ร้อนตัว) แต่ให้ความรู้เพิ่มเติมครับ จะได้เอาไว้ประดับบารมี (ไม่ได้ว่าจริงๆ น๊า เจตนาดี)iBONT เขียน: ชอบอนุสัญญานี้ครับ
มันเป็นอีกหนึ่งแรงผลักดัน ให้ผมตัดสินใจทำหน้าที่ สมาชิกสภาเด็กและเยาวชน เลยล่ะ ^^,,
ถึงตอนนี้จะอายุ 18 แล้ว แต่ก็ยังพยายามจะจำมาตราต่างๆในอนุสัญญานี้ ไว้ช่วยเหลือน้องๆ ฮ่าๆ
เราจะเรียกข้อต่างๆ ในอนุสัญญา สนธิสัญญา หรือกฎหมายระหว่างประเทศต่างๆ ว่า "ข้อ" อ่ะครับ
จะไม่เรียกว่ามาตรา คือ มาตราเราจะเอาไว้เรียกกฎหมายภายในประเทศ เช่น พระราชบัญญัติ หรือพระราชกำหนด เป็นหลักอ่ะครับ