Belong to the Truth Jesus Christ

หมายเหตุ-บทความนี้เป็นเพียงการคาดคะเนและทฤษฎี ยังไม่มีการตัดสิน หรืออถลงการที่ชัดเจน จึงขอให้ใช้วิจารณญาณในการอ่าน



ใครสั่งให้มาฆ่าโป๊ป?
จรุง ผาสุวรรณ เขียน
...
      ในช่วงบ่ายของวันพุธที่ 13 พฤษภาคม 1983 ผู้คนนับหมื่นได้มาคอยชมบารมีขององค์สันตะปาปา จอหน์ ปอลที่ 2 ซึ่งมีเชื้อสายโปแลนด์กันเนืองแน่น ณ ปลาซ่า เซนต์ ปีเตอร์ ไปหมด จนทางการวาติกันต้องใช้รั้วเหล็กมาวางกั้นเป็นทาง สำหรับให้รถที่ท่านประทับมาสามารถวิ่งผ่านไปยังเวทีที่ท่านใช้สำหรับกล่าวคำปราศรัยกับประชาชนประจำสัปดาห์ได้

เวลา บ่าย 4 โมง โป๊ปได้ทรงเปลี่ยนฉลองพระองค์เป็นชุดสีขาวความจริงชุดนี้ วิลเลี่ยม โคซี่ หัวหน้าซีไอเอได้แนะนำให้ช่างประจำพระองค์ได้ทำพิเศษ สำหรับให้ท่านได้สวมเสื้อเกราะกันกระสุนไว้ภายในด้วย แต่พอถึงเวลาที่ท่านจะต้องใส่ ท่านกลับปฏิเสธที่จะใส่เสื้อเกราะ หัวหน้าซีไอเอได้เตือนท่านว่า

“ในเวลาหน้าสิ่วหน้าขวานอย่างนี้ แม้แต่โป๊ปก็ไม่ได้ยกเว้นที่จะไม่ถูกโจมตี เราได้รับข่าวที่ไม่มีการยืนยันมาว่าท่านกำลังอยู่ในอันตราย”

แต่โป๊ป จอหน์ ปอล ได้ปฏิเสธที่จะใส่มัน ท่านได้ลงมายังสนามหน้าอาคารซาน ดามาสโว ภายในพระราชวังอโพสโตลิคเมื่อเวลา 04.50 น.

หัวหน้ารักษาความปลอดภัยของวาติกัน คามิลโล ชีบิน ได้จดความเคลื่อนไหวแทบจะทุกฝีก้าวของโป๊ปลงในสมุดบันทึกของเขาในกระเป๋าของเขานั้นมีวิทยุ ที่พร้อมสำหรับติดต่อกับสำนักงานใหญ่ตำรวจของกรุงโรม ส่วนการรักษาความปลอดภัยส่วนตัวของโป๊ปนั้นขึ้นอยู่กับหน่วยไวจีรี ซึ่งแต่งกายด้วยสูทสีน้ำเงิน เป็นหน่วยเล็กๆที่ได้รับการฝึกมาอย่างดีและอยู่ข้างหลังทหารการ์ดชาวสวิส ซึ่งแต่งกายแบบโบราณยืนรักษาการณ์อยู่ตามที่ต่างๆ ทั่วไปใน เซนต์ปีเตอร์ สแควร์

ประชาชนยิ่งมากขึ้น เมื่อใกล้เวลาที่โป๊ปจะออกมากล่าวสุนทรพจน์ ในขณะเดียวกันนั้นมีชายคนหนึ่งที่ไม่ต้องการจะเข้ามาชมบารมีหรือมาฟังสิ่งที่โป๊ปพูด เขามาเพื่อวัตถุประสงค์บางอย่างที่ไม่มีใครรู้เขาเป็นหนุ่มชาวเตอร์ก ชื่อว่า เมห์ เมท อาลี อัคกา มาถึงจัตุรัสเมื่อเวลาเริ่มจะบ่าย และพยายามแทรกตัวเข้ามายืนอยู่ติดกับรั้วเหล็กที่กั้นเพื่อให้รถของโป๊ปผ่านได้สะดวกและรอเวลาสำคัญ

เวลา 05.00 น. รถของโป๊ปก็เคลื่อนออกจากสนามหญ้าหน้าอาคารซาน ดามาสโว ผู้คนส่งเสียงเชียร์ดังลั่นไปหมด องค์โป๊ปนั้นทรงยืนอยู่บนรถ พร้อมทั้งโบกพระหัตถ์ให้กับประชาชนด้วยความเมตตารอบๆ รถนั้นเต็มไปด้วยพระระดับสูงเมื่อรถเข้ามาถึง อาร์ค ออฟ เบลล์ ได้มีตำรวจของกรุงโรมออกมาร่วมขบวนกับพวกไวจีรีด้วย โดยกลุ่มหนึ่งเดินนำขบวน และอีกกลุ่มหนึ่งติดตามขบวนมาอย่างใกล้ชิด ด้วยความเร็ว 2 ไมล์ต่อชั่วโมง โป๊ปหันไปทางซ้ายละขวาพร้อมกับโบกพระหัตถ์กับพระชาชนครั้งหนึ่งโป๊ปได้เข้าไปจูบแก้มเด็กหญิงเล็กๆ คนหนึ่ง ซึ่งพระองค์มักจะปฏิบัติเสมอ แต่ก็ทำให้ ซีบินหัวหน้ารักษาความปลอดภัยถึงกับทำอะไรไม่ถูก



เวลา05.18 น. ได้มีเสียงปืนนัดแรกดังขึ้น พระองค์ได้ทรงทรุดตัวลงขณะที่ปืนในมือของอัคกาได้แผดเสียงขึ้นอีก 2 นัด โลหิตสีแดงฉานไหลออกมาเปรอะชุดสีขาวที่พระองค์สวมอยู่ ซีบินได้เข้าประชิดตัวโป๊ป เพื่อจะเป็นโล่ป้องกันท่านไว้รถได้เคลื่อนไปข้างหน้าอย่างเร่งรีบขึ้น คนร้ายวิ่งหนีหนีเข้าไปปะปนในฝูงชนที่กำลังแตกตื่น และสับสนอลหม่านไปหมด เสียงคนตะโกนว่า “โป๊ปถูกยิง!!”  ดังขึ้น



ขณะที่อัคกากำลังหนีหัวซุกหัวซุนอยู่นั้นเขาได้ทิ้งปืน และสะดุดอะไรบางอย่างล้มลง แล้วในที่สุดเขาถูกตำรวจของกรุงโรมคนหนึ่งจับตัวไว้ได้ แม้จะพยายามนำพระองค์ท่านไปยังรถพยาบาลให้เร็วที่สุด แต่ความสับสนของคนจำนวนมากทำให้ไม่สามารถทำความเร็วได้เท่าที่ควร กว่าจะนำพระองค์ไปถึงโรงพยาบาลเยเมลลี ซึ่งอยู่ใกล้กรุงวาติกันได้ก็ทุลักทุเลพอสมควร

โดยการผ่าตัดนั้นกินระยะเวลากว่า 6ชั่วโมง และต้องพักฟื้นอีกหลายเดือน ทำให้ โป๊ป จอหน์ ปอล อยากรู้ว่าใครเป็นคนสั่งให้หนุ่มเตอร์กผู้นี้มาประทุษร้ายท่าน?



โป๊ปได้เรียกหาข้อมูลการสอบสวนจากตำรวจกรุงโรม รวมทั้งของซีไอเอ, BND ของเยอรมันตะวันตกและหน่วยรักษาความปลอดภัยของเตอร์กีและของออสเตรีย เนื่องจากมีกระดาษเป็นล้านหน้า จึงเป็นไปไม่ได้ที่ท่านจะอ่านได้หมด และไม่มีเอกสารใดๆ ที่สามารถตอบคำถามของท่านที่ว่า ใครต้องการให้ท่านสิ้นพระชนม์ได้เลย เมห์เมท ลี อัคกา ได้ถูกฟ้องศาลของกรุงโรม และ ศาลได้ตัดสินจำคุกเขาไว้ตลอดชีวิตแต่ถ้าเขาประพฤติตัวดีก็อาจได้ลดหย่อนโทษลงมาออกมาพบอิสรภาพในปี 2009

หลังจากที่อัคกาได้ติดคุกกรุงโรมมาได้ 2 ปี โป๊ปก็พร้อมที่จะรับฟังคำตอบจากคำถามที่ค้างคาใจท่านมานานเสียที โดยผ่านทางพระที่ท่านไว้วางใจมากที่สุดองค์หนึ่งชื่อ อาร์คบิชอบ ลุยกี พ็อคกี้ ซึ่งมีหน้าที่รวบรวมข้อมูลลับเกี่ยวกับคอมมิวนิตส์ในยุโรบ คนในวาติกันรู้จักท่านในนามของ “ the Pope’s spy”

เป็นเวลาหลายเดือนที่พ็อคกี้ได้นัดพบอย่างลับๆ กับคนของมอสสาด จนกระทั่งพวกเขาได้ม้อมูลมามากพอ พ็อคกี้ก็จะรายงานโป๊ปให้ทรงรับทราบเสียครั้งหนึ่ง โป๊ปได้ทรงสั่งให้เขาทำหน้าที่นี้ต่อไปหลังจากนั้น การพบครั้งต่อๆ ไปซึ่งอาจมีขึ้นในเวียนนา ปารีส วอร์ซอ หรือโซเฟีย ในประเทศบุลกาเรีย ก็ถูกนัดหมายไว้ล่วงหน้า และการพบกันครั้งหลังสุดที่กรุงเวียนนานั้น ทำให้พ็อคกี้มีข้อมูลมากพอที่จะรายงานให้โป๊ปทรงทราบว่า ใครสั่งให้อัคกามาประทุบร้ายท่าน?

พ็อคกี้รู้เพียงแต่ว่า คนของมอสสาดที่ท่านติดต่อด้วยนั้นชื่อแรกว่า “เอลี่” และรู้ว่าเป็นคนพูดได้หลายภาษาเท่านั้น หัวหน้ามอสสาดขณะนั้นคือ ยิทซาก โฮฟี หลังจากที่ได้เห็นหน่วยข่าวกรองของชาติตะวันตกได้มาสืบหาร่องรอยที่ว่าใครปองร้ายต่อโป๊ป เขาจึงได้ตกลงใจที่จะให้มอสสาดเข้าไปเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ด้วย แต่โฮฟีก็ถูกย้ายตำแหน่ง และผู้ที่มารับหน้าที่แทนเขาก็คือ นาฮาม แอดโมนี ซึ่งมีเชื้อสายของคนยิวจากโปแลนด์ เขามีความสนใจในกิจการของคาธอลิคเป็นอันมาก ขณะที่เขาเป็นสายลับของมอสสาดอยู่ในสหรัฐอเมริกา และ ฝรั่งเศสนั้น เขาได้เห็นอิทธิพลของคาธอลิคที่มีต่อการเมืองของทั้ง 2 ประเทศ วาติกันได้ช่วยให้ จอหน์ เคเนดี้ ได้รับเลือกตั้งเป็นประธานาธิบดีของสหรัฐอเมริกา และในฝรั่งเศสนั้นคาธอลิคมีบทบาทอย่างสำคัญยิ่งในเรื่องการเมืองของฝรั่งเศสเรื่อยมา



ทันทีที่ได้รับตำแหน่ง แอดโมนีก็ได้สั่งให้ทางโรม ส่งแฟ้มการสืบสวนเรื่องใครพยายามฆ่าโป๊ปมาให้เขาที่อิสราเอล หลังจากที่พบว่าไม่มีความก้าวหน้าขึ้นเลย เขาจึงตกลงใจควบคุมการสืบสวนครั้งนี้ด้วยตนเอง

วิลเลียม เคย์ซี่ ในขณะนั้น เป็นผู้อำนวยการซีไออี ได้กล่าวว่าเหตุผลที่มอสสาดเข้ามายุ่งเกี่ยวกับวาติกันในเรื่องนี้ แอด(โมนีต้องคิดที่จะแลกเปลี่ยนอะไรบางอย่างกับวาติกันเป็นแม่นมั่น

แน่นอน โกลดา เมียร์ ได้เคยพยายามที่จะเปิดสัมพันธ์ทางการทูตกับวาติกันมาแล้ว แต่ไม่สำเร็จ และ สวีสเมอร์ หัวหน้าหน่วยมอสสาด ได้จัดตั้งสำนักงานถาวรขึ้นอยู่ติดกับสถานทูตอิสราเอลในกรุงโรม เพื่อหาโอกาสที่พวกเขาจะได้แทรกตัวเข้าไปในวาติกันให้ได้ แต่ไม่สำเร็จ ข่าวที่พวกเขาได้รับจึงเป็นแต่ข่าวที่ได้จากการซุบซิบของพวกสตัฟฟ์ของวาติกันตามร้านอาหารเท่านั้น ขณะที่ซีไอเอนั้นสามารถเข้านอกออกในวาติกันได้อย่างสบาย

ในซีไอเอ ต่างก็มีความคิดเห็นพ้องต้องกันว่าผู้ที่วางแผนให้ อคกามาประทุบร้ายต่อ โป๊ป จอห์น ปอล จะต้องเป็นกลุ่ม KGB อย่างแน่นอน ในเอกสารที่ตีตรา “ความลับสุดยอด” มีชื่อเรื่องว่า “อัคกาพยายามที่จะฆ่าโป๊ป: กรณีที่โซเวียตเข้ามาเกี่ยวข้อง”  ได้แสดงความเห็นว่ามอสโกเกรงว่า โป๊ป ซึ่งป็นชาวโปลโดยกำเนิด จะจุดประกายความรักชาติของชาวโปแลนด์ขึ้น

ย้อนหลังกลับไปในปี 1981 โซลิดาซิตี้ (Solidality) ซึ่งเป็นกระบวนการของคนงาน นำโดย เลก วาเลซา ได้เพิ่มพละกำลังมากขึ้น ทางการของโปแลนด์ ซึ่งอยู่ภายใต้แรงกดดันของโซเวียต จะต้องหาทางปราบปราม ไม่ให้สหภาพแรงงานต่างๆ มีกิจกรรมขึ้นได้ องค์โป๊ปนั้นไม่เคยขอร้อง เลก วาเลซา ให้ทำอะไรเลย เพราะอาจจะทำให้โซเวียตยกกองทัพเข้ามาแทรกแซงได้ โป๊ปเพียงขอร้องให้ พระคาร์นินาลชาวโปลชื่อ สเตฟาน วิสซินสกี้ ได้บอกกับหัวหน้าคอมมิวนิสต์โปแลนด์ว่า องค์โป๊ปเองไม่ต้องการให้สหภาพแรงงานนั้นล้ำเส้น ครั้นเมื่อจะมีการสไตรค์ใหญ่ขึ้น คาร์ดินาลวินซินสกี้ ได้ไปที่สำนักงานของเลก วาเลซา และขอร้องอย่าให้มีการสไตรค์เกิดขึ้นเลย ท่านถึงกับจับขากางเกงของวาเลซายึดไว้และบอกว่า ท่านจะยึดจนกว่าท่านจะตาย ในที่สุดวาเลซาต้องบอกเลิกการสไตรค์นั้น

นักวิเคราะห์มอสสาดให้ความเห็นว่า โป๊ปเข้าใจดีถึงความสำคัญของการโอนอ่อนผ่อนตามความต้องการของโซเวียตมีมากแค่ไหน เพื่อที่กลุ่มโซลิดาลิตี้จะได้ไม่ต้องสูญเสียอะไรไปอีก แต่มันก็ทำให้มอสโกเพิ่มความต้องการให้โป๊ปถูกฆ่าตายเสีย เพื่อมิให้เรื่องที่จะเกิดขึ้นนั้นมีโซเวียตเข้าไปเกี่ยวข้อง หรือรู้เห็นเป็นใจด้วย จึงมักเป็นหน้าที่ลับของหน่วยลับบุลกาเรีย

อย่างไรก็ดี คราวนี้ KGB น่าจะไม่ได้เกี่ยวข้องด้วย และหน่วยงานลับจากบุลกาเรียก็ไม่ได้รับงานนี้ไปทำ





หกเดือนต่อมา คำตอบของคำถามที่ว่า ใครอยู่เบื้องหลังความพยายามที่จะฆ่าโป๊ป? ก็ออกมาสร้างความพอใจให้แอดโมนีเป็นอันมาก แผนการฆ่าโป๊ปนั้นได้เตรียมขึ้นในกรุงเตหะราน ประเทศอิหร่าน และได้รับอนุมัติโดย อยาโตลาห์ ลูโฮลลา โคไมนี

การฆ่าโป๊ปนั้น ถือเป็นการเปิดศักราชของสงครามที่กระทำกับประเทศของตะวันตก สาเหตุที่ทำให้โคไมนีโกรธโป๊ปจนถึงส่งคนไปฆ่านั้น อาจเนื่องมาจากการที่โป๊ปได้ไปกล่าวในโรงงานโอลิเวตตี้พาดพิงถึงศาสนาอิสลามในทำนองว่า ทำให้คนมีความรุนแรง

ในกรณีที่อัคกาทำไม่สำเร็จ ผู้ถือบังเหียนในอิหร่าน จึงต้องทำให้อัคกาดูคล้ายคนคลั่งศาสนา ผู้โดดเดี่ยว โดยการปล่อยข่าวออกมาว่าเมห์เมท อาลี อัคกา นั้นเกิดในหมู่บ้านชื่อยาซิลเทป ซึงอยู่ในดินแดนเตอร์กีที่ห่างไกล เขาเติบโตขึ้นมาในครอบครัวที่นับถือศาสนาอิสลามพื้นฐาน พออายุ 15 ปี เขาได้เข้าร่วมกับขบวนการ “หมาป่าสีเทา” ซึ่งเป็นกลุ่มผู้ก่อการร้ายที่โปรอิหร่าน รับผิดชอบการก่อความไม่สงบในเตอร์กี ในปี 1979 อัคกาได้ฆ่าบรรณาธิการหนังสือพิมพ์ในอิสตันบลูที่นิยมตะวันตกฉบับหนึ่งและถูกจับได้ ต่ด้วยความช่วยเหลือของขบวนการหมาป่าสีเทาอัคกาได้แหกคุกหนีไปได้ และวันต่อมาหนังสือพิมพ์ต่างๆ ได้รับจดหมายฉบับหนึ่งกล่าวถึงการมาเยือนเตอร์กีของโป๊ป



“พวกเราเกรงว่าเตอร์กี ซึ่งเป็นชาติอิสลาม จะกลายเป็นดินแดนแห่งการเมือง การทหาร และอำนาจทางเศรษฐกิจในตะวันออกกลางของจักวรรดินิยมตะวันตก และผู้รับหน้าที่เป็นผู้บัญชาการกองทัพครูเซด คือ จอห์น ปอล ถ้าการมาเยือนในครั้งนี้ไม่ได้ถูกงดเสียก่อน ผมก็จะฆ่าโป๊ป ผู้บัญชาการกองทัพครูเซด”

นอกจากจะระบายสีให้กับอัคกาแล้ว แอดโมนียังเชื่ออีกด้วยว่า จดหมายในฉบับนี้แต่งขึ้นในเตหะราน สไตล์และเนื้อหาของจดหมายฉบับนี้ มัน เกินกว่าคนอย่างอัคกาซึ่งแทบจะไม่รู้หนังสือเลยจะสามารถเขียนขึ้นมาได้ มอสสาดได้ใช้คอมพิวเตอร์เสาะหาการแสดงปาฐกถาของไคโมนี ปรากฏว่า โคโมนีเคยใช้คำว่า “โป๊ป ผู้บัญชาการกองทัพครูเซด” มาก่อน

อย่างไรก็ดี การเยือนเตอร์กีของโป๊ป จอห์น ปอล เป็นไปด้วยความราบรื่น ไม่มีเหตุการณ์อะไรเกิดขึ้นที่ค่ายฝึกในประเทศอิหร่าน เมห์เมท อาลี อัคกา ตื่นขึ้นมาเขาจะต้องละหมาด เช่นเดียวกับผู้รับการฝึกอื่นๆ หลังจากนั้นเขาจะอ่านเสียงดัง ชื่อคนซึ่งเป็นที่เกลียดชังทั้งหลาย ซึ่งครูฝึกได้บอกให้เขาเขียนไว้ บัญชีรายชื่อนั้นค่อนข้างยาว มีทั้ง กษัริย์ต่างๆ ในตะวันตก เขาจะร้องขอให้อาลาห์ช่วยทำลายสหรัฐอเมริกา ซึ่งเป็นประเทศที่มีกำลังมากที่สุดในโลก

ในแง่ของศาสนา เขาได้ถูกสอนให้เชื่อว่าศาสนาอื่นๆ กำลังข่มขู่ที่จะทำลายศาสนาที่เขาเชื่อ ผู้สอนได้แนะนำให้เขาลดจำนวนลงเหลือเพียงหนึ่งเดียว คนผู้นั้นแต่งชุดขาว อาศัยอยู่ในวังมหึมา จากในวังนั้นเขาปกครองกับคนนับล้านเหมือนกาลิพห์ในอดีต คนผู้นั้นแผ่ขยายความเกลียดชัง เช่นเดียวกับผู้ที่มาก่อนเขาเป็นเวลากว่า 19 ศตวรรษมาแล้ว รู้จักกันในนามของ โป๊ป จอห์น ปอล ที่ 2 เขาได้สัญญาว่า เมื่อเวลานั้นมาถึง เขาจะได้โอกาสฆ่าโป๊ป



วันที่ 23 ธันวาคม 1983 อีก 2 วัน ก่อนจะถึงวันคริสต์มาสโป๊ปพร้อมที่จะไปพบกับเมห์เมท อาลี อัคกา ที่เรือนจำเรบิบเบียในกรุงโรม การพบกันครั้งนี้ เป็นพระประสงค์ของโป๊ปเอง เพื่อแสดงการให้อภัย และประการสำคัญ ท่านยังต้องการที่จะรู้ว่ามอสสาดพูดนั้นจริงแค่ไหนอีกด้วย ท่านได้รับรู้ผ่านทางพระคาร์ดินาล พ็อคกี้ ซึ่งได้รับการบอกเล่าจากอีลี่ ที่ถูกส่งมาเพื่อติดต่อกับวาติกันผ่านทาง พ็อคกี้

โป๊ปใช้เวลารอที่จะเข้าพบกับอัคกาที่เรบิบเบีย อยู่ 2 ชั่วโมง มีพวกสื่อข่าวจำนวนมากมาคอยทำข่าวการพบกับนักโทษผู้ประสงค์จะฆ่าพระองค์ท่าน

เมื่อคนทั้ง 2 มาประจันหน้ากันบรรยากาศของความเป็นศัตรูหมดไปสิ้น โป๊ปได้ยื่นพระหัต์ที่สวมแหวนมาให้อัคกาจับ เขาได้จับพระหัต์โป๊ปมาแนบที่หน้าผากของเขาแล้วโป๊ปได้ทรงเอ่ยขึ้นก่อนถึงเรื่องที่ใครเป็นผ็ส่งเขามาฆ่าท่านทั้งคู่คุยกันด้วยภาษาอิตาเลี่ยน ซึ่งอัคกาได้เรียนรู้ในคุกนั่นเอง



โป๊ปทรงประทับบนเก้าอี้ ซึ้งตั้งอยู่ตรงหน้าประตูห้องขัง พระองค์ต้องก้มพระวรกายลงฟังการพูดด้วยเสียงที่ทุ้มต่ำของอัคกานอกจากโป๊ปแล้ว คนอื่นไม่อาจได้ยินการสนทนานี้เลย อัคกาได้พูดอยู่ข้างพระกรรณของโป๊ป ชั่วครู่หนึ่ง เมื่อจบการสนทนา โป๊ปได้จับมือของอัคกาบีบเบาๆ เหมือนจะกล่าวคำขอบคุณที่ได้เล่าเรื่องทั้งหลายให้ทรงทราบ

คนทั้ง 2 มองตากันอยู่ชั่วครู่หนึ่งก่อนที่พระองค์จะทรงหยิบกล่องจากกระเป๋าออกมาส่งให้กับอัคกา แต่เขาไม่ยอมรับของขวัญนั้นและคืนสู่พระหัต์ของโป๊ป ในเวลาต่อมา ทางโฆษกของกรุงวาติกันได้แถลงว่า

“อาลี อัคกา นั้นรู้แต่เพียงคนระดับหนึ่งเท่านั้น คนที่อยู่สูงกว่าระดับนั้นเขาไม่รู้จักเลย ถ้านี่คือการวางแผนโดยมืออาชีพแล้ว มืออาชีพจะไม่ทิ้งร่องรอยอะไรไว้ เราจึงไม่อาจรู้ได้เลย”

จากการวิเคราะห์ของมอสสาดนั้น ทัศนคติที่มีต่อมอสสาดและอิสราเอลของโป๊ปได้เปลี่ยนไปหลังจากที่พระองค์ท่านได้รับการบอกเล่าของพ็อคกี้ ซึ่งได้ถ่ายทอดมาจากเอลี่ สายลับของมอสสาดอีกต่อหนึ่ง ขณะที่ยังไม่มีการเคลื่อนไหวที่จะเชิญมอสสาดเข้าไปให้ความรู้กับโป๊ปเพื่อเข้าใจโลกในปัจจุบันมากขึ้น โป๊ปก็ได้แสดงความเชื่อมั่นในคุณค่าของการสนทนาระหว่างพ็อคกี้และเอลี่ เป็นอันมาก โดยจะเห็นจากการที่คนทั้ง 2 นัดพบกันอยู่เสมอ บางทีก็ในเมืองใดเมืองหนึ่งของยุโรบ หรือบางทีก็เป็นสถานทูตอิสราเอลหรือไม่ก็ที่สถานทูตของวาติกันเองส่วนมากของการพูดคุยกันจะเป็นสถานการณ์ของตะวันออกกลางและการมาเยือนเยรูซาเล็มของโป๊ป พ็อคกี้ได้อธิบายให้เอลี่ฟังว่า ไม่มีปัญหาอะไรที่จอห์น ปอล จะเรื่มมีความสัมพันธ์ทางการทูตกับอิสราเอล

และในเดือนธันวาคม 1993 จึงได้เห็นความสัมพันธ์นี้เกิดขึ้น แต่ขณะนั้นแอดโมนีไม่ได้อยู่ในตำแหน่งอีกต่อไปแล้ว ผู้ที่มาแทนชื่อ แชบไท ชาวิท ผู้ที่พยายามจะทำให้มอสสาดใกล้ชิดกับวาติกันมากขึ้น

ต่วน’ตูน พิเศษ

จรุง  ผาสุวรรณ.  ต่วยตูนพิเศษ  ปีที่ 34 ฉบับที่ 400 เดือนมิถุนายน 2551  หน้าที่  52 – 56.  กรุงเทพฯ:  บริษัท  พี.วาทินพรินติ้ง  จำกัด,  2551.

ถ้ามีอาจารย์สอนศาสนาแบบผิดๆแบบนี้ทำให้เกิดความวุ่นวายในโลกเยอะเรยนะคัฟ

ขอบคุณค่ะ

รักโป๊ปยิ่งชีพ!!!!!

ขอบคุณค่ะ คุณ Holy 

เป็นโป๊ปสุดที่รักในดวงใจ 

ขอบพระคุณที่นำมาลงให้อ่านนะครับ เหตุการณ์นี้สอนให้รู้ว่า...เป็นฝืมือพวกต่อต้านศาสนาเป็นได้ นี่เป็นการสันนิษฐานเพียงเท่านั้น

เรา (orthodox) ไม่เกี่ยวนะค่ะ  : emo102 :  ลำพัง orthodox ตอนอยู่ภายใต้ รัฐบาล คอมมิวนิวสต์ ก็โดนล้างเผ่าพันธ์อยู่แล้ว ตอนนี้ โปแลนด์ ก็กลายเป็น EU เต็มตัวแล้ว แต่ตอนนี้ เราอยาก ได้กรุงเก่า เรากลับคืนมา กรุง คอนสแตนติเนเปิล เสียดายเป็นเวลานาน ที่โดนข่มเหง แต่ชาวคริสต์ไม่เคยสู้เลย จริงๆนะ

....ลากพวกโอตาคุหรือพวกแอนตี้คริสต์บางจำพวกมาอ่านบทความนี้บ้างดีไหมนะ แบบให้ท่องเลย

ลืมไป คงไม่สำเร็จหรอก พวกไม่เห็นโลงศพหลั่งน้ำตาไม่เป็น

jacky เขียน: เรา (orthodox) ไม่เกี่ยวนะค่ะ    ลำพัง orthodox ตอนอยู่ภายใต้ รัฐบาล คอมมิวนิวสต์ ก็โดนล้างเผ่าพันธ์อยู่แล้ว ตอนนี้ โปแลนด์ ก็กลายเป็น EU เต็มตัวแล้ว แต่ตอนนี้ เราอยาก ได้กรุงเก่า เรากลับคืนมา กรุง คอนสแตนติเนเปิล เสียดายเป็นเวลานาน ที่โดนข่มเหง แต่ชาวคริสต์ไม่เคยสู้เลย จริงๆนะ

จริง ๆ ถ้าสู้ได้บ้างก็คงดี หากพระเยซูเจ้าไม่ห้ามไว้ล่ะก็นะ

นิกายของคริสต์ศาสนา (ภาษาอังกฤษ: Christian denomination) คือการแบ่งสาขาของคริสต์ศาสนาตามแนวปรัชญาและหลักการปฏิบัติ ในแต่ละกลุ่มก็แบ่งย่อยเป็นลัทธิ รายการข้างล่างนี้เป็นเพียงส่วนน้อยเท่านั้น

นิกายโรมันคาทอลิก (Roman Catholic Church; Roman Catholic religious order)

ลัทธิเบ็นนาดิคติน (Benedictine)

ลัทธิฟรานซิสกัน (Franciscan)

ลัทธิออกัสติเนียน (Augustinians)

ลัทธิโดมินิกัน (Dominican Order)

ลัทธิคาร์เมไลท์ (Carmelites)

ลัทธิคาร์ธูเซียน (Carthusian)

ลัทธิซิสเตอร์เชียน (Cistercian Order)

ลัทธิเยซูอิด (Jesuits หรือ Society of Jesus)

ลัทธิเซนต์จอห์นแห่งเยรุซาเล็ม (Knights Hospitaller หรือ Order of St. John of Jerusalem และอื่นๆ)

นิกายอีสเติร์นออร์โธด็อกซ์ (Eastern Orthodox Church)

นิกายรัสเซียออร์โธด็อกซ์ (Russian Orthodox Church)

นิกายกรีกออร์โธด็อกซ์ (Greek Orthodox Church)

นิกายโอเรียนทัลออร์โธด็อกซ์ (Greek Orthodox Church)

นิกายคอปติกออร์โธด็อกซ์ (Coptic Orthodox Church)

นิกายอังกลิคัน (Anglican) หรือ the English Church

นิกายเชิร์ชออฟอิงแลนด์ (Church of England)

นิกายเชิร์ชออฟไอร์แลนด์ (Church of Ireland)

นิกายเชิร์ชออฟสกอตแลนด์ (Church of Scotland)

นิกายโปรเตสแตนต์ (Protestant) นิกายย่อยที่จัดอยู่ในกลุ่มนี้ก็ได้แก่

นิกายแอนาแบ็พทิสต์ (Anabaptist)

นิกายแบ็พทิสต์ (Baptist)

นิกายเมธอดิสต์ (Methodist)

นิกายเพรสไบทีเรียน (Presbyterian)

กลุ่มคริสต์ศาสนปฏิรูป (Reformed churches)

ลัทธิคริสต์ศาสนปฏิรูปสวิสเซอร์แลนด์ (Restored Reformed Church)

ลัทธิคริสต์ศาสนปฏิรูปสหพันธ์เยอรมนี (Reformed Alliance in Germany)

ลัทธิคริสต์ศาสนปฏิรูปเนเธอร์แลนด์ (Netherlands Reformed Churches)

ลัทธิคริสต์ศาสนปฏิรูปฟื้นฟู (Restored Reformed Church)

นิกายยูนิทาเรียน (Unitarian)

นิกายทรูจีซัส (True Jesus Church)

ข้อสังเกต: รายนามนิกายหรือลัทธิในบทความนี้เป็นรายการที่ไม่สมบูรณ์แต่เป็นรายนามที่สร้างขึ้นเพื่อช่วยวางพื้นฐานกว้างถึงความสัมพันธ์ของนิกายหรือลัทธิหลักๆ ที่เป็นที่รู้จักกันทั่วไป ประมาณกันว่านิกายหรือลัทธิในคริสต์ศาสนามีด้วยกันกว่า 38,000 นิกาย[1] นิกายหลายนิกายไม่สามารถพิสูจน์ได้ว่ามีความสำคัญว่าเป็นนิกายที่เป็นเอกลักษณ์ รายนามบนหน้านี้เป็นรายนามที่มีบทความในวิกิประกอบ (ในวิกิภาษาอังกฤษและอื่นๆ) เพื่อเป็นการพิสูจน์ว่าเป็นนิกายที่มีความสำคัญพอที่จะกล่าวถึง
ข้อสังเกต: ระหว่างนิกายหรือลัทธิต่างๆ, คริสต์ศาสนศาสตร์, และศาสนาเปรียบเทียบก็ยังเป็นข้อถกเถียงกันกันว่ากลุ่มไหนที่ควรจะถือว่าเป็นกลุ่มคริสเตียนที่แท้จริง โดยเฉพาะความแตกต่างทางปรัชญาระหว่างแต่ละกลุ่ม ความเข้าใจของแต่ละกลุ่มจึงขึ้นอยู่กับข้อเขียนเกี่ยวกับนิกายหรือลัทธิแต่ละนิกายที่ปรากฏในวิกิ

จากวิกิพีเดีย

ทำไมถึงมีมากมายเป็นที่น่าสงสัยยิ่งนัก ? ข้อแรก คิดว่าเกิดจากการเคารพ นับถือในตัวนักบุญ เลื่อมใส นั่นเอง ฉันชอบนักบุญเปโตร เธอชอบนักบุญเปาโลเหรอ? แล้วเกิดการรวมกลุ่มกัน จนแตกสาขาออกมา
ข้อที่สอง พระเยซู ทรงรู้ว่า อนาคตจะเกิดเหตุการณ์เช่นนี้ขึ้นมา จึงได้กล่าวถึงเอาไว้ล่วงหน้า  ข้อที่สาม (เป็นความเห็นของผมเอง) เรามีพระเยซูเป็นพระผูช่วยองค์เดียวกัน แท้ๆ ควรจะยึดมั่น ไม่ควรแยกฝ่ายว่า
ลัทธิอะไรมากกว่านะ จะเลื่อมใสนักบุญคนใดก็ได้ เหมือนกันหมดไม่ใช่เหรอ? เพราะนักบุญทุกคนก็เลื่อมใส กล่าวถึงพระองค์กันหมด นี่นา

ไม่น่า เรียก คณะย่ิอย ของ พี่น้อง โรมัน ว่า ลัทธิเลยนะค่ะ เรียกว่า คณะ จะดีกว่า 

คนเขียนวิกินี่น่าจะเข้าใจผิดไปแล้ว

คณะนักบวชของคาทอลิคไม่ได้แยกเป็นนิกายย่อยนะครับ ที่สำคัญยังขึ้นกับพระสันตะปาปาตามปรกติ แค่มีแนวทางพิเศษตามจิตตารมณ์ของนักบุญบางท่านที่น่าเลื่มอใสเป็นพิเศษ ที่สำคัญ เราเรียกคณะไม่ใช่ลัทธิ และจำนวนคณะมีมากกว่านี้มาก แค่คณะนักบวชหญิงก็มีเป็นร้อยแล้ว แต่ทั้งหมดเป็นหนึ่งเดียวในพระศาสนจักรเดียวกันครับ

Holy เขียน: คนเขียนวิกินี่น่าจะเข้าใจผิดไปแล้ว

คณะนักบวชของคาทอลิคไม่ได้แยกเป็นนิกายย่อยนะครับ ที่สำคัญยังขึ้นกับพระสันตะปาปาตามปรกติ แค่มีแนวทางพิเศษตามจิตตารมณ์ของนักบุญบางท่านที่น่าเลื่มอใสเป็นพิเศษ ที่สำคัญ เราเรียกคณะไม่ใช่ลัทธิ และจำนวนคณะมีมากกว่านี้มาก แค่คณะนักบวชหญิงก็มีเป็นร้อยแล้ว แต่ทั้งหมดเป็นหนึ่งเดียวในพระศาสนจักรเดียวกันครับ

ช่วยแก้ด้วยฮะ

กันคนที่เข้าไปอ่านเข้าใจผิด

Holy เขียน: คนเขียนวิกินี่น่าจะเข้าใจผิดไปแล้ว

คณะนักบวชของคาทอลิคไม่ได้แยกเป็นนิกายย่อยนะครับ ที่สำคัญยังขึ้นกับพระสันตะปาปาตามปรกติ แค่มีแนวทางพิเศษตามจิตตารมณ์ของนักบุญบางท่านที่น่าเลื่มอใสเป็นพิเศษ ที่สำคัญ เราเรียกคณะไม่ใช่ลัทธิ และจำนวนคณะมีมากกว่านี้มาก แค่คณะนักบวชหญิงก็มีเป็นร้อยแล้ว แต่ทั้งหมดเป็นหนึ่งเดียวในพระศาสนจักรเดียวกันครับ

เป็น1ใน3มุขในนักบวช

"สิ่งที่พระจิตเจ้าไม่รู้"
1.ไม่รู้ว่านักบวชมีกี่คณะกันแน่= =
  ทั้งจารีตลาติน,โรมัน,แองลิกัน,ตะวันออก ไหนจะพวกที่ถือกันส่วนตัวอีก
2.ไม่รู้ว่าคณะซาเลเซียนไปหาเงินมาจากไหน
(ใครเข้าใจมุขนี้ตอบด้วยครับ = = ได้ยินจากพระคุณเจ้าพระคาร์ดินัล ตอนไปเทศน์วันที่13ม.ค.ปีนู้น)
3.ไม่รู้ว่าคณะเยซูอิตทำอะไรบ้าง เพราะเยอะเหลือเกิน

เพิ่มอีกมุข "สิ่งที่คณะเยซูอิตทำไม่ได้"=เปลี่ยนบทเสกศีลมหาสนิท

ต้องขอโทษเป็นอย่างมาก เขียนผิดนะครับผม "คณะ" แก้ไขแล้วครับ แต่อยากรู้ว่าแต่ละคนในนี้ " มีคณะ "ไหนบ้างไหนครับ และ มารักกันดีกว่านะ
วิกิพีเดีย เองข้อมูลก็ใช่จะ " ถูก " มีการเปลี่ยนข้อมูลหลากหลาย กลั่นแกล้งก็มีเช่นกัน ให้ข้อมูลผิดๆบ้าง (ใครเข้าไปเขียนก็ได้นี่น่า)
แต่ศาสนาคริสต นี่ข้อมูลเยอะจริงๆครับ ไล่อ่านศึกษา ไม่ทันสักที 

syaoran เขียน: ต้องขอโทษเป็นอย่างมาก เขียนผิดนะครับผม "คณะ" แก้ไขแล้วครับ แต่อยากรู้ว่าแต่ละคนในนี้ " มีคณะ "ไหนบ้างไหนครับ และ มารักกันดีกว่านะ
วิกิพีเดีย เองข้อมูลก็ใช่จะ " ถูก " มีการเปลี่ยนข้อมูลหลากหลาย กลั่นแกล้งก็มีเช่นกัน ให้ข้อมูลผิดๆบ้าง (ใครเข้าไปเขียนก็ได้นี่น่า)
แต่ศาสนาคริสต นี่ข้อมูลเยอะจริงๆครับ ไล่อ่านศึกษา ไม่ทันสักที 

หนังสือบางเล่ม อายุเป็นพันๆ ปี คนแต่งใช้เวลาแต่งเป็น 10 ปี เราคงไม่สามารถทำความเข้าใจได้ภายใน 1 เดือนเป็นแน่แท้
พระศาสนจักรทั้งคาทอลิก และออร์โธดอกซ์ อายุนับรวมกันแล้ว 2000 กว่าปี
แต่ละภาคส่วนแต่งหนังสือไว้นับร้อยเล่มต่อปี
คงไม่อาจสามารถเข้าใจทั้งหมดได้ภายในวันเดียว หรือ ปีเดียวครับ

Grey Cat =^. .^= เขียน:

Holy เขียน: คนเขียนวิกินี่น่าจะเข้าใจผิดไปแล้ว

คณะนักบวชของคาทอลิคไม่ได้แยกเป็นนิกายย่อยนะครับ ที่สำคัญยังขึ้นกับพระสันตะปาปาตามปรกติ แค่มีแนวทางพิเศษตามจิตตารมณ์ของนักบุญบางท่านที่น่าเลื่มอใสเป็นพิเศษ ที่สำคัญ เราเรียกคณะไม่ใช่ลัทธิ และจำนวนคณะมีมากกว่านี้มาก แค่คณะนักบวชหญิงก็มีเป็นร้อยแล้ว แต่ทั้งหมดเป็นหนึ่งเดียวในพระศาสนจักรเดียวกันครับ

เป็น1ใน3มุขในนักบวช

"สิ่งที่พระจิตเจ้าไม่รู้"
1.ไม่รู้ว่านักบวชมีกี่คณะกันแน่= =
  ทั้งจารีตลาติน,โรมัน,แองลิกัน,ตะวันออก ไหนจะพวกที่ถือกันส่วนตัวอีก
2.ไม่รู้ว่าคณะซาเลเซียนไปหาเงินมาจากไหน
(ใครเข้าใจมุขนี้ตอบด้วยครับ = = ได้ยินจากพระคุณเจ้าพระคาร์ดินัล ตอนไปเทศน์วันที่13ม.ค.ปีนู้น)
3.ไม่รู้ว่าคณะเยซูอิตทำอะไรบ้าง เพราะเยอะเหลือเกิน

เพิ่มอีกมุข "สิ่งที่คณะเยซูอิตทำไม่ได้"=เปลี่ยนบทเสกศีลมหาสนิท

เขาบอกว่าสิ่งที่โป๊ปไม่รู้ไม่ใช่พระจิตไม่รู้นะพี่

เลย์ไม่ชอบคำว่า " ลัทธิ" 

ขอบคุณ ครับ

สิ่งที่พระสันตะปาปาเองก็ยังไม่รู้ในคาทอลิกมี3อย่าง

1คุณนักบวชหญิงมีจำนวนเท่าไหร่
2ทรัพย์สินของฟรังซิสกันมีเท่าไหน
3เยซูอิตคิดอะไร

Holy เขียน: สิ่งที่พระสันตะปาปาเองก็ยังไม่รู้ในคาทอลิกมี3อย่าง

1คุณนักบวชหญิงมีจำนวนเท่าไหร่
2ทรัพย์สินของฟรังซิสกันมีเท่าไหน
3เยซูอิตคิดอะไร

สนับสนุน

เพราะผมก็รู้มาอย่างนี้

[bมือยิงโป๊ปจอห์น ปอลท่ี 2 พ้นคุกแล้ว[/b]

มือปืนที่ก่อเหตุพยายามลอบปลงพระชนม์  สมเด็จพระสันตะปาปา จอห์น ปอล ท่ี 2 พ้นคุก แล้ว พร้อมเตรียมเปิดใจ ถึงสาเหตุที่ลงมือปฎิบัติการช็อคโลก ในครั้งนี้ด้วย ...

นายเมห์เมต อาลี อักกา ชาวตุรกีวัย 52 ปี นักโทษคดีพยายามลอบปลงพระชนม์สมเด็จพระสันตะปาปา จอห์น ปอล ท่ี 2 อดีตประมุขคริสตจักรนิกายโรมันคาทอลิกเมื่อเกือบ 30 ปีก่อน  ถูกปล่อยตัวจากเรือนจำท่ีชานกรุงอังการา เมืองหลวงของตุรกีแล้วเมื่อ 18 ม.ค. โดยเจ้าหน้าท่ีนำตัวเขาขึ้นรถยนต์ไปยังค่ายทหารเพื่อตรวจเช็คสภาพร่างกายและจิตใจ ก่อนจะตัดสินว่าเขามีความผิดในข้อหาหนีทหารด้วยหรือไม่

นายอักกาซึ่งขณะนั้นมีวัย 23 ปีและเป็นสมาชิกกลุ่มขวาจัด

sinner เขียน: ขอบคุณค่ะ คุณ Holy 

เป็นโป๊ปสุดที่รักในดวงใจ 

เช่นกัน

ผมขอภาวนาว่า...

จะมีเหตุการณ์ช็อกโลก(ด้วยความปิติยินดี)

ว่านายเมห์เมต อาลี อักกา สนใจเข้ารับการเรียนคำสอนเพื่อรับศีลล้างบาปเป็นคริสตชน

Grey Cat =^. .^= เขียน: ว่านายเมห์เมต อาลี อักกา สนใจเข้ารับการเรียนคำสอนเพื่อรับศีลล้างบาปเป็นคริสตชน

ไม่เป็นจริงซะแล้วล่ะแมวน้อย

มันกลายเป็นพวกแดนน้ำตาลไปซะแล้ว

Holy เขียน: สิ่งที่พระสันตะปาปาเองก็ยังไม่รู้ในคาทอลิกมี3อย่าง

1คุณนักบวชหญิงมีจำนวนเท่าไหร่
2ทรัพย์สินของฟรังซิสกันมีเท่าไหน
3เยซูอิตคิดอะไร

ข้อแรกไม่แปลกใจอ่ะคับ-*- แต่2ข้อหลังนี่-*- หมายความว่าไงอ่ะคับ

ขอบคุรที่แบ่งปันครับ