-------การเวียนว่ายตายเกิด-------

ใครมาใหม่เชิญทางนี้ก่อน ทักทาย ทดลองโพส
ภาพประจำตัวสมาชิก
Valkyrie Zero Number
โพสต์: 2081
ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ส.ค. 27, 2007 4:11 am

ศุกร์ ก.พ. 12, 2010 8:19 pm

บางครั้งขณะมรสุมชีวิต หรือช่วงจุดตัน หรือแม้แต่ความอิ่มตัวทางศรัทธา หลังจากได้พบแต่ความจริงที่เจ็บปวดและโหดร้าย

แน่นอนแม้ตอนนี้ เราก็ยังเชื่อว่าการเวียนว่ายตายเกิดไม่มีอยู่จริง ชีวิตคนเราเกิดครั้งเดียวตายครั้งเดียว
(และแน่นอนว่า สำหรับบางกรณี ก็เป็นเรื่องที่เจ็บปวด ในหลาย ๆ ความหมาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งจากคนที่เคยปักใจเชื่อว่ามันมีอยู่)

ไม่ใช่ว่าเราไม่เข้าใจว่าการแบกกางเขนตามเจ้านายเรามันลำบาก

แต่เราก็มีหัวใจนะ ไม่ว่าใครจะพูดยังไง เราก็มีสิทธิ์ที่จะคิดจะพูดจะแสดงออกอย่างเอาแต่ใจ เช่นเดียวกับที่คนอื่นสามารถเอาแต่ใจได้

หลายครั้งที่อดคิดไม่ได้ว่า จะมีความสุขกว่าไหมนะ หากเราไม่ได้คิดเข้ามาเป็นคริสเตียนอย่างจริงจัง และหลงยึดติดไปกับการหลอกลวงที่ว่ามีการเวียนว่ายตายเกิดเป็นวัฐจักรอยู่จริง ๆ

แต่แน่นอนว่ามันคงถอยกลับไม่ได้ อย่างน้อยก็ตรงนี้ เพราะถึงจินตนาการไป ความจริงก็ยังเป็นความจริงของมัน

ถึงจะพยายามดื้อรั้นหันกลับไปเชื่อให้ได้ว่าเรายังมีชาติหน้า

แต่ในเมื่อพระเจ้าบอกว่ามันไม่มี มันก็ต้องไม่มี

...........แต่ว่า ถ้ามีมันจะยุติธรรมกว่าไหมนะ ในบางครั้ง

นี่ชั้นพูดอะไรเนี่ย
ทานตะวัน
โพสต์: 162
ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ก.ค. 27, 2009 7:44 pm

ศุกร์ ก.พ. 12, 2010 8:55 pm

Valkyrie_chan เขียน:
หลายครั้งที่อดคิดไม่ได้ว่า จะมีความสุขกว่าไหมนะ หากเราไม่ได้คิดเข้ามาเป็นคริสเตียนอย่างจริงจัง และหลงยึดติดไปกับการหลอกลวงที่ว่ามีการเวียนว่ายตายเกิดเป็นวัฐจักรอยู่จริง ๆ
อะแฮ่ม... อะแฮ่ม... เชื่ออย่างไรก็ได้ แต่อย่าพาดพิงความเชื่อคนอื่นว่าเป็นเรื่องหลอกลวงนะครับ
ภาพประจำตัวสมาชิก
Immanuel (MichaelPaul)
~@
โพสต์: 2887
ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ม.ค. 17, 2005 8:49 pm
ที่อยู่: กรุงเทพมหานคร

ศุกร์ ก.พ. 12, 2010 8:58 pm

สำหรับผม (ย้ำว่าสำหรับผม) ผมว่าการเวียนว่ายตายเกิดมันไม่ยุติธรรม เช่น ในกรณีที่เราทำอะไรในชีวิตนี้แล้วต้องไปชดใช้ชีวิตหน้า ซึ่งแม้จะบอกว่าเป็นวิญญาณเดียวกัน แต่ ชีวิตหน้าก็ไม่รู้ว่าชีวิตในอดีตไปทำอะไรไว้ แต่กลับต้องมาผจญความเลวร้าย
ทานตะวัน
โพสต์: 162
ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ก.ค. 27, 2009 7:44 pm

ศุกร์ ก.พ. 12, 2010 9:04 pm

Immanuel (MichaelPaul) เขียน: สำหรับผม (ย้ำว่าสำหรับผม) ผมว่าการเวียนว่ายตายเกิดมันไม่ยุติธรรม เช่น ในกรณีที่เราทำอะไรในชีวิตนี้แล้วต้องไปชดใช้ชีวิตหน้า ซึ่งแม้จะบอกว่าเป็นวิญญาณเดียวกัน แต่ ชีวิตหน้าก็ไม่รู้ว่าชีวิตในอดีตไปทำอะไรไว้ แต่กลับต้องมาผจญความเลวร้าย
เวียนว่ายตายเกิดรวม คน สัตว์ เทวดา เปรต นะครับ... ในความคิดเห็นส่วนตัวของผม ย้ำ ส่วนตัว การเชื่อในการเวียนว่ายตายเกิดทำให้เราอดทนต่อเรื่องร้าย ๆ ได้และหยุดทำเรื่องไม่ดี ชาติหน้าจะได้ไปเกิดดี

อย่างไรก็ดีจะเกิดชาติหน้าหรือไม่ ยังไงหากทำดีเสียก็จะได้ไปสวรรค์อยู่แล้วไม่ว่าคริสต์หรือพุทธ  : xemo026 :
ภาพประจำตัวสมาชิก
Valkyrie Zero Number
โพสต์: 2081
ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ส.ค. 27, 2007 4:11 am

ศุกร์ ก.พ. 12, 2010 9:13 pm

ทานตะวัน เขียน:
Valkyrie_chan เขียน:
หลายครั้งที่อดคิดไม่ได้ว่า จะมีความสุขกว่าไหมนะ หากเราไม่ได้คิดเข้ามาเป็นคริสเตียนอย่างจริงจัง และหลงยึดติดไปกับการหลอกลวงที่ว่ามีการเวียนว่ายตายเกิดเป็นวัฐจักรอยู่จริง ๆ
อะแฮ่ม... อะแฮ่ม... เชื่ออย่างไรก็ได้ แต่อย่าพาดพิงความเชื่อคนอื่นว่าเป็นเรื่องหลอกลวงนะครับ
Oh sorry.

......มาคิดดี ๆ บางทีเราอาจจะก้ำกึ่งอยู่ระหว่างความเชื่อสองแบบก็ได้ เพราะเดิมเคยคิดว่ามันมี แต่พอเข้ามาอยู่ในความเชื่อที่ว่ามีชีวิตเดียว มันก็เลยมีผลกระทบแบบ Peak อยู่บ้างนิดหน่อย กับเรื่องบางกรณีในชีวิตน่ะ (เช่นเรื่องที่คิดไว้ว่า จะได้พบกับคนบางคนอีกครั้ง หลังจากที่ไม่มีวันได้พบกันอีก)
Immanuel (MichaelPaul) เขียน: สำหรับผม (ย้ำว่าสำหรับผม) ผมว่าการเวียนว่ายตายเกิดมันไม่ยุติธรรม เช่น ในกรณีที่เราทำอะไรในชีวิตนี้แล้วต้องไปชดใช้ชีวิตหน้า ซึ่งแม้จะบอกว่าเป็นวิญญาณเดียวกัน แต่ ชีวิตหน้าก็ไม่รู้ว่าชีวิตในอดีตไปทำอะไรไว้ แต่กลับต้องมาผจญความเลวร้าย
นั่นสินะ เราเองก็ลืมไปว่า แม้ตอนที่ยังเชื่อว่ามี เราก็ยังปฏิเสธมาตลอดกับแนวคิดเรื่องกรรมเก่า

เพราะเราไม่เคยเห็นด้วยว่า การที่เด็กน้อยคนนึง หรือใครบางคนที่ไม่ได้ทำอะไรผิดต้องมาตาย แล้วอ้างข้าง ๆ คู ๆ แค่ว่าชาติก่อนไปทำอะไรไว้

ไม่รู้สิ มารู้ตัวอีกที เราก็ Sensitive เรื่องนี้เป็นพิเศษเข้าซะแล้ว
ทานตะวัน
โพสต์: 162
ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ก.ค. 27, 2009 7:44 pm

ศุกร์ ก.พ. 12, 2010 9:29 pm

Valkyrie_chan เขียน:
เพราะเราไม่เคยเห็นด้วยว่า การที่เด็กน้อยคนนึง หรือใครบางคนที่ไม่ได้ทำอะไรผิดต้องมาตาย แล้วอ้างข้าง ๆ คู ๆ แค่ว่าชาติก่อนไปทำอะไรไว้

ไม่รู้สิ มารู้ตัวอีกที เราก็ Sensitive เรื่องนี้เป็นพิเศษเข้าซะแล้ว
เด็กต้องมาตายเพราะกรรมที่ตนเองทำไว้ครับ ไม่งั้นคนที่ทำแท้งจะรับโทษยังง้าย...  ::043:: (อันนี้ตามหลักพุทธนะ)

ขออนุญาตตอบแบบไม่ถนอมน้ำใจนะครับ อันนี้เป็นความเห็นส่วนตัว การที่ต้องตกนรกตลอดกาลนั้นดูจะไม่ยุติธรรมเสียเท่าไหร่ เพราะสมมุติทั้งชีวิตทำบาปไว้ ยังไงเสียก็ไม่ควรตกนรกตลอดกาล น่าจะมีโอกาสได้เกิดมาเป็นมนุษย์อีกหลังจากใช้กรรมในนรกหมดแล้ว อ่ะนะ

ต่างคนต่างเชื่อ

สงวนจุดต่างดีกว่า  ::042::
ภาพประจำตัวสมาชิก
Jeanne d'Arc
โพสต์: 235
ลงทะเบียนเมื่อ: อังคาร พ.ค. 12, 2009 12:33 pm

ศุกร์ ก.พ. 12, 2010 9:40 pm

ผมจะไม่บอกหรอกครับ ว่าเกิดใหม่ยุติธรรม หรือ เกิดครั้งเดียวตายครั้งเดียวยุติธรรม

แต่ผมจะบอกว่า พระเจ้าทรงเป็นความยุติธรรม ครับและทรงเป็นอัลฟ่าและโอเมก้าด้วย
ภาพประจำตัวสมาชิก
sohee1989
โพสต์: 44
ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ก.พ. 08, 2010 1:09 pm

ศุกร์ ก.พ. 12, 2010 9:58 pm

ชาติ(และกรรม)แรกของทุกสิ่งในเอกภาพทั้งมวลคืออะไร
ภาพประจำตัวสมาชิก
Holy
Defender of lawS
Defender of lawS
โพสต์: 10011
ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ม.ค. 17, 2005 3:06 pm

ศุกร์ ก.พ. 12, 2010 10:01 pm

อดีตจะเป็นอย่างไรก็ตาม สำคัญที่เราต้องทำวันนี้เวลานี้ให้ดี การคาดหวังลมๆแล้งๆกับอนาคตข้างหน้าที่อาจไม่เป็นไปอย่างที่คาดแบบนั้น

โลกนี้นั้นไม่มีความยุติธรรมหรอก มันโดนสาปมาตั้งแต่มนุษย์ทำบาป เราต้องพ้นจากโลกนี้เท่านั้นจึงพบความยุติธรรมแท้ได้ จะมาเกิดซ้ำซากในโลกที่อยุติธรรมทำไม แน่ใจหรือว่าการมาเกิดใหม่แบบลืมหมดทุกอย่าง จะไม่ทำผิดซ้ำซากแบบเดิมๆ การเกิดใหม่แบบที่ไม่สามารถเลือกเกิดได้ดั่งใจทุกอย่าง แน่ใจได้อย่างไรว่าเกิดรอบใหม่จะเกิดอาการ ไม่พอใจ ขึ้นมาอีก

ทำเวลานี้ให้ดีที่สุด แล้วตั้งความหวังกับชีวิตใหม่ที่พ้นจากโลกนี้เท่านั้นคือคำตอบสำหรับผู้แสวงหาความเที่ยงธรรม

ไม่มีใครเป็นผู้ทรงความดี นอกจากพระบิดาเจ้าสวรรค์ แล้วโลกของคนบาปจะตอบสนองการกระหายความยุติธรรมได้อย่างไร

ปัญญาจารย์  1

1ถ้อยคำของปัญญาจารย์   ผู้เป็นเชื้อสายของดาวิด  กษัตริย์ในเยรูซาเล็ม  
2ปัญญาจารย์กล่าวว่า  
อนิจจัง  อนิจจัง  
อนิจจัง  อนิจจัง  สารพัดอนิจจัง  

3ที่มนุษย์ทำงานตรากตรำกลางแดด  
เขาได้ประโยชน์อะไรจากงาน
ที่เขาทำนั้น  
4ชาติพันธุ์หนึ่งล่วงไป  และอีก  
ชาติพันธุ์หนึ่งก็มา  
แต่แผ่นดินโลกคงเดิมอยู่เป็นนิตย์  
5ดวงอาทิตย์ขึ้น  และดวงอาทิตย์ตก  
แล้วรีบไปถึงที่ซึ่งขึ้นมานั้น  
6ลมพัดไปทางใต้  
แล้วเวียนกลับไปทางเหนือ  
ลมพัดเวียนไปเวียนมา  
แล้วลมพัดกลับตามทางเวียนของมัน  
7แม่น้ำทั้งหลายไหลไปสู่ทะเล  
แต่ทะเลก็ไม่เต็ม  
แม่น้ำไหลไปสู่ที่ใด  
ก็ไหลไปสู่ที่นั่นอีก  
8สารพัดเหนื่อยกันหมด  
คนใดๆก็พูดไม่ออก  
 นัยน์ตาก็ดูไม่อิ่ม  
หรือหูก็ฟังไม่เต็ม
 
9สิ่งที่เป็นขึ้นแล้ว   คือสิ่งที่จะเป็นขึ้นอีก  
สิ่งที่ทำกันแล้ว   คือสิ่งที่จะต้องทำ
กันอีก  
และไม่มีสิ่งใดใหม่ภายใต้ดวงอาทิตย์  

10มีสักสิ่งหนึ่งหรือที่เขาจะพูดได้ว่า  
“ดูซี  สิ่งนี้ใหม่”  
สิ่งนั้นมีอยู่แล้ว  
ในสมัยก่อนเราทั้งหลาย  
11ไม่มีการจดจำถึงสมัยก่อน  
 และไม่มีการจดจำ  
สิ่งหลังๆที่จะเกิดมา  
Isolation
โพสต์: 1042
ลงทะเบียนเมื่อ: เสาร์ มี.ค. 22, 2008 11:37 am
ที่อยู่: Ether23@hotmail.com

ศุกร์ ก.พ. 12, 2010 10:10 pm

ผมว่านะ การเวียนวายตายเกิดมันขึ้นอยู่กับ เราเอง
การยึดมั่นถือมั่นในสิ่งที่เรารักที่เราห่วง
มันจะไม่จบไม่สิ้น ฉะนั้นเราต้อง รู้เรื่อง อัตตา
อัตตาคือรูปร่าง ร่างกายเรานั้นไม่ใช่ของเรา
แล้วเราต้องปล่อยว่าง เป็นอนัตตา
เราต้องรู้ให้กระจ่างว่าทุกสิ่งทุกอย่างไม่ใช่ของเรา
แล้วเราก็จะสละมันไปได้เองการเวียนวายตายเกิด
ก็จะไม่มีจะมีเเต่นิพพานเท่านั้น  : emo036 :
ภาพประจำตัวสมาชิก
เลย์
โพสต์: 1845
ลงทะเบียนเมื่อ: พุธ ส.ค. 05, 2009 12:27 am
ที่อยู่: ในอ้อมพระหัตถ์พระเป็นเจ้า
ติดต่อ:

ศุกร์ ก.พ. 12, 2010 10:20 pm

ศาสนาทุกศาสนามีความเชื่อแตกต่างกัน แต่มีสิ่งเหมือนกัน  คือ ความดี  อย่าไปคิดอะไรมากมาย ปวดหัว .. : xemo028 : : xemo026 :
Batholomew
~@
โพสต์: 12724
ลงทะเบียนเมื่อ: อังคาร ม.ค. 18, 2005 2:28 pm
ที่อยู่: Thailand

ศุกร์ ก.พ. 12, 2010 10:34 pm

Immanuel (MichaelPaul) เขียน: สำหรับผม (ย้ำว่าสำหรับผม) ผมว่าการเวียนว่ายตายเกิดมันไม่ยุติธรรม เช่น ในกรณีที่เราทำอะไรในชีวิตนี้แล้วต้องไปชดใช้ชีวิตหน้า ซึ่งแม้จะบอกว่าเป็นวิญญาณเดียวกัน แต่ ชีวิตหน้าก็ไม่รู้ว่าชีวิตในอดีตไปทำอะไรไว้ แต่กลับต้องมาผจญความเลวร้าย
เห็นด้วยกับเอกครับ : emo045 :
ภาพประจำตัวสมาชิก
Happiness
โพสต์: 345
ลงทะเบียนเมื่อ: อังคาร ก.ค. 14, 2009 11:23 pm

อาทิตย์ ก.พ. 14, 2010 8:13 pm

Valkyrie_chan เขียน: บางครั้งขณะมรสุมชีวิต หรือช่วงจุดตัน หรือแม้แต่ความอิ่มตัวทางศรัทธา หลังจากได้พบแต่ความจริงที่เจ็บปวดและโหดร้าย

แน่นอนแม้ตอนนี้ เราก็ยังเชื่อว่าการเวียนว่ายตายเกิดไม่มีอยู่จริง ชีวิตคนเราเกิดครั้งเดียวตายครั้งเดียว
(และแน่นอนว่า สำหรับบางกรณี ก็เป็นเรื่องที่เจ็บปวด ในหลาย ๆ ความหมาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งจากคนที่เคยปักใจเชื่อว่ามันมีอยู่)

ไม่ใช่ว่าเราไม่เข้าใจว่าการแบกกางเขนตามเจ้านายเรามันลำบาก

แต่เราก็มีหัวใจนะ ไม่ว่าใครจะพูดยังไง เราก็มีสิทธิ์ที่จะคิดจะพูดจะแสดงออกอย่างเอาแต่ใจ เช่นเดียวกับที่คนอื่นสามารถเอาแต่ใจได้

หลายครั้งที่อดคิดไม่ได้ว่า จะมีความสุขกว่าไหมนะ หากเราไม่ได้คิดเข้ามาเป็นคริสเตียนอย่างจริงจัง และหลงยึดติดไปกับการหลอกลวงที่ว่ามีการเวียนว่ายตายเกิดเป็นวัฐจักรอยู่จริง ๆ

แต่แน่นอนว่ามันคงถอยกลับไม่ได้ อย่างน้อยก็ตรงนี้ เพราะถึงจินตนาการไป ความจริงก็ยังเป็นความจริงของมัน

ถึงจะพยายามดื้อรั้นหันกลับไปเชื่อให้ได้ว่าเรายังมีชาติหน้า

แต่ในเมื่อพระเจ้าบอกว่ามันไม่มี มันก็ต้องไม่มี

...........แต่ว่า ถ้ามีมันจะยุติธรรมกว่าไหมนะ ในบางครั้ง

นี่ชั้นพูดอะไรเนี่ย
มันก็เรื่องเดิมๆนะครับ เห็นเสวนามาหลายรอบแล้ว แต่ว่ายังสนใจเสวนาก็ยินดีครับ เพราะเวปบอร์ดมีไว้สนทนา  : xemo017 :


ขอโอกาศแลกเปลี่ยนเรียนรู้นะครับ ใครใคร่แนวไหนใคร่เถิด


คนล่ะพื้นฐาน คนล่ะองค์ความรู้ความเชื่อ ไม่ควรนำมาตัดสินข้ามเส้นกัน เข้าใจ เข้าถึง อย่างไร ชอบใจอย่างไรก็เป็นไปตามนั้นเถิด การเลยเถิดถึงกับไปว่าคนอื่นว่า หลอกลวง ไม่สมควรหรอกครับ

ผู้ที่เข้าถึงเข้าใจในพุทธธรรม เขาก็มีความสุขกันดี เช่นเดียวกับผู้ที่เชื่อและศรัทธาในคริสต์ธรรม

การเวียนว่ายตายเกิดแบบข้ามภพข้ามชาติ ศาสนาพุทธค้นพบตามกระบวนการวิถีพุทธ มิใช่คิดเอาเอง เป็นธรรมวิจัย เป็นโพธิปักขิยธรรม วิจัย กาย เวทนา จิต ธรรม ของนิยามทั้ง 5 เน้น จิตนิยาม กรรมนิยาม ธรรมนิยาม ไม่เน้น พีชะนิยาม อุตุนิยาม

หลักสัจธรรมเรื่อง การเวียนว่ายตายเกิด เป็นเพียงหลักธรรมหนึ่งที่สำคัญ ที่ศาสนาพุทธค้นพบ แต่มิใช่ทั้งหมดของศาสนาพุทธ ดังนั้นไม่ต้องซีเรียสเฉพาะจุดนี้มากก็บรรลุธรรมได้ 

หลักสัจธรรม เรื่อง การเวียนว่ายฯ มีจุดประสงส์เพื่อหยุด สิ้นสุด และพ้นไปจากการการเวียนว่ายฯ มิใช่เอามาสอนแบบเป็นเรื่องลึกลับ ซับซ้อน หรือให้ดูดี มีมนต์ขลัง เรียกศรัทธา

สัจธรรมการเวียนว่ายฯ ศาสนาพุทธสอนอยู่เสมอว่า ให้เห็นภัยในวัฏฏะ ว่าการเกิดบ่อยๆเป็นทุกข์ เพราะเด๋วก็สุข เด๋วก็ทุกข์ ไม่ยั่งยืนแน่นอน รวมทั้งมีภัยอันเกิดแต่การกระทำคอยส่งผลตลอดเวลา แต่ถ้าพ้นไปได้ จะเป็นสุขที่แท้จริง


.....................................................................

การเวียนว่ายตายเกิดก็เกี่ยวข้องกับผลของการกระทำด้วย (กรรม และ เวร)

ถามว่า เกิดใหม่แล้ว ไม่รู้อิโหน่อิเหน่แล้ว ยังต้องรับผลกรรมในกาลก่อนยุติธรรมไหม?

ตอบว่า ยุติธรรมเป็นอย่างยิ่ง (คำถามนี้มีในพระไตรปิฎก โดยเฉพาะในพระธรรมบทมากมาย)

เพราะมีตัวอย่างมากมายในพระไตรปิฎก ดังเช่นมีมนุษย์ต่างโจษกันว่า ผู้นั้น ผู้นี้ ได้รับผลกรรมอย่างนั้นๆแล้ว ไม่สมควรเลย พระพุทธองค์ตรัสว่า "ไม่สมควรแก่การกระทำของเขาในภพชาตินี้ แต่สมควรแก่เขาเพราะผลแห่งการกระทำในภพชาติก่อนๆ"

ไม่งั้นถ้าใครทำชั่วมากๆ พอผลของการกระทำกำลังจะตามทัน ทันใดนั้นเอง เขาก็ชิงฆ่าตัวตายไปก่อน !!!   : xemo033 :  พอไปเกิดใหม่ก็บอกว่า ข้าเกิดใหม่แล้วโว๊ย ผลของการกระทำในกาลก่อนไม่เกี่ยวโว๊ย   : emo102 :

ไม่ต้องชาติหน้าก็ได้ เราทำอะไรไม่ดีไว้ในตอนวัยเยาว์ เมื่อผลของการกระทำนั้นกำลังจะตามทัน เราก็อ้างว่า ไม่เกี่ยวนะ ตอนนั้นยังเด๊ะๆอยู่เลยอ่ะ  : emo044 :

ดังนั้นการที่จะบอกว่าคนที่เกิดมาใหม่แล้วต้องรับกรรมในกาลก่อนไม่ยุติธรรมจึงไม่จริง.......ต้องรับผลตามแรงกรรม ทั้งดีทั้งชั่ว หรือหลุดพ้นไปเลย สมเหตุผล และยุติธรรมเป็นอย่างยิ่ง

เช่นเดียวกับฝ่ายบุญกุศล ที่เราได้ทำดีมาแล้วในกาลก่อนๆ ยามใดที่บุญส่งผล ยามนั้นเราก็มีความสุข

จึงมีคำพูดว่า ทีเวลากรรมชั่วส่งผล บ่นแล้วบ่นอีก ต้อแต้ๆๆๆ  : xemo023 :  ทีเวลาบุญดีๆส่งผลล่ะ ไม่เห็นโวยวายบ้างว่า ผลบุญส่งผลทำไม่ฟร่ะเนี่ย  : emo033 :

ในช่วงชีวิตคนเรา บุญส่งผล มากกว่า กรรมส่งผล จริงไหมครับ สำหรับคนโดยมาก

การเข้าใจผลกรรม และการเวียนว่ายตายเกิดแบบข้ามภพชาติ ทำให้เราเข้าใจเหตุ และผล บังเกิดความเข้าใจ สบายใจ เบื่อหน่ายในเวรกรรม ชอบใจในบุญกุศล และเห็นประโยชน์ของการสร้างความดีเพื่อหลุดพ้นไป

แต่กระนั้นอย่าซีเรียสกับอดีตกรรมมากไป เพราะว่า.......

ศาสนาพุทธสอนปัจจุบันธรรม เราเกิดมาสร้างบารมี คือคุณความดี มิใช่เกิดมาชดใช้กรรม

การเข้าใจว่าเกิดมาเพื่อชดใช้กรรม 100 เปอร์เซนต์ เป็นคำสอนของลัทธิกรรมเก่า เป็นมิจฉาทิฏฐิ ไม่ใช่ศาสนาพุทธ

กรรมทางศาสนาพุทธก็คือการกระทำที่มีเจตนาออกจากใจเป็นสำคัญ มีรายละเอียดแตกต่างกับ บาปกรรม ทางศาสนาเทวนิยม ที่เกียวข้องกับ เทพเจ้า ซาตาน

การที่ชาวพุทธไม่เข้าใจเรื่องกรรมและการเวียนว่ายตายเกิด พอเวลาเกิดความทุกข์ก็ว่าใส่กันผิดๆไปว่า โธ่เอ๊ย! คนทำเวรทำกรรมมา(มั่วขั้นที่หนึ่ง) ในขณะนั้น หากจะมีใครไปนำคำสอนทางศาสนาคริสต์มาใช้ว่า คนเหล่านี้ไม่ได้ทำผิดบาปอะไรมาแต่เขามาเพื่อให้กิจการของพระเจ้าปรากฎ (ประมาณนี้) การนำมาเข้าใจกันแบบนี้(มั่วซ้ำไปอีก) เป็นการสับสน และผิดตรรกะ ในหลักธรรมคำสอนของทั้งสองศาสนาเป็นอย่างยิ่ง จึงขอเรียนให้ทราบว่าบาปกรรมทางเทวนิยมกับทางพุทธนั้นแตกต่างกัน (หมายความว่าศึกษาให้ดีและอย่านำมาสับสนกัน แต่ล่ะคำสอนก็มีรายละเอียดของตนๆ)


..........................................................

เข้าใจว่าคุณคงไม่ค่อยเข้าใจจึงถามเช่นนั้น ถ้าเช่นนั้นผมถามย้อนกลับว่า สรรพสิ่งสร้างของพระผู้สร้าง ที่เราประสบกันอยู่ทุกวันนี้ ยุติธรรมไหมเล่า ไม่ว่าจะเป็นเรื่องเกิดมาไม่สมประกอบ สวยหล่อ รวยจนไม่เท่ากัน สุขทุกข์ ไม่เหมือนกัน อันตราย แผ่นดินไหว โรคร้ายต่างๆ ฯลฯ ยุติธรรมไหมเล่า???

คุณ Holy ก็ได้ตอบไว้แล้วครับ และเป็นคำตอบที่ดีมาก สำหรับผมได้เคยเสวนากับคุณ holy ในกระทู้เก่าๆมาแล้ว เข้าใจไปแล้ว เช่นเดียวกับคำตอบของผมในเรื่องกระทู้นี้ก็คงจะดีไม่น้อยไปกว่ากัน ยินดีที่ได้เสวนาธรรมนะครับ


..........................................................

ศึกษาเรื่องการเวียนว่ายตายเกิด และ สังสารวัฏฏ์เพิ่มเติมได้ที่นี่>>>   http://www.khunsamatha.com/blog/dhammakaya-C3.html

หากได้แลกเปลี่ยนเรียนรู้จะมีประโยชน์มากครับ จะตั้งกระทู้เรื่องเดิมๆในประเด็นต่างๆก็ยิ่งเพลิดเพลินนัก  : emo045 :

แต่ถ้าแบบว่าตั้งกระทู้แล้วหนีหายไปเลยเหมือนมาระบาย หรือว่าไม่อ่าน ไม่ศึกษาแลกเปลี่ยนเพิ่มเติม ก็เปล่าประโยชน์ วันดีคืนดีก็ตั้งกระทู้ใหม่ เรื่องเดิมๆ วนไปวนมา  : emo107 :
แก้ไขล่าสุดโดย Happiness เมื่อ จันทร์ ก.พ. 15, 2010 2:04 am, แก้ไขไปแล้ว 1 ครั้ง.
ภาพประจำตัวสมาชิก
Immanuel (MichaelPaul)
~@
โพสต์: 2887
ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ม.ค. 17, 2005 8:49 pm
ที่อยู่: กรุงเทพมหานคร

อาทิตย์ ก.พ. 14, 2010 9:57 pm

^
^
^

งั้นชาตินี้ทำชั่วไปเลย แล้วรีบตาย ยังไงเกิดมาชาติหน้าก็จำไม่ได้อยู่แระว่าไปทำอะไรไว้ ชาตินี้ตอนนี้เอาให้คุ้มไปเลยโลด
kirah_l
โพสต์: 66
ลงทะเบียนเมื่อ: อังคาร ก.พ. 09, 2010 12:20 pm

อาทิตย์ ก.พ. 14, 2010 10:06 pm

no comment    read only  : xemo026 : ::042::
ภาพประจำตัวสมาชิก
Valkyrie Zero Number
โพสต์: 2081
ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ส.ค. 27, 2007 4:11 am

จันทร์ ก.พ. 15, 2010 12:19 am

Happiness เขียน: แต่ถ้าแบบว่าตั้งกระทู้แล้วหนีหายไปเลยเหมือนมาระบาย หรือว่าไม่อ่าน ไม่ศึกษาแลกเปลี่ยนเพิ่มเติม ก็เปล่าประโยชน์ วันดีคืนดีก็ตั้งกระทู้ใหม่ เรื่องเดิมๆ วนไปวนมา  : emo107 :
ที่เงียบไปไม่ใช่เพราะไม่ได้เข้ามาอ่าน

แค่ยังไม่มีอะไรจะพูดแค่นั้นค่ะ
ภาพประจำตัวสมาชิก
~@Little lamb@~
Defender of lawS
Defender of lawS
โพสต์: 9396
ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ม.ค. 17, 2005 3:00 pm
ติดต่อ:

จันทร์ ก.พ. 15, 2010 12:32 am

LL  ไม่เชื่อในเรื่องชาติหน้า

แต่สำหรับ LL คิดว่าไม่ว่าคุณจะเชื่อหรือไม่  มันจะดีมาก ๆ
ถ้าคุณจะชดใช้ หรือ ตอบแทนคุณกันในชีวิตนี้ค่ะ   : emo027 :

ถ้าชาติหน้ามี คุณก็จำไม่ได้แล้วว่า ต้องไปใช้ใคร หรือ ใครมาใช้คุณ
หรือคุณได้บุญอะไรมา หรือ กรรมใหม่ กรรมเก่า  ถ้าไม่มีใครมารำลึกให้
ก็ไม่รู้หรอก  

ดังนั้น คุณทำอะไรกับใครในชีวิตนี้  ก็ทดแทน ชดใช้กันให้หมดดีกว่าค่ะ
แก้ไขล่าสุดโดย Anonymous เมื่อ จันทร์ ก.พ. 15, 2010 12:41 am, แก้ไขไปแล้ว 1 ครั้ง.
ภาพประจำตัวสมาชิก
sohee1989
โพสต์: 44
ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ก.พ. 08, 2010 1:09 pm

จันทร์ ก.พ. 15, 2010 12:37 am

ส่วนตัวดิชั้นเองเพียงศึกษาผ่านๆแต่อยากลองศึกษาเชิงลึกถึงทฤษฎีปรัชญาพระพุทธศาสนา

แต่มุมมองดิชั้น ดิชั้นไม่เชื่อเรื่องเวียนว่ายตายเกิด
แต่เชื่อเรื่องการตอบแทนความดีและการประพฤติผิดค่ะ
ภาพประจำตัวสมาชิก
Ecclēsia
โพสต์: 976
ลงทะเบียนเมื่อ: พุธ พ.ค. 27, 2009 9:25 pm
ที่อยู่: อาสนวิหารอัสสัมชัญ เขต1 อัครสังฆมณฑลกรุงเทพฯ
ติดต่อ:

จันทร์ ก.พ. 15, 2010 12:52 am

ไม่เกี่ยวกับหัวข้ออ่ะค่ะ เเต่อ่านความเห็นของสมาชิกบางท่านเเล้วนึกถึงพระคัมภีร์ขึ้นมา
"พระเจ้าทรงสร้างสรรพสิ่งเเละพระองค์ทรงทอดพระเนตรเห็นว่าทุกสิ่งทุกอย่างดี (ปชญ. 7:29-30, สภษ. 8:22-31, บสร.1:4,24, 2คร. 4:6)"

ในปฐมกาลบทที่หนึ่ง ถ้าอ่านตอนที่พระเจ้าสร้างโลก จะเห็นว่ามีคำว่า "ดี" อยู่7คำ (เลข7 = ความบริบูรณ์)
ทุกสิ่งที่พระเจ้าสร้างนั้นพระองค์สร้างมา "ดี" เเล้ว มีเเต่มนุษย์เราบางครั้งชอบไปตัดสินว่ามันไม่ดี โดยยึดสภาพตัวเราเองเป็นมาตรฐาน
พอนานๆเข้าก็ทำเหมือนตนเป็นพระผู้สร้าง โดยนิยามเสียเองเลยว่าลักษณะไหนดีหรือไม่ดี ทั้งๆที่พระคัมภีร์เขียนไว้ชัดว่าทุกสิ่งที่พระเจ้าสร้างพระองค์เห็นว่า "ดี"

สำหรับพี่เจ้าของกระทู้ ขอให้ยึดมั่นในคำสอนของพระเยซูต่อไปเจ้าค่ะ เรื่องอื่นพยายามอย่าไปนึกถึง เพราะลึกล้ำโดยใช่เหตุ : xemo026 : ขอพระจิตเจ้าทรงนำ
แก้ไขล่าสุดโดย Anonymous เมื่อ จันทร์ ก.พ. 15, 2010 12:57 am, แก้ไขไปแล้ว 1 ครั้ง.
ภาพประจำตัวสมาชิก
Valkyrie Zero Number
โพสต์: 2081
ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ส.ค. 27, 2007 4:11 am

จันทร์ ก.พ. 15, 2010 1:14 am

Ecclēsia เขียน: ไม่เกี่ยวกับหัวข้ออ่ะค่ะ เเต่อ่านความเห็นของสมาชิกบางท่านเเล้วนึกถึงพระคัมภีร์ขึ้นมา
"พระเจ้าทรงสร้างสรรพสิ่งเเละพระองค์ทรงทอดพระเนตรเห็นว่าทุกสิ่งทุกอย่างดี (ปชญ. 7:29-30, สภษ. 8:22-31, บสร.1:4,24, 2คร. 4:6)"

ในปฐมกาลบทที่หนึ่ง ถ้าอ่านตอนที่พระเจ้าสร้างโลก จะเห็นว่ามีคำว่า "ดี" อยู่7คำ (เลข7 = ความบริบูรณ์)
ทุกสิ่งที่พระเจ้าสร้างนั้นพระองค์สร้างมา "ดี" เเล้ว มีเเต่มนุษย์เราบางครั้งชอบไปตัดสินว่ามันไม่ดี โดยยึดสภาพตัวเราเองเป็นมาตรฐาน
พอนานๆเข้าก็ทำเหมือนตนเป็นพระผู้สร้าง โดยนิยามเสียเองเลยว่าลักษณะไหนดีหรือไม่ดี ทั้งๆที่พระคัมภีร์เขียนไว้ชัดว่าทุกสิ่งที่พระเจ้าสร้างพระองค์เห็นว่า "ดี"

สำหรับพี่เจ้าของกระทู้ ขอให้ยึดมั่นในคำสอนของพระเยซูต่อไปเจ้าค่ะ เรื่องอื่นพยายามอย่าไปนึกถึง เพราะลึกล้ำโดยใช่เหตุ : xemo026 : ขอพระจิตเจ้าทรงนำ
จะบอกว่า การกบฎของลูซิเฟอร์ การไม่เชื่อฟังของอาดัมและเอวาจนถูกขับไล่ รวมถึงความอยุติธรรมที่เกิดขึ้นก็เป็นสิ่งที่ "ดี" ด้วยรึเปล่า

ไม่ได้ว่าตัวเองเป็นพระเจ้าแทนซะหน่อย แต่สิ่งที่ไม่ดีมันจะดีได้อย่างไร
แก้ไขล่าสุดโดย Anonymous เมื่อ จันทร์ ก.พ. 15, 2010 1:16 am, แก้ไขไปแล้ว 1 ครั้ง.
พระเจ้าสถิตย์กับเราเสมอ
~@
โพสต์: 2546
ลงทะเบียนเมื่อ: อังคาร ม.ค. 18, 2005 10:54 pm

จันทร์ ก.พ. 15, 2010 2:45 am

การที่มนุษย์อยากจะเข้าใจพระเจ้าและเรียกร้องต่างๆนาๆนั้น  ก็เหมือนกับการที่ลิงอุรังอุตังไขว่คว้าอยากเข้าใจทฤษฎีสัมพัทธภาพของไอน์สไตน์


คำถามประจำกระทู้นี้ก็คือ "ทำไมการที่พระเยซูเจ้าดูเหมือนจะพ่ายแพ้เพราะถูกชาวยิวเอาไปตรึงกางเขน ถึงกลับกลายเป็นชัยชนะนิรันดร์ได้?"


ผู้มีปรีชาญาณจงพิจารณาเอาเถิด
ภาพประจำตัวสมาชิก
Ecclēsia
โพสต์: 976
ลงทะเบียนเมื่อ: พุธ พ.ค. 27, 2009 9:25 pm
ที่อยู่: อาสนวิหารอัสสัมชัญ เขต1 อัครสังฆมณฑลกรุงเทพฯ
ติดต่อ:

จันทร์ ก.พ. 15, 2010 2:00 pm

Valkyrie_chan เขียน: จะบอกว่า การกบฎของลูซิเฟอร์ การไม่เชื่อฟังของอาดัมและเอวาจนถูกขับไล่ รวมถึงความอยุติธรรมที่เกิดขึ้นก็เป็นสิ่งที่ "ดี" ด้วยรึเปล่า

ไม่ได้ว่าตัวเองเป็นพระเจ้าแทนซะหน่อย แต่สิ่งที่ไม่ดีมันจะดีได้อย่างไร


พระเจ้าสร้างการกบฎของลูซิเฟอร์หรือคะ? การไม่เชื่อฟังของอดัมเเละเอวา พระเจ้าสร้างขึ้นหรือคะ?
เเยกเเยะให้ออกด้วยว่าอะไรเป็นสิ่งที่ "ดี" ที่พระเจ้าสร้าง (จะบอกให้ เช่น คนพิการ คนตาบอด...ฯลฯ ซึ่งมีศักดิ์ศรีในความเป็นมนุษย์เท่าเทียมกับเรา)
กับสิ่งที่ "ไม่ดี" ซึ่งเกิดจากอำเภอใจของมนุษย์ (เช่น โลกร้อน เอารัดเอาเปรียบ ดูถูกดูเเคลน) หรืออำเภอใจของทูตสวรรค์บางท่าน (เช่น การทรยศของลูซิแฟร์)
ถ้าคุณกลับไปอ่านอุปมาลูกล้างผลาญ จะเห็นว่าพ่อให้ทุกสิ่งแก่ลูกชายคนเล็กเเต่เขากลับหนีออกจากบ้านไปเอง อันนี้เป็นเพราะพ่อหรือเป็นเพราะตัวลูกมันไม่รักดีกันเเน่?

ส่วนมนุษย์ชอบเผลอทำหน้าที่เเทนพระเจ้า มนุษย์ทุกคนทุกยุคทุกสมัยรวมถึงข้าพเจ้าก็โน้มเอียงไปด้วยกันทั้งนั้นเเหล่ะค่ะ เเต่จะแก้ให้ดีขึ้นได้โดยคำสอนของพระเยซู : xemo026 :

ขอพระจิตเจ้าทรงนำค่ะ

ปล. บอกเเล้วไม่เกี่ยวกับหัวข้อ : xemo016 :
sansrepos
โพสต์: 460
ลงทะเบียนเมื่อ: พุธ พ.ค. 04, 2005 6:23 pm

จันทร์ ก.พ. 15, 2010 3:41 pm

ผมเข้าใจว่าพระเป็นเจ้าทรงบอกเราเพียงว่าเรามีชีวิตเดียว แต่ไม่ได้บอกชัดๆนะครับว่าให้เราเกิดครั้งเดียว พระเยซูทรงบอกเราว่าเราไม่สามารถไปหาพระบิดาได้ถ้าไม่ผ่านทางพระองค์

แต่เท่าที่ผมพอจะเข้าใจการจะไปพยายามรู้ว่าชาติก่อน (ถ้ามีจริงๆนะ) เป็นอย่างไรมามันไม่มีประโยชน์ต่อการเอาตัวรอดไปสวรรค์หรือการกลับไปอยู่กับพระเจ้า ตามแนวทางของคริสตศาสนา หรือแม้แต่การบรรลุถึงสัจธรรมการชำระตนเองให้บริสุทธิ์ตามแนวคิดของพุทธศาสนาเองด้วยซ้ำ รู้ว่าชาติก่อนเป็นอย่างไรหรือไม่รู้ก็ไม่ได้เป็นตัวกำหนดว่าชาตินี้จะสามารถไปถึงนิรวาณหรือไม่จริงไหมครับ
Memory
โพสต์: 390
ลงทะเบียนเมื่อ: อาทิตย์ ก.ย. 06, 2009 1:52 pm
ที่อยู่: Rayong

จันทร์ ก.พ. 15, 2010 5:55 pm

~@Little lamb@~ เขียน: LL  ไม่เชื่อในเรื่องชาติหน้า

แต่สำหรับ LL คิดว่าไม่ว่าคุณจะเชื่อหรือไม่  มันจะดีมาก ๆ
ถ้าคุณจะชดใช้ หรือ ตอบแทนคุณกันในชีวิตนี้ค่ะ   : emo027 :

ถ้าชาติหน้ามี คุณก็จำไม่ได้แล้วว่า ต้องไปใช้ใคร หรือ ใครมาใช้คุณ
หรือคุณได้บุญอะไรมา หรือ กรรมใหม่ กรรมเก่า  ถ้าไม่มีใครมารำลึกให้
ก็ไม่รู้หรอก  

ดังนั้น คุณทำอะไรกับใครในชีวิตนี้  ก็ทดแทน ชดใช้กันให้หมดดีกว่าค่ะ
จะบอกว่าพูดดีมากอ่ะครับ
ภาพประจำตัวสมาชิก
Holy
Defender of lawS
Defender of lawS
โพสต์: 10011
ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ม.ค. 17, 2005 3:06 pm

จันทร์ ก.พ. 15, 2010 6:06 pm

Valkyrie_chan เขียน:
Ecclēsia เขียน: ไม่เกี่ยวกับหัวข้ออ่ะค่ะ เเต่อ่านความเห็นของสมาชิกบางท่านเเล้วนึกถึงพระคัมภีร์ขึ้นมา
"พระเจ้าทรงสร้างสรรพสิ่งเเละพระองค์ทรงทอดพระเนตรเห็นว่าทุกสิ่งทุกอย่างดี (ปชญ. 7:29-30, สภษ. 8:22-31, บสร.1:4,24, 2คร. 4:6)"

ในปฐมกาลบทที่หนึ่ง ถ้าอ่านตอนที่พระเจ้าสร้างโลก จะเห็นว่ามีคำว่า "ดี" อยู่7คำ (เลข7 = ความบริบูรณ์)
ทุกสิ่งที่พระเจ้าสร้างนั้นพระองค์สร้างมา "ดี" เเล้ว มีเเต่มนุษย์เราบางครั้งชอบไปตัดสินว่ามันไม่ดี โดยยึดสภาพตัวเราเองเป็นมาตรฐาน
พอนานๆเข้าก็ทำเหมือนตนเป็นพระผู้สร้าง โดยนิยามเสียเองเลยว่าลักษณะไหนดีหรือไม่ดี ทั้งๆที่พระคัมภีร์เขียนไว้ชัดว่าทุกสิ่งที่พระเจ้าสร้างพระองค์เห็นว่า "ดี"

สำหรับพี่เจ้าของกระทู้ ขอให้ยึดมั่นในคำสอนของพระเยซูต่อไปเจ้าค่ะ เรื่องอื่นพยายามอย่าไปนึกถึง เพราะลึกล้ำโดยใช่เหตุ : xemo026 : ขอพระจิตเจ้าทรงนำ
จะบอกว่า การกบฎของลูซิเฟอร์ การไม่เชื่อฟังของอาดัมและเอวาจนถูกขับไล่ รวมถึงความอยุติธรรมที่เกิดขึ้นก็เป็นสิ่งที่ "ดี" ด้วยรึเปล่า

ไม่ได้ว่าตัวเองเป็นพระเจ้าแทนซะหน่อย แต่สิ่งที่ไม่ดีมันจะดีได้อย่างไร
สิ่งที่พระเจ้าสร้างนั้นดี แต่บาปน่ะไม่ดี บาปคือการขาดพระเจ้า ขาดพระเจ้าก็ไม่ดี เมื่อมนุษย์เริ่มทำบาป บาปนำการลงโทษและบกพร่องเข้ามาในโลกที่พระเจ้าสร้างอย่างดีไว้

ปฐมกาล3-17
  พระองค์จึงตรัสแก่อาดัม(แปลว่า  มนุษย์) ว่า 
  “เพราะเหตุเจ้าเชื่อฟังคำพูดของภรรยา 
  และกินผลไม้ที่เราห้าม  แผ่นดินจึงต้องถูกสาปเพราะตัวเจ้า  
  เจ้าจะต้องหากินบนแผ่นดินด้วยความทุกข์ลำบากจนตลอดชีวิต 
† † † Hiruma Ryuichi † † †
โพสต์: 605
ลงทะเบียนเมื่อ: เสาร์ ก.ย. 05, 2009 3:19 pm
ที่อยู่: พเนจร
ติดต่อ:

จันทร์ ก.พ. 15, 2010 10:48 pm

พระพุทธทาสภิกขุบอกว่า

"นิพพานเด๋วนี้ บัดนี้ ไม่มีหน้า  : emo045 :"

(เซ็นต้องตีความหน่อยนะฮะ อย่าคิดตรงเกิน อิอิ  : emo038 :)
ภาพประจำตัวสมาชิก
Happiness
โพสต์: 345
ลงทะเบียนเมื่อ: อังคาร ก.ค. 14, 2009 11:23 pm

พุธ ก.พ. 17, 2010 2:26 am

เสวนาธรรมให้ความรู้เพิ่มเติมนะครับ


จากที่มีโพสต์เพิ่มก็ขอสรุปย่อๆอีกทีดังนี้

หลักสัจธรรมการเวียนว่ายตายเกิด เป็นหลักธรรมที่สำคัญของทางศาสนาพุทธ แต่มิใช่ทั้งหมด อย่าจับแต่ประเด็นนี้มาก ถ้าไม่ถูกจริต ก็ข้ามไปก็ได้ ถ้าสนใจก็เรียนรู้สรุปตามนี้


สรุปย่อสาระสำคัญของเรื่อง เวียนว่ายตายเกิด

1.สบายใจทันที่ ที่เกิดมาแล้วสวย หล่อ ร่ำรวย จน สุข ทุกข์ ไม่เท่ากัน

เพราะศาสนาพุทธค้นพบว่า มีมาแต่เหตุ (ตามนัยอริยสัจ)

คือการกระทำของตนเองนั้นแหละเป็นตัวจัดสรร (กัมมัง สัตเต วิภชติ ) โดยเราจะไม่ไปโทษเทพเจ้า ปีศาจ โชคชะตา หรืออะไรทั้งสิ้น

ทั้งนี้ประกอบด้วย อดีตเหตุ ปัจจุบันเหตุ อนาคตเหตุ

2.เราเกิดมาบำเพ็ญบารมีคือคุณงามความดี มิใช่มาชดใช้กรรม เป็นความเข้าใจผิดที่เข้าใจว่าเกิดมาชดใช้กรรม 100 เปอร์เซนต์ (และเป็นกรรมแบบพุทธ มิใช่แบบเทวนิยม)

3.เน้นปัจจุบันธรรมมากที่สุด และสามารถที่จะหลุดพ้นจากวงจรนี้ได้ ในปัจจุบันนี้ โดยไม่ต้องรอชาติหน้า และไม่เกี่ยวกับจะต้องมีความทรงจำอยู่หรือไม่ก็ตาม

4.รับรู้เข้าใจตามความเป็นจริงว่ามีเรื่องราวเหล่านี้อยู่ เพื่อพิจารณาใหเห็นโทษ และประโยชน์ มิใช่ยึดติด หรือหลงไหลในความลึกลับ เช่นเกรงกลัวผลของการทำชั่ว การทำบาป

5.เกิดการเบื่อหน่ายในการเวียนว่ายตายเกิด และโทษภัยในสังสารวัฏฏ์ (เบื่อหน่ายแบบธรรมะด้วยปัญญา มิใช่เบื่อแบบอารมณ์เสีย)
ปราถนาที่จะสร้างคุณความดี พัฒนาตนเองให้หลุดพ้นไปจากวงจรนี้

† † †  Hiruma Ryuichi  † † † เขียน: พระพุทธทาสภิกขุบอกว่า

"นิพพานเด๋วนี้ บัดนี้ ไม่มีหน้า  : emo045 :"

(เซ็นต้องตีความหน่อยนะฮะ อย่าคิดตรงเกิน อิอิ  : emo038 :)
ไม่มีตรงไหนที่ท่านพุทธทาสปฏิเสธ นรก สวรรค์ ข้ามภพ ชาติ ชาตินี้ ชาติหน้า

ท่านพุทธทาสพูดเองว่า "เราจะนับถือศาสนาพุทธในเหลี่ยมไหน"    เหลี่ยมและมุมมองทางศาสนาพุทธมีอยู่หลายเหลี่ยมและหลายมุม ขึ้นอยู่กับบริบท และเหตุการณ์ จริตอัธยาศัยต่างๆ เรียกได้ว่าครบสมบูรณ์

และเหลี่ยมมุมที่ท่านพุทธทาสเลือก และถนัดในการเข้าถึง เข้าใจ นำมาสอน คือ เหลี่ยมมุมปัจจุบันธรรม (จ๋า คือหนักไปในส่วนนี้) และบางส่วนของพระไตรปิฏก ที่เข้ากับจริตอัธยาศัยของนักเหตุผลนิยม และวิทยาศาสตร์ สังคมโลกร่วมสมัย

เคยมีผู้ไปถามท่านว่าท่านปฏิเสธเรื่องข้ามภพชาติ นรกสวรรค์ การเวียนว่ายตายเกิดแบบข้ามภพชาติหรือเปล่า ท่านตอบว่า ท่านไม่ได้ปฏิเสธเลย ท่านไม่เปลี่ยนแปลง ไม่แตะต้อง สัจจธรรมส่วนนั้นยังอยู่ตามปกติเหมือนเดิม (แต่ไม่ใช่เหลี่ยม มุม ที่ท่านถนัด สนใจ เข้าถึง เข้าใจ และนำมาสอน)

รับทราบเปลี่ยน   : xemo028 :


ศึกษาเรื่องการเวียนว่ายตายเกิด และ สังสารวัฏฏ์เพิ่มเติมได้ที่นี่>>>   http://www.khunsamatha.com/blog/dhammakaya-C3.html
แก้ไขล่าสุดโดย Happiness เมื่อ พุธ ก.พ. 17, 2010 4:35 am, แก้ไขไปแล้ว 1 ครั้ง.
Holy Bible
โพสต์: 690
ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ มี.ค. 09, 2009 12:00 pm

พุธ ก.พ. 17, 2010 5:59 pm

พ่อผมเคยบอกว่า"ไม่ว่าชาติหน้าจะมีจริงหรือไม่เราก็ไม่อาจรู้ได้ แต่เราไม่ควรประมาท ตามที่พระพุทธเจ้าได้ทรงให้ปัจฉิมโอวาทไว้"
ภาพประจำตัวสมาชิก
(⊙△⊙)คุณxuู๓้uxoม(⊙△⊙)
โพสต์: 892
ลงทะเบียนเมื่อ: ศุกร์ ต.ค. 10, 2008 12:38 am

พฤหัสฯ. ก.พ. 18, 2010 2:30 am

มีไม่มีไม่รู้ คนตายเท่านั้นที่รู้ คนเป็นก็ยังคลุมเครือต่อไป
ภาพประจำตัวสมาชิก
Deo Gratias
โพสต์: 1100
ลงทะเบียนเมื่อ: พฤหัสฯ. มี.ค. 16, 2006 11:53 pm

พฤหัสฯ. ก.พ. 18, 2010 3:10 am

มนุษย์ผู้ถูกสร้างบอกว่ามี แต่พระเจ้าผู้ทรงสร้างตรัสว่าไม่มี
ดังนั้นเราจะไม่เชื่อที่มนุษย์บอก แต่จะเชื่อที่พระเจ้าตรัสค่ะ  : xemo026 :
ตอบกลับโพส