เยอรมัน ประเทศที่มีอะไรดีๆน่าสนใจเยอะ
โพสต์แล้ว: ศุกร์ ก.พ. 19, 2010 8:07 pm
เปิดปมฆาตกรรมศักดิ์สิทธิ์
สถานที่จริงและความเชื่อที่มีเค้าลางอย่างปกปิดคลุมเครือก็นำมาเป็นปมการผจญภัยได้สนิทสนมแนบเนียนราวกับว่ามันคือความจริง อย่างเรื่องของมหาวิหาร Kloener Dom (เคิล์นโดม) ที่ตั้งอยู่ในเมืองโคโลญจน์ ประเทศเยอรมนีชาวเยอรมันเองเรียกโคโลญจน์ว่า เคิล์น เมืองเคิล์นเป็นเมืองใหญ่ที่สุดเมือง หนึ่งของเยอรมนีอยู่ทางตะวันตกของประเทศมีมหาวิหารขนาดใหญ่อลังการที่สุดในยุโรปเรียกกันว่า "เคิล์นโดม" ลักษณะพิเศษคือมียอดแหลมสองยอดและมีเพดานซึ่งมีความสูง มากกว่ามหาวิหารนอร์ทเธอดามที่ปารีสประมาณ 10 เมตร มหาวิหารแห่งนี้ได้รับการยกขึ้นเป็นมรดกโลกโดยองค์การยูเนสโก แต่มีข้อแม้ว่ารอบๆมหาวิหารต้องไม่มีการสร้างอาคาร สูงซึ่งชาวเมืองโคโลญจน์ก็ทำตามแต่โดยดี
ซึ่งมหาวิหารแห่งนี้ได้รับความเสียหายอย่างหนักระหว่างการทิ้งระเบิดในสงครามโลกครั้งที่สอง เพราะตั้งอยู่กลางเมืองและใกล้กับสะพานที่เป็นยุทธศาสตร์ทางการทหารเมื่อสงคราม ยุติลงจึงได้ค่อยๆมีการบูรณะขึ้นทีละเล็กทีละน้อยจนกระทั่งปัจจุบันก็ยังบูรณะไม่เสร็จสิ้นทั้งหมดเมืองโคโลญจน์ เป็นที่มาของน้ำหอมชนิดหนึ่งที่เรียกว่าออดิโคโลญจน์ทั้งนี้เพราะผู้ผลิต น้ำหอม ชนิดนี้ตั้งอยู่ ในเมืองนี้ซึ่งใช้ชื่อยี่ห้อ 4711 ยี่ห้อนี้มีที่มาจากบ้านเลขที่ 4711 ซึ่งเป็นที่ตั้งของโรงงานผลิตในขณะนั้น ออดิโคโลญจน์ของ 4711 จึงเป็นของฝากขึ้นชื่อของ โคโลญจน์จนถึงปัจจุบัน
เสน่ห์ของโคโลญจน์ที่พิเศษสุดกว่าเมืองใด ๆ ในเยอรมนีคือ เทศกาลคานิวาล เทศกาลนี้เริ่มขึ้นในวันที่ 11 เดือน 11 เวลา 11 นาฬิกา 11 นาที และ 11 วินาที ของทุกปี แล้วจะดำเนินต่อไปจนถึงประมาณเดือนกุมภาพันธ์ช่วงเวลาดังกล่าวทั้งเมืองจะมีการแสดงดนตรีวงโยธวาทิตการประกวดเต้นรำของชุมชนต่างๆการ แต่งกายแบบ แฟนซี ขบวนแห่ การดื่มกินและสรวลเสเฮฮากันอย่างสุดเหวี่ยงโดยเฉพาะวันแรกและวันสุดท้าย ของงาน
เทศกาลคานิวาลดึงดูดนักท่องเที่ยวได้จากทุกสารทิศโดยกล่าวกันว่าชาวเมืองบอนน์ซึ่งอยู่ใกล้กันเพียง 1 ชั่วโมงเกือบทั้งเมืองจะพากันมาเที่ยวงานคานิวาลเมือง โคโลญจน์มีการถ่ายทอดรายการประกวดเต้นรำร้องเพลงทางโทรทัศน์ทุกวันนับว่าความศิวิไลซ์ของเมืองนี้มีมนต์เสน่ห์ที่ตรึงใจผู้ ู้มาเยือนได้ราบคาบทีเดียว
หากใครที่อ่านนิยายเรื่อง "&&สมบัตินักบุญ" แล้วยังจินตนาการภาพของมหาวิหาร เคิล์นโดม ไม่ออก ก็ลองชมภาพความงดงามที่นำมาฝากกัน เผื่อว่าเมื่อกลับไปอ่านรอบที่ 2 หรือ 3 จะทำให้อรรถรสของเรื่องเพิ่มมากขึ้นอย่างประหลาด จนต้องอ่านเป็นรอบที่ 4 !!!
ที่มา มาจากนานมีบุคส์ ครับใครสนใจก็ลองหาอ่านนิยายเรื่อง "&&สมบัตินักบุญ" ดู
********************************************************
......โคโลญจน์ (อังกฤษ: Cologne; เยอรมัน: Köln) เป็นเมืองใหญ่เป็นอันดับสี่ของประเทศเยอรมนี รองจากเบอร์ลิน ฮัมบวร์ก และมิวนิค เป็นเมืองใหญ่ที่สุดของรัฐนอร์ทไรน์-เวสต์ฟาเลีย (North Rhine-Westphalia) โคโลญเป็นหนึ่งในเมืองที่เก่าแก่ที่สุดของเยอรมนี สร้างโดยชาวโรมัน มีประวัติศาสตร์ย้อนไปถึง ค.ศ.50 เมืองโคโลญตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำไรน์ ในเมืองมีมหาวิหารโคโลญจน์ (Cologne Cathedral; Kölner Dom) ซึ่งเป็นโบสถ์ศาสนาคริสต์นิกายโรมันคาทอลิกที่มีชื่อเสียง มหาวิทยาลัยโคโลญจน์ (Universität zu Köln) เป็นหนึ่งในมหาวิทยาลัยที่เก่าแก่ที่สุดในทวีปยุโรป และเป็นมหาวิทยาลัยที่ใหญ่เป็นอันดับสองของประเทศตัวเมืองมีพื้นที่ 405.15 ตารางกิโลเมตร มีประชากรนับเฉพาะที่อาศัยในเขตเมือง 975,907 คน (ข้อมูลปี ค.ศ. 2005)
มหาวิหารเมืองโคโลญ (Koelner Dom)

มหาวิหารโคโลญจน์ (Cologne Cathedral หรือ Kolner Dom) สร้างสำเร็จพร้อมกับมีพีธีวางหลักหินบันทึกข้อมูลการก่อสร้าง (foundation stone) โดยเริ่มก่อสร้างมาตั้งแต่ปี 1791 แต่มีปัญหาให้ต้องหยุดพักการก่อสร้างไปบ้าง จึงต้องใช้เวลากว่าหกร้อยปีจึงสร้างเสร็จสมบูรณ์ มหาวิหารโคโลญจน์เป็นศาสนสถานของคริสต์ศาสนาโรมันคาทอลิก นับเป็นวิหารที่ใหญ่และสูงที่สุดในโลกในสมัยนั้น (แม้ปัจจุบันก็ยังติดอันดับ 3 ของโลก) ลักษณะสถาปัตยกรรมแบบโกธิก (Gothic) เป็นหอคอยแฝดสูง 157เมตร กว้าง 86 เมตร ยาว 144 เมตร สร้างเพื่ออุทิศให้ นักบุญปีเตอร์ (Saint Peter) และ พระแม่มารี (Blessed Virgin Mary) ปัจจุบันมหาวิหารโคโลญจน์นับจุดหมายสำคัญของเมืองโคโลญจน์และประเทศเยอรมนี และได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกจากองค์การยูเนสโกในปี 1996
เพิ่มเติมจากข้อมูลที่ได้มา
*มหาวิหารโคโลญจน์เป็นมหาวิหารสูงอันดับสองในยุโรป รองจาก Ulmer Münster หรือมหาวิหารอูล์ม ในเมืองอูล์ม (Ulm)ประเทศเยอรมัน ซึ่งสูง 161 เมตร
*ปี1880-1884 เคยเป็นมหาวิหารที่สูงที่สุดในโลก
*ปี 2004 โดนใบแดงจากยูเนสโก โดนพิจารณาเรื่องผิดกฎเกณฑ์การเป็นมรดกโลก เพราะ ข้อแม้เรื่องตึกสูงๆ ที่ทำลายทัศนียภาพของโดม ที่สร้างทั่วไปริมลำน้ำไรน์
*ปี 2006 คณะกรรมการพิจารณาถอนใบแดง ให้เป็นมรกดกโลกต่อไป ทำให้มีการยุติเรื่องการก่อสร้างตึกสูงๆ รอบๆ โดม และมีบริษัทก่อสร้างหลายบริษัทต้องยกเลิกโครงการก่อสร้างตึกสูง

สถานที่จริงและความเชื่อที่มีเค้าลางอย่างปกปิดคลุมเครือก็นำมาเป็นปมการผจญภัยได้สนิทสนมแนบเนียนราวกับว่ามันคือความจริง อย่างเรื่องของมหาวิหาร Kloener Dom (เคิล์นโดม) ที่ตั้งอยู่ในเมืองโคโลญจน์ ประเทศเยอรมนีชาวเยอรมันเองเรียกโคโลญจน์ว่า เคิล์น เมืองเคิล์นเป็นเมืองใหญ่ที่สุดเมือง หนึ่งของเยอรมนีอยู่ทางตะวันตกของประเทศมีมหาวิหารขนาดใหญ่อลังการที่สุดในยุโรปเรียกกันว่า "เคิล์นโดม" ลักษณะพิเศษคือมียอดแหลมสองยอดและมีเพดานซึ่งมีความสูง มากกว่ามหาวิหารนอร์ทเธอดามที่ปารีสประมาณ 10 เมตร มหาวิหารแห่งนี้ได้รับการยกขึ้นเป็นมรดกโลกโดยองค์การยูเนสโก แต่มีข้อแม้ว่ารอบๆมหาวิหารต้องไม่มีการสร้างอาคาร สูงซึ่งชาวเมืองโคโลญจน์ก็ทำตามแต่โดยดี
ซึ่งมหาวิหารแห่งนี้ได้รับความเสียหายอย่างหนักระหว่างการทิ้งระเบิดในสงครามโลกครั้งที่สอง เพราะตั้งอยู่กลางเมืองและใกล้กับสะพานที่เป็นยุทธศาสตร์ทางการทหารเมื่อสงคราม ยุติลงจึงได้ค่อยๆมีการบูรณะขึ้นทีละเล็กทีละน้อยจนกระทั่งปัจจุบันก็ยังบูรณะไม่เสร็จสิ้นทั้งหมดเมืองโคโลญจน์ เป็นที่มาของน้ำหอมชนิดหนึ่งที่เรียกว่าออดิโคโลญจน์ทั้งนี้เพราะผู้ผลิต น้ำหอม ชนิดนี้ตั้งอยู่ ในเมืองนี้ซึ่งใช้ชื่อยี่ห้อ 4711 ยี่ห้อนี้มีที่มาจากบ้านเลขที่ 4711 ซึ่งเป็นที่ตั้งของโรงงานผลิตในขณะนั้น ออดิโคโลญจน์ของ 4711 จึงเป็นของฝากขึ้นชื่อของ โคโลญจน์จนถึงปัจจุบัน
เสน่ห์ของโคโลญจน์ที่พิเศษสุดกว่าเมืองใด ๆ ในเยอรมนีคือ เทศกาลคานิวาล เทศกาลนี้เริ่มขึ้นในวันที่ 11 เดือน 11 เวลา 11 นาฬิกา 11 นาที และ 11 วินาที ของทุกปี แล้วจะดำเนินต่อไปจนถึงประมาณเดือนกุมภาพันธ์ช่วงเวลาดังกล่าวทั้งเมืองจะมีการแสดงดนตรีวงโยธวาทิตการประกวดเต้นรำของชุมชนต่างๆการ แต่งกายแบบ แฟนซี ขบวนแห่ การดื่มกินและสรวลเสเฮฮากันอย่างสุดเหวี่ยงโดยเฉพาะวันแรกและวันสุดท้าย ของงาน
เทศกาลคานิวาลดึงดูดนักท่องเที่ยวได้จากทุกสารทิศโดยกล่าวกันว่าชาวเมืองบอนน์ซึ่งอยู่ใกล้กันเพียง 1 ชั่วโมงเกือบทั้งเมืองจะพากันมาเที่ยวงานคานิวาลเมือง โคโลญจน์มีการถ่ายทอดรายการประกวดเต้นรำร้องเพลงทางโทรทัศน์ทุกวันนับว่าความศิวิไลซ์ของเมืองนี้มีมนต์เสน่ห์ที่ตรึงใจผู้ ู้มาเยือนได้ราบคาบทีเดียว
หากใครที่อ่านนิยายเรื่อง "&&สมบัตินักบุญ" แล้วยังจินตนาการภาพของมหาวิหาร เคิล์นโดม ไม่ออก ก็ลองชมภาพความงดงามที่นำมาฝากกัน เผื่อว่าเมื่อกลับไปอ่านรอบที่ 2 หรือ 3 จะทำให้อรรถรสของเรื่องเพิ่มมากขึ้นอย่างประหลาด จนต้องอ่านเป็นรอบที่ 4 !!!
ที่มา มาจากนานมีบุคส์ ครับใครสนใจก็ลองหาอ่านนิยายเรื่อง "&&สมบัตินักบุญ" ดู
********************************************************
......โคโลญจน์ (อังกฤษ: Cologne; เยอรมัน: Köln) เป็นเมืองใหญ่เป็นอันดับสี่ของประเทศเยอรมนี รองจากเบอร์ลิน ฮัมบวร์ก และมิวนิค เป็นเมืองใหญ่ที่สุดของรัฐนอร์ทไรน์-เวสต์ฟาเลีย (North Rhine-Westphalia) โคโลญเป็นหนึ่งในเมืองที่เก่าแก่ที่สุดของเยอรมนี สร้างโดยชาวโรมัน มีประวัติศาสตร์ย้อนไปถึง ค.ศ.50 เมืองโคโลญตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำไรน์ ในเมืองมีมหาวิหารโคโลญจน์ (Cologne Cathedral; Kölner Dom) ซึ่งเป็นโบสถ์ศาสนาคริสต์นิกายโรมันคาทอลิกที่มีชื่อเสียง มหาวิทยาลัยโคโลญจน์ (Universität zu Köln) เป็นหนึ่งในมหาวิทยาลัยที่เก่าแก่ที่สุดในทวีปยุโรป และเป็นมหาวิทยาลัยที่ใหญ่เป็นอันดับสองของประเทศตัวเมืองมีพื้นที่ 405.15 ตารางกิโลเมตร มีประชากรนับเฉพาะที่อาศัยในเขตเมือง 975,907 คน (ข้อมูลปี ค.ศ. 2005)
มหาวิหารเมืองโคโลญ (Koelner Dom)

มหาวิหารโคโลญจน์ (Cologne Cathedral หรือ Kolner Dom) สร้างสำเร็จพร้อมกับมีพีธีวางหลักหินบันทึกข้อมูลการก่อสร้าง (foundation stone) โดยเริ่มก่อสร้างมาตั้งแต่ปี 1791 แต่มีปัญหาให้ต้องหยุดพักการก่อสร้างไปบ้าง จึงต้องใช้เวลากว่าหกร้อยปีจึงสร้างเสร็จสมบูรณ์ มหาวิหารโคโลญจน์เป็นศาสนสถานของคริสต์ศาสนาโรมันคาทอลิก นับเป็นวิหารที่ใหญ่และสูงที่สุดในโลกในสมัยนั้น (แม้ปัจจุบันก็ยังติดอันดับ 3 ของโลก) ลักษณะสถาปัตยกรรมแบบโกธิก (Gothic) เป็นหอคอยแฝดสูง 157เมตร กว้าง 86 เมตร ยาว 144 เมตร สร้างเพื่ออุทิศให้ นักบุญปีเตอร์ (Saint Peter) และ พระแม่มารี (Blessed Virgin Mary) ปัจจุบันมหาวิหารโคโลญจน์นับจุดหมายสำคัญของเมืองโคโลญจน์และประเทศเยอรมนี และได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกจากองค์การยูเนสโกในปี 1996
เพิ่มเติมจากข้อมูลที่ได้มา
*มหาวิหารโคโลญจน์เป็นมหาวิหารสูงอันดับสองในยุโรป รองจาก Ulmer Münster หรือมหาวิหารอูล์ม ในเมืองอูล์ม (Ulm)ประเทศเยอรมัน ซึ่งสูง 161 เมตร
*ปี1880-1884 เคยเป็นมหาวิหารที่สูงที่สุดในโลก
*ปี 2004 โดนใบแดงจากยูเนสโก โดนพิจารณาเรื่องผิดกฎเกณฑ์การเป็นมรดกโลก เพราะ ข้อแม้เรื่องตึกสูงๆ ที่ทำลายทัศนียภาพของโดม ที่สร้างทั่วไปริมลำน้ำไรน์
*ปี 2006 คณะกรรมการพิจารณาถอนใบแดง ให้เป็นมรกดกโลกต่อไป ทำให้มีการยุติเรื่องการก่อสร้างตึกสูงๆ รอบๆ โดม และมีบริษัทก่อสร้างหลายบริษัทต้องยกเลิกโครงการก่อสร้างตึกสูง
