หน้า 1 จากทั้งหมด 1
					
				ไม่อยากสวดบทนี้เลย ..
				โพสต์แล้ว: พุธ มี.ค. 24, 2010 8:20 pm
				โดย เลย์
				ไม่รุ้ว่าเลย์คิดมากไปเองหรือป่าว  เลย์ไม่อยากสวดบทแสดงความทุกข์เลย  โดยเฉพาะประโยคที่ว่า " เดชะพระหรรษทานช่วย 
ข้าพเจ้าตั้งใจแน่วแน่ว่าจะไม่ทำบาปอีกเลย " เพราะรู้สึกเหมือนว่าเรากำลังโกหกพระเป็นเจ้าว่าเราจะไม่ทำบาปอีก แต่เราก็ทำบาป
กันอยู่ทุกวัน และเป็นบาปที่ซ้ำๆด้วย เวลาเลย์สวด เลย์จะสวดบทแสดงความเชื่อ ความไว้ใจ ความรัก ส่วนบทแสดงความทุกข์เลย์จะไม่สวด
ด้วยเหตุผลดังกล่าว เพื่อนๆว่าเลย์คิดมากไปเองหรือป่าวครับ แนะนำด้วยครับ ..    : emo036 :  : xemo031 :  : xemo033 :
			 
			
					
				Re: ไม่อยากสวดบทนี้เลย ..
				โพสต์แล้ว: พุธ มี.ค. 24, 2010 8:35 pm
				โดย synner
				มนุษย์ก็คือ มนุษย์เลย์ ไม่ว่าจะอย่างไรก็มีโอกาสพลาดพลั้ง เราว่าคุณควรจะสวดนะ  เราสวดเวลาไปแก้บาปทุกที เรียกว่าสำนึกก่อนเข้าที่แก้บาปเสียอีก
งานนี้คุณอาจจะคิดมากไปนะ  แค่คุณสำนึกได้และพยายามหลีกเลี่ยงจากบาป พระองค์ก็ทรงยกโทษให้คุณแล้วแหละ
ขอพระเจ้าอวยพรนะ
			 
			
					
				Re: ไม่อยากสวดบทนี้เลย ..
				โพสต์แล้ว: พุธ มี.ค. 24, 2010 10:07 pm
				โดย Batholomew
				สวดเถอะครับ เป็นการทำให้เราสำนึกในบาปนั้นมากขึ้น
			 
			
					
				Re: ไม่อยากสวดบทนี้เลย ..
				โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. มี.ค. 25, 2010 3:01 am
				โดย 13PM.
				ผมก็เคยคิดอย่างเลย์นะครับ..แต่ผมคิิดว่าการที่เราเป็นมนุษย์นั้นสิ่งล่อลวงสารพัดโดยมากมักมีแต่สิ่งจูงใจให้ทำบาปทั้งสิ้น การพลาดพลั้งก็เกิดขึ้นเป็นเรื่องธรรมดา แต่จงภูมิใจที่เรายังมีจิตสำนึกที่ดีที่คิดจะกลับตัวและแก้ไข หากเรามีสิ่งนี้ก็หมายถึงเรามีศีลธรรมที่ดีอยู่ในตัวอยู่แล้ว ต่างจากคนที่คิดแต่จะทำผิดอย่างดียวคิดแต่จะเอาัดเอาเปรียบโดยไม่มีพระเป็นเจ้านำทางหรือไม่ยอมเดินตามทางพระองค์ ผิดจากเราที่มีแสงสว่างในพระคอยชี้นำให้เรากลับใจเสมอ..
อย่าลืมว่าอย่างไรเสียเราก็เป็นคนบาปดังนั้นการสังวรว่าเราเป็นคนบาปนั้นมิใช่สิ่งผิดแต่การไม่สำนึกถึงมันเลยนั่นสิเป็นบาปอันใหญ่หลวงที่แท้จริง
			 
			
					
				Re: ไม่อยากสวดบทนี้เลย ..
				โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. มี.ค. 25, 2010 4:28 am
				โดย Holy
				คิดมากไปครับ
ถ้าเราละอายเมื่อสวด เป็นการบ่งบอกว่า มโนธรรมของเรา ยังคงทำงานอยู่ ยังไม่ได้หลงผิด คิดไปว่าสิ่งที่ทำนั้นไม่บาป และยังละอายในบาปนั้นอยู่ ซึ่งน่ายินดีว่า พระจิตเจ้ายังทำงานในจิตวิญญาณเรา และเรายังอยู่ในพระหรรษทาน
ซึ่งการบอกกับพระเจ้า และตัวตนเองว่า เราจะพยายามไม่ทำบาปอีก ไม่ได้แปลว่า คนตั้งใจแน่วแน่จะพลาดหรือล้มไม่ได้ แต่เพียงบอกว่าจะพยายามให้ถึงที่สุด และเมื่อพลาดไป ให้กลับไปขอโทษพระองค์ และกลับใจใหม่อีกครั้ง 
ตราบที่เราอยู่ในเนื้อหนัง เราจะไม่ทำบาปเลยคงเป้นไปไม่ได้ แม้แต่นักบุญยังสารภาพบาปเสมอๆ ทั้งพระสันตะปาปา ก็สารภาพบาปเสมอๆเช่นกัน แล้วเราเป็นใครกัน ที่จะเก่งว่าท่านดำรงชีวิตโดยไม่ทำบาปเลยแม้แต่นิดเดียวได้ ในเมื่อเราต้องสำนึกเสมอว่า เราเป็นคนบาป
ขอพระเจ้าอวยพรครับ
			 
			
					
				Re: ไม่อยากสวดบทนี้เลย ..
				โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. มี.ค. 25, 2010 9:02 am
				โดย Holy Bible
				ผมก็เคยคิดเหมือนกัน
			 
			
					
				Re: ไม่อยากสวดบทนี้เลย ..
				โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. มี.ค. 25, 2010 1:09 pm
				โดย Like a Heaven
				ผมก้อรู้สึกครับ
แต่เชื่อเถอะครับ
พระพรของพระมีมากมายเหลือล้นจริงๆ .. ^ ^
			 
			
					
				Re: ไม่อยากสวดบทนี้เลย ..
				โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. มี.ค. 25, 2010 1:39 pm
				โดย francisco xavier
				ประเด็นไม่ได้อยู่ที่ว่า เราจะไม่ทำบาปอีกเลยจริง ๆ
ประเด็นอยู่ที่ เรารู้สึกรังเกียจสิ่งที่เราทำ แล้วตั้งใจว่าจะไม่ทำบาปนั้นอีก ฉะนั้น ความสำคัญอยู่ที่ เรารู้สึกสำนึกผิดมากแค่ไหน ไม่ได้อยู่ที่เราสะอาดมากแค่ไหน ครับ
			 
			
					
				Re: ไม่อยากสวดบทนี้เลย ..
				โพสต์แล้ว: ศุกร์ มี.ค. 26, 2010 2:10 pm
				โดย พระเจ้าสถิตย์กับเราเสมอ
				ดีแล้วครับที่รู้สึกแบบนี้ สวดต่อไปเถอะครับตามที่พี่ Holy ว่าใว้
			 
			
					
				Re: ไม่อยากสวดบทนี้เลย ..
				โพสต์แล้ว: ศุกร์ มี.ค. 26, 2010 3:33 pm
				โดย sidtad
				สวดเถอะครับ   
 
			 
			
					
				Re: ไม่อยากสวดบทนี้เลย ..
				โพสต์แล้ว: ศุกร์ มี.ค. 26, 2010 5:46 pm
				โดย เลย์
				ขอบคุณทุกท่านครับ สวดแล้วครับ  

 
			
					
				Re: ไม่อยากสวดบทนี้เลย ..
				โพสต์แล้ว: ศุกร์ มี.ค. 26, 2010 6:19 pm
				โดย Mobster
				Holy เขียน:
คิดมากไปครับ
ถ้าเราละอายเมื่อสวด เป็นการบ่งบอกว่า มโนธรรมของเรา ยังคงทำงานอยู่ ยังไม่ได้หลงผิด คิดไปว่าสิ่งที่ทำนั้นไม่บาป และยังละอายในบาปนั้นอยู่ ซึ่งน่ายินดีว่า พระจิตเจ้ายังทำงานในจิตวิญญาณเรา และเรายังอยู่ในพระหรรษทาน
ซึ่งการบอกกับพระเจ้า และตัวตนเองว่า เราจะพยายามไม่ทำบาปอีก ไม่ได้แปลว่า คนตั้งใจแน่วแน่จะพลาดหรือล้มไม่ได้ แต่เพียงบอกว่าจะพยายามให้ถึงที่สุด และเมื่อพลาดไป ให้กลับไปขอโทษพระองค์ และกลับใจใหม่อีกครั้ง 
ตราบที่เราอยู่ในเนื้อหนัง เราจะไม่ทำบาปเลยคงเป้นไปไม่ได้ แม้แต่นักบุญยังสารภาพบาปเสมอๆ ทั้งพระสันตะปาปา ก็สารภาพบาปเสมอๆเช่นกัน แล้วเราเป็นใครกัน ที่จะเก่งว่าท่านดำรงชีวิตโดยไม่ทำบาปเลยแม้แต่นิดเดียวได้ ในเมื่อเราต้องสำนึกเสมอว่า เราเป็นคนบาป
ขอพระเจ้าอวยพรครับ
ใช่เลย
 
			
					
				Re: ไม่อยากสวดบทนี้เลย ..
				โพสต์แล้ว: ศุกร์ มี.ค. 26, 2010 10:02 pm
				โดย พระเจ้าสถิตย์กับเราเสมอ
				ตรงกันข้ามถ้าคิดว่า"ชั้นไม่ทำบาปแล้ว ฉันสวดได้อย่างเต็มปากเต็มคำ"...แบบนี้น่าเป็นห่วงของจริง