ทำยังไงถึงจะคุยกับพระเจ้าได้

ใครมาใหม่เชิญทางนี้ก่อน ทักทาย ทดลองโพส
ตอบกลับโพส
ภาพประจำตัวสมาชิก
Valkyrie Zero Number
โพสต์: 2081
ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ส.ค. 27, 2007 4:11 am

เสาร์ เม.ย. 03, 2010 10:57 am

ก่อนอื่นขอสอบถามคริสเตียนทุกคนที่อาจจะเคยได้ยินเสียงของพระเจ้า แบบว่าเป็นยังไง เหมือนมีคนมาพูดหรือกระซิบข้างหูเลยหรือเปล่า

ทุกวันนี้เราไม่ค่อยกล้าตัดสินใจว่ามโนธรรมหรือคำพูดในสมอง มาจากพระเจ้า ซาตาน หรือว่าตัวเองแน่ เพราะถึงจะครบเลยก็ปนเปเกินไปแยกไม่ออก
(จะให้ใช้มโนธรรมดั้งเดิมตัดสินก็กระไรอยู่ กลัวเข้าใจผิดแล้วซวยอีก)

เคยเลือกจะนอนในห้องคนเดียว รอจนดึกดื่น อ่านพระคัมภีร์ไปพลาง พร้อมกับคำถามที่สงสัยและสะดุดใจมากมาย รอแล้วรออีก ไม่มีเสียงตอบรับจากเลขหมายที่ท่านเรียก = ='

ตกลงทำยังไงถึงจะขอพบพระองค์ หรือขอนิมิตสักอย่างสองอย่าง เพื่อแสดงให้ความชัวร์ถึงอำนาจของพระองค์ได้บ้างคะ

(อยากเอาไปตอกหน้าพวกคนไม่เชื่อก็บอกมาเถอะเรา สารภาพตรงนี้ละกันว่านั่นเป็นเหตุผลหนึ่ง แต่เหตุผลอื่นอย่าง ต้องการให้ความเชื่อเพิ่ม ต้องการความชัวร์ กระทั่งรอฟังแนวทางการดำเนินชีวิตต่อไปอย่างไรดี ก็อยากได้คำตอบเหมือนกัน)

เริ่มเบื่อกับการรอคอยอย่างเงียบเหงาแล้วค่ะ (วันดีคืนดีเดี๋ยวฟุ้งซ่านขนาดลาออกอีกจะยุ่ง)
ภาพประจำตัวสมาชิก
Jeanne d'Arc
โพสต์: 235
ลงทะเบียนเมื่อ: อังคาร พ.ค. 12, 2009 12:33 pm

เสาร์ เม.ย. 03, 2010 11:05 am

ผมเจอพระองค์ในฝัน

ในขณะที่ผมเป็น Anti-Christ ครับ

รายละเอียด เล่า ถ้ามีคนถามต่อ : xemo016 :
อันตน
~@
โพสต์: 4164
ลงทะเบียนเมื่อ: พุธ ก.ค. 06, 2005 6:50 pm
ที่อยู่: ภูเก็ต

เสาร์ เม.ย. 03, 2010 11:08 am

ปล่อยให้เด็กๆเข้ามาหาเราเถิด

ทำแบบเด็กๆนะครับ ไม่ต้องเอาคนอื่นมาเกี่ยว
(อยากเอาไปตอกหน้าพวกคนไม่เชื่อก็บอกมาเถอะเรา สารภาพตรงนี้ละกันว่านั่นเป็นเหตุผลหนึ่ง แต่เหตุผลอื่นอย่าง ต้องการให้ความเชื่อเพิ่ม ต้องการความชัวร์ กระทั่งรอฟังแนวทางการดำเนินชีวิตต่อไปอย่างไรดี ก็อยากได้คำตอบเหมือนกัน)
หนึ่งในสาเหตุที่ฟังแต่ไม่ได้ยิน เพราะว่าเอาคนอื่นมาข้องแวะด้วย เลยได้ยินหลายเสียงไปหน่อย
(เริ่มเบื่อกับการรอคอยอย่างเงียบเหงาแล้วค่ะ (วันดีคืนดีเดี๋ยวฟุ้งซ่านขนาดลาออกอีกจะยุ่ง)
แสดงว่าพระองค์ต้องการให้คุณออกสู่สังคม หรือออกสู่โลกความจริง อย่านั่งเหงาเป็นไก่ป่วยอยู่ จะเฉาตายไม่รู้ตัว

อนึ่งพระเจ้าไม่ได้ตอบเฉพาะตอนอ่านหรืออธิษฐานเสียเมื่อไหร่ เพราะว่าพระองค์ทรงรู้ว่าใจเราเป็นยังไง บอกไปแล้วเป็นยังไง มโนธรรมเราเป็นยังไง ดังนั้นบางทีพระอาจจะตอบหลังจากนั้นในชีวิตประจำวันก็ได้ เพราะพระองค์อยู่ในทุกที่ ไม่ได้อยู่เฉพาะในที่อธิษฐานเสมอไป
หากอธิษฐานแล้วไม่ได้ยินคำตอบ ณ ตอนนัน ก็ลองฟังคำตอบในเวลาอื่นดูสิครับ เหมือนยื่นเรื่องแล้วรอฟังผลไง ผลหรือคำตอบไม่ได้ออกมาแบบกดปุ๊บได้ปั๊บเสมอไปหรอกครับ

พระอวยพร
แก้ไขล่าสุดโดย Anonymous เมื่อ เสาร์ เม.ย. 03, 2010 11:10 am, แก้ไขไปแล้ว 1 ครั้ง.
ภาพประจำตัวสมาชิก
Valkyrie Zero Number
โพสต์: 2081
ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ส.ค. 27, 2007 4:11 am

เสาร์ เม.ย. 03, 2010 12:09 pm

(เริ่มเบื่อกับการรอคอยอย่างเงียบเหงาแล้วค่ะ (วันดีคืนดีเดี๋ยวฟุ้งซ่านขนาดลาออกอีกจะยุ่ง)
แสดงว่าพระองค์ต้องการให้คุณออกสู่สังคม หรือออกสู่โลกความจริง อย่านั่งเหงาเป็นไก่ป่วยอยู่ จะเฉาตายไม่รู้ตัว
[/quote]

ช่วงนี้ไปเที่ยวไหนไม่ได้เลยค่ะ อย่าว่าแต่ลง กทม. ไปหาเพื่อนหรือไปงานหนังสือหรืออะไรเลย ต้องผลัดเวรไปเฝ้าไข้ยายเรื่อย ๆ เวลาวางแผนยังแทบไม่ค่อยมีเลย
(....ถึงหมอเขาจะบอกอีกสองสามวันกลับบ้านได้ แต่ป่านนี้งานหนังสือเลิกไปแล้วมั้ง อดไปพอดี แหงะ)
†ลูกแกะพระเจ้า...
โพสต์: 124
ลงทะเบียนเมื่อ: พุธ ก.ย. 30, 2009 5:18 pm
ที่อยู่: ขอนแก่น

เสาร์ เม.ย. 03, 2010 12:55 pm

†ลูกแกะพระเจ้า...

เด็กหานาฬิกา

    ชาวนาคนหนึ่ง หลังจากไปทำความสะอาดคอกม้า ออกมาก็พบว่านาฬิกาพกของตนได้หล่นหายไปเสียแล้ว นาฬิกาพกเรือนนี้มีความหมายต่อเขาอย่างมาก ด้วยเป็นของขวัญที่แม่ของเขาทิ้งไว้ให้ เขารีบวิ่งกลับไปที่คอกม้า รื้อหาจนทั่วบริเวณแทบพลิกแผ่นดินหา แต่ก็หาไม่พบ...

    เขาเดินออกมาจากคอกม้าด้วยเหงื่อที่ท่วมตัว มองไปเห็นมีเด็กกลุ่มหนึ่งกำลังเล่นกันอยู่แถวนั้น เขาจึงได้คิดว่าอาจเป็นเพราะตัวเองแก่แล้วหูตาฝ้าฟาง ทำให้หาไม่เจอ แต่เด็กๆ หูตายังแหลมคม น่าจะหาเจอก็เป็นได้ เขาจึงเรียกเด็กๆ มาแล้วบอกว่า
ภาพประจำตัวสมาชิก
Deo Gratias
โพสต์: 1100
ลงทะเบียนเมื่อ: พฤหัสฯ. มี.ค. 16, 2006 11:53 pm

เสาร์ เม.ย. 03, 2010 11:38 pm

พระเจ้าตรัสกับเราได้หลายทาง ผ่านเหตุการณ์ ผ่านความฝัน ผ่านคำเทศนา ผ่านผู้นำ ผ่านผู้เชื่อคนอื่นๆ ผ่านพระวจนะ ....
หรือบางคนอาจได้ยินเป็นเสียง หรือเห็นนิมิต ซึ่งแต่ละคนจะมีประสบการณ์ไม่เหมือนกัน เพราะพระเจ้ารู้ว่าใครเหมาะกับการสื่อสารแบบไหน

อย่าพยายามเป็นเหมือนคนอื่น หรือคิดว่าต้องมีประสบการณ์กับพระเจ้าในแบบเดียวกันกับที่คนอื่นมี
เพราะถ้าเราคาดหวังอย่างนั้น เมื่อไม่ได้เราจะเหมาเอาว่าพระเจ้าไม่ตรัส ไม่รักเรา และบางครั้งก็เป็นการเปิดโอกาสให้มารใส่ความคิดต่างๆ ได้

การสื่อสารที่มาจากพระเจ้าทุกทางที่กล่าวมาไม่ว่าจะเป็นผ่านเหตุการณ์ ความฝัน คำเทศนา ผู้นำ ผู้เชื่อคนอื่นๆ...
ทั้งหมดนี้ ไม่ใช่สื่งที่รับมาครั้งเดียวแล้วเราจะเชื่อทั้งหมดเลยโดยไม่สงสัย แต่เราก็จะต้องไม่ละเลยหรือทำเป็นไม่สนใจ..

การสื่อสารที่มาจากพระเจ้า
1. ไม่ขัดแย้งกับความเชื่อและมีพระคัมภีร์รับรอง ... ถ้าขัดแย้งก็ไม่ใช่
2. พระเจ้าจะยืนยันผ่านทางอื่นด้วย ... ถ้าไม่มีก็อาจจะไม่ใช่
3. เราจะมีสันติสุข ... ถ้าขาดสันติสุขก็ไม่ใช่
4. พระเจ้าจะเปิดประตูในทางที่ทรงสำแดง และปิดทางอื่นๆ
5. ความเป็นไปได้และองค์ประกอบอื่นๆ ต้องสอดคล้องกัน ... เช่น ถ้าเห็นนิมิตว่าจะได้ผ่าตัดหัวใจคน แต่ตัวเองไม่ได้เป็นหมอ ก็ไม่ใช่ละ

หนุนใจว่าจริงๆ แล้วพระเจ้าอยู่กับเราทุกเวลา แม้เราจะมองไม่เห็นด้วยตา แต่เราสัมผัสได้ด้วยใจและด้วยวิญญาณ แค่เรามองไปรอบๆ ตัวเราก็เห็นพระคุณของพระเจ้าแล้ว หมายสำคัญที่สำคัญที่สุดที่พระเจ้าสำแดงแก่เราแล้ว คือหมายสำคัญของโยนาห์ ซึ่งหมายถึงข่าวประเสริฐเรื่องการสิ้นพระชนม์และคืนพระชนม์ของพระเยซูคริสต์ การแสวงหาการอัศจรรย์อื่นๆ ที่หวือหวา ไม่ใช่สิ่งที่จำเป็นเสมอไป ดีไม่ดีถ้ามีท่าทีที่ไม่ถูกต้องอาจกลายเป็นการทดลองพระเจ้าได้ พระเยซูตรัสกับโธมัสว่า
แก้ไขล่าสุดโดย Anonymous เมื่อ เสาร์ เม.ย. 03, 2010 11:44 pm, แก้ไขไปแล้ว 1 ครั้ง.
ภาพประจำตัวสมาชิก
Holy
Defender of lawS
Defender of lawS
โพสต์: 10011
ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ม.ค. 17, 2005 3:06 pm

อาทิตย์ เม.ย. 04, 2010 12:52 am

ถ่อมใจ

ยก 4:6
พระองค์ยังประทานพระหรรษทานที่ยิ่งใหญ่ยิ่งกว่านั้นอีก ฉะนั้นพระคัมภีร์จึงกล่าวอีกว่า “พระเจ้าทรงต่อต้านคนเย่อหยิ่ง แต่ประทานพระหรรษทานแก่ผู้ถ่อมตน”



ตราบใดที่เรายังคิดว่าเราเก่งกว่าพระเจ้า จัดการอะไรๆได้ดีกว่าพระเจ้า มีวิธีที่ดีกว่าพระเจ้าในการแก้ปัญหานั้นนี้ พระเจ้าผิด พระเจ้าพลาด ยังไม่ฉลาดเท่าเรา ทำไมพระเจ้าทำแบบนี้ ถ้าเป็นเราเราจะทำอย่างนั้นอย่างนี้

ทั้งหมดนี้ คือ สิ่งที่ทำให้พระเจ้าไม่เข้ามาใกล้ และไม่สำแดงอะไรให้ เพราะ ต่อให้พระองค์ส่งสารอะไรมา จะทางไหน วิธีใดก็ตาม ถ้าคนนั้นๆคาดหวังคำตอบแบบไหนไว้ล่วงหน้า หรือคิดคำตอบของตัวเองไว้แล้ว เขาอาจไม่เชื่อสารที่พระองค์ส่งมา และอาจหาเหตุผลต่างๆเพื่อจะบอกตัวเองว่า สารที่มานั้นไม่ได้มาจากพระเจ้า เพราะมันไม่ถูกใจตัวเอง และไม่ตรงกับที่ตัวเองต้องการ

ถ้าไม่สามารถกำหนดท่าทีของตนอย่างถูกต้องตามฐานะที่แท้จริงของตน เฉพาะพระพักตร์พระเจ้า จะเข้าเฝ้าพระเจ้าได้อย่างไร


ยก 3:13-18  ปรีชาญาณแท้และปรีชาญาณเทียม
ใครบ้างคิดว่าตนฉลาดและมีปรีชาญาณ จงแสดงความฉลาดและปรีชาญาณนั้นอย่างอ่อนโยนด้วยการกระทำและความประพฤติดี แต่ถ้าใจของท่านขมขื่นด้วยความอิจฉาริษยา และมีความทะเยอทะยาน จงอย่าโอ้อวดและอย่ามุสาต่อต้านความจริง  ปรีชาญาณเช่นนี้มิได้มาจากเบื้องบน แต่เป็นปรีชาญาณตามธรรมดาโลก ตามแบบวัตถุนิยมและตามแบบปีศาจ  ที่ใดมีความอิจฉาริษยาและความทะเยอทะยาน ที่นั่นย่อมมีแต่ความวุ่นวายและความชั่วร้ายนานาชนิด ส่วนปรีชาญาณที่มาจากเบื้องบน ประการแรกเป็นสิ่งบริสุทธิ์ แล้วจึงก่อให้เกิดสันติ เห็นอกเห็นใจ อ่อนน้อม เปี่ยมด้วยความเมตตากรุณา บังเกิดผลที่ดีงาม ไม่ลำเอียง ไม่เสแสร้ง  ผู้ที่สร้างสันติย่อมเป็นผู้หว่านในสันติ และจะเก็บเกี่ยวผลเป็นความชอบธรรม
แก้ไขล่าสุดโดย Holy เมื่อ อาทิตย์ เม.ย. 04, 2010 1:03 am, แก้ไขไปแล้ว 1 ครั้ง.
ภาพประจำตัวสมาชิก
นายใหญ่
โพสต์: 105
ลงทะเบียนเมื่อ: พฤหัสฯ. มิ.ย. 09, 2005 6:45 pm
ที่อยู่: Sakonnakhon
ติดต่อ:

อาทิตย์ เม.ย. 04, 2010 11:48 am

เห็นด้วยกับคุณ Deo Gratias

พระเจ้าตรัส หรือ สัมผัสเราได้
ในหลายๆ ทาง
หลายๆ รูปแบบ
หลายๆ สถานะ

คราวนี้... แล้วทำไมเราาถึงไม่เห็นรู้สึกได้เลย...
ไม่เห็นเหมือนคนอื่นๆ กันเลย...
บางคนฝัน
บางคนได้ยิน
บางคนรู้สึก
และอื่นๆ อีกมากมาย

นั่นนะสิครับ... เป็นสิ่งที่เราต้องหาคำตอบให้ตัวเองว่า...
ตัวเรามีความพร้อมที่จะยอมกับการสัมผัสจากพระหรือป่าว

การสัมพันธ์กับพระเจ้าจะเป็นแบบ 50:50 ครับ

มนุษย์ ครึงหนึ่ง
พระเจ้าครึ่งหนึ่ง

ลองคิดดูสิครับ...
ถ้ามีคนยื่นสิ่งของให้เราสักอย่างเราจะทำอย่างไร
เราก็คงจะยื่นมือออกไปรับของสิ่งนั้นๆ สิครับ...

ต่างฝ่ายต่างยื่นมือออกหากับคนละครึ่งทาง

ฉะนั้นเป็นตัวเราเองที่จะต้องออกแรงยื่นมือไปหาพระองค์ เพื่อสัมผัสกับพระองค์
Like a Heaven
.
.
โพสต์: 1739
ลงทะเบียนเมื่อ: อาทิตย์ ต.ค. 28, 2007 5:58 pm
ที่อยู่: In the Christ

อังคาร เม.ย. 13, 2010 10:35 pm

ง่ายๆครับ

เอาพระคัมภีร์มาเปิด

พระก้อคุยกับเราแล้ว ...

สุดแสนจะชัดเจน : xemo016 :
syaoran
โพสต์: 267
ลงทะเบียนเมื่อ: อาทิตย์ ก.ย. 06, 2009 8:42 pm
ที่อยู่: นครสวรรค์
ติดต่อ:

อังคาร เม.ย. 20, 2010 7:25 pm

ทำยังไงถึงจะคุยกับพระเจ้าได้ อืม....ประโยคนี้เด็ดมากครับ นั่นสิ ต้อง " ทำยังไงถึงจะคุยกับพระเจ้าได้ "
ในความคิดของผมแบบนี้อาจจะต้องดำเนินการด้วยวิธีแบบนี้
1.ปฏิบัติตามพระบัญญัติสิบประการ ทุกข้อ
2.อ่านพระคัมภีร์อย่างตั้งใจจริง
3.ไปวัด(โบสถ์)ทุกวันอาทิตย์
4.สวดบทภาวนา ทุกบท โดยเฉพาะ " บทข้าพเจ้าเชื่อ "
5.ฝึกอธิษฐานเพื่อทุกคนบนโลก
6.ร่วมพิธีมิซซาเป็นประจำไม่เคยขาด กิจกรรมทุกอย่างทางศาสนา
7.ไปค้นหาถ้ำพระกุมารประสูติพระเยซูเจ้ากระมัง?
8.สวดวันทามารีอา สวดบทศักดิ์สิทธิ์ทุกบท บวชเป็นซิสเตอร์,บาทหลวงโดยไม่คิดจะแต่งงานในชาตินี้ ชาติไหนๆอีก
9.ยินดีด้วยครับคุณกลายเป็นคริสตชนอย่างแท้จริงทั้งกายและใจ เพื่อพระคริสตเจ้า และปลายทางของคุณคือ ได้ไปเกิดใหม่บนสรวงสวรรค์ได้พบพระองค์
10.ในวันเริ่มต้นโลกใหม่ในพระคัมภีร์พันธสัญญาใหม่คุณจะได้ไปอาศัยอยู่ในนั้นกับพระองค์ครับ
ภาพประจำตัวสมาชิก
Valkyrie Zero Number
โพสต์: 2081
ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ส.ค. 27, 2007 4:11 am

อาทิตย์ เม.ย. 25, 2010 6:23 am

ตอนนี้มีปัญหาคาใจ เกี่ยวกับทำนองว่า จะรู้ได้อย่างไร ว่าเราได้ยินเสียงพระเจ้า เสียงมาร หรือว่าเราคิดไปเอง

เช่น สมมติวันนึงเราซักผ้าตามปกติ คือปกติตั้งใจไว้ว่าช่วงที่รอเสื้อผ้าปั่น จะยกดัมเบลข้างละกิโล (มือใหม่) ไม่ต่ำกว่าร้อยยก

แล้ว มาวันนี้ เหมือนมีความคิดแวบในหัว (คือ เหมือนกับที่คิดในใจตามปกติ แต่เผอิญเป็นสิ่งที่ขัดกับความตั้งใจ แล้วก็พักนี้กังวลเรื่องคุยได้ไม่ได้อยู่ด้วย อ่านพระคัมภีร์ัมันก็ดีแต่ให้ความรู้สึกเหมือนการสื่อสารทางเดียวอยู่ดีค่ะ)

มันชัดมั่งไม่ชัดมั่ง แต่พอได้ใจความว่า "ไม่ให้ยกข้างละกิโลอีกแล้ว ไม่งั้นจะไม่ทำ( something couldn't be say this topic = SCNS) แต่ให้ยกข้างละ 5 กก. ไม่เกินห้าสิบครั้งแทน (แน่นอนว่าถ้าเกินกว่านี้ แขนคนเปราะบางแบบเราตอนนี้ไม่หักก็เดี้ยงเอาง่าย ๆ )"

แต่ปัญหาอยู่ที่ว่า "เสียงมันเหมือนที่เราคิดไปเองอยู่บ่อย ๆ บ้าง คือ ถ้าตามปกติคงถือว่าคิดไปเองนานแล้ว" แต่ไอ้ครั้นจะถามให้แน่ใจ ก็กลัวว่าจะยิ่งคิดไปเองหนักกว่าเดิม ที่สำคัญ เรื่องของการฟิตกำลังกายมันมีในพระคัมภีร์ท่อนไหน (หรือถึงมีเราก็ไม่รู้ว่ามันอยู่หน้าไหน แต่พระคัมภีร์จะเหนือกว่าเจ้าของพระวจนะหรือ?)

ขณะเดียวกัน คิดในแง่ร้ายก็อาจเป็นมารดลใจหลอกให้เรายอมแพ้ แล้วกากต่อไป และตลอดไปก็ได้

เจอแบบนี้ทำยังไงดี

(ที่สำคัญเราจะฟังเสียงพระองค์ได้อย่างไร อธิษฐานก็แล้ว พร่ำวิงวอนก็แล้ว เปิดเผยความรู้สึกในที่ลับก็แล้ว แม้ปิดกระทั่งเสียงแอร์เพื่อรอฟังจากความเงียบก็แล้ว ยังไม่เห็นได้ยินพระสุรเสียง หรือแม้แต่การเขียนข้อความบนผนังหรืออากาศ ที่พอจะให้ชัวร์ว่าไม่ได้คิดไปเองแน่นอนได้เลย)
Aeyu
โพสต์: 157
ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ พ.ย. 27, 2006 12:26 am

จันทร์ พ.ค. 31, 2010 2:02 pm

บางทีถ้าเราต้องการพระวาจาจากพระเจ้า หรือบางเรื่องที่เราต้องการคำตอบ เราจะอธิษฐานต่อพระ แม่พระ แล้วเปิดพระคัมภีร์ หากตรงกับหน้าไหน สะดุดใจที่บทไหน เราจะตั้งใจอ่านและคิดตาม บางครั้ง เราจะอธิษฐานก่อนออกจากบ้าน " โปรดประทานพระวาจาแก่ลูกในวันนี้ เพื่อลูกจะได้ดำเนินชีวิตในพระองค์ได้อย่างดี " : emo045 :

มีครั้งนึง ช่วงที่ กทม เกิดเหตุรุนแรง และเราอยากไปค่ายที่บ้านผู้หว่าน โดยเรา ต้องเดินทางผ่านเข้า กทม ก่อน เราอยากไปแต่กลัวโดนยิง กลัวโดนระเบิด เราจึงอธิษฐานว่า พ่อขา แม่ขา ลูกอยากไป แต่กลัวตายค่ะ ลชูกจะทำยังงัยดี ขอพระบิดา แม่พระ บอกลูกด้วย พอเราเปิด ไบเบิ้ล ไดอารี ปี2007 ท่าน บอก ว่า ไม่ต้องกลัว ...... ซึ่งเราจำไม่ได้ แต่แค่เราเจอประโยคแรกเท่านั้น เราก็มั่นใจได้ในทันที ว่า เราจะไป และเราไม่จำเป็นต้องกลัวสิ่งใดๆเลย และผลก็คือเรามีความสุขมากที่เราได้ไป เราอิ่มใจ มีความสุข บางครั้งการได้ คุยกับคริสตชนคนอื่นก็ช่วยเสริมความรู้ ความรักในพระได้เป็นอย่างดี
มีคนว่า ถ้าใบไม้ไหว แสดงว่าลมพัด และหาก มีลม แสดงว่า ที่นั่นมีพระเจ้า ซึ่งก็หมายความว่า พระเจ้า อยู่ในทุกๆที่ เพียงแค่เรานึกถึงพระองค์ : xemo026 :
Batholomew
~@
โพสต์: 12724
ลงทะเบียนเมื่อ: อังคาร ม.ค. 18, 2005 2:28 pm
ที่อยู่: Thailand

จันทร์ พ.ค. 31, 2010 10:29 pm

ดำเนินตามพระทัยพระ
ไม่ต้องแสวงหาว่าพระจะทำอัศจรรย์เมื่อไหร่
เราจะสามารถรู้ได้เองครับ
ghayato
โพสต์: 6
ลงทะเบียนเมื่อ: เสาร์ มี.ค. 12, 2011 5:27 am

ศุกร์ มี.ค. 18, 2011 12:36 am

หนูเองก็ไม่รู้หรอกค่ะ แหะๆ
แต่ว่ารู้สึกเหมือนเคยเจอน่ะค่ะ เป็นความรู้สึกแปลกๆ วูบหนึ่งที่รู้สึกอบอุ่นอย่างน่าประหลาดน่ะค่ะ
ได้ยินเหมือนเสียงกระซิบน่ะค่ะ
คิดไปเองรึเปล่าน้อ..ศรัทธาและภาวนาด้วยใจค่ะ
ภาพประจำตัวสมาชิก
Cherval
โพสต์: 566
ลงทะเบียนเมื่อ: อาทิตย์ ม.ค. 30, 2011 7:17 pm
ที่อยู่: เชียงราย

ศุกร์ มี.ค. 18, 2011 9:50 am

ผมว่าเวลาผมนึกถึงพระเยซู
เข่าผมมักจะทรุดตัวอัตโนมัติ คุกเข่าเลยครับ
แถมแทบไม่มีแรงลุกอีกต่างหาก

มันน่าแปลกมากครับ จู่เมือ่นึกถึงพระองค์ทีไร
เข่าจะอ่อนลง และน้ำตาก็ไหล
จากนั้นจึงกลับมามีแรงอีกครั้ง และเริ่มรู็สึกว่า
มีความสุขขึ้นอย่างบอกไมเถูก
Cho
โพสต์: 744
ลงทะเบียนเมื่อ: ศุกร์ เม.ย. 15, 2005 6:27 pm
ที่อยู่: Rayong

ศุกร์ มี.ค. 18, 2011 10:55 am

Cherval เขียน:ผมว่าเวลาผมนึกถึงพระเยซู
เข่าผมมักจะทรุดตัวอัตโนมัติ คุกเข่าเลยครับ
แถมแทบไม่มีแรงลุกอีกต่างหาก

มันน่าแปลกมากครับ จู่เมือ่นึกถึงพระองค์ทีไร
เข่าจะอ่อนลง และน้ำตาก็ไหล
จากนั้นจึงกลับมามีแรงอีกครั้ง และเริ่มรู็สึกว่า
มีความสุขขึ้นอย่างบอกไมเถูก
อิจฉาจังเลยครับ ทำยังไงผมถึงจะรักพระได้อย่างนี้บ้างหนอ :s015:
ภาพประจำตัวสมาชิก
Cherval
โพสต์: 566
ลงทะเบียนเมื่อ: อาทิตย์ ม.ค. 30, 2011 7:17 pm
ที่อยู่: เชียงราย

อาทิตย์ มี.ค. 20, 2011 8:42 am

Cho เขียน:
Cherval เขียน:ผมว่าเวลาผมนึกถึงพระเยซู
เข่าผมมักจะทรุดตัวอัตโนมัติ คุกเข่าเลยครับ
แถมแทบไม่มีแรงลุกอีกต่างหาก

มันน่าแปลกมากครับ จู่เมือ่นึกถึงพระองค์ทีไร
เข่าจะอ่อนลง และน้ำตาก็ไหล
จากนั้นจึงกลับมามีแรงอีกครั้ง และเริ่มรู็สึกว่า
มีความสุขขึ้นอย่างบอกไมเถูก
อิจฉาจังเลยครับ ทำยังไงผมถึงจะรักพระได้อย่างนี้บ้างหนอ :s015:
มีประตูบานหนึ่งปิดไว้ และพระเยซูก็มาเคาะที่ประตูนั้น
แต่พระองค์เปิดไม่ได้ เพราะมันต้องเปิดจากข้างใน ประตูบานนี้คือ
ประตูหัวใจของเรา ซึ่งต้องเปิดจากภายใน
คุณจะมีความรักของพระองค์อย่างเต็มเปี่ยมล้นออกมา จนไม่สามารถเก็บไว้ได้
และพระองค์ประสงค์ให้คุณไปมอบความรักให้ผู้อื่นต่อ

คุณรักพระเจ้าดีอยู่แล้วครับ แต่ในทุกๆวันจงโหยหาและรักพระองค์ให้มากขึ้นไปอีก
s.gabriel
โพสต์: 1011
ลงทะเบียนเมื่อ: ศุกร์ ก.พ. 27, 2009 2:21 pm

อาทิตย์ มี.ค. 20, 2011 11:28 am

Cherval เขียน:
Cho เขียน:
Cherval เขียน:ผมว่าเวลาผมนึกถึงพระเยซู
เข่าผมมักจะทรุดตัวอัตโนมัติ คุกเข่าเลยครับ
แถมแทบไม่มีแรงลุกอีกต่างหาก

มันน่าแปลกมากครับ จู่เมือ่นึกถึงพระองค์ทีไร
เข่าจะอ่อนลง และน้ำตาก็ไหล
จากนั้นจึงกลับมามีแรงอีกครั้ง และเริ่มรู็สึกว่า
มีความสุขขึ้นอย่างบอกไมเถูก
อิจฉาจังเลยครับ ทำยังไงผมถึงจะรักพระได้อย่างนี้บ้างหนอ :s015:
มีประตูบานหนึ่งปิดไว้ และพระเยซูก็มาเคาะที่ประตูนั้น
แต่พระองค์เปิดไม่ได้ เพราะมันต้องเปิดจากข้างใน ประตูบานนี้คือ
ประตูหัวใจของเรา ซึ่งต้องเปิดจากภายใน
คุณจะมีความรักของพระองค์อย่างเต็มเปี่ยมล้นออกมา จนไม่สามารถเก็บไว้ได้
และพระองค์ประสงค์ให้คุณไปมอบความรักให้ผู้อื่นต่อ

คุณรักพระเจ้าดีอยู่แล้วครับ แต่ในทุกๆวันจงโหยหาและรักพระองค์ให้มากขึ้นไปอีก
คุณพูดเหมือนพ่อเจ้าวัดผมเมื่อเช้าเลยครับ พระเยซูทรงมาเคาะประตูบ้านพวกเรา แต่เราไม่เปิดรับเอง
ภาพประจำตัวสมาชิก
Cherval
โพสต์: 566
ลงทะเบียนเมื่อ: อาทิตย์ ม.ค. 30, 2011 7:17 pm
ที่อยู่: เชียงราย

อาทิตย์ มี.ค. 20, 2011 12:25 pm

s.gabriel เขียน: คุณพูดเหมือนพ่อเจ้าวัดผมเมื่อเช้าเลยครับ พระเยซูทรงมาเคาะประตูบ้านพวกเรา แต่เราไม่เปิดรับเอง
บะ...บังเอิญจริงๆ
anatasia
โพสต์: 449
ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ มี.ค. 21, 2011 6:18 am

อาทิตย์ เม.ย. 03, 2011 6:32 pm

พ่อแม่และญาติๆของเราปิดล็อคประตูหัวใจซะแน่นหนาเลยอ่ะ
พระเยซูเลยเข้าไม่ได้เลย
francisco xavier
โพสต์: 300
ลงทะเบียนเมื่อ: ศุกร์ ม.ค. 19, 2007 11:40 am

จันทร์ เม.ย. 04, 2011 3:29 pm

ปลาเล็กตัวหนึ่งว่ายน้ำอยู่ในมหาสมุทร วันหนึ่งมันเจอปลาตัวใหญ่ จึงถามว่า "ท่านรู้หรือไม่ว่า มหาสมุทรอยู่ที่ไหน" ปลาตัวใหญ่ตอบว่า "ก็ที่เจ้ากำลังว่ายน้ำอยู่นี่แหละมหาสมุทร" ปลาตัวเล็กได้ยินดังนั้นก็หัวเราะแล้วตอบว่า "นี่ไม่ใช่มหาสมุทร นี่เป็นน้ำต่างหาก" มันรู้สึกผิดหวังกับคำตอบของปลาตัวใหญ่ มันจึงว่ายน้ำจากไปแล้วไปหามหาสมุทรที่อื่น
กรอกสมบูรณ์
โพสต์: 1413
ลงทะเบียนเมื่อ: อังคาร ก.ย. 02, 2008 11:18 am
ที่อยู่: ต.กรอกสมบูรณ์ อ.ศรีมหาโพธิ จ.ปราจีนบุรี

พุธ เม.ย. 06, 2011 12:08 pm

Jeanne d'Arc เขียน:ผมเจอพระองค์ในฝัน

ในขณะที่ผมเป็น Anti-Christ ครับ

รายละเอียด เล่า ถ้ามีคนถามต่อ : xemo016 :
ถาม ถาม ถาม :s027: เล่าเลย เล่าเลย อยากรู้ค่ะ
anatasia
โพสต์: 449
ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ มี.ค. 21, 2011 6:18 am

จันทร์ เม.ย. 25, 2011 6:44 pm

เราก็อยากคุยกับพระเจ้าค่ะ
Batholomew
~@
โพสต์: 12724
ลงทะเบียนเมื่อ: อังคาร ม.ค. 18, 2005 2:28 pm
ที่อยู่: Thailand

อังคาร เม.ย. 26, 2011 7:59 am

anatasia เขียน:เราก็อยากคุยกับพระเจ้าค่ะ
คุณสามารถสนทนากับพระองค์ได้ทุกวัน ทุกที่ ทุกเวลาครับ
สนทนาเหมือนพระองค์เป็นพ่อของเราครับ
anatasia
โพสต์: 449
ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ มี.ค. 21, 2011 6:18 am

อังคาร เม.ย. 26, 2011 7:27 pm

ขอบคุณค่ะ
:s024:
ภาพประจำตัวสมาชิก
Valkyrie Zero Number
โพสต์: 2081
ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ส.ค. 27, 2007 4:11 am

พุธ เม.ย. 27, 2011 1:29 pm

กระทู้นี้ดังกว่าที่คิดแฮะ....

ส่วนเราเหรอ...... คงเลิกหวังไปแล้วล่ะ รายนั้นคงไม่มาคุยกับ "ขยะ" แบบเราหรอก
Batholomew
~@
โพสต์: 12724
ลงทะเบียนเมื่อ: อังคาร ม.ค. 18, 2005 2:28 pm
ที่อยู่: Thailand

พฤหัสฯ. เม.ย. 28, 2011 8:13 am

Valkyrie Zero Number เขียน:กระทู้นี้ดังกว่าที่คิดแฮะ....
ส่วนเราเหรอ...... คงเลิกหวังไปแล้วล่ะ รายนั้นคงไม่มาคุยกับ "ขยะ" แบบเราหรอก
คิดว่าถ้า จขกท. อ่านตั้งแต่ต้นอีกครั้ง จะไม่มีปะโยคเดิม ๆ แบบนี้ ::004::
littleseal
โพสต์: 1029
ลงทะเบียนเมื่อ: อาทิตย์ มิ.ย. 13, 2010 9:53 pm

พฤหัสฯ. เม.ย. 28, 2011 11:20 am

พระเจ้าไม่มองใครเป็นขยะหรอกค่ะ

ขอให้พระเจ้าทรงเมตตา
HOLY DANCE
โพสต์: 159
ลงทะเบียนเมื่อ: อังคาร พ.ค. 03, 2011 5:53 pm

ศุกร์ พ.ค. 13, 2011 11:07 pm

การได้รับอัศจรรย์จากพระ การที่ได้ยิน ได้เห้น ได้สัมผัสนับว่าเป็นพระพรของพระที่ทรงเมตตามากๆเลยครับ เป็นบุญของผู้ที่ได้รับเพราะอัศจรรย์เพิ่มพูนความเชื่อของบุคคลนั้นให้เข้าใกล้พระมากขึ้น แต่ว่าเป็นบุญมหาศาลมากกว่า สำหรับผู้ที่เชื่อในพระองค์...แม้ไม่ได้เห็นอัศจรรย์อะไรเลย

"ท่านเชื่อ เพราะได้เห็นเรา ผู้ที่เชื่อแม้ไม่ได้เห็น ก็เป็นสุข"

ลองคิดดูนะครับ คุณมีสันติสุขในพระเจ้าได้เพียงแค่คุณเห็นในสิ่งที่ต่างจากผู้อื่นมองเห็นเท่านั้นหรอครับ?
อย่ามองหาอัศจรรย์อะไรเลยครับ ไม่มีใครบังคับพระองค์ให้มาทำอัศจรรย์ให้เราดูได้ พระองค์จะทำเพียงเห็นสมควรเท่านั้น

อีกข้อหนึ่งที่ชวนให้คิดสะกิดใจอยู่ สารของแม่พระที่ลำไทร

"ถ้าลูกมาลำไทรเพียงเพื่อต้องการเห็นรูปปั้นขยับได้...ลูกก็จะไม่มีวันได้เห็นเลยจนกระทั่งวันตาย"
ตอบกลับโพส