ตอนแรกเริ่มรู้สึกว่าวันนี้จะตั้งกระทู้ถามมากไปไหมนะ เลยว่าจะเอาไว้ก่อน แต่เดี๋ยวกลัวลืมอีก ไหน ๆ ก็ไหน ๆ ถามเลยละกัน
การที่คนเราคนหนึ่งมีบาป และทำอะไรสักอย่างที่ดี บำเพ็ญประโยชน์ หรือทำอะไรสักอย่างที่ดี ๆ เพื่อเป็นการชดใช้บาปที่ตัวเองทำ (ไม่ว่าเจ้าตัวจะรู้ตัวว่าทำบาปไปหรือไม่ก็ตาม)
ถ้างงก็สรุปง่าย ๆ ในคนที่ไม่ดี บางทีก็มีทำตัวดี ๆ น่ายกย่องเหมือนกัน แต่ปัญหาอยู่ตรงที่มันไม่ได้ทำให้บาปในอดีตหายนี่สิ
เท่าที่เข้าใจ ถ้าหากความรอดมาจากการกระทำ การสิ้นพระชนม์บนไม้กางเขนของพระเยซูเจ้าก็ไม่มีประโยชน์
แต่ถ้าหากคนบาปไม่รู้จักพระเจ้า หรือดูถูกการไถ่ของพระองค์ มองเป็นแค่ศาสนาหนึ่ง ๆ แต่ทำตัวดี ๆ ล่ะ
......เหมือนจะรู้คำตอบอยู่ในใจแล้ว แต่ทำไมรู้สึกขัดแย้งในใจขึ้นแปลก ๆ เหมือนสองมาตรฐานกับคนหนึ่ง บางคน และคนอื่น ๆ
เลยไหน ๆ ก็ไหน ๆ ขอถามพี่น้องให้แน่ใจอีกครั้งดีกว่าค่ะ
(อิจฉาแฟนตัวเอง คุยถามที่ไรเรื่องพวกนี้ เจ้าตัวก็มักจะบอก "ไม่รู้" (แต่บางอย่างก็ตอบได้นะ แต่เรื่องยาก ๆ ชอบบอกไม่รู้ หรือเราพูดอะไรผิดไปหว่า) แต่ที่อิจฉาเพราะเจ้าตัวยังเชื่อพระองค์ได้โดยไม่กังขา ไม่เหมือนเรา)
[วันนี้ถามเยอะไปหน่อยแล้วขออภัยค่ะ] การทำความดี ชดใช้บาปได้หรือไม่กันแน่
เรื่องนี้เป็นเรื่องละเอียดอ่อนมากๆ
หลักการพื้นฐานคือ
เมื่อเรากระทำบาป (บาปคือ การทำผิดในข้อหนัก โดยการรู้ตัว และเต็มใจ)
ไม่ว่าจะเป็นบาปหนักหรือบาปเบา นั่นคือ เราได้ตัดสายสัมพันธ์ระหว่างเรากับพระเจ้าแล้ว...
ทำบาปเบา ก็เป็นการค่อยๆ เฉือนสายสัมพันธ์ออก
ทำบาปหนัก ก็ฟันซะขาดทีเดียว
ยิ่งปล่อยนานไป... ตัวเราและพระเจ้า ก็ยิ่งห่างกันมาขึ้น
คำถาม ทำอย่างไรให้เรามีสายสัมพันธ์กับพระเจ้าอีกครั้ง?
คำตอบ สำนึกผิดในการกระทำ แล้วไปรับศีลอภัยบาป (คาทอลิก) ถ้าเป็นโปรแตสแตนท์ ก็จะเป็นการขอโทษกับพระเจ้าโดยตรงโดยไม่ผ่านพระสงฆ์
ทำซ้ำๆ ทำบ่อยๆ เราจะได้มีสายสัมพันธ์กับพระเจ้าอีกครั้ง
นั่นคือ สำนึกผิดบ่อยๆ
ตรวจสอบมโนธรรมในใจ
ขอโทษกับพระเจ้า
ถ้าเป็นคำไทยๆ คือ ไปแก้บาปรับศีลนั่นเอง
+++++++++++++++++++++++++++++++++++
เมื่อเราไปรับศีลอภัยบาป หรือ ไปขอโทษกับพระเจ้า
นั่นแสดงว่า ตัวบาปได้รับการอภัยจากพระเจ้าแล้ว ผ่านทางการสิ้นพระชนม์ และการกลับคืนชีพทำให้เราได้รับชีวิตใหม่ ตัวบาปได้รับการยกไป
แต่สำหรับผลของบาปเป็นสิ่งที่เราต้องชดใช้ และต้องชดใช้ต่อไป
ยกตัวอย่าง
ถ้าชายคนหนึ่งไปเที่ยวโสเภณี แล้วเกิดติดโรคเอดส์มา
จากนั้น ชายคนนี้สำนึกผิด ไปสารภาพบาป ขอโทษพระเจ้า
พระเจ้าก็อภัยโทษสำหรับความผิดบาปตัวนี้
แต่ผลของมันล่ะ... ผลของมันคือ เขาต้องติดโรค ที่ไม่มีทางรักษา
ซึ่งเขาจะต้องชดใช้ความผิดที่เขาได้กระทำไปตลอดชีวิต
จบเท่านี้ก่อนนะครับ
หลักการพื้นฐานคือ
เมื่อเรากระทำบาป (บาปคือ การทำผิดในข้อหนัก โดยการรู้ตัว และเต็มใจ)
ไม่ว่าจะเป็นบาปหนักหรือบาปเบา นั่นคือ เราได้ตัดสายสัมพันธ์ระหว่างเรากับพระเจ้าแล้ว...
ทำบาปเบา ก็เป็นการค่อยๆ เฉือนสายสัมพันธ์ออก
ทำบาปหนัก ก็ฟันซะขาดทีเดียว
ยิ่งปล่อยนานไป... ตัวเราและพระเจ้า ก็ยิ่งห่างกันมาขึ้น
คำถาม ทำอย่างไรให้เรามีสายสัมพันธ์กับพระเจ้าอีกครั้ง?
คำตอบ สำนึกผิดในการกระทำ แล้วไปรับศีลอภัยบาป (คาทอลิก) ถ้าเป็นโปรแตสแตนท์ ก็จะเป็นการขอโทษกับพระเจ้าโดยตรงโดยไม่ผ่านพระสงฆ์
ทำซ้ำๆ ทำบ่อยๆ เราจะได้มีสายสัมพันธ์กับพระเจ้าอีกครั้ง
นั่นคือ สำนึกผิดบ่อยๆ
ตรวจสอบมโนธรรมในใจ
ขอโทษกับพระเจ้า
ถ้าเป็นคำไทยๆ คือ ไปแก้บาปรับศีลนั่นเอง
+++++++++++++++++++++++++++++++++++
เมื่อเราไปรับศีลอภัยบาป หรือ ไปขอโทษกับพระเจ้า
นั่นแสดงว่า ตัวบาปได้รับการอภัยจากพระเจ้าแล้ว ผ่านทางการสิ้นพระชนม์ และการกลับคืนชีพทำให้เราได้รับชีวิตใหม่ ตัวบาปได้รับการยกไป
แต่สำหรับผลของบาปเป็นสิ่งที่เราต้องชดใช้ และต้องชดใช้ต่อไป
ยกตัวอย่าง
ถ้าชายคนหนึ่งไปเที่ยวโสเภณี แล้วเกิดติดโรคเอดส์มา
จากนั้น ชายคนนี้สำนึกผิด ไปสารภาพบาป ขอโทษพระเจ้า
พระเจ้าก็อภัยโทษสำหรับความผิดบาปตัวนี้
แต่ผลของมันล่ะ... ผลของมันคือ เขาต้องติดโรค ที่ไม่มีทางรักษา
ซึ่งเขาจะต้องชดใช้ความผิดที่เขาได้กระทำไปตลอดชีวิต
จบเท่านี้ก่อนนะครับ
มีคนกล่าวไว้ว่า การทำบาปเปรียบเหมือนเกลือ ความดีที่ทำเปรียบเหมือน น้ำ หากคุณมีเกลือ 1 ช้อนโต๊ะ (นั่นคือบาปที่คุณทำ) และคุณได้ทำความดีเท่ากับน้ำ 1 แก้ว เมื่อนำมาผสมกันก็จะได้น้ำเค็ม ถึงแม้ว่าเราจะไปสรภาพบาปและบาปนั้นได้รับการอภัยแล้ว แต่ผล(ความเค็ม)ก็ยังอยู่ เพราะฉะนั้นวิธีการคือ ไม่เพิ่มเกลือ และ เติมน้ำเข้าไป (หยุดทำบาป และ ทำความดี) ให้ความดี กลบรสชาติ จนเป็นน้ำกร่อย จนเป็นน้ำมีรส และเป็นน้ำจืดได้ในที่สุด หวังว่าคงเข้าใจนะ
-
- โพสต์: 300
- ลงทะเบียนเมื่อ: ศุกร์ ม.ค. 19, 2007 11:40 am
เงื่อนไขของการได้รับการอภัยบาป ไม่ใช่ว่าเราทำดีมากแค่ไหน แต่อยู่ที่เราสำนึกผิดในสิ่งที่เราได้กระทำหรือเหล่า เราได้เป็นทุกข์ถึงบาปอย่างแท้จริงหรือเปล่า ส่วนความดีหรือกิจใช้โทษบาป เป็นการแสดงถึงความสำนึกผิดมากกว่าเป็นการมุ่งหวังให้ความดีนั้นมาลบล้างบาปของเราครับ