คริสต์ศาสนา และ แม่ชี ในวัฒนธรรมญี่ปุ่น

ใครมาใหม่เชิญทางนี้ก่อน ทักทาย ทดลองโพส
ตอบกลับโพส
ภาพประจำตัวสมาชิก
Holy
Defender of lawS
Defender of lawS
โพสต์: 10011
ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ม.ค. 17, 2005 3:06 pm

จันทร์ เม.ย. 12, 2010 11:26 pm

คริสต์ศาสนา และ แม่ชี  ในวัฒนธรรมญี่ปุ่น



รูปภาพ
แม่ชี Bayonetta



                  ไม่ว่าจะเป็นเกม Action อย่าง Bayonetta ก็ดี เกม Fighting อย่าง Guilty Gear ก็ดี หรือแม้กระทั่ง RPG อย่าง Rune Factory ก็ดี ตัวละครที่เป็น “แม่ชี” หรือซิสเตอร์  หรือปรากฏแต่งกายเยี่ยง “แม่ชี”  มีปรากฏมิใช่น้อยในวีดีโอเกม เช่นเดียวกับสื่อต่างๆ ในวัฒนธรรมญี่ปุ่น ที่จับเอา “แม่ชี” มาปรากฏและมีบทบาท แต่คำถามคือทำไมต้องเป็นแม่ชี และทำไมแม่ชีผ่านสื่อญี่ปุ่น ถึงแตกต่างอย่างสิ้นเชิงจากภาพลักษณ์ของแม่ชี ที่เราอาจรู้จักกัน ?



รูปภาพ
บริดเจต จาก Guilty Gear



                อย่างที่เราทราบกันดีว่า ศาสนาหลักในประเทศญี่ปุ่น คือ ศาสนาพุทธ และ ศาสนาชินโต ซึ่งความเชื่อในข้อศาสนาทั้งสอง ก็มีบทบาทและอิทธิพลอย่างสูงต่อวัฒนธรรม ประเพณี ตลอดจนไปถึงวิถีชีวิตของชนชาวญี่ปุ่น เรียกว่าหล่อหลอมรวมอยู่ในสังคมของญี่ปุ่น จนมิอาจจะแยกออกจากกันได้ จนถึงขนาดมีคำกล่าวออกมาว่า “ชาวญี่ปุ่นรับพรยามทารกจากพระชินโต และฝังดิน ยามสิ้นลมด้วยพระสงฆ์พุทธ” 





                แต่แม้สังคม และวิถีชีวิตของชาวญี่ปุ่นจะเป็นเช่นนั้น ชาวญี่ปุ่น โดยเฉพาะหนุ่มสาวในยุคปัจจุบัน กลับชอบที่จะแต่งงานในโบสถ์ตามแบบอย่างตะวันตกเสียมากกว่า แม้ตัวเจ้าสาวเจ้าบ่าวอาจจะไม่ได้นับถือศาสนาคริสต์เลย พวกเขาและเธอก็ยินดีที่จะแต่งงานในโบสถ์ ที่ประดับตกแต่งด้วยไม้กางเขน หรือเครื่องหมายทางคริสต์ศาสนาอย่างไม่รู้สึกตะขิดตะขวงใจ และแม้แต่ที่จะมีผู้รับบท(ปลอม) เป็นบาทหลวงเพื่อประกอบพิธีมงคลสมรสให้กับพวกตน (ซึ่งหลายครั้งมีการจ้างชาวต่างชาติ มาทำหน้าที่เป็นพิธีกร รับบทแต่งเป็นบาทหลวงด้วย)  แน่นอนว่าพวกเค้าไม่ได้ถือ หรือคิดว่านี่คือพิธีกรรมทางศาสนา สิ่งที่พวกเค้าเห็นคือ “พิธีวิวาห์” ในแบบฝรั่ง หรือตามอย่างชาวตะวันตก ที่แลดูแล้วโก๋เก๋ มีระดับ และมีเสน่ห์ดึงดูดใจเป็นพิเศษ (โบสถ์ที่ประกอบพิธีก็ไม่ใช่โบสถ์คริสต์จริง หากแต่เป็นอาคารที่ถูกแต่งต่างโบสถ์คริสต์ เพื่อใช้ในการประกอบพิธีวิวาห์เป็นหลักเท่านั้น)



รูปภาพ



สัดส่วนของคริสตชน หรือผู้นับถือศาสนาคริสต์ในประเทศญี่ปุ่น มีเกินกว่าล้านคน โดยส่วนใหญ่จะอาศัยอยู่ตามภาคตะวันตกของญี่ปุ่น คือ เกียวโต โอซาก้า และ โกเบ    กิจการแพร่ธรรม เผยแพร่ศาสนาคริสต์ของบรรดามิชชั่นนารี่ เริ่มดำเนินเกิดขึ้นในช่วงศตวรรษที่ 16  ซึ่งเมื่อมีชาวญี่ปุ่นมารับเชื่อ เข้าศาสนาคริสต์กันมากขึ้น ก็ยังผลให้ โตโยโตมิ ฮิเดโยชิ  ผู้ก่อร่างสร้างปราสาทโอซาก้าขึ้นมา ได้หวาดหวั่นถึงภัยคุกคาม จึงได้ประกาศแบนคณะเยซูอิต  และตามมาด้วยการเบียดเบียน การทารุณและการไล่ล่าสังหารอย่างโหดร้ายที่นางาซากิ    ด้วยความพยายามที่จะรวมประเทศให้เป็นหนึ่ง ควบคุมประชาชนใต้ปกครองให้สามารถอยู่ภายใต้การควบคุมไว้ได้อย่างไม่มีเค้าลางแห่งการเอนเอียง หรือฝักใฝ่ฝ่ายอื่นใดนี่เอง  ฮิเดโยชิ จึงได้กระทำการเบียดเบียนคริสต์ศาสนิกชนต่ออย่างหนัก จนถึงระดับขั้นจักกวาดล้างเสียให้สิ้น  แต่ในการนั้นเอง กลุ่มคริสตชนก็หลบลี้หนีภัย ไปแฝงเร้น หลบซ่อนอยู่ตามป่าเขาลำนำไพร ห่างไกลบ้านเมือง ซึ่งเขตแดนดินที่พวกคริสตชนเหล่านี้แฝงกายซ่อนเร้นการตามล่าในสมัยนั้น ยังคงอยู่ยั้งยืนยงมาจนถึงตราบเท่าทุกวันนี้



                  ในศตวรรษที่ 19  ในช่วงยุคเมจิ  ความคิดและทัศนคติของผู้คนที่มีต่อตะวันตก และข้อความเชื่อ ศาสนาจากฝั่งตะวันตกเปลี่ยนแปลงไป  ศาสนาคริสต์ได้รับการยอมรับมากยิ่งขึ้น พร้อมกับการเฟื่องฟูของโรงเรียนสอนศาสนา และแหล่งอนุบาลต่างๆ ที่มีมิชชั่นนารีเป็นผู้นำพามาให้กับชนชาวญี่ปุ่น พร้อมกับความเจริญจากฝั่งตะวันตก  ที่เริ่มฝังรากลึกในสังคมญี่ปุ่นมาจนถึงทุกวันนี้



รูปภาพ
หนึ่งในสถานที่ตามป่าตามเขา อันเชื่อว่าคริสตศาสนิกชนสมัยนั้น ไปพำนัก ลี้หลบภัยอยู่



                      แม้ประชากรคริสต์ศาสนิกชนในประเทศญี่ปุ่นจะเป็นดังคนกลุ่มน้อยของประเทศ หากแต่วัฒนธรรมตะวันตก และเรื่องของศาสนาคริสต์ ไม่ใช่อะไรที่ใหม่ หรือ แปลกสำหรับสังคมญี่ปุ่นไปแล้ว  ไม้กางเขนพบเห็นได้ทั่วไป ตั้งแต่ในโบสถ์ ร้านเครื่องเงิน ยันร้านเครื่องประดับของคุณสุภาพสตรี  ที่อาจทำให้ผู้ศรัทธาต้องเบิกม่านตากว้างด้วยความประหลาดใจ  หากก็เป็นทัศนคติมุมมองเช่นเดียวกับที่พระพุทธรูปถูกชาวตะวันตกเข้าใจในแง่ของเทวรูป ของตกแต่งตั้งโชว์ ที่อาจพบเห็นได้ตามร้านของเก่า ร้านของประดับบ้าน หรือร้านสินค้าจิปาถะในประเทศฝั่งตะวันตกเช่นเดียวกัน  นายกรัฐมนตรีคนล่าสุดของประเทศญี่ปุ่นอย่าง นาย ทาโร่ อาโซะ เอง ก็นับถือศาสนาคริสต์ด้วย ซึ่งแสดงให้เห็นได้ชัด ถึงการยอมรับเรื่องศาสนาข้อความเชื่อที่แตกต่างของประเทศญี่ปุ่นในยุคปัจจุบัน แม้ศาสนาคริสต์จะเป็นชมกลุ่มน้อยของประเทศญี่ปุ่น แต่ก็ไม่เป็นที่ตะขิดตะขวงใจอันใดที่ผู้นำประเทศจะนับถือศาสนาคริสต์แต่ประการใด





                          อย่างที่เราได้เกริ่นไปว่า ศาสนาคริสต์ไม่ใช่เรื่องแปลก หรือเป็นคนแปลกหน้าสำหรับชนชาวญี่ปุ่นในยุคปัจจุบันแต่อย่างใด  จึงไม่น่าแปลกใจเลยที่เราจะเห็นเครื่องหมาย สัญลักษณ์ หรือปัจจัยสารพันอันเกี่ยวข้องกับทางคริสต์ศาสนา ปรากฏอยู่ตามสื่อประเภทต่างๆ ในญี่ปุ่น ทั้ง ภาพยนตร์ หนังสือ อนิเมะ มังงะ ยันวีดีโอเกม  ในช่วงปี 1970 ขณะที่มีภาพยนตร์ที่เกี่ยวกับศาสนา โดยเฉพาะเรื่องราวของแม่ชีที่อาศัยในคอนแวนต์จะปรากฎขึ้นมากมายทั่วทวีปยุโรป  ญี่ปุ่นเองก็เริ่มที่จะสร้างภาพยนตร์ที่มีปัจจัยทางศาสนาคริสต์ และแน่นอน เรื่องของแม่ชีมาเกี่ยวข้อง และเริ่มที่จะประยุกต์ใส่ “แม่ชี” ที่พวกตนสร้างขึ้นมาเอง เข้าไปด้วยเช่นเดียวกัน ดังที่จะเห็นได้จากภาพยนตร์ญี่ปุ่นเรื่อง School of the Holy Beast และ  Cloistered Nun: Runa's Confession



รูปภาพ



                      ภาพยนตร์ทั้งสองเรื่อง ไม่ใช่ภาพยนตร์เสริมศรัทธา หรืออิงเรื่องศาสนาให้ผู้ชมซาบซึ้งแต่อย่างใด แต่กลับเป็นเรื่องของเงามืดในคอนแวนต์ที่พัวพันในเรื่องของการทารุณกรรม ความโหดร้าย และราคะตัณหา ซึ่งไม่ใช่ภาพยนตร์ทางศาสนาที่ทำมาให้คริสตศาสนิกชนรับชมเพื่อซาบซึ้ง และไม่ใช่ทำมาให้ชาวญี่ปุ่นทั่วไปดูเพื่อให้รู้สึกดีกับศาสนาคริสต์ หากแต่นำเสนอความบันเทิงแบบภาพยนตร์ทั่วไป ตามใจผู้สร้าง ผู้ชม และจับเพียงแค่ประเด็นทางคริสต์ศาสนา และ “แม่ชี” มาเป็นจุดขายให้ดูน่าสนใจเท่านั้น ซึ่งแน่นอนทั้งสองเรื่องโดนวิจารณ์อย่างหนัก อย่างสะบั้นหั่นแหลก    แต่ก็ปฎิเสธไม่ได้ว่านั่นคือก้าวแรกของการที่สังคมญี่ปุ่นเริ่มเอาสิ่งต่างๆ จากตะวันตกมาปรับใช้  นำมาประยุกต์ และถ่ายถอดใหม่ ออกมาเป็นแบบที่หล่อหลอมเข้ากับวัฒนธรรมของตนเอง จนนำไปสู่เรื่องของ “แม่ชี” ที่ปรากฏอย่างดายดื่นได้ทั่วไปแล้วในสื่อสมัยปัจจุบันนี้ ในแบบที่ถูกเข้าใจและเชื่อในสังคมญี่ปุ่น ไม่ใช่แม่ชีอย่างที่เป็น หรือ เคยเป็นในคริสต์ศาสนา หรือในสังคมตะวันตก



ที่มา WWW.mylovelyjesus.com
ภาพประจำตัวสมาชิก
นายใหญ่
โพสต์: 105
ลงทะเบียนเมื่อ: พฤหัสฯ. มิ.ย. 09, 2005 6:45 pm
ที่อยู่: Sakonnakhon
ติดต่อ:

อังคาร เม.ย. 13, 2010 12:59 am

อ่านดูแล้ว... แย่จังนะครับ...
ภาพประจำตัวสมาชิก
Mobster
โพสต์: 1623
ลงทะเบียนเมื่อ: อังคาร ม.ค. 30, 2007 8:02 pm
ที่อยู่: Bangkok
ติดต่อ:

อังคาร เม.ย. 13, 2010 1:09 pm

พี่เชื่อไหม
รูปภาพ

เป็นผู้ชาย
หรือจะให้ชัดคือสตรีข้ามเพศ
ภาพประจำตัวสมาชิก
Valkyrie Zero Number
โพสต์: 2081
ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ส.ค. 27, 2007 4:11 am

อังคาร เม.ย. 13, 2010 2:34 pm

Grey Cat =^. .^= เขียน: พี่เชื่อไหม
รูปภาพ

เป็นผู้ชาย
หรือจะให้ชัดคือสตรีข้ามเพศ
เห็นทีแรกไม่คิดว่างั้น แต่มารู้เมื่อมีคนบอก

ส่วนเนื้อหาในกระทู้ ขอ No comment ในขณะนี้ รอให้สงบลงกว่านี้ก่อนจะดีกว่า
(ใจจริงอยากแต่งมั่ง แต่เป็นแนวญี่ปุ่นรุกรานคริสต์ แล้วตัวเอกขโมยพลังของ 1 ใน 4 เทพอสูรสี่ทิศปกป้องฝ่ายคริสต์จากญี่ปุ่นที่ตัวเองรู้สึกผิดหวัง)
แก้ไขล่าสุดโดย Anonymous เมื่อ อังคาร เม.ย. 13, 2010 2:36 pm, แก้ไขไปแล้ว 1 ครั้ง.
Like a Heaven
.
.
โพสต์: 1739
ลงทะเบียนเมื่อ: อาทิตย์ ต.ค. 28, 2007 5:58 pm
ที่อยู่: In the Christ

อังคาร เม.ย. 13, 2010 10:29 pm

ตึงไปก้อไม่ดี

( หมายถึงขนบของญี่ปุ่นนะ ... )
ภาพประจำตัวสมาชิก
Mobster
โพสต์: 1623
ลงทะเบียนเมื่อ: อังคาร ม.ค. 30, 2007 8:02 pm
ที่อยู่: Bangkok
ติดต่อ:

อังคาร เม.ย. 13, 2010 10:38 pm

Valkyrie Zero Number เขียน:
Grey Cat =^. .^= เขียน: พี่เชื่อไหม

(รูปBridget)

เป็นผู้ชาย
หรือจะให้ชัดคือสตรีข้ามเพศ
เห็นทีแรกไม่คิดว่างั้น แต่มารู้เมื่อมีคนบอก
ตอนแรกก็ไม่เชื่อแต่
1.ลองดูที่หน้าผ้าคลุมสิครับ ว่ามีสัญลักษณ์อะไร!!!!
2.ตอนเล่นแบบStoryใช้Johnnyเล่นจะมีบทสนทนา แปลได้ว่า
"J:ผมไม่ทำร้ายผู้หญิงหรอก!!!
B:คือ.....ชั้นเป็นผู้ชาย....
J:!!!!!!!!!!"

++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

มีนิทานเรื่องหนึ่ง(แต่เจ้าของที่นั่นยืนยันว่าเป็นเรื่องจริง) ที่สมัยการเบียดเบียนศาสนา
เดี๋ยวผมเอามาลง(แบบย่อๆนะ) หากไม่อู้^_^

เป็นนิทานเสริมศรัทธาได้ดี เพราะหลังจากเหตุการณ์ในนิทาน ชาวบ้านทั้งเกาะ เปลี่ยนมานับถือศาสนาคริสต์ทั้งหมด
Francis
โพสต์: 19
ลงทะเบียนเมื่อ: พุธ ม.ค. 20, 2010 6:46 pm

อังคาร เม.ย. 13, 2010 11:04 pm

คริสตชนเราถูกเบียดเบียนมาตลอด 2000 กว่าปี ก็ยังยืนหยัดมาได้ แค่นืี้ผมถือว่าเล็กน้อยนะ ทุกสิ่งทุกอย่างขึ้นอยู่ที่ตัวเราครับ ว่าเรายังเชื่อและรักพระอยู่หรือปล่าว ถ้าเจอการทดสอบแบบนี้

ส่วนคนที่ทำแบบนี้ เราต้องสงสารเขา เราควรจะสวดขอพรพระเพื่อให้คนพวกนี้ได้กลับใจ อย่างน้อยก็เพื่อตัวเขาเองครับ
ภาพประจำตัวสมาชิก
Holy
Defender of lawS
Defender of lawS
โพสต์: 10011
ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ม.ค. 17, 2005 3:06 pm

พุธ เม.ย. 14, 2010 1:36 am

โกหก
รูปภาพ


เรื่องจริง
รูปภาพ
อันตน
~@
โพสต์: 4164
ลงทะเบียนเมื่อ: พุธ ก.ค. 06, 2005 6:50 pm
ที่อยู่: ภูเก็ต

พุธ เม.ย. 14, 2010 9:04 am

^
โอ้ว บาทหลวง ซิสเตอร์
ภาพประจำตัวสมาชิก
Mobster
โพสต์: 1623
ลงทะเบียนเมื่อ: อังคาร ม.ค. 30, 2007 8:02 pm
ที่อยู่: Bangkok
ติดต่อ:

พุธ เม.ย. 14, 2010 10:49 am

^
^
(ขึ้นไปคห.)

รูปแรก "หง่าวเมี้ยวๆๆๆ =^_^= มีแฟนหรือยังกั้บๆๆๆ"

รูปล่าง ".................." (ความจริงเป็นสิ่งโหดร้าย มากๆ)
ภาพประจำตัวสมาชิก
Jeanne d'Arc
โพสต์: 235
ลงทะเบียนเมื่อ: อังคาร พ.ค. 12, 2009 12:33 pm

พฤหัสฯ. เม.ย. 15, 2010 2:11 am

Grey Cat =^. .^= เขียน: พี่เชื่อไหม
รูปภาพ

เป็นผู้ชาย
หรือจะให้ชัดคือสตรีข้ามเพศ

ชัดกว่าคือ "สาวดุ้น"ครับ

กรณีชุดซิสเตอร์หรืออะไรก็ตามที่เป็นสัญลักษณ์ทางศาสนาเรา พี่ยุ่นเขาเอาสัญลักษณ์ทางศาสนาเราไปใช้กันอย่างสนุกสนานแล้วล่ะครับ นานมากแล้วในระดับหนึ่ง(เพราะความไม่รู้ดีของเขา ว่าด้วยการเอาแนวคิดฝั่งเรา ไปปนกับแนวคิดของเขา)

แต่จะอะไรล่ะครับ ไม่ต้องแคร์มากถ้ามันไม่ส่งผลกระทบร้ายแรงทางความเชื่อเช่นนิทานหลอกผู้ใหญ่ของแดนน้ำตาล  เพราะพวกเราไม่ใช่ศาสนากราบไหว้รูปเคารพ หรือบูชานักบวช : emo027 :

โดยส่วนตัวแล้วผมเฉยๆซะส่วนใหญ่ครับ ส่วนมังงะปลูกฝังการโจมตีความเชื่อทางคริสเตียนิตี้ ผมว่าถ้่าคนที่โตขึ้นมาแล้ว (14 - 15ปีขึ้นไป)เชื่อเข้านี่  เป็นอะไรที่น่าขำที่สุดครับ

แต่น่าขำกว่าคือคนที่พอโดนปลูกฝังให้คิดลบกับการเชื่อพระเจ้าและความเชื่อทางคริสเตียนิตี้แล้ว ก็มักจะไปหาประเด็นเพื่อโจมตีพระศาสนจักร(แน่นอนครับ พวกเขาแทบไม่เคยฟังคาทอลิคหรือคนในพูดเลย และไม่มีการถามหรืออะไรทั้งสิ้น คิดเองเออเองทั้งนั้น) หรือไม่ก็
พอเกิดอะไรไม่พอใจนิดหน่อยก็มาพ่นว่า"พระเจ้า ทำไมอย่างนั้น ทำไมท่านทำแบบนี้" อะไรเทือกนี้

ตลกดีครับ คนพวกนี้ถ้าได้คุยกัน คนไหนคุยรู้เรื่องก็ว่ากันไป  แต่คนไหนคุยไม่รู้เรื่อง ก็ต้องงัดเทคนิคเฉพาะตัว ไม่ก็ลี้ภัยมาอธิษฐานให้เขา ล่ะครับ : emo018 :
ภาพประจำตัวสมาชิก
Valkyrie Zero Number
โพสต์: 2081
ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ส.ค. 27, 2007 4:11 am

พฤหัสฯ. เม.ย. 15, 2010 5:13 pm

Jeanne d'Arc เขียน: โดยส่วนตัวแล้วผมเฉยๆซะส่วนใหญ่ครับ ส่วนมังงะปลูกฝังการโจมตีความเชื่อทางคริสเตียนิตี้ ผมว่าถ้่าคนที่โตขึ้นมาแล้ว (14 - 15ปีขึ้นไป)เชื่อเข้านี่  เป็นอะไรที่น่าขำที่สุดครับ

แต่น่าขำกว่าคือคนที่พอโดนปลูกฝังให้คิดลบกับการเชื่อพระเจ้าและความเชื่อทางคริสเตียนิตี้แล้ว ก็มักจะไปหาประเด็นเพื่อโจมตีพระศาสนจักร(แน่นอนครับ พวกเขาแทบไม่เคยฟังคาทอลิคหรือคนในพูดเลย และไม่มีการถามหรืออะไรทั้งสิ้น คิดเองเออเองทั้งนั้น) หรือไม่ก็
พอเกิดอะไรไม่พอใจนิดหน่อยก็มาพ่นว่า"พระเจ้า ทำไมอย่างนั้น ทำไมท่านทำแบบนี้" อะไรเทือกนี้

ตลกดีครับ คนพวกนี้ถ้าได้คุยกัน คนไหนคุยรู้เรื่องก็ว่ากันไป  แต่คนไหนคุยไม่รู้เรื่อง ก็ต้องงัดเทคนิคเฉพาะตัว ไม่ก็ลี้ภัยมาอธิษฐานให้เขา ล่ะครับ : emo018 :
จะยอมรับมันแต่โดยดีละกันว่าเราไม่เป็นผู้ใหญ่พอ และทำตัวน่าขำที่สุด

แต่อยากจะแสดงความเห็นอย่างหนึ่งให้คิดละกันว่า "ข้อแรก มารไม่ได้โง่ ข้อสอง คลื่นยักษ์ถล่มเมืองก็มักเริ่มมาจากคลื่นเล็ก ๆ ใต้น้ำเสมอ"

ถึงจะไม่ใช่ผู้เชี่ยวชาญจิตวิทยา แต่เรื่องแค่นี้ก็ใช่ว่าจะไม่มีแนวโน้มแหละน่า (ที่สำคัญ คนเรารู้ตัวได้เมื่อมีสึนามิ แต่ไม่รู้ตัวเมื่อเริ่มเกิดคลื่นเล็ก ๆ ใต้น้ำหรอก)

[เสียงจากจิตใต้สำนึกของตัวเอง: แล้วที่ยังอ่านอยู่ทุกวันนี่แหละยัยวาล
/ก็เพื่อจะได้มีข้อจับผิด และหาวิธีตอบโต้ภายหลังไง]
แก้ไขล่าสุดโดย Anonymous เมื่อ พฤหัสฯ. เม.ย. 15, 2010 5:17 pm, แก้ไขไปแล้ว 1 ครั้ง.
ภาพประจำตัวสมาชิก
(⊙△⊙)คุณxuู๓้uxoม(⊙△⊙)
โพสต์: 892
ลงทะเบียนเมื่อ: ศุกร์ ต.ค. 10, 2008 12:38 am

พฤหัสฯ. เม.ย. 15, 2010 10:08 pm

ไม่อยากจะเชื่อ บริเจทจังเป็นผู้ชายๆๆๆๆๆ  : emo073 :

ใครหือกับ she ระวังท่าลูกข่างส่งไปดวงจันทร์นะค่ะ ทีเดียวจอด
ภาพประจำตัวสมาชิก
Jeanne d'Arc
โพสต์: 235
ลงทะเบียนเมื่อ: อังคาร พ.ค. 12, 2009 12:33 pm

ศุกร์ เม.ย. 16, 2010 7:25 pm

Valkyrie Zero Number เขียน:
Jeanne d'Arc เขียน: โดยส่วนตัวแล้วผมเฉยๆซะส่วนใหญ่ครับ ส่วนมังงะปลูกฝังการโจมตีความเชื่อทางคริสเตียนิตี้ ผมว่าถ้่าคนที่โตขึ้นมาแล้ว (14 - 15ปีขึ้นไป)เชื่อเข้านี่  เป็นอะไรที่น่าขำที่สุดครับ

แต่น่าขำกว่าคือคนที่พอโดนปลูกฝังให้คิดลบกับการเชื่อพระเจ้าและความเชื่อทางคริสเตียนิตี้แล้ว ก็มักจะไปหาประเด็นเพื่อโจมตีพระศาสนจักร(แน่นอนครับ พวกเขาแทบไม่เคยฟังคาทอลิคหรือคนในพูดเลย และไม่มีการถามหรืออะไรทั้งสิ้น คิดเองเออเองทั้งนั้น) หรือไม่ก็
พอเกิดอะไรไม่พอใจนิดหน่อยก็มาพ่นว่า"พระเจ้า ทำไมอย่างนั้น ทำไมท่านทำแบบนี้" อะไรเทือกนี้

ตลกดีครับ คนพวกนี้ถ้าได้คุยกัน คนไหนคุยรู้เรื่องก็ว่ากันไป  แต่คนไหนคุยไม่รู้เรื่อง ก็ต้องงัดเทคนิคเฉพาะตัว ไม่ก็ลี้ภัยมาอธิษฐานให้เขา ล่ะครับ : emo018 :
จะยอมรับมันแต่โดยดีละกันว่าเราไม่เป็นผู้ใหญ่พอ และทำตัวน่าขำที่สุด

แต่อยากจะแสดงความเห็นอย่างหนึ่งให้คิดละกันว่า "ข้อแรก มารไม่ได้โง่ ข้อสอง คลื่นยักษ์ถล่มเมืองก็มักเริ่มมาจากคลื่นเล็ก ๆ ใต้น้ำเสมอ"

ถึงจะไม่ใช่ผู้เชี่ยวชาญจิตวิทยา แต่เรื่องแค่นี้ก็ใช่ว่าจะไม่มีแนวโน้มแหละน่า (ที่สำคัญ คนเรารู้ตัวได้เมื่อมีสึนามิ แต่ไม่รู้ตัวเมื่อเริ่มเกิดคลื่นเล็ก ๆ ใต้น้ำหรอก)

[เสียงจากจิตใต้สำนึกของตัวเอง: แล้วที่ยังอ่านอยู่ทุกวันนี่แหละยัยวาล
/ก็เพื่อจะได้มีข้อจับผิด และหาวิธีตอบโต้ภายหลังไง]


ระวังแต่พอดี เดี๋ยวจะกลายเป็นระแวง

จะรับไปเก็บในDRIVE Dแล้วกันครับ สำหรับความเห็นนี้

ความเห็นผมนะครับ

"ข้อแรก มนุษย์ได้ฝ่าฝืนพระเจ้าจากการกินผลแห่งปัญญา แม้จะทำให้มนุษย์ติดอยู่กับบาป แต่ก็ใช่ว่าจะแยกแยะไม่ได้  และข้อสอง โลกนี้ไม่ได้มีแต่คนที่ไม่รู้ตัวเสมอไป คนที่รู้ทันก็มีมากโข"

ถึงจะไม่ใช่ผู้เชี่ยวชาญทางจิตวิทยา แต่ผมก็พอเข้าใจทางด้านนี้อยู่บ้างครับ(แน่นอน ไม่ได้มีผมคนเดียวที่รู้ทัน คนส่วนใหญ่ก็ย่อมแยกออกระหว่าง"ความจริง" กับ "ความฝัน")

ผมอ่านJUDASที่มั่วด้านความเชื่อซะเละเทะ กับ Tetra Grammaton Labyrinth ที่เอาความเชื่อทางคริสตศาสนามาผสมปนเปกับความเชื่อแบบตะวันออกซะมั่วตั้ว ผมก็ไม่ได้คิดอะไรมากเลยครับ พอวาง ก็"จบ"


ขอจิกกัดตัวเองซักนิด ว่าจริงๆแล้วผมเป็นประเภทCatharsisซะด้วยซ้ำครับ
แก้ไขล่าสุดโดย Anonymous เมื่อ ศุกร์ เม.ย. 16, 2010 7:35 pm, แก้ไขไปแล้ว 1 ครั้ง.
ตอบกลับโพส