สิ่งมีชีวิตพิศวงมาจากที่ไหนกันหนอ?
โพสต์แล้ว: อังคาร เม.ย. 13, 2010 9:21 pm

ยูเอฟโอ
จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
(เปลี่ยนทางมาจาก จานบิน)
สิ่งที่เชื่อว่าเป็น ยูเอฟโอ
ยูเอฟโอ (UFO) หรือ ยูโฟ่ ย่อมาจากคำว่า Unidentified Flying Object (วัตถุบินที่ไม่สามารถระบุเอกลักษณ์ได้) หมายถึงวัตถุบินที่มีอยู่จริงหรือสังเกตเห็นซึ่งไม่สามารถระบุได้ว่าคืออะไร โดยผู้สังเกตการณ์และก็ยังไม่สามารถระบุได้ในการสืบสวนสอบสวน
ยูเอฟโอ เป็นคำที่นายเคนเนธ อาร์โนลด์ ชาวอเมริกันได้บัญญัติขึ้น เมื่ออ้างถึงวัตถุบินลึกลับที่เขาพบเจอบนท้องฟ้า ว่าเคลื่อนไหวคล้ายจานที่ร่อนไปบนผิวน้ำ เมื่อปี พ.ศ. 2490 (ค.ศ. 1947)
ยูเอฟโอ มีชื่อเรียกเป็นภาษาไทยว่า จานบิน หรือ จานผี เชื่อว่าเป็นยานพาหนะของมนุษย์ต่างดาวที่ใช้เดินทางมายังโลกมนุษย์ มีหลักฐานหลายอย่างระบุว่า มีพบมาตั้งแต่สมัยโบราณแล้ว และปรากฏเป็นสิ่งก่อสร้างหรือหลักฐานทางประวัติศาสตร์หลายแห่งทั่วโลกหรือแม้แต่ในประเทศไทยเองก็ตาม และเหตุการณ์ที่เกี่ยวกับยูเอฟโอที่โด่งดังที่สุด เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 2 กรกฎาคม พ.ศ. 2490 โดยสิ่งที่เชื่อว่าเป็นยูเอฟโอได้ตกลงที่ทะเลทรายในเมืองรอสเวลล์ มลรัฐนิวเม็กซิโก สหรัฐอเมริกา แต่ทางกองทัพอากาศสหรัฐอเมริกาอ้างว่าเป็นบอลลูนตรวจอากาศ ซึ่งก่อให้เกิดเป็นทฤษฎีสมคบคิดมากมาย
หนังสือเกี่ยวกับยูเอฟโอในภาษาไทยหลายเล่ม แปลชื่อ Unidentified Flying Object ว่า " วัตถุบินที่กำหนดเอกลักษณ์ไม่ได้ " และใช้ชื่อย่อว่า วบกอม แต่ชื่อย่อนี้ไม่ได้เป็นศัพท์บัญญัติอย่างเป็นทางการ
********************************************************
ร็อด
จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี

ภาพร็อดเหนือน่านฟ้ากรุงแบกแดก ประเทศอิรัก บนหน้าจอโทรทัศน์ ช่วงระหว่างสงครามอ่าวเปอร์เซียครั้งที่ 2
ร็อด (Rods) สิ่งมีชีวิตประหลาด ที่ยังไม่มีการยืนยันว่ามีจริงหรือไม่ คืออะไร แต่เชื่อว่าคือ แมลง ที่มักจะปรากฏตัวตามสถานที่ต่าง ๆ และสามารถจับภาพได้ด้วยกล้องที่มีความเร็วสูง และเชื่อว่าหลังที่มันปรากฏตัวแล้ว สถานที่นั้น ๆ จะพบกับเหตุวิบัติต่าง ๆ เสมือนหนึ่งว่า ร็อด ได้มาเตือนให้ทราบล่วงหน้าก่อน
ร็อด เป็นที่รู้จักเป็นครั้งแรกเมื่อเดือนมีนาคม พ.ศ. 2537 (ค.ศ. 1994) จากนายโฮเซ่ เอสคามิลล่า (Jose Escamilla) โดยนำรูปถ่ายของนักท่องเที่ยวกลุ่มหนึ่งที่ได้ไปถ่ายรูปที่ทะเลทราย ในรัฐนิวเม็กซิโก และติดภาพร็อด นำออกอากาศทางวิทยุกระจายเสียงท้องถิ่น จากนั้นนายโฮเซ่ได้จัดทำเว็บไซต์เกี่ยวกับร็อดขึ้นมา และจากนั้นร็อดก็ค่อย ๆ เป็นที่รู้จักมากขึ้น
เชื่อว่าร็อดสามารถบินได้ด้วยความเร็วสูงถึง 270-300 กิโลเมตร/ชั่วโมง มีความยาวประมาณ 4 นิ้ว สีลำตัวสีขาว มีการแบ่งประเภทของร็อดออกได้เป็น 3 ประเภทตามรูปร่างที่พบ คือ
Centipede Rods (ร็อดตะขาบ)
White Rods (ร็อดขาว)
Spears Rods (ร็อดหอก)
นอกจากนี้แล้วร็อดยังมีชื่อเรียกอื่น ๆ อีก เช่น Roswell Rods, The Sky Diving, Flying Fish, Sky Fish เป็นต้น
ปัจจุบัน เรื่องของร็อดได้กลายเป็นทฤษฎีสมคบคิดไปอย่างหนึ่ง มีผู้ที่เชื่อไปต่าง ๆ นานา บ้างก็เชื่อว่า ร็อดอาจจะเกี่ยวข้องกับจานบินหรือมนุษย์ต่างดาว เป็นต้น
สำหรับผู้ที่ไม่เชื่อ เชื่อว่าถ่ายภาพที่ติดร็อดนั้นอาจจะมาจากการเคลื่อนที่หรือกระพืบปีกของสิ่งต่าง ๆ เช่น นกหรือแมลง เช่น กล้อง CCD ที่มีความเร็วมากกว่า 60 ช็อต/วินาที ซึ่งเวลานกหรือแมลงกระพือปีกก็จะถูกบันทึกไว้ด้วยความเร็วสูงของกล้อง จนทำให้เกิดภาพต่อเนื่องขึ้นและกลายเป็นรูปร่างของสิ่งที่คล้ายร็อดไป
***************************************************
แร็กนาร็อก คือชื่อสงครามอวสานโลกใน ตำนานเทพเจ้าสแกนดิเนเวีย อันเนื่องจากการสู้รบระหว่างฝ่ายเทพเจ้า เรียกว่า แอซิร์ (Æsir) ซึ่งนำโดย โอดิน (Odin) กับฝ่ายอสูร เรียกว่า โยตุนส์ (Jotuns) ซึ่งนำโดย โลกิ (Loki)
สงครามครั้งนี้ไม่เพียงนำมาซึ่งการสิ้นชีพทั้งฝ่ายเทพเจ้าและฝ่ายปีศาจ แต่ยังเป็นสงครามครั้งสุดท้ายที่ทำลายล้างทุกสรรพสิ่งในจักรวาลจนสูญสิ้น หลงเหลือเพียง เทพเจ้า บางองค์ และมนุษย์ ที่จะร่วมกันสร้างโลกใหม่
ประเด็นที่น่าสนใจในตำนานแร็กนาร็อกคือเหล่าเทพเจ้าได้ล่วงรู้ถึงผลที่จะเกิดขึ้นจากสงครามก่อนแล้วผ่านคำทำนายว่าจะเกิดเหตุการณ์ อะไรขึ้นเมื่อไร ใครจะต่อสู้กับใคร และใครจะถูกใครสังหาร แม้กระนั้นฝ่ายเทพก็ไม่มีอำนาจเพียงพอจะป้องกันไม่ให้เกิดสงครามครั้งนี้ขึ้นได้ อย่างไรก็ตามฝ่ายเทพก็ได้ต่อสู้ เผชิญหน้าต่อชะตากรรมของตนอย่างกล้าหาญ
ในสังคมของนักรบชาวไวกิ้งการตายในสงครามเป็นวีรกรรมอันน่ายกย่องประการหนึ่ง โดยวิญญาณของนักรบผู้พลีชีพในการศึกจะถูกอัญเชิญไปยังหอแห่งความปีติหรือวัลฮัลลา (Valhalla) เพื่อพบกับโอดิน เทพเจ้าผู้ยิ่งใหญ่ที่สุด ผู้ซึ่งแม้แต่ตัวพระองค์เองก็มิได้เป็นนิจนิรันดร์ จักต้องพ่ายแพ้ต่อสุนัขป่าเฟนรีร์ และม้วยมอดไปในการศึกแห่งแร็กนาร็อกในที่สุด
คำทำนายของคนทรง วอลวา (Völva) เกี่ยวกับประวัติศาสตร์และชะตากรรมของทวยเทพนับตั้งแต่จุดเริ่มต้นของเวลาจนถึงยุคของแร็กนาร็อก ได้ถูกเล่าขานสืบทอดเป็นบทกวีตำนานมาตั้งแต่ช่วง 1000 ปี ก่อนคริสตกาล
คำว่า แร็กนาร็อก (Ragnarok) มาจากภาษา สแกนดิเนเวียนโบราณ จากคำว่า Ragnarök ซึ่งประกอบไปด้วยคำว่า แร็กนา (ragna) ซึ่งแปลว่า พระเจ้า หรือ พลังอำนาจในการควบคุม และ คำว่า ร็อก (rök) แปลว่า โชคชะตา
*********************************************************
เรามาติดตามเรื่องราวต่างๆกัน เฝ้าดูว่า ทุกสิ่งทุกอย่างจะมาในรูปแบบไหน ในพระคัมภีร์เองบอกว่า ทุกอย่างเกิดขึ้นบนท้องฟ้าเป็นอย่างแรก บางทีอีกไม่กี่ปีอาจได้เห็น
สิ่งมีชีวิตพิศวงไปทั่วนะครับ อยากเจอตัวอะไรกันมากที่สุดครับ ทุกท่าน ?