Jeab Agape เขียน:Holy เขียน:เพราะส่วนมากเป็นคริสตังนอนกัน
แล้วเกรงว่า กับบางคน จะพยานไปพยานมาไปพยานให้ศาสนาอื่นกับเรื่องเจอผีเอาน่ะสิ
อาจจะเพราะที่วัด ไม่ได้ส่งเสริมให้คนเป็นพยาน หนุนใจ เสริมสร้างกัน หรือไม่มีช่องทาง
เลยทำให้ไม่กล้า หรือลำดับไม่ถูก

คงจุดนั้นด้วย คาทอลิกถูกสอนให้นบนอบและเชื่อฟัง ต้องเหมือนแม่พระไว้ก่อนคือห้ามพูดมาก เราไม่ได้สอนให้ทำแบบนักบุญเปาโล(ประกาศ)เท่าไหร่ (ต่อให้มีปีนักบุญเปาโลที่ผ่านมา คาทอลิกไทยก็ยังไม่ส่งเสริมจุดนั้นอยู่ดี คงเน้นไปที่การแสวงบุญทำนพวารหรือเผยแพร่ประวัติท่าน แต่ไม่ได้รณรงค์ให้ทำตามแบบอย่างท่านสักเท่าไหร่)
ดังนั้นคาทอลิกไทยที่เล่าคำพยาน อาจโดนกล่าวหาจากนักบวชบางคนหรือคาทอลิกสูงวัยบางคนว่าโอ้อวดหรืออยากเป็นนักบุญไปโน่นเลย
แต่นักบวชที่มองการณ์ไกลและเข้าใจจิตตารมณ์ของผู้ประกาศข่าวดีก็มีอยู่บ้างและส่งเสริมครับ แต่มีสัดส่วนที่น้อยมาก และหลายครั้งนักบวชท่านเหล่านั้นกลับถูกนักบวชที่กีดกันด้วยกันเองกล่าวหาจับผิดซะอีก
แต่ต่างประเทศไม่เป็นนะครับ อย่างเช่นที่อเมริกา เวลามีงานสัมนาหรือแบ่งปันเกี่ยวกับศาสนา บางงานฆารวาสขึ้นเวทีพูดมากกว่าพระสงฆ์อีก แต่เมืองไทยส่วนมากพระสงฆ์ต้องเป็นหลักไว้ก่อน แต่ก็มีบ้างบางงานเช่นงานที่หัวข้อเกี่ยวกับฆารวาสแพร่ธรรม ฆารวาสจะได้พูดเยอะขึ้นหน่อย แต่สัดส่วนงานแบบนั้นก็ยังน้อยมากครับ
ดังนั้น บุคลิกของคาทอลิกไทย นอน ส่วนมากคือ ไม่เอา ไม่พูด ไม่กล้า ส่ายหัวไว้ก่อน ยิ่งถ้างานไหนมีพระสงฆ์ควรส่งให้พระสงฆ์ทำไว้ก่อน เดี๋ยวจะกลายเป็นจองหองและโอ้อวด อันนี้บางทีไม่ใช่ว่านักบวชเขาจะว่าเรานะครับ แต่หลายๆครั้งคาทอลิกนอน(สูงอายุหน่อย)บางคนนี่แหละด่ากันเอง ว่ากันเอง แขวะกันเอง
ก็ดีอย่างเสียอย่างครับ ข้อดีคือป้องกันคนโอ้อวดจริงๆมาโม้อยากดัง และป้องกันการเผยแพร่ความรู้ผิด ความรู้เทียมเท็จ แบบไม่รู้จริงแต่พูด ไปได้เยอะเลย คือแทบไม่มีปัญหาแบบนี้เลยในคาทอลิก เปรียบไปเหมือนว่าการวิ่งแข่งเข้าเส้นชัย อาจมีบางคนตุกติกดึงเสื้อคนอื่น กินยาโด๊ป หรือหกล้มข้อเท้าแพลง จึงห้ามวิ่งมันซะเลย จึงไม่เกิดการโกง หรืออุบัติเหตุใดๆ แต่ก็ไม่มีใครวิ่งถึงเส้นชัยกันสักคน ใช้วิธีเพิ่มจำนวนผู้เชื่อโดยการแพร่พันธุ์แทนแพร่ธรรมมาตั้งแต่สมัยหลังเบียดเบียนแล้วไล่มิชชันนารีต่างชาติออกไปหมดนั่นแหละครับ