เรื่องเล่า ภคินี รักกางเขน จันทบุรี

ใครมาใหม่เชิญทางนี้ก่อน ทักทาย ทดลองโพส
ตอบกลับโพส
ภาพประจำตัวสมาชิก
tankub....
โพสต์: 34
ลงทะเบียนเมื่อ: พุธ พ.ค. 25, 2011 8:49 pm
ติดต่อ:

จันทร์ พ.ค. 30, 2011 3:05 pm

ซ.มารี เพ็ชร สาทรกิจ
สัตบุรุษวัดนักบุญยอแซฟกรรมการ ท่าใหม่ จันทบุรี
ซิสเตอร์มีพี่น้อง 6 คน ตนเองเป็นลูกคนสุดท้อง ปัจจุบันอายุ 94 ปี ..บ้านอยู่ท่าใหม่นับถือศาสนาพุทธ พ่อและแม่มีอาชีพ
ค้าเรือ แต่ท่านก็เสียชีวิตตั้งแต่ซิสเตอร์ และพี่น้องยังเล็กๆ
อยู่มาวันหนึ่งซิสเตอร์ที่ประจำอยู่วัดท่าใหม่(สมัยนั้น) คือ ซิสเตอร์ฝอย และซิสเตอร์ลี้ ได้ออกเยี่ยมเยียนชาวบ้านตามปกติ
ที่จำได้ ท่านมักจะไปพูดคุย ปลอบโยน บรรเทาใจผู้เจ็บป่วย ผู้ตกทุกข์ได้ยาก และยังรักษาเด็กๆที่ไม่สบาย ด้วยการนำสมุนไพรมาตำ
ให้กินบ้าง กวาดยาบ้าง อีกทั้งยังมาตัดต้นกกแถวๆบ้านของซิสเตอร์เป็นประจำ ซิสเตอร์ทั้งสองเป็นที่รักของสัตบุรุษที่นี่ ตอนนั้นเมื่อ
ตัวซิสเตอร์เองได้เห็นท่านก็รู้สึกประทับใจในความเมตตา ใจดี และอุทิศตนของพวกท่านทั้งสอง จึงฝันอยากเป็นซิสเตอร์บ้าง ก็เลย
ขอไปอยู่ติดสอยห้อยตามท่านไป เวลาออกเยี่ยมเยียน หรือไปรักษาเด็กๆ ครั้งหนึ่งซิสเตอร์ฝอย
พามาร่วมงานแห่ศีลมหาสนิทที่วัดจันทบุรี ซึ่งไม่เคยเห็นมาก่อน เป็นพิธีที่สง่างาม ชวนศรัทธา
เหมือนได้สัมผัสกับพระเยซูในศีลมหาสนิท สุขใจและเป็นสุขอยู่ลึกๆ จากจุดนี้ซิสเตอร์รู้สึกทันที
ว่า ไม่อยากกลับไปอยู่บ้านอีกแล้ว อยากอยู่กับพระ หลังจากนั้นจึงได้กลับใจมาเป็นคริสตชน
และขอเข้าอาราม ตอนนั้นซิสเตอร์เองอายุได้ 15 ปี
เมื่อเข้าไปใช้ชีวิตในอารามสมัยนั้น มีเด็กฝึกหัดเยอะมาก ผู้ใหญ่จึงได้คัดเลือกเด็กฝึกหัด
ที่ขยันเรียน ตั้งใจทบทวนวิชา และเรียนดี ไปเรียนต่อ ซิสเตอร์เป็นคนหนึ่งที่ได้เรียน มส. 5- มส.6
ซึ่งเป็นขั้นที่สูงในสมัยนั้น เมื่อเรียนจบได้มาเป็นครูสอนเรียน สอนนักเรียนอ่านเขียน สอนคำสอน
นอกจากนั้นยังต้องช่วยกันทำงานอื่นๆอีก คือ ทอเสื่อ ซิสเตอร์และเพื่อนๆต้องพายเรือไปตัดกก
เพื่อนำมาไว้ใช้สำหรับทอเสื่อ ต้องตากกกให้แห้ง และมาย้อมกกให้เป็นสีต่างๆ
ชีวิตในอารามไม่สบายนัก ต้องฝึกฝนอะไรใหม่ๆหลายอย่าง เคยทำบ้าง ไม่เคยทำบ้าง
แต่ซิสเตอร์มีความสุขมาก สนุกกับชีวิตเด็กฝึกหัด เพราะซิสเตอร์สนใจตั้งแต่ยังเล็กๆ มีความสุข
ที่ได้ทำงานกับเพื่อนๆ มีความสุขที่ได้สวดภาวนา และออกไปช่วยเหลือคนอื่นๆ มีซิสเตอร์พี่ๆคอยให้คำแนะนำ จึงทำให้ทุกวันของ
ซิสเตอร์มีความสุขที่ได้อยู่อาราม
ที่ซิสเตอร์อยู่ได้ทุกวันนี้ในชีวิตนักบวชอาจเป็นเพราะว่าบทสวดที่ซื่อๆง่ายๆที่ซิสเตอร์ชอบสวดบ่อยๆว่า
“ข้าแต่พระองค์ ลูกรักพระองค์ ลูกอยากบวชเป็นซิสเตอร์ ขอให้ลูกมีกระแสเรียกด้วยเทอญ”



สมัยเด็ก ๆ ซิสเตอร์เกิดมาในครอบครัวใหญ่ซึ่งมีพ่อ แม่ ปู่ ย่าและญาติๆ มีอาชีพรับซื้อมันสำปะหลัง ข้าวโพด ข้าว ตาม
ฤดูกาล คุณย่าเป็นคนที่ศรัทธามาก ท่านสอนให้ลูกหลาน ไปวัดไปวา สวดภาวนาร่วมกัน จำได้ว่าก่อนนอนคุณย่ามักเรียกลูก
หลาน มาสวดสายประคำพร้อมกัน และในวันอาทิตย์ไปวัดกัน (วัดบ้านทัพมีมิสซา ฯ วันอาทิตย์เท่านั้น)
ซิสเตอร์ยังจำได้ว่า ครั้งหนึ่งหลังจบมิสซา แล้วเดินกลับบ้านซึ่งไกลพอสมควร ย่าเดินตกหลุมบนถนนที่เราเดินกัน ย่าก็
บอกกับพวกเราหลานๆว่า "หกล้มครั้งที่ 1" และย่ายังสอนให้หลานๆ ร้องเพลงพระด้วย ในสมัยนั้นตัวเองยังเด็กมาก ยังไม่ค่อย
เข้าใจเท่าไหร่ แต่พอมาทบทวนสิ่งเหล่านี้ ถือว่าเป็นบ่อเกิดของกระแสเรียกของซิสเตอร์เอง และแล้วความฝันก็เกิดขึ้น
เมื่อวันหนึ่ง มีคณะซิสเตอร์มาอยู่ที่วัดของเราแบบชั่วคราวเท่านั้น พวกเราเด็ก ๆ ก็ติดสอยห้อยตามบรรดาซิสเตอร์ที่มาด้วย
ความสนใจ และดีใจ ที่ได้เห็นซิสเตอร์ แล้วตั้งแต่นั้นมา มักมีญาติๆ ถามกับตัวเองว่า “อยากเข้าอารามมั้ย” ก็ให้คำตอบ
กับตัวเองว่า “อยากไป” แล้วความฝันใกล้เป็นจริง พอใกล้จบ ป.6 คอยข่าวว่าจะมีค่ายกระแสเรียกเมื่อไร และแล้วก็ไม่มี
ข่าวคราวนี้เลย จึงได้ถามรุ่นพี่ที่เข้าอารามว่ามีค่ายกระแสเรียกมั้ย พี่ก็บอกว่า จัดไปแล้ว แต่เราไม่ได้ไป พี่จึงติดต่อถาม
ซิสเตอร์ให้ แล้วก็ได้คำตอบว่า ไว้คอยปีหน้าแล้วกัน ตอนนั้นรู้สึกเสียใจอยู่เหมือนกัน ได้แต่ปลอบตัวเองว่าไม่เป็นไร ไว้ไป
ปีหน้าก็ได้ แล้วก็ไปสมัครเรียนโรงเรียนประจำจังหวัดสระแก้ว แต่ก่อนไปสมัครต้องไปเอาเอกสารที่โรงเรียนชุมชนพัฒนา
เสียก่อน คุณพ่อเจ้าอาวาสฝากบอกว่า "ซิสเตอร์ให้เข้าอารามได้" ตอนนั้นรู้สึกดีใจมากเลย และขอบคุณพระที่ให้โอกาส
กับตัวเอง แล้วได้เดินทางเข้าอารามโดยมีพ่อกับแม่ไปส่งถึงอารามเลย
เมื่อเข้าอารามมาได้เจอสิ่งใหม่ ๆ มากมาย ทั้งซิสเตอร์ที่เราไม่เคยรู้จัก และบรรดาเพื่อน ๆ ที่ไม่รู้จักกันเลย ทุกอย่าง
ใหม่มากสำหรับตัวเอง ชีวิตในการเป็นผู้ฝึกหัดได้รับการอบรมจากบรรดาซิสเตอร์ในคณะ ทั้งด้านร่างกาย จิตใจ สติปัญญา
เมื่ออยู่อารามมีทั้งความสุขและความทุกข์ปะปนกันไป แต่ก็มีความสุข มีพลังในการต่อสู้ในทุกวัน จึงตัดสินใจที่จะเดินตาม
พระอย่างใกล้ชิด รักและรับใช้ทุกคนตามแบบอย่างพระเยซูคริสตเจ้าผู้ถูกตรึงกางเขน วอนขอพระองค์ให้ได้ดำเนินชีวิต
นักบวชได้อย่างซื่อสัตย์จนตลอดชีวิต
"ลูกขอขอบคุณพระเจ้าที่ประทานพระพรให้ในทุกวัน ขอบคุณพ่อ แม่ ปู่ ย่า ตา ยาย ลุง ป้า น้า อา พี่ น้อง ทุกท่าน
ที่ให้กำลังใจเสมอมา ขอบคุณผู้ใหญ่ในคณะ บรรดาซิสเตอร์ในคณะทุกท่าน ที่เป็นเสมือนพี่น้องที่คอยอยู่เคียงข้าง แนะนำ
ขอบคุณเพื่อน ๆ พี่ ๆ ที่ร่วมเดินทางเคียงข้างกันเสมอ ขอบคุณทุกท่านที่ให้รอยยิ้มกำลังใจเสมอ แม้หนทางอีกยาวไกล
“ขอเพียงมีพระองค์อยู่เคียงข้าง ลูกจะมั่นใจในพระองค์”

ซ.เทเรซา ณัฐวรรณ ฉวีนิรมล
สัตบุรุษวัดพระจิตเจ้า บ้านทัพ สระแก้ว


ซ.ยูเลียน ซาแวร์ นามวงศ์
สัตบุรุษวัดพระหฤทัย ขลุง จันทบุรี
"ซิสเตอร์มีป้าอยู่ที่อารามหนึ่งท่าน เมื่ออายุได้ 12 ปี มีโอกาสมาเยี่ยมป้าบ่อยๆ ทำให้รู้สึกอยาก
เข้าอารามบ้าง แต่ก็รู้ว่าไม่ใช่เรื่องง่ายเลย เพราะพ่อแม่ของซิสเตอร์ไม่ยอมให้เข้าอาราม เนื่องจากเป็น
พี่คนโต มีน้องๆ ที่ต้องดูแลแทนพ่อแม่อีก 12 คน ต้องทำงานตั้งแต่เด็ก ออกเรือไปกับพ่อ เพื่อจับปูปลา
ในทะเลและหาบของขาย จนอายุได้ 18 ปี เสียงเรียกของพระก็ยังคงดังก้องอยู่ภายในทุกๆวัน
อยากเข้าอารามมาก จึงตัดสินใจหนีพ่อแม่มา โดยนั่งเรือแจวจากขลุงมาถึงท่าน้ำหน้าวัดจันท์
สมัยนั้นเดินทางยากลำบาก ไม่มีอะไรติดตัวมาเลย นอกจากเงิน 30 บาทเท่านั้น
เมื่อเข้าอารามแล้ว ซิสเตอร์ช่วยงานทุกอย่างที่สามารถจะทำได้ และช่วยซิสเตอร์ป้าบดยา
สำหรับทำยาสมุนไพร เมื่อปฏิญาณตนแล้ว มีโอกาสกลับบ้านเป็นครั้งแรก นับตั้งแต่จากมา ก่อนหน้านี้สวดขอพระให้พ่อแม่
หายโกรธทุกวัน เมื่อเจอหน้าท่านก็ขอโทษ พ่อแม่จึงให้อภัย
ซิสเตอร์มีความสุขที่ใช้ชีวิตอยู่ในอาราม แม้ลำบากบ้าง ขัดสนบ้าง หรือไม่ได้ทำอะไร ในสิ่งที่อยากทำ
แต่ก็อยู่ได้จนถึงทุกวันนี้ เพราะสวดขอพละกำลังและขอพระพรที่จำเป็นจากพระเจ้า ให้ความยากลำบาก ความทุกข์ ความสุข
ได้ผ่านพ้นไปตามน้ำพระทัยของพระองค์ สำนึกในใจเสมอว่าพระรักและดูแลซิสเตอร์เสมอมา จึงทำให้ซิสเตอร์ได้มีความสุข
ในชีวิตนักบวชจนถึงทุกวันนี้"

สนุกมั้ยคับ.... อ่านหลายทีแล้ว ยังประทับใจเหมือนเดิมเลย ถ้าอยากอ่านอีก ก้

http://www.lcc-th.com/38.html นะคับ....
anatasia
โพสต์: 449
ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ มี.ค. 21, 2011 6:18 am

จันทร์ มิ.ย. 13, 2011 7:22 pm

แวะไปอ่านเรื่องเล่าของภคินีแล้วค่ะ
Batholomew
~@
โพสต์: 12724
ลงทะเบียนเมื่อ: อังคาร ม.ค. 18, 2005 2:28 pm
ที่อยู่: Thailand

จันทร์ มิ.ย. 20, 2011 5:50 pm

Thanks for sharing kub
Jeab Agape
~@
โพสต์: 8259
ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ม.ค. 17, 2005 9:56 pm
ที่อยู่: Bangkok

ศุกร์ ก.ค. 01, 2011 10:29 am

คณะรักไม้กางเขนเป็นภคินีคณะแรกๆที่เข้ามาทำพันธกิจในประเทศไทย

ปัจจุบันภคินี มีกี่คณะครับ :s007:
:+: seraphim :+:
~@
โพสต์: 7624
ลงทะเบียนเมื่อ: พุธ มี.ค. 23, 2005 9:49 pm
ที่อยู่: Pattaya Chonburi

จันทร์ ก.ค. 04, 2011 9:40 am

Jeab Agape เขียน:คณะรักไม้กางเขนเป็นภคินีคณะแรกๆที่เข้ามาทำพันธกิจในประเทศไทย

ปัจจุบันภคินี มีกี่คณะครับ :s007:
http://www.chandiocese.org/2010/info04-05.pdf ตามนี้จ้า
ตอบกลับโพส