Belong to the Truth Jesus Christ

ชาวพุทธคนหนึ่ง ตั้งคำถามเลย์ว่า

มีคนนับถือพระเจ้าสวดอ้อนวอนประจำ แต่ลูกถูกรถชนตาย จึงเสียใจ ไปโบสถ์อ้อนวอนทุกวัน ขอให้รอดแต่ไม่รอด เขาเลยไม่ไปโบสถ์อีกเลย เขาว่าพระเจ้าไม่รักเขา เพราะ พระเจ้าไม่ช่วยเขาจริง บอกว่าพระเจ้ารัก แต่ทำไมไม่ช่วย ก็เลยเหมือนคำโกหกว่ารัก ..

เลย์ควรจะตอบเขาอย่างไรครับ ให้เขาเข้าใจ ขอพี่ๆเพื่อนๆเเนะนำด้วยครับ

ไม่แน่ใจว่าเคยอ่านหรือยังลองอ่านดูน๊ะค่ะ
http://salvation.in.th/03marygrace/mary ... 75-10.html

เผื่อจะเป็นแนวได้จากคุณพ่อท่านหนึ่ง

คิดในแง่ดีสิครับ เพราะพระเจ้าทรงรักลูกของเขาคนนั้น จึงรับเด็กคนนั้นสู่อ้อมแขนของพระองค์ ไม่ให้ทุกข์ทรมานในโลกนี้อีก จะได้มีความสุขในอาณาจักรสวรรค์ร่วมกับพระองค์ ขอพระเจ้าโปรดเมตตาคนบาปอย่างพวกลูกทั้งหลายด้วยเทอญ.อาแมน

พระเจ้าเป็นพระเจ้านะครับ
ไม่ใช่เบ๊ จะได้รับใช้ตามสั่งเราทุกอย่าง


พระเจ้าเป็นผู้ประทานสิ่งดีให้แก่ลูกๆของพระเสมอครับ
เพียงแต่จะเป็นอะไรก็เป็นไปตามแต่ละกรณีไป ตามที่พระองค์ทรงพอพระทัย

พระองค์คงต้องมีเหตุผลของพระองค์ครับ

ลูกของพระองค์ยังตายบนไม้กางเขน และกลับคืนชีพอย่างรุ่งโรจน์ เมื่อคนที่เรารักตายไป ก็จงมีสันติสุขเถิด เพราะวันเวลาที่เขาจะได้พบพระองค์ไม่ไกลแล้ว อาเมน

ต้องเข้าใจคำว่า ความรัก เสียใหม่ ความรักไม่ใช่การให้ตามที่เราต้องการทุกอย่าง ความรัก ไม่ใช่การให้ตามที่เราขอทุกอย่าง
ถ้าเราบอกว่า ถ้าพระเจ้ารักเรา ก็ต้องให้ตามที่เราต้องการทุกอย่าง หรือ ต้องไม่ให้เราตาย อันนี้ก็เป็นความเข้าใจผิดอย่างมาก และเสียงต่อการสูญเสียความเชื่อ
แต่เรื่องนี้ผมเห็นว่า เป็นข้ออ้างที่จะละทิ้งความเชื่อมากกว่า เพราะไม่ว่าเราจะเชื่อในพระเจ้าหรือไม่ก็ตาม ผลสุดท้ายถ้าเป็นพระประสงค์ของพระเป็นเจ้าที่จะเรียกผู้นั้นกลับคืน อย่างไรเสียเขาก็ต้องกลับไปหาพระองค์ในที่สุด สิ่งที่เราต้องทำ คือ การเรียนรู้ที่จะเชื่อ และมีความหวังอยู่เสมอ

เรื่องราวน่าเศร้าใจเช่นนี้ ไม่ได้เกิดขึ้นเเฉพาะกับครอบครัวนี้เท่านั้น ใกล้ ๆ บ้านของพี่ก็มีเหตุการณ์เช่นนี้เกิดขึ้นกับครอบครัวหนึ่งเช่นกัน
ลูกชายคนโตของครอบครัวเกิดอุบัติเหตุ รถยนต์พลิกคว่ำเสียชีวิต

ผู้เป็นพ่อแม่ย่อมเสียอกเสียใจ หากแลกได้ จะเอาเงินที่ได้รับจากการเสียชีวิตของลูกชายทั้งหมด แลกเอาลูกชายคนโตคืนมา แต่นั่นแหละ ทำให้เรารู้ว่า เงินซื้อชีวิตไม่ได้ และ ทรัพย์สมบัติในโลกนี้เป็นของหลอกลวง

แต่เมื่อมองย้อนกลับไปในอดีต ครอบครัวนี้ก็เคยทำให้ครอบครัวหนึ่ง สูญเสียลูกชายคนโต ไปด้วยเช่นกัน ด้วยอุบัติเหตุทางรถยนต์แบบเดียวกัน

หากเราคิดพิจารณาให้ดี ๆ ก็ควรจะพิจารณาถึงการดำเนินชีวิตของคน ๆนั้นด้วย ว่าเขาดำเนินชีวิตมาอย่างไร

พระเป็นเจ้าไม่ได้มองที่การกระทำของมนุษย์เท่านั้น แต่มองลึกลงไปในจิตวิญญาณของเขาด้วย ว่าเขาคิดอย่างไร ทำเพื่ออะไร เจตนาที่แท้จริงของเขาคืออะไร

หากมีคริสตชนที่กำลังเผชิญกับมรสุมของชีวิตอยู่ อยากให้กำลังใจด้วย ประโยคนี้ค่ะ
"เราจะรับสิ่งดีจากพระหัตถ์ของพระเจ้า และจะไม่รับของไม่ดีบ้างหรือ"(โยบ 2:10)

อาจจะไม่เกี่ยวกับคำถาม แต่ขอให้เข้าใจและยอมรับเสียเถอะว่ามนุษย์เราเห็นแก่ตัวและค้ากำไรเกินควรเสมอ ตัวอย่างเช่น ทำบุญ 20 บ แต่สวดภาวนาขอให้ถูกรางวัลที่ 1 หรือ ทำไมเรื่องแบบนี้ต้องเกิดกับ ครอบครัวฉัน ลูกฉัน พี่น้องฉัน พ่อแม่ฉัน เป็นต้น ทีรางวัลอยากได้จัง แต่กับสิ่งที่ไม่ดีหรือสิ่งที่พระเจ้าทดลองดันปัดไปให้คนอื่นเสีย เห้อ นี่แหละมนุษย์

ขอให้เป็นไปตามพระประสงค์เทอญ อาเมน

พระเจ้าไม่ได้ให้ค่าขนมเวลาที่เราทำงานบ้าน(สงสัยต้องไปขอเงินประจำวันจากพ่อจะดีกว่านะ)
พระเจ้าไม่ได้พาไปเที่ยว

anatasia เขียน:พระเจ้าไม่ได้ให้ค่าขนมเวลาที่เราทำงานบ้าน(สงสัยต้องไปขอเงินประจำวันจากพ่อจะดีกว่านะ)
พระเจ้าไม่ได้พาไปเที่ยว

ตอนหนูตายคุณพ่อของหนูอนาสตาเซียก็พาหนูขึ้นสวรรค์ไม่ได้ใช่มั้ยคะ?

^
^
^
^

ครูใหญ่มาแล้ว

แต่ก็ถูกของพี่แมวน้ำเค้านะ

พระเจ้าก็ไม่เคยให้ค่าขนมคนทำงานบ้านหรอก ไม่เคยพาใครไปเที่ยวด้วย ทุกคนในโลกก็เท่าเทียมกันแล้วใช่มั๊ยจ๊ะ อนาตาเซีย แต่ถ้าได้ค่าขนมจากคุณพ่อ หรือได้ไปเที่ยว นั่นก็อาจเป็นสิ่งที่พระเจ้าทรงให้โดยที่ท่านไม่ได้มาบอกด้วยตัวเองก็ได้นะจ๊ะ

anatasia เขียน:พระเจ้าไม่ได้ให้ค่าขนมเวลาที่เราทำงานบ้าน(สงสัยต้องไปขอเงินประจำวันจากพ่อจะดีกว่านะ)
พระเจ้าไม่ได้พาไปเที่ยว

"จงดูนกในอากาศ มันมิได้หว่าน มิได้เกี่ยว มิได้สะสมไว้ในยุ้งฉาง
แต่พระบิดาของท่านทั้งหลายผู้ทรงสถิตในสวรรค์ทรงเลี้ยงนกไว้
ท่านทั้งหลายมิประเสริฐกว่านกหรือ"
(Matthew 6:26)

พระเจ้าตอบทุกคำขอของเราเสมอ บางครั้งพระองค์ก็ทรงตอบว่าไม่
เราอาจจะไม่เข้าใจว่าทำไมพระองค์ทรงตอบแบบนั้น แต่จากนั้นมาเราจะเข้าใจเอง..