"ฮอว์คิง" ไม่เชื่อว่า "พระเจ้า" สร้างเอกภพ ?

ใครมาใหม่เชิญทางนี้ก่อน ทักทาย ทดลองโพส
ตอบกลับโพส
s.gabriel
โพสต์: 1011
ลงทะเบียนเมื่อ: ศุกร์ ก.พ. 27, 2009 2:21 pm

อาทิตย์ มิ.ย. 12, 2011 12:29 pm

สตีเฟน ฮอว์กิง (ภาพจาก เอเอฟพี)


นักฟิสิกส์ดาราศาสตร์ชื่อดัง "สตีเฟน ฮอว์กิง" ออกหนังสือเล่มใหม่ล่าสุด "เดอะ แกรนด์ ดีไซน์" ค้านแนวคิดเดิมของตัวเองในหนังสือ "ประวัติย่อของกาลเวลา" และความเชื่อของนิวตันที่ว่าพระเจ้าสร้างเอกภพ

"สตีเฟน ฮอว์กิง" (Stephen Hawking) นักฟิสิกส์ดาราศาสตร์ชื่อดังชาวอังกฤษ ระบุไว้ในผลงานหนังสือเล่มใหม่ล่าสุดของเขาว่า ไม่มี "พระเจ้า" อยู่ในที่ใดๆ ของทฤษฎีการสร้างเอกภพหรือจักรวาลนี้ขึ้นมา เนื่องจากบิกแบง (Big Bang) นั้นเป็นผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นได้ไม่ยากจากกฎทางฟิสิกส์ ตามรายงานข่างในเอเอฟพีและบีบีซีนิวส์

"เพราะว่ามีกฎแห่งความโน้มถ่วง เอกภพถึงได้สามารถสร้างตัวเองขึ้นมาได้จากที่ไม่มีอะไรเลย การสร้างขึ้นเองโดยธรรมชาตินี้คือเหตุผลของการที่มีบางสิ่งบางอย่างแทนที่จะไม่มีอะไรเลย ทำไมเอกภพถึงยังคงอยู่ ทำไมพวกเราถึงยังคงอยู่" ข้อความส่วนหนึ่งที่ฮอว์กิงเขียนไว้ในหนังสือ "เดอะ แกรนด์ ดีไซน์" (The Grand Desig) ที่ได้รับการตีพิมพ์เป็นตอนในหนังสือพิมพ์ไทม์ ซึ่งเขายังบอกอีกด้วยว่านั่นไม่จำเป็นเลยที่จะต้องมีการวิงวอนขอให้พระเจ้าสร้างเอกภพนี้ขึ้นมา

ในหนังสือเล่มใหม่ล่าสุดของฮอว์กิง เขาได้อ้างถึงการค้นพบดาวเคราะห์นอกระบบสุริยะดวงหนึ่งเมื่อปี 1992 ด้วย ซึ่งการค้นพบนั้นได้ทำลายความเชื่อของเซอร์ไอแซก นิวตัน (Sir Isaac Newton) ผู้ได้ชื่อว่าเป็นบิดาแห่งฟิสิกส์ ที่เชื่อว่าเอกภพนั้นไม่ได้เกิดขึ้นมาจากความยุ่งเหยิง แต่ถูกออกแบบขึ้นมาโดยพระเจ้า

"นั่นทำให้เกิดความสอดคล้องต้องกันของสภาวะของดาวเคราะห์ของเรา คือดวงอาทิตย์ดวงเดี่ยวๆ การผสมผสานที่ลงตัวกันของระยะทางระหว่างโลกและดวงอาทิตย์กับปริมาณแสงอาทิตย์ที่ส่องมาถึงโลก ซึ่งนั่นไม่แปลกประหลาดเกินไป และไม่เป็นการบังคับกันมากเกินไปที่จะพิสูจน์ว่าโลกถูกออกแบบมาอย่างพิถีพิถันเพื่อให้มนุษย์อยู่ได้อย่างพึงพอใจ" ข้อความบางตอนที่ฮอว์กิงเขียนไว้ในหนังสือดังกล่าว

ก่อนหน้านั้นในหนังสือขายดีเรื่อง "ประวัติย่อของกาลเวลา" (A Brief History of Time) ของฮอว์กิงที่ออกมาในปี 1988 เขาแสดงให้เห็นว่าเขายอมรับในบทบาทของพระเจ้าต่อการสร้างจักรวาล โดยเขาได้เสนอแนวคิดที่ว่า พระเจ้าหรือสิ่งศักดิ์สิทธิ์นั้นเป็นสิ่งที่เลี่ยงไม่ได้เลยต่อการทำความเข้าใจเกี่ยวกับเอกภพ และระบุไว้ในหนังสือดังกล่าวว่า หากเราค้นพบทฤษฎีที่สมบูรณ์แบบ มันจะเป็นชัยชนะอันสูงสุดในบรรดาเหตุผลของมนุษยชาติ หลังจากนั้นเราก็จะรู้ใจพระเจ้า

ทั้งนี้ ผลงานเล่มล่าสุดของฮอว์กิงนั้นเขาเขียนร่วมกับลีโอนาร์ด มลาห์ดินาว (Leonard Mlodinow) นักฟิสิกส์สหรัฐฯ ซึ่งผลงานตีพิมพ์รวมเล่มจะออกมาในวันที่ 9 ก.ย. นี้

http://www.bloggang.com/mainblog.php?id ... &gblog=220
ภาพประจำตัวสมาชิก
Cherval
โพสต์: 566
ลงทะเบียนเมื่อ: อาทิตย์ ม.ค. 30, 2011 7:17 pm
ที่อยู่: เชียงราย

อาทิตย์ มิ.ย. 12, 2011 12:34 pm

นักวิทย์หนอนักวิทย์

พยายามหาหนทางที่จะปฎิเสธพระองค์
โดยการตั้งทฤษฎีต่างๆที่ไม่มีพระเจ้า หรือพระเจ้าสร้าง
Hotty2539
โพสต์: 102
ลงทะเบียนเมื่อ: เสาร์ เม.ย. 30, 2011 6:17 pm
ที่อยู่: จันทบุรี

อาทิตย์ มิ.ย. 12, 2011 3:17 pm

ศาสนาที่ขาดวิทยาสตร์เห็นคนตาบอด วิทยาสตร์ที่ขาดศาสนาคือคนไม่มีขา

โลกชอบขัดแย้งกับศาสนาเสมอไม่ว่าจะเป็นศาสนาใดๆๆมนุษย์(มีปีศาจสิง)ย่อมหาเหตุผลจมปลอมมาแย้งกับศาสนาเสมอ

แต่ผมไม่ได้บอกว่าให้เชื่อจนไม่พึ่งตนเองเพราะถ้าไม่พึ่งตนเองจะวอนขอพระได้หรือถ้าไม่พึ่งตนเองจะปฏิบัติได้หรือ
ภาพประจำตัวสมาชิก
Holy
Defender of lawS
Defender of lawS
โพสต์: 10011
ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ม.ค. 17, 2005 3:06 pm

อาทิตย์ มิ.ย. 12, 2011 5:40 pm

จริงๆข่าวนี้มันตั้งแต่ปีที่แล้วนะครับ

โลกนี้มีคนไม่เชื่อพระเจ้ามากมาย การที่คนๆหนึ่งออกมาพูดว่าไม่เชื่อพระเจ้าถึงกับต้องเป็นข่าวเลยเหรอ :s030:

แต่จริงๆที่เรื่องนี้เป็นข่าวในสื่อต่างประเทศ เพราะครั้งหนึ่งคนนี้เคยเชื่อและเขียนในทำนองว่าเชื่อว่ามี พระเจ้า เมื่อวันหนึ่งเปลี่ยนขึ้นมาถึงเป็นข่าว

แต่แปลกที่สุดคือสมัยเขาเขียนว่าเขาเชื่อว่าพระเจ้าสร้างจักรวาล ไม่เคยมีสื่อไทยหน้าไหนเอาข่าวมาแปลลง แต่พอไปเจอว่าเขาพูดทำนองว่าจักรวาลเกิดขึ้นเอง ก็รีบเอามาลงแทบไม่ทัน ข่าวนี้มาจากหนังสือพิมพ์ผู้จัดการ หนึ่งในสื่อที่คอยจิกกัดเรื่องพระเจ้าและศาสนาคริสต์เป้นอาชีพอยู่แล้ว

ลองอ่านแนวคิดอื่นๆเขาดูบ้างครับ

--------------------------------------------------------------------------

"ฮอว์กิง" เตือนให้ระวัง เอเลียนอาจบุกยึดครองโลก
โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 26 เมษายน 2553 21:02 น.


ฮอว์กิง" เชื่อมนุษย์ต่างดาวทรงภูมิปัญญามีอยู่จริง และอาจกำลังร่อนเร่พเนจรอยู่ในจักรวาล เพื่อหาอาณานิคมแห่งใหม่ เตือนมนุษย์โลกให้ระวังอันตรายจากสิ่งมีชีวิตนอกโลก เพราะอาจจบไม่สวย เหมือนชนพื้นเมืองอเมริกันเมื่อครั้งโคลัมบัสขึ้นฝั่งที่อเมริกา

สารคดีชุดใหม่ "ท่องจักรวาล กับ สตีเฟน ฮอว์กิง" (Into the Universe with Stephen Hawking) เริ่มออกอากาศตอนแรกในอังกฤษไปเมื่อวันที่ 25 เม.ย. ที่ผ่านมา ทางช่องดิสคัฟเวอรี ชาแนล ซึ่งมีสตีเฟน ฮอว์กิง (Stephen Hawking) นักฟิสิกส์ดาราศาสตร์ชื่อดังของอังกฤษมาถ่ายทอดความรู้เรื่องราวเกี่ยวกับจักรวาล

รูปภาพ

"หากเอเลียนมาหาเรา ผลที่เกิดขึ้นจะเหมือนกับเมื่อครั้งโคลัมบัส (Christopher Columbus) ขึ้นฝั่งที่อเมริกา ซึ่งไม่เป็นผลดีต่อชาวอเมริกันพื้นเมืองเลย" ฮอว์กิง เผย ซึ่งบีบีซีนิวส์ยังรายงานต่อไปอีกว่า ฮอว์กิงได้กล่าวเตือนว่า แทนที่มนุษย์จะพยายามติดต่อสื่อสารกับสิ่งมีชีวิตนอกโลก มนุษย์เราควรหันมาทำอะไรก็ได้เพื่อหลีกเลี่ยงจากการติดต่อกับเหล่าเอเลียนจะดีกว่า

ด้านเอเอฟพีรายงานว่า จากโครงการต่างๆ ที่ได้มีวาดภาพเอกภพในจินตนาการ ได้เผยให้เห็นรูปแบบของสิ่งมีชีวิตจากดาวดวงอื่นในยานอวกาศขนาดใหญ่ที่ท่องไปในเอกภพเพื่อแสวงหาทรัพยากรบนดาวดวงใหม่ หลังจากที่บริโภคทรัพยากรบนดาวของตนเองจนหมดสิ้นแล้ว

ฮอว์กิงยอมรับว่า สิ่งมีชีวิตที่อยู่ที่ใดก็ตามนอกโลก ส่วนใหญ่แล้วน่าจะมีลักษณะคล้ายกับจุลชีพเล็กๆ หรือสัตว์ขนาดเล็ก และส่วนน้อยที่เป็นสิ่งมีชีวิตทรงภูมิปัญญา

"สิ่งมีชีวิตต่างดาวที่มีวิวัฒนาการก้าวล้ำ บางทีอาจเป็นชนเผ่าเร่ร่อนที่กำลังแสวงหาอาณานิคมบนดาวดวงใหม่และพร้อมที่จะทำสงครามเพื่อแย่งชิงให้ได้มา" ฮอว์กิง กล่าวเป็นเชิงเตือน

ทั้งนี้ ฮอว์กิงเชื่อในการมีอยู่จริงของสิ่งมีชีวิตต่างดาวที่ทรงภูมิปัญญา โดยเขาบอกว่า ด้วยสมองคณิตศาสตร์ของเขา เพียงแค่ตัวเลขอย่างเดียวก็ทำให้ความคิดเกี่ยวกับเอเลียนเป็นเหตุเป็นผลอย่างสมบูรณ์ได้

"ความท้าทายคือ การทำให้ได้รู้ว่าที่จริงแล้วเอเลียนมีลักษณะหน้าตาคล้ายอะไร" ฮอว์กิง เผย ซึ่งอาจเป็นสิ่งมีชีวิตที่เรืองแสงได้เหมือนหมึกกล้วย อยู่รวมกันเป็นกลุ่มใหญ่ อาจเป็นสัตว์สองเท้าที่กินพืชเป็นอาหาร หรืออาจเป็นผู้ล่าคล้ายสัตว์เลื้อยคลานตัวสีเหลืองก็เป็นได้

อย่างไรก็ดี ก่อนหน้านี้มนุษยชาติมีความพยายามที่จะติดต่อสื่อสารกับอารยธรรมนอกโลกมาแล้วหลายครั้ง โดยเมื่อปี 2008 องค์การบริหารการบินและอวกาศสหรัฐฯ (นาซา) ได้ส่งสัญญาคลื่นวิทยุของบทเพลง "อะครอส เดอะ ยูนิเวิร์ส" (Across the Universe) ของวง เดอะ บีเทิลส์ (The Beatles) ออกไปในอวกาศ เพื่อเป็นการส่งข้อความที่สื่อถึงสันติภาพให้กับสิ่งมีชีวิตใดๆ ก็ตามที่อาจอาศัยอยู่บนดาวที่อยู่ห่างจากโลก 431 ปีแสง

เมื่อปี 1972 และ 1973 สหรัฐฯ ได้ส่งยานไพโอเนีย 11 และ 11 (Pioneer 10 and 11) ซึ่งมีแผนภาพชายและหญิงเปลือยกาย และสัญลักษณ์ที่แสดงดำแหน่งของโลกและดวงอาทิตย์ ต่อมาในปี 1977 สหรัฐฯ ได้ส่งยานวอยเอเจอร์ 1 และ 2 (Voyager 1 and 2) ออกไปสู่จักรวาลพร้อมแผ่นซีดีที่บันทึกเสียงต่างๆ และภาพภูมิทัศน์บนโลก

http://www.manager.co.th/Science/ViewNe ... 0000057286
In the name of father
โพสต์: 719
ลงทะเบียนเมื่อ: อังคาร ม.ค. 08, 2008 5:47 am
ที่อยู่: กาญจนบุรี

อาทิตย์ มิ.ย. 12, 2011 5:46 pm

ไม่รู้ว่าเกี่ยวกันหรือแปลถูกรึเปล่า แต่ผมชอบประโยคหนึ่งจากหนัง เทวา&ซาตาน ที่บาทหลวงถามพระเอก

พระเอก "ผมเป็นนักวิชาการ สมองของผมบอกว่าผมไม่มีวันเข้าใจพระเจ้าได้"
บาทหลวง "แล้วหัวใจของลูกบอกว่ายังไง?"
พระเอก ".....มันบอกผมว่าไม่จำเป็นต้องเข้าใจ"

พระเจ้าคือผู้ที่สร้างสรรพสิ่ง ทั้งหลักการและเหตุผล ความย้อนแย้งและความวุ่นวาย แม้แต่สิ่งที่มนุษย์เรียกว่า Paradox ก็เป็นแค่โจทย์ปัญหาง่ายๆสำหรับพระองค์

พระเจ้า=ทำลายเหตุผล สร้างเหตุผล ผันแปรเหตุผล รักษาเหตุผล กำหนดเหตุผล ปล่อยวางเหตุผล
มนุษย์=เข้าใจเหตุผล

มนุษย์คิดเสมอว่าตนเองสามารถทำความเข้าใจทุกสิ่งทุกอย่างได้ถ้าพยายามมากพอ

ช่างไม่เจียมตัว....
พระเจ้าสถิตย์กับเราเสมอ
~@
โพสต์: 2546
ลงทะเบียนเมื่อ: อังคาร ม.ค. 18, 2005 10:54 pm

จันทร์ มิ.ย. 13, 2011 12:54 am

ตายไปเดี๋ยวก็รู้เอง ::001::
ภาพประจำตัวสมาชิก
rosa-lee
โพสต์: 6641
ลงทะเบียนเมื่อ: ศุกร์ ม.ค. 29, 2010 2:37 pm

จันทร์ มิ.ย. 13, 2011 3:44 pm

น่าเสียดายพระเจ้าให้สติปัญญาที่ฉลาดเฉลียวแก่นักวิทยาศาสตร์ แทนที่จะขอบคุณพระองค์
กับหลงไป แสวงหามนุษย์ต่างดาวเป็นพระเจ้าเป็นผู้ให้กำเนิดชีวิต อวดรู้ เก่งกว่าพระเจ้า
หลงลืมพระเจ้า ศิลธรรมเสื่อมเห็นแก่ตัว ไม่มีความรักกัน อะไรจะเกิดขึ้น จากการสอนการเชื่อ
ของตัวเอง ถ้าต่อไปมนุษย์ไม่เชื่อว่ามี พระเจ้า วังเวง วังเวง.......... ::008::
ตอบกลับโพส