Belong to the Truth Jesus Christ

.......ไม่มีวิธีติดต่อที่ง่าย ๆ สำหรับคนสมองทึบอย่างเราเลยรึไง
(รู้อยู่ว่าเราเป็นคนยังไง ยิ่งพักนี้หัวเสียหลาย ๆ เรื่องด้วย เรื่องดี ๆ เท่าที่มีตอนนี้ก็.....มันคนละเรื่องกัน)

(จริง ๆ เราก็ว่าจะไม่อยู่ที่นี่ต่อแล้วนะ เพราะรู้ตัวเองดี ......แม้ตอนนี้ก็ยังรู้สึกว่าตัวเองตระบัดสัตย์ ผิดคำพูดตัวเองยังไงชอบกล..... แต่ตอนนี้เริ่มทนไม่ไหวแล้ว หลังจากท่องเฝ้าสังเกตการภายนอกบอร์ดมาตลอด ไม่รู้สึกว่าอะไร ๆ มันดีขึ้นเลย

ก็เตรียมใจแล้วล่ะที่จะโดนถามว่ากลับมาทำไม แต่.....พูดยังกับตัวเองมีอะไรให้เสียแล้วอย่างนั้นแหละ)

(คนอย่างเราคงไม่มีทางกลับไปทำตัวสุภาพเรียบร้อยแบบเมื่อก่อนได้อีกแล้วล่ะ เพราะนั่นมันตัวเราที่ "อ่อนแอ" )

คนไม่สุภาพเรียบร้อยต่างหากที่อ่อนแอ

บรรดานักบุญเวลาที่ท่านยังดำเนินชีวิตเป็นมนุษย์อยู่บนโลก จะมีช่วงหนึ่งที่ยาวนานมาก เรียกกันว่า "คืนมืด" เป็นช่วงเวลาของการชำระล้างจิตวิญญาณให้บริสุทธิ์เพื่อเป็นหนึ่งเดียวกับพระเจ้า ช่วงเวลานี้จะเป็นความว้าเหว่ เหมือนถูกตัดขาดจากพระเจ้า มีแต่ความแห้งแล้ง เป็นช่วงเวลาแห่งการทดสอบความเชื่อ ขนาดคุณแม่เทเรซาแห่งกัลกัตตา แม่พระแห่งคนยยากจน ก็ยังประสบกับช่วงเวลาแบบนี้เป็นแรมปี แต่ท่านก็มีความเพียรทน อดทน และเชื่อในความรักของพระเจ้า

ดังนั้น ขอให้อดทน และมีความเชื่อ เพราะท่านอยู่ในความรักของพระองค์แล้ว ท่านอยู่ใกล้พระองค์แล้ว

Holy เขียน:คนไม่สุภาพเรียบร้อยต่างหากที่อ่อนแอ

แล้วต้องทำแบบไหนถึงจะเรียกว่าสุภาพ
(ต้องยอมเป็นตุ๊กตา ร้องเพลงอวย แล้วก็บอกว่าสิ่งนี้เกิดขึ้นดีแล้ว เยี่ยมแล้ว ทำถูกแล้ว และเห็นด้วยตามทุกอย่างไม่ถามไม่ขัดใจ ถึงจะเรียกว่าสุภาพใช่ไหม ขอโทษที เราถือว่าต่อให้เราทำ มันก็เป็นการโกหก และคิดว่าคงปิดซ่อนอะไรในใจไว้ไม่ได้อยู่ดีนี่หว่า)

ใครกันน้อ บอกว่าไม่ควรไปตัดสินคนอื่น แต่ดูเหมือนกำลังใช้สายตาตัวเองตัดสินเราเต็มทีเลยนี่นา

แต่จะคิดงั้นก็ช่วยไม่ได้ ก็เห็นแต่เราที่โวยวายนี่นา เอาเถอะ ก็เป็นงั้นจริง ๆ ไม่มีอะไรให้เถียง

เราก็แค่......คนไร้พลัง ที่ไม่ชอบใจผู้มีพลังอำนาจสูงกว่า และก็รู้ดี ตัวเองเป็นปัจจัยที่ต้องถูกกำจัดไปสักวันหนึ่งตราบที่ไม่ยอมหันมาอวยแบบลืมหูลืมตา ก็เท่านั้น

ก็แค่เห็นอะไรถูก ดี ก็พูดว่าดี เห็นว่าอะไรไม่ดีก็บอกไม่ดี ตามที่สายตาตัวเองมองเห็นเท่านั้นแหละ (ถ้าไม่ใช้สายตาตัวเอง แล้วจะเป็นตัวเองได้อย่างไร)

ปล.ช่วงนี้หงุดหงิดง่าย จากหลายปัจจัยรวมกัน

Valkyrie Zero Number เขียน: เราก็แค่......คนไร้พลัง ที่ไม่ชอบใจผู้มีพลังอำนาจสูงกว่า และก็รู้ดี ตัวเองเป็นปัจจัยที่ต้องถูกกำจัดไปสักวันหนึ่งตราบที่ไม่ยอมหันมาอวยแบบลืมหูลืมตา ก็เท่านั้น

ก็แค่เห็นอะไรถูก ดี ก็พูดว่าดี เห็นว่าอะไรไม่ดีก็บอกไม่ดี ตามที่สายตาตัวเองมองเห็นเท่านั้นแหละ (ถ้าไม่ใช้สายตาตัวเอง แล้วจะเป็นตัวเองได้อย่างไร)

ปล.ช่วงนี้หงุดหงิดง่าย จากหลายปัจจัยรวมกัน

หลายๆครัง เราก็ไม่ไว้ใจผู็มีอำนาจบ้างเหมือนกันนะ
แต่ก็ขอฝากไว้ให้พระเจ้านำทางสู่สิ่งที่ดีที่สุด

เธอกำลังบอกว่าไม่ไว้ใจพระเจ้าผู้ทรงอำนาจรึเปล่า?
ถ้างั้น อยากให้คิดถึงวลีทีว่า "พระเจ้าทรงเป็นทุกสิ่งทุกอย่าง"


ลองทำใจสุภาพ เปิดรับพระองค์ในฐานะ "เพื่อน" ดูสิ

พระองค์เองอาจจะไม่ได้ปรับเปลี่ยนเหตุการณ์ตามใจเรา

แต่พระองค์ก็เป็น เพื่อนผู้ซื่อสัตย์ ที่ยินดีจะรับฟังความรู้สึกทั้งหมดของเราอยู่นะ

สุภาพกับยอมคนละเรื่องนะ สุภาพกับเห็นด้วยก็คนละเรื่องนะ สุภาพกับเยินยอก็คนละเรื่องนะ

คำว่า คนไม่สุภาพเรียบร้อยต่างหากที่อ่อนแอ


ไม่เฉพาะกับเรื่องของเธอ มันแค่สัจธรรม ที่สำหรับทุำกเรื่อง คนที่สุภาพคือคนที่อดทนต่อคนอื่น คนที่สุภาพคือคนที่เอาชนะอีโก้ของตัวเงได้ ฉะนั้นคือคนที่มีความเข็มแข้ง ส่วนคนที่ไม่สามารถสุภาพได้ ก็คืออ่อนแอ เพราะไม่มีความอดทนและไม่มีความเข้มแข็ง และพ่ายแพ้ต่ออีโก้ของตัวเอง


ไม่มีใครตัดสินเธอหรอก ถ้าแค่คำพูดสัจธรรมประโยคเดียวเธอตีความว่าเป็นการโดนตัดสิน นั่นเพราะที่จริง เธอตัดสินตัวเอง ไปก่อนหน้าแล้ว

ยินดีต้อนรับการกลับมาบอร์ดนี้อีกครั้งนะจ๊ะ คนดี

ดีใจที่เห็นน้อง Valkyrie Zero Number กลับมานะคะ ขอพระอวยพรค่ะ

จากที่พี่พิมพ์ไว้ก่อนหน้านี้ แม้น้องจะยังไม่ใช่นักบุญเดินดิน แต่ก็ควรดำเนินชีวิตที่สุภาพและไว้ใจในพระเจ้าอย่างสุดหัวใจ เพราะพระเจ้าไม่ทรงปรารถนาให้ใครพินาศ พระองค์ก็ไม่ได้ทรงเป็นผู้ตัดสินลงโทษเรา แต่เป็นตัวเราต่างหากที่ตัดสินตนเอง เพราะพระเจ้าทรงเป็นความรัก

Valkyrie Zero Number เขียน: เราก็แค่......คนไร้พลัง ที่ไม่ชอบใจผู้มีพลังอำนาจสูงกว่า และก็รู้ดี ตัวเองเป็นปัจจัยที่ต้องถูกกำจัดไปสักวันหนึ่งตราบที่ไม่ยอมหันมาอวยแบบลืมหูลืมตา ก็เท่านั้น

ก็แค่เห็นอะไรถูก ดี ก็พูดว่าดี เห็นว่าอะไรไม่ดีก็บอกไม่ดี ตามที่สายตาตัวเองมองเห็นเท่านั้นแหละ (ถ้าไม่ใช้สายตาตัวเอง แล้วจะเป็นตัวเองได้อย่างไร)

ปล.ช่วงนี้หงุดหงิดง่าย จากหลายปัจจัยรวมกัน

แต่พี่เป็นแค่ คนต่ำต้อย ที่ไร้ค่า คนหนึ่ง
พี่ก็เลยมักจะ น้อมถวาย ความต่ำต้อย และความไร้ค่า ของตัวพี่ แด่พระเยซูคริสต์ เสมอๆ
เพื่อว่าความต่ำต้อย และความไร้ค่าของพี่ จะเป็นประโยชน์สำหรับพระองค์ และเพื่อพระองค์อันเป็นที่รักของพี่เท่านั้น

ขอพระอวยพรนะคนดี

เรามีเราจะเดินไปทางใดไม่หวั่น อะไรก็ช่างของให้เรามีพระเจ้าและมีเราก็พออย่าไปติดกับชาวบ้านหรือรูปแบบมาก

ผมชอบเรื่องนี้ ในสังคมสมัยใหม่ไม่เพียงแต่ไม่เชื่อในพระเจ้าแม้เรื่องปีศาจก็ยังไม่เชื่อ แม้กระทั่งบาทหลวง

ยินดีต้อนรับกลับมาที่บอร์ดแห่งนี้นะครับ
ขอพระเจ้าทรงอวยพระพรครับ

ยินดีค่ะที่กลับมา จะได้มีเพื่อนร่วมแบ่งปัน แสดงความคิดเห็น ให้กำลังใจกัน พระรักนะ..นะ..นะ
......... .......

อยากเจอพระเจ้า ก็ลองออกมาใช้ชีวิตด้วยตัวเอง ลองออกมาเจอความยากลำบาก มาเจอการโดนโกง การดูถูกการใส่ร้ายป้ายสี ความไม่ยุติธรรม.. แต่เราก็ยังมีความสุข และเห็นพระพรที่ซ่อนอยู่ในทุกๆวัน

ลองใช้ชีวิตด้วยตัวเองดู แล้วน้องจะรู้ว่าพระเจ้ามีจริง :)



จริงๆแล้วน้องน่าจะลองออกมาทำงาน part time ดูนะครับ จะได้ไม่ฟุ้งซ้าน

พระเจ้าสถิตย์กับเราเสมอ เขียน:อยากเจอพระเจ้า ก็ลองออกมาใช้ชีวิตด้วยตัวเอง ลองออกมาเจอความยากลำบาก มาเจอการโดนโกง การดูถูกการใส่ร้ายป้ายสี ความไม่ยุติธรรม.. แต่เราก็ยังมีความสุข และเห็นพระพรที่ซ่อนอยู่ในทุกๆวัน
ลองใช้ชีวิตด้วยตัวเองดู แล้วน้องจะรู้ว่าพระเจ้ามีจริง :)
จริงๆแล้วน้องน่าจะลองออกมาทำงาน part time ดูนะครับ จะได้ไม่ฟุ้งซ้าน

เห็นด้วยกับ พระเจ้าสถิตย์กับเราเสมอ แต่ไม่ทั้งหมดครับ
ปัญหานี้ เกิดจากทัศนคติและมุมมองชีวิตของตัวเอง
ดังนั้น การแก้ไขต้องแก้ที่ตัวเองก่อนเป็นอันดับแรก และ สิ่งแวดล้อมจะเป็นตัวช่วยเสริมครับ
เพราะไม่เช่นนั้น ทำงานไป เหนื่อย เจอคนที่ไม่ถูกใจ ไม่ได้ยินการตอบของพระ เครียด สุดท้ายก็จะวนกลับมาที่เดิมแน่นอนครับ
เรื่องแบบนี้ เริ่มแก้ไขตัวเองก่อน ปรับทัศนคติ ปรับมุมมองให้รู้ว่า การรักและเชื่อในพระเจ้า ไม่ใช่ว่าจะได้รับอัศจรรย์จากพระโดยตรงทุกคน อาจจะโดยทางอ้อม อาจจะผ่าบุคคลอื่น เพียงแต่ว่า เรามองหรือไม่ออกเท่านั้นเอง อีกอย่างหนึ่ง โดยความเป็นคริสตชนแล้ว การแสวงหาน้ำพระทัยของพระเป็นหัวใจ การขอบพระคุณ การสวดภาวนา เป็นเรื่องที่ควรทำมากที่สุด ถ้าปรับไม่ได้ การร้องไห้คร่ำครวญก็จะมีต่อไปไม่สิ้นสุดครับ

ขอพระเจ้าอวยพระพรและส่องสว่างในเร็ววันนะครับ

Joseph เขียน:ผมชอบเรื่องนี้ ในสังคมสมัยใหม่ไม่เพียงแต่ไม่เชื่อในพระเจ้าแม้เรื่องปีศาจก็ยังไม่เชื่อ แม้กระทั่งบาทหลวง

ดูแล้วครับผม สนุกมากเลย ชอบคำพูดนี้มาก

"ถ้าปีศาจมีจริง พระเจ้าก็มีจริงเช่นกัน"

ขอพระเจ้าอวยพรครับ