Belong to the Truth Jesus Christ

จะใช่กระแสเรียกจากพระเจ้ารึเปล่าน๊า
เพราะถ้าใช่เราก็รู้สึกดีใจที่เราขานรับเสียงนั้น
แต่ประทานโทษนะเจ้าค่ะทำไมต้องมาเรียกตอนกลางคืนด้วยง่ะ

ผมคิดว่า สวดภาวนาให้มากขึ้นนะครับ
ถ้าเป็นพระกระแสเรียกก็จะชัดเจนและหัวใจคุณก็จะร้อนรนอย่างยิ่งครับ

ขอบคุณค่ะ
ว่าแต่สงสัยจังเลยอ่ะว่ากระแสเรียกคืออะไรเหรอค่ะ
แล้วเจาะจง(คัดเลือกคนอื่นๆด้วยรึเปล่า??)

กระแสเรียกก็คล้ายๆการการเรียกของพระเจ้าอะค่า :D
การที่เราได้มารู้จักพระเจ้าก็เป็นกระแสเรียกอย่างหนึ่งน้า
จริงๆแล้วพระเจ้าก็เรียกเราทุกคนแหละ แต่จะได้ยินรึเปล่านี่ขึ้นอยู่กับจิตใจ
ถ้าพระเรียกแล้วได้ยินก็อย่าลืมตอบรับล่ะค่า

อาจเป็นได้ทุกอย่าง รวมไปถึงหูแว่วด้วย
ลองดูไปเรื่อย ๆ ค่ะ ถ้าไม่มีอะไรเกิดขึ้นอีก
ก็แปลว่าหูแว่ว ถ้ามีอีก ก็ค่อยพิจารณากันต่อไป

เคยเจอแบบนี้มาเหมือนกันค่ะ

ตอนนั้นนอนสวดสายประคำอยู่ค่ะ ย้ำว่านอนสวดสายประคำค่ะ และสวดใจใน สวดจนถึงทศสุดท้าย เลยคิดในใจว่า "ขอเชิญร่วมสวดภาวนาร่วมกัน" แล้วก็สวดต่อได้อีกประมาณ 5 เม็ด ก็เกิดสมาธิแก่กล้าขึ้นในทันใด คือ ง่วงจนจะหลับให้ได้ในบัดเดี๋ยวนี้ แล้วก็ได้ยินเสียงเรียกชื่อ ! คำเดียว ! สั้น ๆ ! เต็มหู ! ชัดเจนมาก...ก...ก ! หายง่วงเลย ! ก็นึกได้ว่า เราชวนเขาร่วมสวดภาวนาด้วยกัน แล้วเราก็นำสวดอยู่ แล้วใครผู้นั้นเขารับคำเชิญเรา อยู่ร่วมสวดพร้อมกับเรา แล้วเราดันจะหลับซะก่อน เขาก็เลยเรียกเราให้ตื่นเพื่อสวดต่อให้จบ

แต่ตอนนั้นก็รู้สึกกลัวเหมือนกันนะ เพราะสิ่งที่เกิดขึ้นตอนนั้น มันเหนือความเข้าใจของเรา ตอนนั้นยังเด็กอยู่ ตอนนั้นก็เลยสวดต่ออีก 1 สาย แถมค่ะ (ด้วยความตกใจ)

แต่บอกรายละเอียดได้ว่า เสียงนั้นเรียกเพื่อปลุกให้หายง่วง เพื่อจะได้สวดต่อให้จบ จึงไม่ใช่จิตชั่วร้ายแน่นอน เพราะเขาสวดภาวนาร่วมด้วยกับเรา เป็นน้ำเสียงที่ไม่น่ากลัว แต่หนักแน่น

ตั้งแต่นั้นมา ก็เลยไม่กล้าชวนเชิญมาสวดภาวนาร่วมกันอีกเลยค่ะ แหะ แหะ

แต่ก็ทำให้เห็นความสำคัญของการสวดภาวนาให้อีกแง่มุมหนึ่งค่ะ

อ่านของคุณพี่กรอกสมบูรณ์แล้วสะดุ้งทำประจำเลยค่ะ
"คุณเทวดาขามาสวดกันเถอะ แม่พระขามาสวดด้วยกันนะคะ"
แล้ว... สวดไปหลับไป

อ่านแล้วขนลุกอ่ะ เคยแต่รู้สึกว่าโดนจ้องมองเฉย ๆ ไม่เคยถึงขั้นได้ยินเสียงเรียก คิดว่าพระคงรู้ว่าถ้าให้ได้ยินเสียง ผมคงช็อคไปตรงนั้นเลย

เมื่อวานก็ได้ยินเสียงเรียกอีกง่ะ(ไม่รู้ทำไมต้องเรียกตอนที่เราจะนอนทุกทีเลย)
แต่คราวนี้เราไม่ขานตอบอ่ะนะ
ก็เราง่วงนอนอ่ะ
ถ้าได้ยินถึง2ครั้งคงจะไม่ใช่หูแว่วหรือประสาทหลอนแล้วล่ะและเราก็ไม่ได้ละเมอนะเจ้าค่ะ(ได้ยินเต็มรูหูเลยค่ะแต่ไม่รู้จะถามยังไงดีว่าตกลงเรียกเราทำไมมิทราบมีเหตุผลไหมเพราะเราเป็นโรคกลัวผีอ่ะ)
และเรามั่นใจเลยว่าเสียงเรียกนั้นไม่ใช่เสียงของยาย(เฮอะๆยังจำเสียงของยายได้อีกเหรอ?)

หากได้ยินเสียงเรียกอีก ให้ทำสำคัญมหากางเขน นะคะ แล้วเอ่ยคำพูดให้ฟังชัดเจนว่า

"เดชะ พระนามพระบิดา และพระบุตร และพระจิต อาแมน"

"ข้าแต่พระเยซูคริสตเจ้า พระเป็นเจ้า และพระผู้ไถ่กู้ของลูก ลูกขอถวายตัวลูกทั้งครบ แด่ดวงพระทัยศักดิ์สิทธิ์ของพระองค์ ขอทรงโปรดคุ้มครองลูกให้พ้นจาก จิตชั่วร้ายและการผจญล่อลวงทั้งปวงด้วยเถิด อาแมน"

ถ้าผีก็ปล่อยให้มันเรียกไปไม่ต้องกลัวว่ามันจะคอแตกตาย ยังไงมันก็ตายอยู่แล้ว เพราะมันจะเรียกอยู่นั่นแหละจนกว่าเราจะกลัว

แต่ถ้าพระเรียกพระคงไม่เรียกบ่อยๆหรอกเพราะพระไม่เย่อเย้อและชัดเจนในความมุ่งหมายของพระองค์เสมอ

ขอบคุณนะค่ะ

ก่อนนอนก็สวดทุกคืน แล้วก็บอกพระไปตรงๆว่าหนูกลัวอาไร บอกอย่างซื่อๆไม่ต้องคิดคำพูดอาไรมากมายครับ เช่น ขอให้พระคุ้มครองบ้านและครอบครัว ขอให้นอนหลับฝันดี เหมือนเราบอกกับพ่อแม่เราครับ พระองค์มีอำนาจเหนือทุกอย่างในจักรวาลนี้ครับ ขอให้มีความวางใจในพระครับ

พระเจ้าคงจะรู้ชื่อเล่นของบรรดาลูกแกะทุกคนใช่ไหมค่ะ

วันนี้ก็ได้ยินเสียงเรียกอีกแล้วอ่ะ
เราก็ขอบคุณพระเจ้าค่ะที่เรียกยัยลูกเป็ดขี้เหร่ตัวนี้
เรานึกว่าพระเจ้าจะลืมเราไปซะแล้ว

เรายินดีรับกระแสเรียกด้วยความเต็มใจแต่ก็รอให้เราหายป่วยก่อนนะค่ะแล้วเราจะรีบไปที่โบสถ์เพื่อสวดร่วมกับชาวคริสต์ทุกๆคน

อาจเป็นผีก็ได้นะครับ

โจเซฟvisit...
ไปหลอกน้องเขาทำไม เขายิ่งกลัวอยู่ ...

มองแง่ดีคือเสียงแห่งศรัทธาจริง ๆ เป็นพระพรที่พระเรียกจริง

แต่หากมองแง่ร้ายก็มีความเป็นไปได้ที่ปีศาจแกล้งและผจญ
เพื่อให้เกิดความทะนงว่าตนเองมีหรือได้มากกว่าคนอื่น
เมื่อจองหองก็จะไม่รับฟัง ไม่ถ่อมตน เอาอคติตนเองตัดสินว่า
นี่คือเสียงพระเจ้าใครเืตือนก็ไม่ฟัง สุดท้ายก็เข้าทางปีศาจ
ได้ไปอยู่กับพวกมัน

และพระเยโฮวาห์ทรงเรียกซามูเอลอีกเป็นครั้งที่สาม ซามูเอลก็ลุกขึ้นไปหาเอลีกล่าวว่า "ข้าพเจ้าอยู่นี่ ด้วยท่านร้องเรียกข้าพเจ้า" แล้วเอลีจึงหยั่งรู้ว่าพระเยโฮวาห์ทรงเรียกเด็กนั้น เพราะฉะนั้นเอลีจึงพูดกับซามูเอลว่า "จงไปนอนเสียเถิด ถ้าพระองค์ทรงเรียกเจ้า เจ้าจงทูลว่า `พระเยโฮวาห์เจ้าข้า ขอพระองค์ตรัสเถิด เพราะผู้รับใช้ของพระองค์คอยฟังอยู่'" ซามูเอลจึงกลับไปนอนในที่ของตน และพระเยโฮวาห์เสด็จมาประทับยืนอยู่ ทรงเรียกอย่างครั้งก่อนๆว่า "ซามูเอล ซามูเอลเอ๋ย" และซามูเอลทูลตอบว่า "ขอตรัสเถิด เพราะผู้รับใช้ของพระองค์คอยฟังอยู่" (1 ซามูเอล 3:8-10)

แล้วถ้าพระองค์จะเรียกชื่อเรา จะเรียกด้วยชื่อไหนนะ

มีชื่อจริง ชื่อเล่น ชื่อที่ใช้ในไซเบอร์สเปซ 3 ชื่อ (ไม่นับอีกชื่อที่เลิกใช้ไปแล้ว)

......ถามอะไรเนี่ยเรา ในเมื่อกี่ครั้งแล้วที่อยากเจอแต่สุดท้ายก็ไม่ได้ยินสักติ๊ด ยังไงก็คงไม่ได้เจออยู่แล้วนี่นา

ผมว่าก็ไม่แน่ชัดว่า เสียงนั้นมันคืออะไร แต่เท่าที่อ่านจากพระคำภีร์ หรือประวัตินักบุญต่างๆ เวลาถูกเรียก คนถูกเรียกก็กลัวทุกคนนะ อันนี้ไม่แปลก เช่นแม่พระเองถูกเรียกตอนที่เทวดาคาเบรียลมาแจ้งสารแก่แม่พระ หลังจากเรียกแล้ว แม่พระตกใจ ยังปลอบใจเลยว่าอย่ากลัวเลย หรือเวลาแม่พระเอง มาประจักษ์ หาใครสักคน คงไม่ทำเสียงแบบ บรื่อๆ หรอก แบบว่า เทเรรรซาาาาา~~~~ ดังนั้นถ้าได้พิจารณาจากเรื่องที่พระมาเรียกต่างๆ นั้น เสียงพระคงไม่ทำให้ลูกของพระองค์หัวใจวายหรอกครับ คนใหญ่คนที่แม่พระประจักษ์มาหา บอกว่า เสียงของแม่พระเพราะมาก อ่อนโยน สุภาพมากๆๆ ยังบอกอีกว่าไม่มีใครเสียงเพราะขนาดนั้น

แ่ต่ถ้ามีใครเรียกบ่อยๆ แบบที่น้องเล่า ก็น่ากลัวอ่ะ ถ้าเป็นผมคงคิดว่าผีก่อนจะไม่ตอบอะไร วันรุ่งขึ้นไปหาน้ำเสกมาเสกห้องก่อนเลย สวดบทไล่ผีขอแม่พระคุ้มครองด้วย แล้วรอดู ถ้ายังเรียกอีก คงพยายามทำใจให้สงบ (จริงๆ ถ้าเป็นตัวผมเองคงกลัวขี้หดเลยมั่ง แต่มันต้องสู้) หลังจากได้สติ ผมว่าถ้าเป็นผม คงจะพูดว่า ข้าแต่พระเยซูเจ้า พระเจ้าของลูก หากเป็นพระองค์ โปรดบอกลูกเถิด ลูกเป็นผู้รับใช้ของพระองค์ ตามที่พี่กรอกสมบูรณ์ ได้เอามาลงไว้ ถ้าเงียบไปอาจจะไม่ใช่พระ แล้ว ผมคงจะรีบบอกว่า จะไปขอมิซสาให้นะ จะสวดให้ด้วย โอเคไม๊ แล้วนอนเลย แบบนั้นล่ะมั่ง

พระเจ้าอวยพรนะครับ

เราก็ยังได้ยินเสียงเรียกอีกค่ะคราวนี้ไม่เรียกชื่อเล่นแต่เรียกชื่อของเราเลย
แต่เราเชื่อมั่นในพระเจ้าก็เลยไม่กลัว
และเราก็ไม่กลัว