คำสาระภาพบาปของผม
-
- โพสต์: 291
- ลงทะเบียนเมื่อ: เสาร์ ก.พ. 14, 2009 1:34 pm
ผมเป็นเกย์ ล้างบาปได้ 1 ปีเศษ แล้ว หลังจากล้างบาปได้ 3 เดือน ผมได้ขอพระให้ผมได้เรียนรู้จักคำว่ารัก เพราะเกิดมาผมไม่เคยรักใครแบบจิงจัง (เหมือนนางงามรักเด็ก) พูดแค่ว่ารักแต่ในส่วนลึกก็รักตัวเองมากกว่า ผมมักจะท่องคำนี้เสมอ รักคนอื่นเหมือนรักตัวท่านเอง หลังจากนั้นไม่นานผมก็มาได้รู้จักผู้ชายคนหนึ่ง บอกตามตรงตอนแรกไม่ได้อะไรมากแค่สงสาร และคิดว่าเราช่วยอะไรได้ก็ทำได้เท่าที่ทำ เค้าเป็นคนที่พ่อแม่ไม่สนใจเป็นเด็กมีปัญหา อายุห่างกัน 2 ปี เค้าเด็กกว่า ช่วงแรกผมเปรียบเสมือนที่ปรึกษา ค่อยให้กำลังใจเค้าตลอดมันเลยทำให้ผมรู้สึกดี ๆ กับเค้า จนเค้าบอกว่าเราเป็นแฟนกันนะ ผมก็งง แต่มันทำให้ผมนึกขึ้นได้่ว่าผมได้พระว่าขอให้ผมได้รักใครสัก และเค้าก็รักผม ผมเลยตัดสินใจคบกัน ทุกอยากก็ดีมาเรื่อย ประมาณ 3 เดือน ผมต้องการที่จะให้เค้าเป็นคริสต์ เค้าไม่ว่าผมเลยเรื่องนี้ เค้าชอบผมที่เป็นแบบนี้ ตอนนั้นผมอยู่ที่พังงา วัดคาทอลิกไม่มี ผมเลยไปที่โบสถ์โปรแทน อาจารย์ได้สอนเค้า และพยายามให้เค้าเลิกชอบผู้ชายด้วยกัน สอนเค้าให้ชอบผู้หญิง อันที่จริงแฟนผม เค้าก็ได้ทั้งหญิงและชายนะ แต่เค้ารู้สึกไม่ชอบที่คริสต์สอนแบบนี้ เหมือนว่าจะทำให้ผมไม่รักเค้า หลังจากนั้นอาจารย์ก็อธิฐานอะไรก็ไม่รู้ ทำให้นิสัยเค้าเปลี่ยนไปมาก อารมณ์ไม่ดีกับผมตลอด ทั้งที่เค้ารักผมมาก ช่วงสามเดือนแรก มันทำให้ผมคิดว่าหมดโปรแล้วมั่ง ใจออก แต่ผมก็สวดภาวนาว่าถ้าคนนี้พระเจ้าส่งมาให้ลูก ก็ขอให้ได้อยู่ด้วยกันอีก คือว่าผมไล่เค้าออกจากบ้าน ไม่หน้าเชื่อเลย วันนั้นผมไปวัดตอนเช้า ไม่ได้คิดอะไรมากคิดว่าผมไม่เหลืออะไรแล้วเหลือแต่พระเจ้าเท่านั้นที่รักเรา และอยู่เคียงข้าง ผมเลยไปวัด อดไม่ได้ทีใจหายเพราะว่าเราอยู่ด้วยกันตลอด ผมต้องไปวัดอีกจังหวัดหนึ่ง เพราะวัดที่ผมอยู่วันมีแต่ช่วงบ่าย ในระหว่งที่อยู่บนรถไฟผมสวดภาวนาว่า ถ้าเป็นคู่กันขอให้เจอกันด้วยเถอะ พอผมลงรถไฟไม่อยากจะเชื่อเลย ว่าผมเจอเค้านั่งอยู่แต่เค้าไม่เห็นผม ทำให้ผมอึ้งนิดหนึ่ง ผมเลยไปวัดแล้วรีบกลับมากกลัวไม่เจอเค้า กลัวเค้าไปก่อนภายในใจคิดว่าแล้วแต่พระประสงค์ของพระองค์ อะไรจะเกิดก็ให้มันเกิดคิดแบบนี้ พอกับมาเค้าก็ยังอยู่ที่เดิม ทำให้เราได้คุยกับและตกกลับมาคบกันอีกครั้ง แต่เค้าก็นิสัยเสียเหมือนเดิม ผมบอกผมขอเป็นคริสต์เหมือนเดิมนะ เค้าก็ยอมตอนแรก เพราะว่าถ้าผมเป็นคริสต์แล้วใจเย็น แต่พอหลังๆ มาเค้าก็เปลี่ยนไปอีกแล้วบอกว่าห้าม (เคยลงไม้ลงมือด้วย) จนคิดว่าเค้าคงไม่ได้รักเราหรอก พระองค์ส่งคนมาทดลองเราหรือป่าว เรื่องร้าย ๆ กันความซวยหลาย ๆ อยากก็เข้ามาผ่านไปประมาณปีหนึ่ง ผมเริ่มรับนิสัยเข้าเค้าไม่ได้มันสุดจะเหลือทนจิง ๆ ผมลืมไปเลยเรื่องความรักที่พระองค์เคยสอนผมว่า เมือมีรัก ยอมมีหวัง แต่เราจะหวังอะไรในตัวเค้ามากไม่ได้ มันทำให้ผมลืมความรักที่แท้จิงที่เขียนไว้ในพระคำภีร์ ผมคิดแต่ความสุข กันว่าคบคนดีก็ดีตาม แต่ผมไม่คิดจะให้โอกาสใครเลย ผมรักตัวเองมากกว่าผู้อื่นเสียอีก ผมเลยมาเชื่อพุทธทำบุญ เพราะว่าผมทำบุญ แฟนผมจะมีเรื่องออกจากบ้าน ออกจากชีวิตผมตลอด ผมไม่รู้เหมือนกันว่าทำไม บอกตามตรงเค้าไม่อยู่ก็ดีนะเป็นตัวของตัวเองมากขึ้น สบายใจ แต่พอเค้าไม่อยู่มีบ้างคิดถึง เป็นห่วง และรู้สึกผิดที่ผมไม่เคยเข้าใจเค้าเลย เค้าบอกว่าอยากอยู่กับผมแบบง่าย อยู่กันสองคนปลูกผัก ไม่ต้องดินรน อยู่ด้วยกันตลอด(เค้าไม่ให้ผมทำงาน) ถ้ามีเด็กหลงทางมา เราก็เลี้ยง บางสิ่งบางอย่างในใจเค้าบางครั้งมันก็ดี แต่เค้ามักใช้อารมณ์กับผมเท่านั้นเองทำให้ผมไม่ชอบเค้า วันนี้ผมคิดถึงเค้านะเพราะไม่รู้ว่าเค้าไปอยู่ที่ไหน เพราะว่าเค้าจะกลับบ้านก็ไม่รู้จะกลับไปได้หรือป่าว เพราะว่าหนึออกจากบ้านมานาน เพราะว่าอดีตเค้าไม่ค่อยดี ผมก็เสียใจตรงนี้เค้าพูดก่อนวันที่จะไปว่าเค้ายังไม่รู้เลยว่าจะไปนอนที่ไหน แต่เค้าต้องไปเพื่ออนาคตของเรา เค้าบอกเดี่ยวเค้าจะกลับมารอเค้านะ ผมไม่รู้ว่าเค้าจะกลับมาหรือป่าว เพราะว่าวันก่อนเค้าก็หน้ามืดนอนกลางพื้นเลย ยิ่งเค้าพูดอย่างเนี่ยมันยิ่งทำให้ผมรู้สึกผิดที่ คิดเอาความสุขของตังเองมากกว่า ผมนี่้แย่ จิงๆ แล้วถ้าเค้าเป็นคนที่พระเจ้าส่งมาให้ลูกทำไม ลูกไม่เห็นมีความสุขเลย (ก็มีบ้างแต่น้อย หรือว่าเราไม่เคยเลย) หรือว่านี้คือบาปที่ว่า ชายรักชายหรือป่าว ผมไม่รู้ แต่ผมสวดภาวนาที่ไรเค้าจะมาทุกที่ ทำให้ผมสับสน ผมทำถูกไหม หรือว่าผมต้องไปนับถือพุทธเพื่อที่จะมีความสุข หรือ ผมจะนับถือคริสต์เพื่อที่จะใช้โทษบาป และเรียนรู้จักคำว่ารักที่แท้จิง วันนี้ผมกับแฟนไม่ได้คุยกัน 2 วันแล้ว เมือว่านเค้าโทรมาแต่แม่รับ (แม่ไม่ชอบเค้า และให้เค้าออกจากบ้านไปและไม่ให้กลับมาอีก) แล้วเราสองคนจะเข้าใจกันไหม ผมรู้สึกผิดที่ทำตัวแย่ ๆ บอกตามตรงตอนนี้ผมรักและคิดถึงเค้ามาก แต่เค้าเป็นผู้ชายพระเจ้าจะว่าอะไรป่าวหน่า แล้วที่แล้วมามันคืออะไร เค้าคืนคนไหนหรือไม่ ถ้าเป็นไปได้ผมก็ขอคนนี้แหล่ะ เพราะผมเชื่อว่าคือคนนี้ที่พระองค์ส่งมาแต่ผมไม่รู้เอง ผมมันโง่เอง แต่เรื่องอนาคตผมก็แล้วแต่พระองค์แล้วกัน แต่บาปของผมก็มีเท่านี้แหล่ะ ผมเห็นเอวตัวจอร์นยังแต่งงานได้เลย ผมเชื่ออย่างนั้น มีอยู่ช่วงหนึ่งผมพูดกับเค้าว่า ฝรั่งเค้ายังแต่งกันกันได้เลย คาทอลิกเค้าไม่ได้ว่าเลย ขอให้เรามีรักที่จิงแท้ไม่ใช่ไปทำเรื่องไม่ดี เค้าก็อยากเป็นคาทอลิกนะ พยายามทำมหากางเขนใหญ่เลย
เอลตัน จอห์นไม่ใช่คาทอลิกหนิครับ
(แล้วก็มีคนพูดถึงเขาในทางที่ไม่ดีอยู่เหมือนกัน
)
กลับเข้าเรื่องของคุณ
ผมเชืื่อว่าพระเจ้าทรงอวยพร ในความรักทุกรูปแบบ(ที่บริสุทธิ์)
ซึ่งรูปแบบต่างๆ ก็ไม่ได้จำกัด แฟน คู่สมรส
แต่ยังหมายถึง พ่อแม่พี่น้อง ครู-ลูกศิษย์ มิตรสหาย ฯลฯ ตามแต่ที่จะเป็นไปได้
ผมเชื่อว่าพระเจ้าทรงอวยพรความรักที่คุณมีต่อน้องชายในส่วนที่บริสุทธิ์ครับ
แต่ทรงมีพระประสงค์ให้คุณกระทำสิ่งใด ผมก็ไม่อาจทราบแน่ชัด
แต่ผมขอแนะนำให้คุณประพฤติตามความศรัทต่อ"พระเมตตาของพระเยซูเจ้านะครับ"
"ขอให้ลูกช่วยเหลือผู้อื่นด้วยการกระทำที่เมตตา
หากการกระทำที่เมตตาไม่อาจเป็นไปได้
ก็ขอให้ลูกช่วยเหลือด้วยคำพูดที่เปี่ยมด้วยความเมตตา
หากคำพูดที่เมตตาไม่อาจเป็นไปได้
ก็ขอให้ลูกช่วยเหลือคำโดยคำภาวนาที่เปี่ยมด้วยความเมตตา"
ไม่ว่าอย่างไร ขอให้ภาวนาอย่างสม่ำเสมอครับ

(แล้วก็มีคนพูดถึงเขาในทางที่ไม่ดีอยู่เหมือนกัน

กลับเข้าเรื่องของคุณ
ผมเชืื่อว่าพระเจ้าทรงอวยพร ในความรักทุกรูปแบบ(ที่บริสุทธิ์)

ซึ่งรูปแบบต่างๆ ก็ไม่ได้จำกัด แฟน คู่สมรส
แต่ยังหมายถึง พ่อแม่พี่น้อง ครู-ลูกศิษย์ มิตรสหาย ฯลฯ ตามแต่ที่จะเป็นไปได้
ผมเชื่อว่าพระเจ้าทรงอวยพรความรักที่คุณมีต่อน้องชายในส่วนที่บริสุทธิ์ครับ
แต่ทรงมีพระประสงค์ให้คุณกระทำสิ่งใด ผมก็ไม่อาจทราบแน่ชัด
แต่ผมขอแนะนำให้คุณประพฤติตามความศรัทต่อ"พระเมตตาของพระเยซูเจ้านะครับ"
"ขอให้ลูกช่วยเหลือผู้อื่นด้วยการกระทำที่เมตตา
หากการกระทำที่เมตตาไม่อาจเป็นไปได้
ก็ขอให้ลูกช่วยเหลือด้วยคำพูดที่เปี่ยมด้วยความเมตตา
หากคำพูดที่เมตตาไม่อาจเป็นไปได้
ก็ขอให้ลูกช่วยเหลือคำโดยคำภาวนาที่เปี่ยมด้วยความเมตตา"
ไม่ว่าอย่างไร ขอให้ภาวนาอย่างสม่ำเสมอครับ
จริงๆพระคัมภีร์สอน ให้ระวังเรื่องการแต่งงานกับคนต่างศาสนา เพราะจะนำมาซึ่งปัญหาความไม่เข้าใจกัน และการข่มเหงทางความเชื่อ
ยน 15:18
ถ้าโลกเกลียดชังท่านทั้งหลาย
ก็จงรู้ไว้เถิดว่า โลกเกลียดชังเราก่อนแล้ว
ถ้าท่านทั้งหลายเป็นฝ่ายโลก
โลกก็คงรักสิ่งที่เป็นของตน
แต่เพราะท่านมิได้เป็นฝ่ายโลก
และเราเลือกท่านออกมาจากโลก
โลกจึงเกลียดชังท่าน
และที่สำคัญ พระเยซูสอนให้เรารักผู้อื่นเหมือนรักตนเอง แต่เราชอบลืมที่สุดคือคำว่ารักพระเจ้าด้วยสุดจิตใจ
พระเยซูยังบอกอีกว่า ใครเห็นคนอื่นแม้พ่อแม่ครอบครัวคนรักดีกว่าพระเจ้า ก็ไม่คู่ควรกับพระเจ้า เพราะพระเจ้า ไม่ใช่ตัวรองของใคร พระองค์ควรค่าแก่การเป็นอันดับหนึ่ง ผู้ชายที่คริสตชนสมควรรักเป็นอันดับหนึ่งคือพระเยซู นอกจากนั้นให้ลำดับถัดออกไปตามสมควร
ถ้าเราเลือกเอาพระคัมภีร์แค่บางข้อ เราจะเข้าใจพระเจ้าผิด เวลาคนเราเข้าใจคนอื่นผิด เหตุมากจากไหน มาจากการที่เรารู้ถูกบ้างผิดบ้างและรู้จริงบ้างไม่จริงบ้างเกี่ยวกับเขาแล้วตีความตามใจเรามิใช่หรือ
พระเจ้าก็เช่นกัน ถ้าเราเลือกรับบางข้อที่เราขชอบ เราก็แค่กลายเป็นคนที่เข้าใจพระองค์ผิด
คำถามคือการที่อธิษฐานว่าถ้าชายคนนี้คือคนที่พระเจ้าส่งมาขอให้ได้อยู่กับเรา แล้วที่ผ่านมาเขาอยู่กับเราจริงๆไหมครับ พระเจ้าส่งมาเพื่อพิสูจน์เลยว่า เขารักตัวเองหรือรักคุณ
ชายคนเดียวที่จะไม่มีวันทิ้งคุณไปไหน และตายเพื่อคุณได้ คือพระเยซูคริสต์ ซึ่งคุณมีเขาอยู่แล้ว แต่คุณทิ้งเขาไปเพื่อชายคนอื่น
พระเยซูคงอธิษฐานกับพระบิดาแบบเดียวกับคุณว่า ถ้าพระองค์ทรงส่งเด็กคนนี้มาให้ลูกขอให้เขาอยู่กับลูก(ในแผ่นดินและในสวรรค์)ตลอดไป
ยน 17:24
ข้าแต่พระบิดา ผู้ที่พระองค์ประทานให้ข้าพเจ้านั้น
ข้าพเจ้าปรารถนาให้เขาอยู่กับข้าพเจ้าทุกแห่งที่ข้าพเจ้าอยู่
เพื่อเขาจะได้เห็นพระสิริรุ่งโรจน์
ซึ่งพระองค์ประทานแก่ข้าพเจ้า
แล้วพระองค์ร้องไห้เพราะผิดหวังกี่ครั้งกันแล้ว ถูกเฆี่ยนตีเพราะบาปของคนที่พระองค์รักกี่ครั้งกันแล้ว พระองค์ถูกทิ้งกี่ครั้ง กี่ครั้งที่ผู้ที่ปฏิญาณว่ารักพระองค์ แต่แบ่งใจให้พระองค์แค่ระดับลูกเมียน้อย พระองค์ไม่เคยได้เป็นที่1ในชีวิตเขาจริงๆเลย
ถ้าใครก็ตามที่รักพระเยซูเจ้าสิ้นสุดจิตใจ เขาจะไม่ขาดความสุขใดๆเลย
ยน 15:27
เรามอบสันติสุขไว้ให้ท่านทั้งหลาย
เราให้สันติสุขของเรากับท่าน
เราให้สันติสุขกับท่าน ไม่เหมือนที่โลกให้
ถ้าหากเราเชื่อพระเจ้าแล้ว ยังกลับรู้สึกยังขาดอยู่ยังต้องแสวงหาความสุขที่โลกมอบให้ ต้องร้องขอความสุขทางโลกตลอดเวลาชนิดขาดไม่ได้ จะตายเอา เช่นนี้เรากำลังหลงทางอยู่หรือเปล่า เราคิดว่าเราอยู่ในทุ่งหญ้า แต่ที่จริงหลงทางออกทะเลทรายไปนานแล้วหรือเปล่า ถ้าวอนขอแอ่งน้ำขุ่นๆ ทั้งที่ในทุ่งหญ้ามีลำธารน้ำใสแท้ๆ นั่นแสดงว่า ต้องมีอะไรบางอย่างผิดปรกติ
ความรักที่แท้จริงคืออะไรพระคัมภีร์สอนเราแบบนี้ครับ
1คร 13:4
ความรักย่อมอดทน มีใจเอื้อเฟื้อ ไม่อิจฉา ไม่โอ้อวดตนเอง ไม่จองหอง ไม่หยาบคาย ไม่เห็นแก่ตัว ความรักไม่ฉุนเฉียว ไม่จดจำความผิดที่ได้รับ ไม่ยินดีในความชั่ว แต่ร่วมยินดีในความถูกต้อง ความรักให้อภัยทุกอย่าง เชื่อทุกอย่าง หวังทุกอย่าง อดทนทุกอย่าง ความรักไม่มีสิ้นสุด
---คำถามคือถ้าพระเจ้ารักคุณแบบนี้ คุณรักพระเจ้าแบบนี้ไหม ถ้าคุณรักชายคนนั้นแบบนี้ คำถามคือเขารักคุณแบบนี้ไหม
พระเยซูอาจรักคุณมากจนอาจให้คุณได้เรียนรู้สภาพที่พระองค์เป็นอยู่ เพราะคนที่รักย่อมแบ่งปันทั้งสันติสุขและความเจ็บปวดของตนแก่คนที่ตนรัก เจ้าบ่าวแห่งวิญญาณของคุณคงแค่ขอให้เจ้าสาวแห่งวิญญาณของพระองค์ ได้เข้าใจความรู้สึกของเขาบ้าง
ชายคนนั้นรักคุณไหมก้ไม่รู้ แต่พระเยซูรักคุณ
ยน 15:18
ถ้าโลกเกลียดชังท่านทั้งหลาย
ก็จงรู้ไว้เถิดว่า โลกเกลียดชังเราก่อนแล้ว
ถ้าท่านทั้งหลายเป็นฝ่ายโลก
โลกก็คงรักสิ่งที่เป็นของตน
แต่เพราะท่านมิได้เป็นฝ่ายโลก
และเราเลือกท่านออกมาจากโลก
โลกจึงเกลียดชังท่าน
และที่สำคัญ พระเยซูสอนให้เรารักผู้อื่นเหมือนรักตนเอง แต่เราชอบลืมที่สุดคือคำว่ารักพระเจ้าด้วยสุดจิตใจ
พระเยซูยังบอกอีกว่า ใครเห็นคนอื่นแม้พ่อแม่ครอบครัวคนรักดีกว่าพระเจ้า ก็ไม่คู่ควรกับพระเจ้า เพราะพระเจ้า ไม่ใช่ตัวรองของใคร พระองค์ควรค่าแก่การเป็นอันดับหนึ่ง ผู้ชายที่คริสตชนสมควรรักเป็นอันดับหนึ่งคือพระเยซู นอกจากนั้นให้ลำดับถัดออกไปตามสมควร
ถ้าเราเลือกเอาพระคัมภีร์แค่บางข้อ เราจะเข้าใจพระเจ้าผิด เวลาคนเราเข้าใจคนอื่นผิด เหตุมากจากไหน มาจากการที่เรารู้ถูกบ้างผิดบ้างและรู้จริงบ้างไม่จริงบ้างเกี่ยวกับเขาแล้วตีความตามใจเรามิใช่หรือ
พระเจ้าก็เช่นกัน ถ้าเราเลือกรับบางข้อที่เราขชอบ เราก็แค่กลายเป็นคนที่เข้าใจพระองค์ผิด
คำถามคือการที่อธิษฐานว่าถ้าชายคนนี้คือคนที่พระเจ้าส่งมาขอให้ได้อยู่กับเรา แล้วที่ผ่านมาเขาอยู่กับเราจริงๆไหมครับ พระเจ้าส่งมาเพื่อพิสูจน์เลยว่า เขารักตัวเองหรือรักคุณ
ชายคนเดียวที่จะไม่มีวันทิ้งคุณไปไหน และตายเพื่อคุณได้ คือพระเยซูคริสต์ ซึ่งคุณมีเขาอยู่แล้ว แต่คุณทิ้งเขาไปเพื่อชายคนอื่น
พระเยซูคงอธิษฐานกับพระบิดาแบบเดียวกับคุณว่า ถ้าพระองค์ทรงส่งเด็กคนนี้มาให้ลูกขอให้เขาอยู่กับลูก(ในแผ่นดินและในสวรรค์)ตลอดไป
ยน 17:24
ข้าแต่พระบิดา ผู้ที่พระองค์ประทานให้ข้าพเจ้านั้น
ข้าพเจ้าปรารถนาให้เขาอยู่กับข้าพเจ้าทุกแห่งที่ข้าพเจ้าอยู่
เพื่อเขาจะได้เห็นพระสิริรุ่งโรจน์
ซึ่งพระองค์ประทานแก่ข้าพเจ้า
แล้วพระองค์ร้องไห้เพราะผิดหวังกี่ครั้งกันแล้ว ถูกเฆี่ยนตีเพราะบาปของคนที่พระองค์รักกี่ครั้งกันแล้ว พระองค์ถูกทิ้งกี่ครั้ง กี่ครั้งที่ผู้ที่ปฏิญาณว่ารักพระองค์ แต่แบ่งใจให้พระองค์แค่ระดับลูกเมียน้อย พระองค์ไม่เคยได้เป็นที่1ในชีวิตเขาจริงๆเลย
ถ้าใครก็ตามที่รักพระเยซูเจ้าสิ้นสุดจิตใจ เขาจะไม่ขาดความสุขใดๆเลย
ยน 15:27
เรามอบสันติสุขไว้ให้ท่านทั้งหลาย
เราให้สันติสุขของเรากับท่าน
เราให้สันติสุขกับท่าน ไม่เหมือนที่โลกให้
ถ้าหากเราเชื่อพระเจ้าแล้ว ยังกลับรู้สึกยังขาดอยู่ยังต้องแสวงหาความสุขที่โลกมอบให้ ต้องร้องขอความสุขทางโลกตลอดเวลาชนิดขาดไม่ได้ จะตายเอา เช่นนี้เรากำลังหลงทางอยู่หรือเปล่า เราคิดว่าเราอยู่ในทุ่งหญ้า แต่ที่จริงหลงทางออกทะเลทรายไปนานแล้วหรือเปล่า ถ้าวอนขอแอ่งน้ำขุ่นๆ ทั้งที่ในทุ่งหญ้ามีลำธารน้ำใสแท้ๆ นั่นแสดงว่า ต้องมีอะไรบางอย่างผิดปรกติ
ความรักที่แท้จริงคืออะไรพระคัมภีร์สอนเราแบบนี้ครับ
1คร 13:4
ความรักย่อมอดทน มีใจเอื้อเฟื้อ ไม่อิจฉา ไม่โอ้อวดตนเอง ไม่จองหอง ไม่หยาบคาย ไม่เห็นแก่ตัว ความรักไม่ฉุนเฉียว ไม่จดจำความผิดที่ได้รับ ไม่ยินดีในความชั่ว แต่ร่วมยินดีในความถูกต้อง ความรักให้อภัยทุกอย่าง เชื่อทุกอย่าง หวังทุกอย่าง อดทนทุกอย่าง ความรักไม่มีสิ้นสุด
---คำถามคือถ้าพระเจ้ารักคุณแบบนี้ คุณรักพระเจ้าแบบนี้ไหม ถ้าคุณรักชายคนนั้นแบบนี้ คำถามคือเขารักคุณแบบนี้ไหม
พระเยซูอาจรักคุณมากจนอาจให้คุณได้เรียนรู้สภาพที่พระองค์เป็นอยู่ เพราะคนที่รักย่อมแบ่งปันทั้งสันติสุขและความเจ็บปวดของตนแก่คนที่ตนรัก เจ้าบ่าวแห่งวิญญาณของคุณคงแค่ขอให้เจ้าสาวแห่งวิญญาณของพระองค์ ได้เข้าใจความรู้สึกของเขาบ้าง
ชายคนนั้นรักคุณไหมก้ไม่รู้ แต่พระเยซูรักคุณ
-
- โพสต์: 291
- ลงทะเบียนเมื่อ: เสาร์ ก.พ. 14, 2009 1:34 pm
คำถามคือถ้าพระเจ้ารักคุณแบบนี้ คุณรักพระเจ้าแบบนี้ไหม ถ้าคุณรักชายคนนั้นแบบนี้ คำถามคือเขารักคุณแบบนี้ไหม
พระเยซูอาจรักคุณมากจนอาจให้คุณได้เรียนรู้สภาพที่พระองค์เป็นอยู่ เพราะคนที่รักย่อมแบ่งปันทั้งสันติสุขและความเจ็บปวดของตนแก่คนที่ตนรัก เจ้าบ่าวแห่งวิญญาณของคุณคงแค่ขอให้เจ้าสาวแห่งวิญญาณของพระองค์ ได้เข้าใจความรู้สึกของเขาบ้าง
ชายคนนั้นรักคุณไหมก้ไม่รู้ แต่พระเยซูรักคุณ
คำพูดนี้ทำให้คิดอะไรได้เยอะมาก ขอบคุณ โฮลี่นะครับ ผมก็เคยถามตัวเอง และเค้าเสมอว่าเค้ารักผมหรือป่าว เพราะดูแล้วเหมือนเค้าไม่เคยรักผมเลย เศร้าจัง อยากได้ทั้งสองงะ อยากเจอรักแท้แค่หนึ่งคน จะค้นเจอหรือป่าว ถ้าขาดเธอก็เหงา ถ้าขาดเค้าแทบขาดใจ อิๆๆ ตอนนี้สบายใจแล้ว แล้วพระประสงค์ของพระองค์แล้วกัน ถ้าพระองค์ต้องการอย่างไรผมก็จะเป็นแบบนั้น ทำไมผมถูกเลือกให้เป็นแบบนี้นะไม่เข้าใจเหมือนกันทรมารมาก
พระเยซูอาจรักคุณมากจนอาจให้คุณได้เรียนรู้สภาพที่พระองค์เป็นอยู่ เพราะคนที่รักย่อมแบ่งปันทั้งสันติสุขและความเจ็บปวดของตนแก่คนที่ตนรัก เจ้าบ่าวแห่งวิญญาณของคุณคงแค่ขอให้เจ้าสาวแห่งวิญญาณของพระองค์ ได้เข้าใจความรู้สึกของเขาบ้าง
ชายคนนั้นรักคุณไหมก้ไม่รู้ แต่พระเยซูรักคุณ
คำพูดนี้ทำให้คิดอะไรได้เยอะมาก ขอบคุณ โฮลี่นะครับ ผมก็เคยถามตัวเอง และเค้าเสมอว่าเค้ารักผมหรือป่าว เพราะดูแล้วเหมือนเค้าไม่เคยรักผมเลย เศร้าจัง อยากได้ทั้งสองงะ อยากเจอรักแท้แค่หนึ่งคน จะค้นเจอหรือป่าว ถ้าขาดเธอก็เหงา ถ้าขาดเค้าแทบขาดใจ อิๆๆ ตอนนี้สบายใจแล้ว แล้วพระประสงค์ของพระองค์แล้วกัน ถ้าพระองค์ต้องการอย่างไรผมก็จะเป็นแบบนั้น ทำไมผมถูกเลือกให้เป็นแบบนี้นะไม่เข้าใจเหมือนกันทรมารมาก
- billa-bong
- ~@
- โพสต์: 668
- ลงทะเบียนเมื่อ: ศุกร์ ก.ค. 14, 2006 12:16 pm
- ที่อยู่: thailand
อยากให้ลองคิดแบบนี้ดูก็ได้นะครับ คุณรักเค้า แค่ตัว หรือวิญญาณเค้าด้วย ถ้ารักเค้าทั้งทั้งสองอย่าง การที่คุณคบกับเค้าแบบเพื่อนคนหนึ่ง หรือแบบพี่น้อง คงจะดีกว่า ถ้าคบกับแบบแฟน เกิดเกินเลยกัน มันจะเป็นการทำบาปต่อร่างกาย และวิญญาณ ทั้งของคุณและของเค้าด้วย (ถ้ารักเค้าก็ไม่ควรทำลายเค้าถูกไม๊ครับ) อย่างที่พระองค์บอกว่า บาปอื่นๆ เป็นบาปนอกร่างกาย แต่บาปร่วมประเวณีนั้น คุณทำลายทั้งร่างกายและวิญญาณของคุณด้วย เหตุว่าร่างกายเป็นวิหารของพระเจ้า เป็นที่ประทับของพระองค์ และบาปเหล่านี้ ยังทำให้พระองค์เสียใจมากด้วยนะครับ ผมก็เคยคิดว่ารักกันไม่น่าจะเป็นบาปอะไรไม่ได้ไปข่มขื่นซักหน่อย แต่บาปมันก็คือบาปนะครับ เรายังกล้าเอาความรักมาอ้างที่จะทำบาปอีกหรอครับ
ผมเองก็วัยรุ่นต้องต่อสู้เรื่องพวกนี้เหมือนกัน มีผิดพลาดพลั้งไป แต่สุดท้ายผมก็ได้รู้ว่าความทุกข์ที่ผมต้องยากลำบาก อดทนทำความดี พระยังเมตตามอบสันติสุขให้เรา ให้ความบรรเทา ช่วยเหลือเรา และเรายังได้ใกล้ชิดพระองค์มากยิ่งขึ้นด้วย มีความภูมิใจขึ้นด้วย เหมือนว่าเราได้ทำงานสุจริตแต่อาจจะลำบากมาก ส่วนบาปทำง่าย แต่ความทุกข์ที่เกิดจากบาปมันข่มขื่น เจ็บปวด มีแต่ความทุกข์ ทรมาน มากๆๆ โดดเดียว อายด้วย ฯลฯ
ขอพระเจ้าอวยพรนะครับ
ผมเองก็วัยรุ่นต้องต่อสู้เรื่องพวกนี้เหมือนกัน มีผิดพลาดพลั้งไป แต่สุดท้ายผมก็ได้รู้ว่าความทุกข์ที่ผมต้องยากลำบาก อดทนทำความดี พระยังเมตตามอบสันติสุขให้เรา ให้ความบรรเทา ช่วยเหลือเรา และเรายังได้ใกล้ชิดพระองค์มากยิ่งขึ้นด้วย มีความภูมิใจขึ้นด้วย เหมือนว่าเราได้ทำงานสุจริตแต่อาจจะลำบากมาก ส่วนบาปทำง่าย แต่ความทุกข์ที่เกิดจากบาปมันข่มขื่น เจ็บปวด มีแต่ความทุกข์ ทรมาน มากๆๆ โดดเดียว อายด้วย ฯลฯ
ขอพระเจ้าอวยพรนะครับ

-
- โพสต์: 291
- ลงทะเบียนเมื่อ: เสาร์ ก.พ. 14, 2009 1:34 pm
ขอบคุณสำหรับทุกข้อความที่ให้แง่คิดและกำลังใจ พรทั้งหลายที่ให้ผมมาขอให้ทุกท่านได้รับส่วนนั้นด้วย