วันนี้ชีวิตเราจะเป็นอย่างไร หากไม่ได้รู้จักพระเจ้า ???

ใครมาใหม่เชิญทางนี้ก่อน ทักทาย ทดลองโพส
ตอบกลับโพส
ภาพประจำตัวสมาชิก
Holy
Defender of lawS
Defender of lawS
โพสต์: 10011
ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ม.ค. 17, 2005 3:06 pm

อังคาร ก.ย. 20, 2011 9:24 am

รูปภาพ

“ผู้ที่กินเนื้อของเรา และดื่มโลหิตของเรา ก็ดำรงอยู่ในเรา และเราก็ดำรงอยู่ในเขา พระบิดาผู้ทรงชีวิตทรงส่งเรามา และเรามีชีวิตเพราะพระบิดาฉันใด ผู้ที่กินเนื้อของเราจะมีชีวิตเพราะเราฉันนั้น นี่คือปังที่ลงมาจากสวรรค์ ไม่เหมือนปังที่บรรดาบรรพบุรุษได้กินแล้วยังตาย ผู้ที่กินปังนี้จะมีชีวิตอยู่ตลอดไป”

พระเยซูเจ้า ตรัสเช่นนี้ขณะที่ทรงสอนในศาลาธรรมที่เมืองคาเปอรนาอุม เมื่อศิษย์หลายคนได้ยินพระองค์ตรัสดังนี้ ก็กล่าวว่า “ถ้อยคำนี้ขัดหูจริง ใครจะฟังได้” พระเยซูเจ้าทรงทราบด้วยพระองค์ว่าบรรดาศิษย์กำลังบ่นกันเรื่องนี้ จึงตรัสกับเขาว่า “เรื่องนี้ทำให้ท่านเคลือบแคลงใจเราหรือ แล้วถ้าท่านจะเห็นบุตรแห่งมนุษย์กลับขึ้นสู่สถานที่ที่เคยอยู่แต่ก่อนเล่า ท่านจะว่าอย่างไร”

รูปภาพ

‘พระจิตเจ้าเป็นผู้ประทานชีวิต ลำพังมนุษย์ทำอะไรไม่ได้ วาจาที่เรากล่าวแก่ท่านทั้งหลายนั้นให้ชีวิต เพราะมาจากพระจิตเจ้า แต่บางท่านไม่เชื่อ” พระเยซูเจ้าทรงทราบตั้งแต่แรกแล้วว่าผู้ใดไม่เชื่อ และผู้ใดจะทรยศต่อพระองค์ พระองค์ตรัสต่อไปว่า “ดังนั้น เราจึงบอกท่านทั้งหลายว่า ไม่มีผู้ใดมาหาเราได้ เว้นแต่ผู้ที่พระบิดาประทานให้เขามา” หลังจากนั้น ศิษย์หลายคนเปลี่ยนใจ ไม่ติดตามพระองค์อีกต่อไป

รูปภาพ

พระเยซูเจ้าจึงตรัสกับอัครสาวกสิบสองคนว่า “ท่านทั้งหลายจะไปด้วยหรือ”

ซีโมนเปโตรทูลตอบว่า “พระเจ้าข้า พวกเราจะไปหาใครเล่า พระองค์มีพระวาจาแห่งชีวิตนิรันดร พวกเราเชื่อ และรู้ว่าพระองค์ทรงเป็นผู้ศักดิ์สิทธิ์ของพระเจ้า”


------------------------------------------------------------------------------------



หลายๆคนในเวบบอร์ดนี้ ได้รู้จักพระเจ้าตั้งแต่จำความได้ และหลายๆคน ก็ได้มารู้จักพระเจ้า ในบางช่วงจังหวะของชีวิต อายุมากบ้างน้อยบ้าง และเชื่อว่าส่วนใหญ่ผู้ที่อ่านหรือใช้เวบบอร์ดนี้ ก็ยังคงมีพระเจ้าอยู่ในชีวิต ซึ่งแม้จะน้อยบ้างมากบ้าง กลับไปกลับมาบ้าง เชื่อมากบ้างน้อยบ้าง แต่ยังคงมีพระองค์

ในทางกลับกัน ในโลกอันกว้างใหญ่ โดยเฉพาะประเทศไทย ยังคงมีผู้คนอีกมากมายที่ใช้ชีวิตโดยไม่มีพระเจ้า ไม่ว่าจะเพราะไม่รู้จัก หรือเพราะไม่เชื่อ หรือจะเพราะเกลียดชัง ก็ตาม

ในวาระนี้ จึงขอเชิญชวนทุกท่าน แบ่งปันความคิด (หรือประสบการณ์) ในคำถามว่า

สมมุติว่า ถ้าเราไม่ได้รู้จักพระเจ้า ชีวิตเราในวันนี้ จะเป็นเช่นไร
ภาพประจำตัวสมาชิก
Immanuel (MichaelPaul)
~@
โพสต์: 2887
ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ม.ค. 17, 2005 8:49 pm
ที่อยู่: กรุงเทพมหานคร

อังคาร ก.ย. 20, 2011 10:09 am

ขอแบ่งปันเลยนะครับ (ขอแทรกประสบการณ์ที่ผ่านมาก่อนจะมาเป็นคริสตชนด้วยเลย)
ผมเองยอมรับว่าเคยเป็นพวกแอนตี้พระเจ้าไม่เชื่อว่าพระเจ้ามีจริง เคยดูถูกพระเยซู (คำดูถูกของผมนั้นพอผมได้ศึกษาพระคัมภีร์ก็ตรงกับที่ฟาริสีดูถูกพระเยซู ประมาณว่า จะช่วยคนอื่นให้รอดแต่ตัวเองกลับลงมาจากไม้กางเขนไม่ได้)
แต่ผมเองก็แสวงหาบางสิ่งที่มีอำนาจเหนือมนุษย์ กล่าวคือ ในเบื้องลึกของจิตใจมีความรู้สึกว่ามีอะไรบางอย่างทีีมีอำนาจเหนือมนุษย์เรา ผมแสวงหาทั้งเทพของทางฮินดู (ขออภัยที่ต้องเอ่ยนามศาสนา) และเทพต่าง ๆ มากมาย เคยกระทั่งเข้าสู่ศาสตรมืด แต่เหล่านั้นก็ไม่ได้ตอบโจทก์ผมได้
หลังจากที่ผมแสวงหาเทพต่าง ๆ มากมาย แต่เทพเหล่านั้นไม่สามารถตอบโจทก์และความต้องการของผมได้ (และแน่นอนว่าระหว่างที่ศึกษาและแสวงหาเทพต่าง ๆ ผมไม่เคยคิดถึงศาสนาคริสต์เลย) ผมจึงตั้งสมมุติฐานแบบโง่ ๆ ขึ้นมาเองว่า "ไม่มีนรกหรือสวรรค์ใด ๆ คนเราตายไปจิตวิญญาณก็จะถูกนำกลับมาหมุนเวียนอีกครั้งตามสภาพวิญญาณก่อนตาย" เมื่อผมคิดได้แบบนี้ก็สบายใจ ไม่สนใจสิ่งรอบข้างเสียเท่าไหร่
จนกระทั่งพระเมตตาของพระเจ้ามาถึงผม ผมคิดว่าพระองค์คงสมเพชผมมากเลย เรียกผมมาให้พบพระองค์ ผ่านสิ่งไร้สาระที่สุดนั่นคือ "การ์ตูน" ผมเริ่มแสวงหาพระองค์มากขึ้นจากการ์ตูนฮาร์ดคอร์ที่ชื่อว่า "Bastard" ที่เกี่ยวกับฑูตสวรรค์ จากนั้นผมก็เริ่มศึกษาเรื่องราวของพระองค์ แต่ก็ยังคงเป็นแบบผิวเผิน จนกระทั่งได้มารู้จักการ์ดเกม Summoner Master โดยใช้ชื่อในบอร์ดว่า Uriel (ชื่อก็มาจากการ์ตูนอีกแหละ) แล้วก้ได้เจอน้องยศที่เข้ามาถามว่าเป็นคริสต์เหรอ และได้รู้จักพี่ปอจนกระทั่งได้มาเป็นพ่อทูลหัวผม ^^ ซึ่งระหว่างนี้ผมก็ไปโบสถ์ของพี่น้องโปรแตสแตนท์ตามเพื่อน และพระเจ้าได้ทรงเรียกผมให้มาเป็นคาทอลิก ด้วยการที่ให้ผมไปสถานฑูตอเมริกาตามเพื่อนแต่สถานฑูตปิด เลยแวะไปวัดพระมหาไถ และผมก็อยากลองเข้าไปในพิธีที่เรียกว่า "มิสซา" (ผมเคยเรียนโรงเรียนคาทอลิกเคยได้ยินคำนี้แต่ไม่เข้าใจ) โดยคิดว่าจะลองเข้ามาดูแปป ๆ ก็จะออกไประหว่างเดินเข้าไปผมก็นำหน้าเพื่อนแต่ก็มีมือที่มองไม่เห็น มาดันหลังผมให้เข้ามากลางโบสถ์ ผมก็เลยว่าเพื่อนว่าดันมาทำไมแต่เพื่อนบอกว่าไมไ่ด้ดัน โดยในมิสซานั้นเป็นภาษาอังกฤษ แล้วผมกับเพื่อนก็ออกไปรับศีลมหาสนิทโดยไม่รู้ว่าเขาห้าม (ขอโทษคร๊าบบบ :s008: ) พอขากลับก็นั่งรถ BTS ก็เห็นวัดเซนต์หลุยส์ ก็เลยลง (วันนั้นเป็นวันศุกร์เวลาประมาณ 18.30 น.) โบสถ์ปิดแล้วผมกับเพื่อนก็เดินเข้าไปดูในบริเวณ ได้ยินเสียงสวดจากศาลา "วันทามารีอา เปี่ยมด้วยหรรษทาน... โปรดภาวนาเพื่อเราคนบาปบัดนี้และเมื่อจะตาย อาแมน" คำว่า "โปรดภาวนาเพื่อเราคนบาป" สะกิดใจผมมาก ๆ ทำให้ผมยืนอยู่กับที่ยืนฟังบทสวดนั้นหลาย ๆ รอบซ้ำไปซ้ำมาแต่ไม่เบื่อ การสวดสายประคำในศาลาวันนั้นทำให้ผมต้องหยุดยืนฟังนานมาก จนคุณพ่อเจ้าวัดเดินออกมาจากบ้านพักมาถามว่า "มีอะไรหรือเปล่า" ผมก็ตอบไปอย่างชัดเจนว่า "อยากเป็นคาทอลิกต้องทำอย่างไรครับ" พ่อก็ตอบว่าต้องลองมาเรียนคำสอนก่อนว่าโอเคไหม เรียนแล้วไม่บังคับว่าจะต้องล้างบาปนะ สนใจไหมเพราะ "วันอาทิตย์นี้จะเริ่มเรียนวันแรก" นั่นทำให้ผมรู้สึกว่าอะไร ๆ ก็เหมาะมากผมจึงตอบตกลงจากนั้นผมก็ได้เริ่มเรียนคำสอนที่วัดเซนต์หลุยส์จนจบแต่ยังรับศีลล้างบาปไม่ได้เพราะติดที่ครอบครัวยังไม่ยอมรับแต่สุดท้ายผมก็ผ่านมาได้ ด้วยการที่เรียนจบ ป.ตรีแล้วบวชพระสงฆ์ทางพุทธเสียก่อนแล้วจึงรับศีลล้างบาป

(ลากมาเสียยาว) สรุปได้ว่า หากผมไม่ได้รู้จักพระเจ้า ผมคงอยู่ในความคิดทฤษฎีของคนโง่ ๆ ว่า "ไม่มีสวรรค์ ไม่มีนรก ตายแล้วก็เข้าสู่กระบวนการ Recycle วิญญาณใหม่ จะทำอะไรก็ทำไปเพราะพอเกิดมาอีกทีก็จำอะไรไม่ได้อยู่แล้ว" และผมก็คงจะใช้ชีวิตอย่างไร้สาระไม่มีพระเจ้าในจิตใจอย่างแน่นอน และคงสาละวนอยู่ในกิจการ ภาระทางโลก มากกว่าที่จะวางใจในพระเจ้า ให้พระองค์นำทางแบบในตอนนี้ (แต่ก็แน่นอนว่าหลายครั้งผมเองก็เสียความมั่นใจ หลายครั้งก็วอนขอแล้ววอนขอเล่าในสิ่งที่ตัวเองต้องการ เลือกที่จะตามใจตัวเองมากกว่าพระเจ้า)
ข้า-พระ-เจ้า
โพสต์: 407
ลงทะเบียนเมื่อ: พุธ เม.ย. 28, 2010 12:03 am

อังคาร ก.ย. 20, 2011 10:49 am

ผมงมงายอยู่กับไสยศาสตร์ที่แอบแฝงในศาสนา
ผมอาฆาตคนที่ฆ่าพ่อกับแม่ผม
ผมให้อภัยใครยาก
ผมเชื่อในเทพเจ้ามากมาย
ผมเกรงกลัวต่ออำนาจลี้ลับ

ผมคงเป็นทุกอย่างที่พูดมาถ้าผมไม่ได้รู้จักพระเจ้า
ขอบคุณพระเจ้าสำหรับผมและทุกคน อาเมน
francisco xavier
โพสต์: 300
ลงทะเบียนเมื่อ: ศุกร์ ม.ค. 19, 2007 11:40 am

อังคาร ก.ย. 20, 2011 1:58 pm

ถ้าเราไม่รู้จักพระเจ้า ชีวิตเราจะเป็นอย่างไร
สำหรับตัวผม ผมคิดไม่ออกจริง ๆ ว่าชีวิตจะเป็นอย่างไร ผมก็คงใช้ชีวิตแบบตามใจตัวเองสุด ๆ กิน ดื่ม เที่ยว เมามาย ลุ่มหลงในสิ่งที่คิดว่าเป็นความรัก และก็ใช้ชีวิตตามหาความสุขแบบไม่มีที่สิ้นสุด ผมเคยคิดว่าไหนลองใช้ชีิวิตแบบตามใจตัวเอง ดูว่าจะเป็นอย่างไร ซึ่งผลที่ได้นั้นเลวร้ายมาก ผมล้มลงในบาป ตัดขาดตัวเองจากสันติสุขของพระเป็นเจ้า แม้ผมยังยิ้มได้ ยังหัวเหราะ หน้าตาชื่นบาน แต่เมื่อใดที่ผมคิดถึงชีวิตตัวเอง พระวาจาของพระเจ้าก็พิพากษาการกระทำของผม และความบาปต่าง ๆ ในชีวิตก็กลายเป็นดาบมาทิ่มแทงหัวใจของผมเอง ชีวิต "สิ้นหวัง" และ "ตาย" ทั้งเป็น
ชีวิตเป็นอย่างไร เมื่อรู้จักพระเจ้า
ตอบได้ว่าการรู้จักกับพระเจ้านั้น ชีวิตมี "สันติสุข" มี "ความหวัง" และ มี "ชีวิต" การได้รู้จักกับพระเจ้า ไม่เหมือนกับการรู้จักเพื่อน หรือ คน ๆ หนึ่ง ที่พอเรารู้จักแล้วเขาก็ไม่สามารถมีอิทธิพลต่อชีวิตของเราได้ แต่การรู้จักกับพระเจ้านั้นมีพลังมากกว่านั้นมาก เพราะนั่นหมายถึงการที่เราได้รู้จักกับ "สันติสุข" ที่แท้จริง เป็นชีวิตที่มี "ความหวัง" และ มี "ชีวิต" เป็นสิ่งที่ควรค่าแก่การแสวงหาของมนุษย์ทุกคน
ในชีวิตหนึ่ง คนเราอาจหาสิ่งที่เรียกว่าความสุขได้จากหลาย ๆ สิ่ง แต่ "สันติสุข" นั้น มีในพระเยซูคริสต์เท่านั้น
In the name of father
โพสต์: 719
ลงทะเบียนเมื่อ: อังคาร ม.ค. 08, 2008 5:47 am
ที่อยู่: กาญจนบุรี

อังคาร ก.ย. 20, 2011 6:00 pm

"ตอนที่ลูกเทนนิสกระดอนที่ขอบเน็ต ในตอนนั้น ถ้าเป็นไปได้ก็อยากจะให้มีพระเจ้าอยู่เคียงข้าง เพราะไม่ว่าลูกเทนนิสจะตกไปที่ฝั่งไหน เราก็จะทำใจยอมรับได้"

(สำนวน "ลูกเทนนิสกระดอนที่ขอบเน็ต" หมายถึงสภาวะเหตุการณ์ที่อยู่เหนือการควบคุม ซึ่งอาจถือได้ว่าเป็นขอบเขตของพระผู้เป็นเจ้า ท้ายสุดแล้วบอลลูกนั้นจะตกลงที่ฝั่งไหนก็ไม่มีใครกำหนดได้ เหมือนชีวิตคนเราที่มีเรื่องดี เรื่องร้าย แม้เราจะพยามแค่ไหนแต่สิ่งเหล่านี้ก็ยากจะหลีกเลี่ยง)


หากผมไม่ได้รู้จักพระเจ้า ทุกวันนี้ผมคงจะคร่ำครวญอยู่กับลูกเทนนิสที่ตกอยู่ในฝั่งของผมต่อไป
(ปล.ผมไม่ได้เล่นเทนนิสนะครับ)
littleseal
โพสต์: 1029
ลงทะเบียนเมื่อ: อาทิตย์ มิ.ย. 13, 2010 9:53 pm

อังคาร ก.ย. 20, 2011 8:31 pm

หากไม่ทรงเมตตาลูกในวันนั้น ลูกก็ไม่มีชีวิตในวันนี้
ภาพประจำตัวสมาชิก
Valkyrie Zero Number
โพสต์: 2081
ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ส.ค. 27, 2007 4:11 am

พุธ ก.ย. 21, 2011 9:41 am

ก็คงจะฆ่าตัวตาย ไม่ก็อย่างน้อยที่สุดก็คงไม่ได้เป็นแฟนกับแฟน และไม่มีชีวิตมาจนทุกวันนี้ก็เป็นได้

อย่างน้อย ๆ คงไม่ได้รู้จัก "น้องสาว" "แฟนน้องสาว" "พวกเด็กๆ ที่เล่นยูกิ/ซัม" แล้วก็รวมถึงพวกคนเล่นการ์ดก๊วนที่ร้านที่ไม่ได้เจอกันมาหลายปี

และคงไม่ได้ค้นพบสัจธรรมบางอย่างที่ซ่อนอยู่ด้วย

ถึงตอนนี้เราจะยังหัวแข็ง มีเรื่องที่ไม่ยอม แต่ถ้าพระองค์ยังเมตตาคนหัวดื้อแบบเราอยู่บ้าง ไม่ให้สูญเสียความหวังไปทั้งหมด ก็เป็นพระคุณยิ่งนักแล้วล่ะ
ภาพประจำตัวสมาชิก
Valkyrie Zero Number
โพสต์: 2081
ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ส.ค. 27, 2007 4:11 am

พฤหัสฯ. ก.ย. 22, 2011 12:01 am

แต่บางครั้ง อยากให้พระองค์สำแดงตัวตนให้เห็นสักครั้งบ้างก็ดีนะ

......ไม่งั้นพูดตามความรู้สึกจริง ๆ มีก็เหมือนไม่มี ไม่ได้ช่วยอะไร

(กลับมาจิตตกอีกแล้ววันนี้ และยังไม่มีท่าทีว่าจะดีขึ้น)
HOLY DANCE
โพสต์: 159
ลงทะเบียนเมื่อ: อังคาร พ.ค. 03, 2011 5:53 pm

พฤหัสฯ. ก.ย. 22, 2011 11:05 am

จิตใจคงย่ำแย่ จมอยู่กับอดีตที่เจ็บปวด
ยังกราบไหว้เทพเจ้า และรับใช้อำนาจลึกลับ
ประกอบพิธีกรรมประหลาด ท่องมนตร์
ยังนั่งเหงาทุกครั้งที่อยู่คนเดียว
ยังต้องเกิดต้องดับอีกไม่รู้กี่หน
ยังเป็นคนอารมณ์ร้อน ใครจะมาดูหมิ่นไม่ได้
ยังทะเลาะกับพ่อ ยังทะเลาะกับน้อง
ยังไม่มีโอกาสแสดงศักยภาพของตัวเอง
คงไม่ได้เจอเพื่อนที่ดี
คงไม่ได้ช่วยมิสซา
คงไม่ได้เจอพ่อทูนหัว
คงไม่ได้เจอคนดีๆอีกมากมาย
คงไม่มีตังค์ใช้
คงไม่ได้เรียนต่อป ตรี
คงถูกข่มเหงรังแก จากคนที่เรียกตัวเองว่า "พ่อ"
คงไม่เป้นคนที่มีเหตุผลมากขึ้น
คงไม่ได้หมั้นกับพระองค์
คงไม่มีชีวิตอยู่จนถึงวันนี้ (เพราะคงจะฆ่าตัวตายไปเมื่อไหร่ก็ไม่รู้)
ภาพประจำตัวสมาชิก
billa-bong
~@
โพสต์: 668
ลงทะเบียนเมื่อ: ศุกร์ ก.ค. 14, 2006 12:16 pm
ที่อยู่: thailand

พฤหัสฯ. ก.ย. 22, 2011 1:57 pm

สำหรับตัวผมคิดว่าทำอะไร ก็คงไม่มีความสุข กินข้าว เล่นเกม อ่านการ์ตูน ทำงาน ฯลฯ ชีวิตประจำคงไม่มีความสุขแบบนี้ ต่อให้กินอาหารแพง ใช้ของแพง มีไอโฟน ทำงานดีๆ เพราะมันดูเหมือนมีความสุขแต่ไม่ได้มีความสุขจิงๆ เหมือนทีพระองค์บอกว่า "ความสุขที่โลกให้ ไม่เหมือนที่เราให้"

"สำหรับผมถ้ารู้จักพระเจ้า แล้วไม่ได้ทำตามที่พระองค์สอน ชีวิตก็คงเป็นแค่คนบาปที่ไม่รู้ว่าชีวิตจะมีค่าในสายตาของใครบ้างรึป่าว แต่พระเมตตาของพระองค์ทำให้คนบาปอย่างผมมีความสุข มีค่าในสายตาของพระองค์เสมอ"

พระเจ้าอวยพรครับ
anatasia
โพสต์: 449
ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ มี.ค. 21, 2011 6:18 am

พฤหัสฯ. ก.ย. 22, 2011 6:46 pm

ตอนที่เรายังไม่รู้จักพระเจ้า
เราก็สวดมนต์ไหว้พระของศาสนาพุทธและทำบุญใส่บาตร
และพอถึงเทศกาลตรุษจีนทุกครั้งเราก็ไหว้เจ้าที่เจ้าทาง(ศาสนาคริสต์มีเจ้าที่เจ้าทางรึเปล่าอ่ะ :s030: )
พอเรารู้จักพระเจ้าเราก็หันมาสวดภาวนาของศาสนาคริสต์และสวดพลีกรรมให้กับทุกคน
PeterCartoon
โพสต์: 141
ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ก.ค. 03, 2006 12:17 pm

อาทิตย์ ก.ย. 25, 2011 1:09 pm

Valkyrie Zero Number เขียน:แต่บางครั้ง อยากให้พระองค์สำแดงตัวตนให้เห็นสักครั้งบ้างก็ดีนะ

......ไม่งั้นพูดตามความรู้สึกจริง ๆ มีก็เหมือนไม่มี ไม่ได้ช่วยอะไร

(กลับมาจิตตกอีกแล้ววันนี้ และยังไม่มีท่าทีว่าจะดีขึ้น)
อาการจิตตกแบบนี้ คล้าย ๆ อาการของคนที่จิตไม่นิ่ง ขึ้นลงรวดเร็ว เคยมีป้าคนหนึ่ง

เป็นคนที่มีอาการจิตลอยเสมอ คือ เหม่อลอย มีพระสงฆ์คนหนึ่งแนะนำให้ป้าสวดบท

วันทามารีอา 24 ชั่วโมง คือ ให้จิตสวดอยู่ตลอดเวลา ป้าก็พยายามทำตาม แรก ๆ ก็เหนื่อยหน่อย

แต่ไม่นาน จิตก็สงบขึ้น อาการเหม่อลอย ใจลอย ก็ค่อยๆ หายไป มีสติอยู่กับตัวตลอดเวลา ::017::
s.gabriel
โพสต์: 1011
ลงทะเบียนเมื่อ: ศุกร์ ก.พ. 27, 2009 2:21 pm

อาทิตย์ ก.ย. 25, 2011 3:44 pm

คงจะเป็นมนุษย์คนนึงที่เดินวนเวียนอยู่ในบาปตลอดไป ไม่มีแนวทางในการดำเนินชีวิต
ไม่มีขอบเขตในการใช้ชีวิต ซึ่งได้จากบัญญัติ10 ประการ เยอะมากมาก
ไม่มีความหวัง
ไม่มีสิ่งเตือนใจ
ไม่มีหลักยึดเหนี่ยว
ไม่รู้สึกละอายต่อบาปที่ตัวเองกระทำ
ไม่เกรงกลัวต่อบาป
ไม่มีครอบครัวที่อบอุ่น
ไม่มีความพยายามที่จะทำดี
ไม่รู้จักให้อภัยศัตรู
ไม่มีมโนธรรมที่ดีไว้ต่อสู้กับด้านมืดของจิตใจตัวเอง
ไม่รู้จักแบ่งปัน
ไม่มีบ้าน ไม่มีรถยนต์
ไม่มีงานทำ ไม่มีร้านค้าของตัวเอง ไม่มีสติปัญญา ความมั่นใจในการทำงานต่างๆ
ทุกอย่างล้วนสวดขอมาจากพระเจ้าทั้งนั้น ...........
ยังมีอีกเยอะมากครับ เหลือไว้ให้คนอื่นโพสบ้างครับ... :s012: :s013:
anatasia
โพสต์: 449
ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ มี.ค. 21, 2011 6:18 am

พุธ ก.ย. 28, 2011 1:25 pm

แล้วบาปไหมค่ะที่เราขอเรียกพระเยซูว่าพี่ชายแถมทุกคืนเรากลับอ้อนขอให้พี่ชายนอนเป็นเพื่อนกับเราด้วยอ่ะและเราก็นอนฝันดีทั้งคืนเลยน่ะนั่นตั้งแต่เอาหนังสือที่มีรูปพระเยซูวางบนเตียง(แบบว่าเหมือนให้พี่ชายมานอนเป็นเพื่อนเพื่อทำให้เรารู้สึกอุ่นใจไม่กลัวผี)
แถมพอตื่นเช้าเราก็ขอบคุณพี่ชายที่แสนดีด้วยนะ
:s002: :s021:
ภาพประจำตัวสมาชิก
billa-bong
~@
โพสต์: 668
ลงทะเบียนเมื่อ: ศุกร์ ก.ค. 14, 2006 12:16 pm
ที่อยู่: thailand

เสาร์ ต.ค. 08, 2011 6:53 pm

anatasia เขียน:แล้วบาปไหมค่ะที่เราขอเรียกพระเยซูว่าพี่ชายแถมทุกคืนเรากลับอ้อนขอให้พี่ชายนอนเป็นเพื่อนกับเราด้วยอ่ะและเราก็นอนฝันดีทั้งคืนเลยน่ะนั่นตั้งแต่เอาหนังสือที่มีรูปพระเยซูวางบนเตียง(แบบว่าเหมือนให้พี่ชายมานอนเป็นเพื่อนเพื่อทำให้เรารู้สึกอุ่นใจไม่กลัวผี)
แถมพอตื่นเช้าเราก็ขอบคุณพี่ชายที่แสนดีด้วยนะ
:s002: :s021:
ดีมากๆ เลยครับไม่ได้บาปอะไรครับ ผมก็อยากจะลองบ้างแต่กลัวว่าจะดิ้นจนพี่ชายนอนไม่หลับเท่านั้นเอง :s008:
anatasia
โพสต์: 449
ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ มี.ค. 21, 2011 6:18 am

จันทร์ ต.ค. 10, 2011 11:30 am

ตอนตี5เราสะดุ้งตื่นเพราะเราฝันว่าพระเยซูมาต่อว่าเราว่าทำไมถึงไม่ยอมเรียกพี่มานอนอีกล่ะ
แล้วเราก็โดนพี่ชายงอนไปเรียบร้อยแล้วง่ะ
ขอโทษมากๆค่ะพี่ชายที่น้องสาวลืมชวนพี่ชายที่น่ารักมานอนด้วยกันอีก
คือว่าช่วงนี้น้องสาวของเรามานอนกับเราเลยไม่ได้ชวนพระเยซูมานอนเป็นเพื่อนอ่ะ
ภาพประจำตัวสมาชิก
Valkyrie Zero Number
โพสต์: 2081
ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ส.ค. 27, 2007 4:11 am

เสาร์ ต.ค. 15, 2011 9:07 pm

โื่ทษที อ่ะ แก้ก็แก้ แล้วก็อย่าลืมลบตามด้วยละกัน จะได้ชัวร์ว่าปลอดภัย

เราก็งี้แหละ มองโลกในแง่ดีไม่ค่อยจะเป็น ถึงจะอยากทำก็ใช่ว่าจะทำใจได้ง่าย ๆ อีกแล้ว
แก้ไขล่าสุดโดย Valkyrie Zero Number เมื่อ อาทิตย์ ต.ค. 16, 2011 12:14 am, แก้ไขไปแล้ว 1 ครั้ง.
s.gabriel
โพสต์: 1011
ลงทะเบียนเมื่อ: ศุกร์ ก.พ. 27, 2009 2:21 pm

เสาร์ ต.ค. 15, 2011 9:53 pm

ขอบคุณครับ
แก้ไขล่าสุดโดย s.gabriel เมื่อ อาทิตย์ ต.ค. 16, 2011 11:54 am, แก้ไขไปแล้ว 1 ครั้ง.
ภาพประจำตัวสมาชิก
Valkyrie Zero Number
โพสต์: 2081
ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ส.ค. 27, 2007 4:11 am

อาทิตย์ ต.ค. 16, 2011 11:50 am

โทษที ของมันแรงไปหน่อย แก้ให้แล้วนะ
ภาพประจำตัวสมาชิก
Kichinto
โพสต์: 532
ลงทะเบียนเมื่อ: พุธ ต.ค. 17, 2007 7:34 pm
ติดต่อ:

อังคาร ต.ค. 18, 2011 3:43 pm

หากไม่รู้จักพระองค์ และหากไม่ไปเจอศาสนาที่ดีๆ ... ตอนนี้คงไม่มีความหวังอะไรเลย ไม่มีที่พึ่ง ไม่มีกำลังใจ ไม่มีผู้ปกครองทางจิตวิญญาณ เหมือนเป็นเด็กกำพร้าทางวิญญาณ คงมุ่งทำงานแต่หาเงิน หาความสุขไปวันๆ
anatasia
โพสต์: 449
ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ มี.ค. 21, 2011 6:18 am

เสาร์ ต.ค. 22, 2011 12:02 pm

ตอนนี้เราคงต้องเสียสละพี่ชายที่น่ารัก(พระเยซู)ให้กับบรรดาน้องทุกๆคนบ้างล่ะ
เพราะดูเหมือนน้องๆหลายคนกำลังเจอปัญหาเรื่องน้ำท่วม
พี่ชายที่แสนดีคงจะต้องไปปลอบใจน้องที่อื่นๆบ้างอ่ะนะ
(มันเห็นแก่ตัวถ้าหวงพี่ชายซิมิๆ)
:s015:
Batholomew
~@
โพสต์: 12724
ลงทะเบียนเมื่อ: อังคาร ม.ค. 18, 2005 2:28 pm
ที่อยู่: Thailand

ศุกร์ พ.ย. 04, 2011 7:21 am

ผมก็ไม่เจอสันติสุขเท่าทุกวันนี้
ขอบพระคุณพระเจ้าเสมอครับ
ตอบกลับโพส