โบสถ์พระหฤทัยลาว ทำไมไม่มีคอนแวนต์? แบบบ้านเฮา
โพสต์แล้ว: อาทิตย์ ก.ย. 25, 2011 6:12 pm
โบสถ์พระหฤทัย (Catholic Church Sacred Heart) อยู่กลาง
นครหลวงเวียงจันทร์ ถ้าบ้านเราคุ้นชื่อ โบสถ์พระหฤทัยคอนแวนต์
โบสถ์พระหฤทัย+โรงเรียนคอนแวนต์(ซึ่งสมัยก่อนเป็น โรงเรียนสอน
บุคคลากรกระแสเรียก) คาทอลิกเรียก "โรงเรียนพระหฤทัยคอนแวนต์"
ลาวปกครองด้วยระบอบคอมมิวนิสต์ และกู้ชาติจากฝรั่งเศส ไล่ฝรั่งเศส
กลับหอหอไอเฟล ยึดโรงเรียนยึดโบสถ์ แบบเดียวกับที่เกิดรอยบาปใน
ประวัติศาสตร์ไทย คือ เรื่องของ บุญราศรีทั้ง 7 ที่สองคอน จนเป็น
เหตุการณ์มรณสักขี (The Seven blessed marty) แสดงความกล้าหาญ
ต่อพระศาสนาจักร และความกล้าหาญของคาทอลิกไทย ที่ตราตรึงอยู่
ในโลกตลอดไป...
ค.ศ.1669(พ.ศ. 2212) สำนักวาติกัน กรุงโรมได้ประกาศตั้งมิสซัง
สยาม ประเทศไทยจึงกลายเป็นมิสซังแรกของคณะมิสซังฯ ปารีส
ได้มีการแพร่คำสอนไปยังเมืองอื่น ๆ เช่น พิษณุโลก ลพบุรี สามโคก
(ปทุมธานี) และบางกอก โบสถ์โบสถ์คอนเซ็ปชัญ ชาวคาทอลิกเรียก
"โบสถ์พระแม่ปฏิสนธินิรมล" ริมแม่น้ำเจ้าพระยาสร้างสมัยนี้แหละ
ครับ(ที่เราเรียกติดปากว่าโบสถ์เขมร) ที่นี่มีแม่พระที่ชาวคาทอลิกไทย
และคาทอลิกเขมรให้ความเคารพมากเรียก แม่พระตุ้งติ้ง
เพราะแต่เดิมแม่พระใส่ตุ้มหูห้อยตุ้งติ้งไว้ทั้งสองข้าง รูปแม่พระองค์นี้ทำ
ด้วยไม้ สมัย ร.1 มีปัญหาเจ้านายเขมรมาพึ่งพระบรมโพธิสมภารสมเด็จ
พระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลก และต่อมา ร. 1 ทรงโปรดให้ชาวเขมรที่ตามมา
ตั้งบ้านเรือนที่วัดคอนเซ็ปชัญนี้ และได้อัญเชิญแม่พระองค์นี้มาด้วย จนเรื่อง
ราวสงบชาวเขมรจะกลับจะอัญเชิญแม่พระตุ้งติ้งกลับไปเขมร แต่ตอนกลับ
อัญเชิญแม่พระลงเรือแต่แจวไม่ไป ชาวเขมรคิดว่าแม่พระคงประสงค์ที่ทรง
จะประดิษฐานที่สยาม เลย Bye Bye ออกุลเจริญ ๆ กลับตัวเปล่า....
สมัย รัชกาลที่ 5 วันที่ 1 ม.ค. พ.ศ.2424 เมื่อก่อนสมัยบาทหลวงเดินทาง
เพื่อเผยแพร่ศาสนาจากบางกอก(กทม.) ไปอุบลใช้เวลา 102 วัน ล่องเรือ
ผ่านแก่งคอย แล้วเดินเท้าต่อ ผ่านดงพญาไฟ(รอดมาได้เพราะพระเจ้าคุ้มครอง
เพราะสมัยก่อนใครผ่านดงพญาไฟ ตายสถานเดียว) ค้างที่คลองตะเคียน
(เพราะมีหมู่บ้านคริสตัง) เข้าโคราช ระหว่างทางเป็นไข้ป่าพระเจ้ายกขึ้น
สวรรค์ก็เยอะ จ้างช้างนั่งไปขอนแก่น เข้ากาฬสินธุ์ ยโสธร ผ่านอำนาจเจริญ
(เมื่อก่อนเป็นอำเภอ) ถึงอุบล 24 เม.ย. พ.ศ. 2424 รวมเดินทาง 102 วัน
สมัยนี้นั่งเครื่องไม่ถึง ชม.
ระหว่างทางบาทหลวงได้บันทึกไว้ว่า...เกือบทุกแห่งที่ไปถึงภายในจังหวัด
แตกแยกความสามัคคีระหว่างบุคคลหัวหน้าเพราะแย่งอำนาจกัน บุคคลหัวหน้า
เหล่านี้เป็นความกันมิได้หยุดต่างพยายามที่จะหักโค่นกัน เพื่อประโยชน์อัน
ยิ่งใหญ่ของเจ้านายที่หนุนหลังเขาอยู่ที่เมืองหลวง...(อ้าว ประเทศเป็นอย่างนี้
มาแต่โบราณแล้วเหรอ เนี้ย???)
คาทอลิกเผยแพร่สู่อีสานเข้าไปในลาว อัตปือ จนถึงปี ค.ศ. 1899
(พ.ศ.2442) สำนักวาติกัน กรุงโรมตัดสินว่าคาทอลิกอีสานมีมากพอจะตั้ง
เป็นสังฆมณฑลได้จึงแต่งตั้งมิสซังใหม่แยกจากมิซังไทย ชื่อมิสซังลาว
(เอ! ไม่รู้ว่าสำนักวาติกันเมื่อก่อน จะประสานกับฝ่ายการเมืองฝรั่งเศสหรือเปล่า)
เรื่องกรณีพิพากษ์เพราะช่วงนั้นฝรั่งเศสแพ้สงครามต่อเยอรมัน ฝรั่งเศสได้แจ้ง
มาว่าจะส่งเจ้าหน้าที่มาเจรจาต่อ รัฐบาลไทยจึงยื่นข้อเสนอว่า :
1. ให้วางแนวเขตแดนเป็นไปตามหลักสากล
2. ปรับปรุงเขตแดนให้เป็นธรรมชาติโดยให้ถือแม่น้ำโขงเป้นแนวแบ่งเขต
3.ให้ฝรั่งเศสรับรองว่าถ้าอินโดจีนเปลี่ยนจากอธิปไตยฝรั่งเศสไป ฝรั่งเศส
จะต้องคืนลาวและกัมพูชาให้ไทย
แล้วมันก็ยาวมาเลี่อยจนเป็นสงครามระหว่างสยาม-ฝรั่งเศส
นั่นแหละครับ เรื่องระหว่างมิสซังลาว กับ มิงซังไทย ซึ่งผูกพันธุ์กันมานาน
ถึงแม้ปัจจุบันจะแยกกันบริหารแต่ ขึ้นกับสำนักวาติกันเหมือนกัน มีระบบการ
สอนเหมือนกัน





กางเขนใหญ่ แลพระแท่นบูชามิซากลางโบสถ์


ที่นี่มีแม่พระนิจจานุเคราะห์ด้วย แต่ไม่มีพิธีนพวาร บางโบสถ์จัดวันพุธ
บางโบสถ์จัดวันเสาร์

ชาวคาทอลิกมีแผงคุกเข่าในโบสถ์ต่อหน้าพระเจ้า ต่อหน้าพระเยซู
และพระจิตเจ้า เรียก พระตรีเอกานุภาพ ภาษาอังกฤษ เรียก Trinity
ที่ชาวคริสต์ทำสัญลักษณ์ เดชะพระนาม พระบิดา พระบุตร และพระจิต
อาแมน....เมื่อเราคุกเข่าต่อหน้าพระ ไม่ว่าคุณอยู่ในโลกมนุษย์ยิ่งใหญ่
แค่ไหน เป็นเศรษฐี เป็นยาจก เป็นอมาตย์ เป็นไพร่ เมื่ออยู่ต่อหน้าพระ
คุณคือผงธุลีดิน...ทางพุทธเรียก การลดละอัตตา ภาษาธรรมเรียก
สังโยชน์ 10 ประการ

ให้ทายอะไรเอ่ย??? บางท่านทายป้ายหลุมศพ บางท่านทายป้ายจารึก
ชื่อบาทหลวง...จริง ๆ คือป้ายผู้มีจิตศรัทธา บริจาคเงินซ่อมแซมโบสถ์

ซิสเตอร์มนศรี ขอให้เป็นเกียรติร่วมถ่ายรูปมาฝากชาวไทย ตอนแรก
ซิสเตอร์จะไม่ยอมถ่าย บอกว่าเพิ่งทำความสะอาดโบสถ์ แต่งตัวไม่...
เรียบร้อย ผมบอก บ่เป็นหยังดอก ...ซิสเตอร์สวยอยู่แล้ว แถมสวยจาก
ใจ...ซิสเตอร์บอกคนไทยก็หล่อ ทางพุทธพูดเล่นกันอย่างนี้ไม่ได้ แม้ไม่
อาบัติ แต่เรียก โลกะวัชชะ คือ ชาวโลกติเตียน ทางคริสต์พอได้ไม่เป็นไร
แต่มากเกินไม่ดี เรียก ...ลูซิเฟอร์รีเควสต์ (Lucifer Request) แหะ ๆ
นรกถามหา(ผมบัญญัติเองนะครับ) คุณพ่อเจ้าวัดชื่อ คุณพ่อเบญนคร
**ผมเดินทางล่าสุดเมื่อปี 2014 เข้าไปที่โบสถ์อีกครั้ง ได้สนทนากับคุณพ่อ
พบว่า "ซิสเตอร์มนศรี" พระยกไปสวรรค์แล้ว...ขอคำภาวนาให้ท่านด้วย ครับ**

รัฐบาลลาวไม่น่าดำเนินนโยบาย อนุรักษ์นิยมแข็งกร่าว เพราะชาวคาทอลิก
ไม่เคยคิดร้ายกับใคร อยู่สงบ สร้างวิธีคิดให้คน สร้างคนที่มีคุณภาพเพื่อรับ
ใช้ประเทศ รับใช้พระศาสนจักร...ไม่งั้นมีโรงเรียนพระหฤทัยลาว สร้างเด็ก
ที่มีคุณภาพ แบบบ้านเราโรงเรียน คาทอลิก ผลิตบุคคลากรทรงคุณค่ารับใช้
ชาติ รุ่นแล้ว รุ่นเล่า ...

75 ปี คาทอลิกลาว เริ่ม พ.ศ. 2478 ปีเดียวกับ ร.7 ทรงพระราชทาน
รัฐธรรมนุญแห่งราชอาณาจักรไทย และประกาศสละราชย์ สภาเลือก
ร.8 เป็นกษัตริย์สืบพระราชอำนาจ

ชาวคริสต์นิยมนำลูกประำคำแขวนหน้ารถ เพื่อคุ้มครองให้ปลอดภัยจาก
การเดินทาง และมักจะมีนักบุญคริสโตเฟอร์ อยู่ด้วย เพราะนักบุญคริสโตเฟอร์
แบกพระเยซูข้ามน้ำตอนเด็ก เห็นตัวหนักจึงหันมาถามว่าเด็กน้อย ทำไมตัวหนัก
จัง...พระเยซูตอบว่า จะไม่หนักได้ไง ก็เราแบกโลกไว้ทั้งโลก ทำให้ชาวคริสต์
นับถือนักบุญคริสโตเฟอร์มาก

ด้านหน้าโบสถ์ เห็นมีภาษาเวียตนาม เพราะคาทอลิกเวียตนาม ที่อยู่
เวียงจันทน์เยอะกว่าคาทอลิกลาว
ดูพิธีมิซา พี่น้องคริสตชนลาวได้ที่นี่ครับ
http://www.youtube.com/watch?NR=1&v=rfyOyQHPgq8
ทุกศาสนา สอนให้คนเป็นคนดี ...
คนต่างหาก ที่ใช้ศาสนาตีความเพื่อประโยชน์ของตนเอง
แบบเดียวกับตัวกฎหมาย มุ่งเน้นความยุติธรรม แต่คนต่างหาก
ที่ตีความกฎหมายไปเพื่อตนเองและพวกพ้อง
โดย : ฟรังซิสโก ณัฐวุฒิ (เดินทางทุกที่ ที่มีพระองค์)
นครหลวงเวียงจันทร์ ถ้าบ้านเราคุ้นชื่อ โบสถ์พระหฤทัยคอนแวนต์
โบสถ์พระหฤทัย+โรงเรียนคอนแวนต์(ซึ่งสมัยก่อนเป็น โรงเรียนสอน
บุคคลากรกระแสเรียก) คาทอลิกเรียก "โรงเรียนพระหฤทัยคอนแวนต์"
ลาวปกครองด้วยระบอบคอมมิวนิสต์ และกู้ชาติจากฝรั่งเศส ไล่ฝรั่งเศส
กลับหอหอไอเฟล ยึดโรงเรียนยึดโบสถ์ แบบเดียวกับที่เกิดรอยบาปใน
ประวัติศาสตร์ไทย คือ เรื่องของ บุญราศรีทั้ง 7 ที่สองคอน จนเป็น
เหตุการณ์มรณสักขี (The Seven blessed marty) แสดงความกล้าหาญ
ต่อพระศาสนาจักร และความกล้าหาญของคาทอลิกไทย ที่ตราตรึงอยู่
ในโลกตลอดไป...
ค.ศ.1669(พ.ศ. 2212) สำนักวาติกัน กรุงโรมได้ประกาศตั้งมิสซัง
สยาม ประเทศไทยจึงกลายเป็นมิสซังแรกของคณะมิสซังฯ ปารีส
ได้มีการแพร่คำสอนไปยังเมืองอื่น ๆ เช่น พิษณุโลก ลพบุรี สามโคก
(ปทุมธานี) และบางกอก โบสถ์โบสถ์คอนเซ็ปชัญ ชาวคาทอลิกเรียก
"โบสถ์พระแม่ปฏิสนธินิรมล" ริมแม่น้ำเจ้าพระยาสร้างสมัยนี้แหละ
ครับ(ที่เราเรียกติดปากว่าโบสถ์เขมร) ที่นี่มีแม่พระที่ชาวคาทอลิกไทย
และคาทอลิกเขมรให้ความเคารพมากเรียก แม่พระตุ้งติ้ง
เพราะแต่เดิมแม่พระใส่ตุ้มหูห้อยตุ้งติ้งไว้ทั้งสองข้าง รูปแม่พระองค์นี้ทำ
ด้วยไม้ สมัย ร.1 มีปัญหาเจ้านายเขมรมาพึ่งพระบรมโพธิสมภารสมเด็จ
พระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลก และต่อมา ร. 1 ทรงโปรดให้ชาวเขมรที่ตามมา
ตั้งบ้านเรือนที่วัดคอนเซ็ปชัญนี้ และได้อัญเชิญแม่พระองค์นี้มาด้วย จนเรื่อง
ราวสงบชาวเขมรจะกลับจะอัญเชิญแม่พระตุ้งติ้งกลับไปเขมร แต่ตอนกลับ
อัญเชิญแม่พระลงเรือแต่แจวไม่ไป ชาวเขมรคิดว่าแม่พระคงประสงค์ที่ทรง
จะประดิษฐานที่สยาม เลย Bye Bye ออกุลเจริญ ๆ กลับตัวเปล่า....
สมัย รัชกาลที่ 5 วันที่ 1 ม.ค. พ.ศ.2424 เมื่อก่อนสมัยบาทหลวงเดินทาง
เพื่อเผยแพร่ศาสนาจากบางกอก(กทม.) ไปอุบลใช้เวลา 102 วัน ล่องเรือ
ผ่านแก่งคอย แล้วเดินเท้าต่อ ผ่านดงพญาไฟ(รอดมาได้เพราะพระเจ้าคุ้มครอง
เพราะสมัยก่อนใครผ่านดงพญาไฟ ตายสถานเดียว) ค้างที่คลองตะเคียน
(เพราะมีหมู่บ้านคริสตัง) เข้าโคราช ระหว่างทางเป็นไข้ป่าพระเจ้ายกขึ้น
สวรรค์ก็เยอะ จ้างช้างนั่งไปขอนแก่น เข้ากาฬสินธุ์ ยโสธร ผ่านอำนาจเจริญ
(เมื่อก่อนเป็นอำเภอ) ถึงอุบล 24 เม.ย. พ.ศ. 2424 รวมเดินทาง 102 วัน
สมัยนี้นั่งเครื่องไม่ถึง ชม.
ระหว่างทางบาทหลวงได้บันทึกไว้ว่า...เกือบทุกแห่งที่ไปถึงภายในจังหวัด
แตกแยกความสามัคคีระหว่างบุคคลหัวหน้าเพราะแย่งอำนาจกัน บุคคลหัวหน้า
เหล่านี้เป็นความกันมิได้หยุดต่างพยายามที่จะหักโค่นกัน เพื่อประโยชน์อัน
ยิ่งใหญ่ของเจ้านายที่หนุนหลังเขาอยู่ที่เมืองหลวง...(อ้าว ประเทศเป็นอย่างนี้
มาแต่โบราณแล้วเหรอ เนี้ย???)
คาทอลิกเผยแพร่สู่อีสานเข้าไปในลาว อัตปือ จนถึงปี ค.ศ. 1899
(พ.ศ.2442) สำนักวาติกัน กรุงโรมตัดสินว่าคาทอลิกอีสานมีมากพอจะตั้ง
เป็นสังฆมณฑลได้จึงแต่งตั้งมิสซังใหม่แยกจากมิซังไทย ชื่อมิสซังลาว
(เอ! ไม่รู้ว่าสำนักวาติกันเมื่อก่อน จะประสานกับฝ่ายการเมืองฝรั่งเศสหรือเปล่า)
เรื่องกรณีพิพากษ์เพราะช่วงนั้นฝรั่งเศสแพ้สงครามต่อเยอรมัน ฝรั่งเศสได้แจ้ง
มาว่าจะส่งเจ้าหน้าที่มาเจรจาต่อ รัฐบาลไทยจึงยื่นข้อเสนอว่า :
1. ให้วางแนวเขตแดนเป็นไปตามหลักสากล
2. ปรับปรุงเขตแดนให้เป็นธรรมชาติโดยให้ถือแม่น้ำโขงเป้นแนวแบ่งเขต
3.ให้ฝรั่งเศสรับรองว่าถ้าอินโดจีนเปลี่ยนจากอธิปไตยฝรั่งเศสไป ฝรั่งเศส
จะต้องคืนลาวและกัมพูชาให้ไทย
แล้วมันก็ยาวมาเลี่อยจนเป็นสงครามระหว่างสยาม-ฝรั่งเศส
นั่นแหละครับ เรื่องระหว่างมิสซังลาว กับ มิงซังไทย ซึ่งผูกพันธุ์กันมานาน
ถึงแม้ปัจจุบันจะแยกกันบริหารแต่ ขึ้นกับสำนักวาติกันเหมือนกัน มีระบบการ
สอนเหมือนกัน





กางเขนใหญ่ แลพระแท่นบูชามิซากลางโบสถ์


ที่นี่มีแม่พระนิจจานุเคราะห์ด้วย แต่ไม่มีพิธีนพวาร บางโบสถ์จัดวันพุธ
บางโบสถ์จัดวันเสาร์

ชาวคาทอลิกมีแผงคุกเข่าในโบสถ์ต่อหน้าพระเจ้า ต่อหน้าพระเยซู
และพระจิตเจ้า เรียก พระตรีเอกานุภาพ ภาษาอังกฤษ เรียก Trinity
ที่ชาวคริสต์ทำสัญลักษณ์ เดชะพระนาม พระบิดา พระบุตร และพระจิต
อาแมน....เมื่อเราคุกเข่าต่อหน้าพระ ไม่ว่าคุณอยู่ในโลกมนุษย์ยิ่งใหญ่
แค่ไหน เป็นเศรษฐี เป็นยาจก เป็นอมาตย์ เป็นไพร่ เมื่ออยู่ต่อหน้าพระ
คุณคือผงธุลีดิน...ทางพุทธเรียก การลดละอัตตา ภาษาธรรมเรียก
สังโยชน์ 10 ประการ

ให้ทายอะไรเอ่ย??? บางท่านทายป้ายหลุมศพ บางท่านทายป้ายจารึก
ชื่อบาทหลวง...จริง ๆ คือป้ายผู้มีจิตศรัทธา บริจาคเงินซ่อมแซมโบสถ์

ซิสเตอร์มนศรี ขอให้เป็นเกียรติร่วมถ่ายรูปมาฝากชาวไทย ตอนแรก
ซิสเตอร์จะไม่ยอมถ่าย บอกว่าเพิ่งทำความสะอาดโบสถ์ แต่งตัวไม่...
เรียบร้อย ผมบอก บ่เป็นหยังดอก ...ซิสเตอร์สวยอยู่แล้ว แถมสวยจาก
ใจ...ซิสเตอร์บอกคนไทยก็หล่อ ทางพุทธพูดเล่นกันอย่างนี้ไม่ได้ แม้ไม่
อาบัติ แต่เรียก โลกะวัชชะ คือ ชาวโลกติเตียน ทางคริสต์พอได้ไม่เป็นไร
แต่มากเกินไม่ดี เรียก ...ลูซิเฟอร์รีเควสต์ (Lucifer Request) แหะ ๆ
นรกถามหา(ผมบัญญัติเองนะครับ) คุณพ่อเจ้าวัดชื่อ คุณพ่อเบญนคร
**ผมเดินทางล่าสุดเมื่อปี 2014 เข้าไปที่โบสถ์อีกครั้ง ได้สนทนากับคุณพ่อ
พบว่า "ซิสเตอร์มนศรี" พระยกไปสวรรค์แล้ว...ขอคำภาวนาให้ท่านด้วย ครับ**

รัฐบาลลาวไม่น่าดำเนินนโยบาย อนุรักษ์นิยมแข็งกร่าว เพราะชาวคาทอลิก
ไม่เคยคิดร้ายกับใคร อยู่สงบ สร้างวิธีคิดให้คน สร้างคนที่มีคุณภาพเพื่อรับ
ใช้ประเทศ รับใช้พระศาสนจักร...ไม่งั้นมีโรงเรียนพระหฤทัยลาว สร้างเด็ก
ที่มีคุณภาพ แบบบ้านเราโรงเรียน คาทอลิก ผลิตบุคคลากรทรงคุณค่ารับใช้
ชาติ รุ่นแล้ว รุ่นเล่า ...

75 ปี คาทอลิกลาว เริ่ม พ.ศ. 2478 ปีเดียวกับ ร.7 ทรงพระราชทาน
รัฐธรรมนุญแห่งราชอาณาจักรไทย และประกาศสละราชย์ สภาเลือก
ร.8 เป็นกษัตริย์สืบพระราชอำนาจ

ชาวคริสต์นิยมนำลูกประำคำแขวนหน้ารถ เพื่อคุ้มครองให้ปลอดภัยจาก
การเดินทาง และมักจะมีนักบุญคริสโตเฟอร์ อยู่ด้วย เพราะนักบุญคริสโตเฟอร์
แบกพระเยซูข้ามน้ำตอนเด็ก เห็นตัวหนักจึงหันมาถามว่าเด็กน้อย ทำไมตัวหนัก
จัง...พระเยซูตอบว่า จะไม่หนักได้ไง ก็เราแบกโลกไว้ทั้งโลก ทำให้ชาวคริสต์
นับถือนักบุญคริสโตเฟอร์มาก

ด้านหน้าโบสถ์ เห็นมีภาษาเวียตนาม เพราะคาทอลิกเวียตนาม ที่อยู่
เวียงจันทน์เยอะกว่าคาทอลิกลาว
ดูพิธีมิซา พี่น้องคริสตชนลาวได้ที่นี่ครับ
http://www.youtube.com/watch?NR=1&v=rfyOyQHPgq8
ทุกศาสนา สอนให้คนเป็นคนดี ...
คนต่างหาก ที่ใช้ศาสนาตีความเพื่อประโยชน์ของตนเอง
แบบเดียวกับตัวกฎหมาย มุ่งเน้นความยุติธรรม แต่คนต่างหาก
ที่ตีความกฎหมายไปเพื่อตนเองและพวกพ้อง
