ขอความช่วยเหลือค่ะ
โพสต์แล้ว: ศุกร์ ต.ค. 14, 2011 11:53 am
หนูมีเรื่องหนักใจมากถึงมากที่สุด
หนูเกิดในครอบครัวคนพุทธค่ะ... มองไปทางไหนใครๆก็เป็นพุทธ
เรื่องมันเริ่มเพราะ ชอบอ่านหนังสือตั้งแต่จำความได้เลยค่ะ
แล้วสมัยประถมหนูก็เคยอ่านประวัติของพระเยซู
หนูนั่งร้องไห้เพราะหนูรู้สึกได้ถึงความเสียสละ.. คนอื่นอ่านอาจจะเฉยๆ แต่หนูเชื่อและซาบซึ้งจริงๆ
ไม่รู้เหมือนกันว่าเป็นอะไร ตั้งแต่นั้นหนูจะชอบเสียงสวดของคริสค่ะ
หนูเคยพูดกับแม่ว่าหนูเชื่อในพระเจ้า แม่ก็หาว่าเริ่มเพ้อ
ตอนนั้นหนูก็ได้แต่เก็บไว้ในใจตลอดเวลา ที่ผ่านมาหนูก็แอบอ่านเรื่องราวต่างๆที่เกี่ยวกับพระเจ้า
เพราะหนูคิดว่านั่นเป็นสิ่งเดียวที่หนูสามารถทำได้...
ถึงจุดนี้หนูก็ยังไม่กล้าบอกแม่ค่ะ ไม่รู้จะเริ่มยังไงดี หนูยังไหว้พระใส่บาตรนะคะ
เพราะที่บ้านหนูเป็นพุทธ แต่ทุกครั้งที่หนูมีเรื่องทุกข์ใจ ต่อให้สาหัสแค่ไหนหนูจะนึกถึงพระองค์
หนูรู้สึกว่าพระองค์อยู่กับหนู พระองค์เข้าใจหนู หนูรับรู้ถึงตัวตนของพระองค์จากในใจ
ตั้งแต่พี่สาวหนูหนีออกจากบ้าน ตอนนั้นเครียดค่ะ หนูอ่านมาเยอะ แล้วก็คิดถึงพระองค์
นั่นทำให้หนูรู้สึกอบอุ่นอย่างประหลาด หนูยิ่งศรัทธามากขึ้นทุกวัน แล้วก็ยิ่งทรมาณเพราะไม่มีใครเข้าใจ
หนูไม่กล้าบอกแม่แล้ว เคยบอกแม่แล้ว แม่บอกว่าหนูโชคดีที่ได้เกิดเป็นพุทธ
จริงๆแล้วหนูไม่ได้โจมตีพุทธนะคะ แต่ถ้ามองจากคนภายนอกแล้ว หนูว่า...บางทีก็เกินไปค่ะ
แม่หนูบอกว่าเพื่อนของแม่ ซึ่งเป็นคนดีมากๆตอนมีชีวิต แล้วก็ธรรมะธัมโม
ตอนนี้เพื่อนแม่คนนี้ไปจุตติบนสวรรค์เป็นพระพรหม หนูก็สงสัยว่าพระพรหมสามารถเป็นได้หลายคนหรอคะ
จริงๆกะว่าวันดีคืนดีจะเดินไปโบสถ์ด้วยตัวเองเลย แต่หนูกลัวมาก
ถ้าเกิดหนูแสดงออกว่าหนูเป็นคริสต์ตั้งแต่ตอนนี้ ญาติๆและที่บ้านคงต่อต้านหนู
เพื่อนบางคนอาจจะล้อหนูด้วย ตอนนี้พี่สาวกลับบ้านมานานแล้วค่ะ แล้วก็เข้าวัดฟังธรรม
แม่บอกว่าหนูห่างไกลศาสนา พูดเหมือนคนบาปทั้งที่หนูก็มักระลึกถึงพระเจ้าอยู่บ่อยๆโดยที่แม่ไม่รู้
วันนั้นรายการบัลลังก์คนดีฉาย มีคุณ2คนที่อุปการเลี้ยงเด็กที่ไร้คนดูแลไว้ เขาทั้ง2เป็นคริสต์
แล้วเขาก็หมั่นอมรบเด็กๆอย่างดี พาเด็กเข้าโบสถ์ แม่ก็พูดเหมือนประมาณว่านั่นเป็นการชักจูงที่ไม่สมควร
นี่ก็เป็นอีกเหตุผลหนึ่งที่หนูไม่กล้าบอกแม่ ทุกครั้งที่เปรยออกไป แม่จะสามารถหยุดหนูได้เสมอ
หนูทำอะไรไม่ได้เลยค่ะ ตอนนี้เวลาก็ผ่านมาจนหนูอยู่ม.6แล้ว หนูคงไม่เพ้อนานขนาดนี้หรอก
หนูหลงทางแล้วค่ะ ฝันร้ายทุกคืนเลย
อีกเรื่องคือ หนูชอบดาราตะวันตกซะส่วนมากค่ะ แม่ก็หาว่าหนูคลุ้มคลั่งจะไปเปลี่ยนศาสนาตามเขา
ซึ่งไม่ใช่เลยค่ะ ดาราที่หนูชอบหลายคนไม่เคร่งศาสนาค่ะ
ถ้าหนูจะตามแบบเขาหนูว่าไปหัดเล่นดนตรี เล่นกีฬาตามแบบที่เขาชอบหรือถนัดจะง่ายกว่า
ขอความกรุณาช่วยหาทางออกให้หนูด้วย
ดิท. จริงๆหนูไม่ได้ว่าแม่นะค่ะ แค่เรามองต่างมุมกันจริงๆ หนูเชื่อในพระเจ้าจริงๆ
หนูเกิดในครอบครัวคนพุทธค่ะ... มองไปทางไหนใครๆก็เป็นพุทธ
เรื่องมันเริ่มเพราะ ชอบอ่านหนังสือตั้งแต่จำความได้เลยค่ะ
แล้วสมัยประถมหนูก็เคยอ่านประวัติของพระเยซู
หนูนั่งร้องไห้เพราะหนูรู้สึกได้ถึงความเสียสละ.. คนอื่นอ่านอาจจะเฉยๆ แต่หนูเชื่อและซาบซึ้งจริงๆ
ไม่รู้เหมือนกันว่าเป็นอะไร ตั้งแต่นั้นหนูจะชอบเสียงสวดของคริสค่ะ
หนูเคยพูดกับแม่ว่าหนูเชื่อในพระเจ้า แม่ก็หาว่าเริ่มเพ้อ
ตอนนั้นหนูก็ได้แต่เก็บไว้ในใจตลอดเวลา ที่ผ่านมาหนูก็แอบอ่านเรื่องราวต่างๆที่เกี่ยวกับพระเจ้า
เพราะหนูคิดว่านั่นเป็นสิ่งเดียวที่หนูสามารถทำได้...
ถึงจุดนี้หนูก็ยังไม่กล้าบอกแม่ค่ะ ไม่รู้จะเริ่มยังไงดี หนูยังไหว้พระใส่บาตรนะคะ
เพราะที่บ้านหนูเป็นพุทธ แต่ทุกครั้งที่หนูมีเรื่องทุกข์ใจ ต่อให้สาหัสแค่ไหนหนูจะนึกถึงพระองค์
หนูรู้สึกว่าพระองค์อยู่กับหนู พระองค์เข้าใจหนู หนูรับรู้ถึงตัวตนของพระองค์จากในใจ
ตั้งแต่พี่สาวหนูหนีออกจากบ้าน ตอนนั้นเครียดค่ะ หนูอ่านมาเยอะ แล้วก็คิดถึงพระองค์
นั่นทำให้หนูรู้สึกอบอุ่นอย่างประหลาด หนูยิ่งศรัทธามากขึ้นทุกวัน แล้วก็ยิ่งทรมาณเพราะไม่มีใครเข้าใจ
หนูไม่กล้าบอกแม่แล้ว เคยบอกแม่แล้ว แม่บอกว่าหนูโชคดีที่ได้เกิดเป็นพุทธ
จริงๆแล้วหนูไม่ได้โจมตีพุทธนะคะ แต่ถ้ามองจากคนภายนอกแล้ว หนูว่า...บางทีก็เกินไปค่ะ
แม่หนูบอกว่าเพื่อนของแม่ ซึ่งเป็นคนดีมากๆตอนมีชีวิต แล้วก็ธรรมะธัมโม
ตอนนี้เพื่อนแม่คนนี้ไปจุตติบนสวรรค์เป็นพระพรหม หนูก็สงสัยว่าพระพรหมสามารถเป็นได้หลายคนหรอคะ
จริงๆกะว่าวันดีคืนดีจะเดินไปโบสถ์ด้วยตัวเองเลย แต่หนูกลัวมาก
ถ้าเกิดหนูแสดงออกว่าหนูเป็นคริสต์ตั้งแต่ตอนนี้ ญาติๆและที่บ้านคงต่อต้านหนู
เพื่อนบางคนอาจจะล้อหนูด้วย ตอนนี้พี่สาวกลับบ้านมานานแล้วค่ะ แล้วก็เข้าวัดฟังธรรม
แม่บอกว่าหนูห่างไกลศาสนา พูดเหมือนคนบาปทั้งที่หนูก็มักระลึกถึงพระเจ้าอยู่บ่อยๆโดยที่แม่ไม่รู้
วันนั้นรายการบัลลังก์คนดีฉาย มีคุณ2คนที่อุปการเลี้ยงเด็กที่ไร้คนดูแลไว้ เขาทั้ง2เป็นคริสต์
แล้วเขาก็หมั่นอมรบเด็กๆอย่างดี พาเด็กเข้าโบสถ์ แม่ก็พูดเหมือนประมาณว่านั่นเป็นการชักจูงที่ไม่สมควร
นี่ก็เป็นอีกเหตุผลหนึ่งที่หนูไม่กล้าบอกแม่ ทุกครั้งที่เปรยออกไป แม่จะสามารถหยุดหนูได้เสมอ
หนูทำอะไรไม่ได้เลยค่ะ ตอนนี้เวลาก็ผ่านมาจนหนูอยู่ม.6แล้ว หนูคงไม่เพ้อนานขนาดนี้หรอก
หนูหลงทางแล้วค่ะ ฝันร้ายทุกคืนเลย
อีกเรื่องคือ หนูชอบดาราตะวันตกซะส่วนมากค่ะ แม่ก็หาว่าหนูคลุ้มคลั่งจะไปเปลี่ยนศาสนาตามเขา
ซึ่งไม่ใช่เลยค่ะ ดาราที่หนูชอบหลายคนไม่เคร่งศาสนาค่ะ
ถ้าหนูจะตามแบบเขาหนูว่าไปหัดเล่นดนตรี เล่นกีฬาตามแบบที่เขาชอบหรือถนัดจะง่ายกว่า
ขอความกรุณาช่วยหาทางออกให้หนูด้วย
ดิท. จริงๆหนูไม่ได้ว่าแม่นะค่ะ แค่เรามองต่างมุมกันจริงๆ หนูเชื่อในพระเจ้าจริงๆ