Belong to the Truth Jesus Christ

ผมเคยได้ยินมาครับแต่ศาสนาเราไปได้ไหว้แต่ของอิสลามนี่เขาห้ามไปเลยเรอครับ

ของอิสลามไม่รู้ แต่ของคริสต์ ถึงจะไปได้แต่ จริง ๆ ก็ไม่อยากให้ไปนะ โดยเฉพาะถ้าไปแล้วจำต้องกราบไหว้รูปเคารพของพุทธ ไม่งั้นต่อให้สารภาพบาปทีหลังแต่ถ้าเกิดมีสายสัมพันธ์กับพระองค์ระดับนึงแล้ว มันจะชวนให้รู้สึกผิดทีหลังอยู่ดี

แต่ก็ขึ้นกับว่าเป็นงานศพใคร และความจำเป็นของเราด้วย ถ้าจำเป็นต้องไปจริงๆ ก็ควรบอกให้เค้าเข้าใจก่อนว่าเราทำอะไรได้ไม่ได้บ้าง ก็ลองรับอาสาทำอย่างอื่น (เช่นอย่างตอนพิธีไหว้เจ้าที่ เราก็รับอาสาถือร่มบังแดดให้พ่อกับแม่ด้วยมือสองข้างซะเลย(เรานั่งตรงกลาง) แต่อาจเพราะพระองค์ประทานสติปัญญาให้ก็ได้ ไม่งั้นโง่ ๆ อย่างเราไม่น่าจะนึกได้)

พี่ก็เคยไปร่วมงานศพของเพื่อนพี่น้องชาวพุทธอยู่หลายครั้งค่ะ
ส่วนใหญ่จะไปฟังพระสวดตอนกลางคืน แต่พี่จะไปนั่งสวดภาวนาในใจให้ผู้ตายค่ะ ไปนั่งฟังพระสวดเฉยๆ มันแปลกๆยังไงไม่รุ เลยต้องสวดให้ผู้ตายในใจ มือพนมนึกถึงพระเมตตาของพระเยซูเจ้า ขอให้ผู้ตายได้ัรับความรอด แล้วก็สวดสายประคำให้ผู้ตายในใจค่ะ

เคยไปงานเผาศพด้วยนะ ครั้งแรกที่ไป พี่ไปกะสามี ยังช่วยหยิบดอกไม้จันทร์ส่งให้สามีเฉยเลย สามีพี่เค้าก็ปัดมือออก ไม่ยอมรับ ไอ้เราก็ไม่รุธรรมเนียมปฏิบัติ หน้าแตกเลย

ไปร่วมงานพิธีต่างๆของคนต่างศาสนาได้ ไม่ว่างานบวช งานศพและอื่นๆ คริสต์ไม่ห้าม
เขาทำพิธีไป เราไม่ต้องไหว้พระบูชาของเขา อยู่ในความสำรวมไม่พูดคุยเวลาพระสวด
(จะสวดให้เขาในใจก็ได้) ปิดมือถือ แต่งกายสุภาพ ให้เกียรติเจ้าภาพหรือผู้ตาย
เป็นศาสนาสัมพันธ์ด้วย...
.......อิสลามก็ไปได้ค่ะไม่ห้าม แต่เขาจะให้เราไปร่วมด้วยหรือเปล่าล่ะ....

คริสเตียน ไปงานศพ ของคนทุกศาสนาได้ เพราะเราไปเพื่อแสดงความเสียใจ ให้กำลังใจ
และช่วยเหลือเขาตามกำลัง ...แต่ไม่กราบไหว้ในลักษณะของรูปเคารพ นั่งฟังพระสวดได้
แต่ไม่ต้องกรวดน้ำอะไรทำนองนี้แหละ ของว่างทานได้

พี่โรซ่า ลี ฮะ ตามที่เจี๊ยบเคยอ่าน หนังสือที่พ่อเขียวจัดทำ ก่อนจากไปอยู่กับพระเจ้า
คริสตัง ก็ไม่ควรไปร่วมศาสนพิธี เช่นบวชนาค/บวชพระ ไม่น่าจะได้ คงได้แต่บวดชี(กล้วย)งับ

เอ ...น้องเจี๊ยบ
พี่ก็ไม่เคยอ่านนะหนังสือเล่มนั้น...แต่มีการประชุมศาสนาสัมพันธ์เขาก็ไปกันได้ ไม่ได้ห้าม
งานศพ งานบวช และอื่นๆ ไม่ต้องทำตามเขาทั้งหมด สำรวมก็เหมือนๆกับที่โปร์ฯทำค่ะ...

ผมขอโพสถ์ข้อความจากหนังสือที่พ่อเขียวได้จัดทำไว้ "แนวทางการปฏิบัติตนของคาทอลิกในการร่วมพิธีของศาสนาอื่น

แนวทางการปฏิบัติของคริสตชนคาทอลิกในการบวชพระ (อุปสมบท)
- คริสตชนคาทอลิกไม่สามารถบวชเป็นพระภิกษุได้
- คริสตชนคาทอลิกมีความจำเป็นที่ต้องไปร่วมพิธีบวช เพราะตำแหน่งหน้าที่หรือความสัมพันธ์กับพุทธศาสนิกชน คริสตชนสามารถไปร่วมได้ ทั้งการการช่วยจัดเตรียมสิ่งของ และเข้าร่วมงานอุปสมบท แต่สิ่งที่ทำไม่ได้คือ การประเคนของถวายพระสงฆ์ การใส่บาตร การกราบพระพุทธรูป แต่เราสามารถทำความเคารพพระภิกษุได้ ในฐานะที่ท่านเป็นนักบวช

Andreas เขียน:ผมขอโพสถ์ข้อความจากหนังสือที่พ่อเขียวได้จัดทำไว้ "แนวทางการปฏิบัติตนของคาทอลิกในการร่วมพิธีของศาสนาอื่น

แนวทางการปฏิบัติของคริสตชนคาทอลิกในการบวชพระ (อุปสมบท)
- คริสตชนคาทอลิกไม่สามารถบวชเป็นพระภิกษุได้
- คริสตชนคาทอลิกมีความจำเป็นที่ต้องไปร่วมพิธีบวช เพราะตำแหน่งหน้าที่หรือความสัมพันธ์กับพุทธศาสนิกชน คริสตชนสามารถไปร่วมได้ ทั้งการการช่วยจัดเตรียมสิ่งของ และเข้าร่วมงานอุปสมบท แต่สิ่งที่ทำไม่ได้คือ การประเคนของถวายพระสงฆ์ การใส่บาตร การกราบพระพุทธรูป แต่เราสามารถทำความเคารพพระภิกษุได้ ในฐานะที่ท่านเป็นนักบวช

มีให้อ่านบนเว็ปมั้ยครับหนังสือเล่มนี้

ขอบคุณครับ

Andreas เขียน:
แนวทางการปฏิบัติของคริสตชนคาทอลิกในการบวชพระ (อุปสมบท)
- คริสตชนคาทอลิกไม่สามารถบวชเป็นพระภิกษุได้
- คริสตชนคาทอลิกมีความจำเป็นที่ต้องไปร่วมพิธีบวช เพราะตำแหน่งหน้าที่หรือความสัมพันธ์กับพุทธศาสนิกชน คริสตชนสามารถไปร่วมได้ ทั้งการการช่วยจัดเตรียมสิ่งของ และเข้าร่วมงานอุปสมบท แต่สิ่งที่ทำไม่ได้คือ การประเคนของถวายพระสงฆ์ การใส่บาตร การกราบพระพุทธรูป แต่เราสามารถทำความเคารพพระภิกษุได้ ในฐานะที่ท่านเป็นนักบวช

>เห็นไหม ไปได้เพราะมีความจำเป็น
...ถามพี่เพชร แล้วถ้าสาวคาทอลิก แฟนเธอต้องบวช ถือหมอนตอนแห่นาคได้ไหม
และคงใส่บาตรหลวงพี่ไม่ได้นะ

s.gabriel เขียน:

Andreas เขียน:ผมขอโพสถ์ข้อความจากหนังสือที่พ่อเขียวได้จัดทำไว้ "แนวทางการปฏิบัติตนของคาทอลิกในการร่วมพิธีของศาสนาอื่น

แนวทางการปฏิบัติของคริสตชนคาทอลิกในการบวชพระ (อุปสมบท)
- คริสตชนคาทอลิกไม่สามารถบวชเป็นพระภิกษุได้
- คริสตชนคาทอลิกมีความจำเป็นที่ต้องไปร่วมพิธีบวช เพราะตำแหน่งหน้าที่หรือความสัมพันธ์กับพุทธศาสนิกชน คริสตชนสามารถไปร่วมได้ ทั้งการการช่วยจัดเตรียมสิ่งของ และเข้าร่วมงานอุปสมบท แต่สิ่งที่ทำไม่ได้คือ การประเคนของถวายพระสงฆ์ การใส่บาตร การกราบพระพุทธรูป แต่เราสามารถทำความเคารพพระภิกษุได้ ในฐานะที่ท่านเป็นนักบวช

มีให้อ่านบนเว็ปมั้ยครับหนังสือเล่มนี้

ยังไม่มีครับ แต่จะเสนอให้ทางหน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการให้ครับ เพราะเป็นประโยชน์อย่างมาก ส่วนหนังสือก็มีจำหน่ายครับ เล่นละ 30 บาท สั่งซื้อที่ผมได้เลยครับ

Jeab Agape เขียน:

Andreas เขียน:
แนวทางการปฏิบัติของคริสตชนคาทอลิกในการบวชพระ (อุปสมบท)
- คริสตชนคาทอลิกไม่สามารถบวชเป็นพระภิกษุได้
- คริสตชนคาทอลิกมีความจำเป็นที่ต้องไปร่วมพิธีบวช เพราะตำแหน่งหน้าที่หรือความสัมพันธ์กับพุทธศาสนิกชน คริสตชนสามารถไปร่วมได้ ทั้งการการช่วยจัดเตรียมสิ่งของ และเข้าร่วมงานอุปสมบท แต่สิ่งที่ทำไม่ได้คือ การประเคนของถวายพระสงฆ์ การใส่บาตร การกราบพระพุทธรูป แต่เราสามารถทำความเคารพพระภิกษุได้ ในฐานะที่ท่านเป็นนักบวช

>เห็นไหม ไปได้เพราะมีความจำเป็น
...ถามพี่เพชร แล้วถ้าสาวคาทอลิก แฟนเธอต้องบวช ถือหมอนตอนแห่นาคได้ไหม
และคงใส่บาตรหลวงพี่ไม่ได้นะ

ทุกงานพิธีที่เราจะไปร่วม มันก็ต้องจำเป็นจริง ๆ ถึงจะไปอยู่แล้วครับ ถ้าเจ้าภาพไม่ได้เชิญก็คงไม่มีใครอยากไป ยกเว้นอยากไปกินฟรี...
ส่วนการถือหมอน ผมก็ไม่ทราบรายละเอียดว่า เขาต้องให้หมอนกับพระใหม่ในอุโบสถเลยหรือเปล่า จริง ๆ ก็น่าจะถือได้ การถวายของก็ต่างจากการใส่บาตร จริง ๆ มันก็ไม่ใช่ของ ๆ เราหรอกครับ เจ้าภาพเขาจัดหามา เวลาที่เราให้พระก็อย่าไปคิดว่าจะได้บุญกุศลจากการให้นั้นสิครับ

ผมเองก็เคย ถือน้ำ ถืออาหารไปให้พระสงฆ์ช่วงฉันเพล ก็ทางเราห้ามแต่การใส่บาตร ซึ่งเขาก็ใส่ในเวลาเช้า ส่วนมื้อเพล ส่วนมากจะจัดเป็นสำรับแล้วนำมาให้พระสงฆ์ฉัน ผมก็เอาสำรับมาช่วยวาง แล้วพระสงฆ์ก็มานั่งเป็นวงล้อมสำรับอาหาร จากนั้นก็ต้องส่งแต่ละอย่างให้กับมือพระสงฆ์อีกทีหนึ่ง ขั้นตอนมันยุ่งยากกว่าการใส่บาตร และสิ่งที่เราให้กับมือพระสงฆ์แล้ว หากเราเผลอไปหยิบ พระท่านก็จะใช้ไม่ได้ เราต้องหยิบส่งให้ใหม่อีกรอบ มันก็ดูเป็นเรื่องธรรดา ไม่ใช่พิธีกรรม พออาหารถึงมือพระ ท่านก็เริ่มฉัน เมื่อฉันเสร็จถึงจะสวดอะไรก็ไม่รู้ ผมก็ไม่อยู่ตรงนั้นแล้ว เข้าครัวไปรอกินอาหารเที่ยงดีกว่า

อิสลามห้ามเข้าวัดเลยค่ะ แบบว่าเขาเป็นกฎเหล็กเลย
อย่างมีคนเคยเล่าให้ฟังเลยว่ามีผู้หญิงคนนึงไปแต่งงานกับคนอิสลาม
แล้วพอพ่อเสียชีวิตเธอก็ไม่สามารถเข้าวัดมาร้วมงานได้
ไม่แม้แต่จะมาดูศพพ่อเป็นครั้งสุดท้าย
เรื่องนี้ทำให้แม่เราเข้าใจผิดเลยอ้ะ แม่คิดว่าว่าถ้าเราไปนับถือคริสอีกแล้ว
เราอาจจะกลายเป็นตัวประหลาดของที่บ้าน อาจมีเหตุการ์ณทำนองนี้เกิดขึ้น

สวัสดีครับ คุณwin_comeback

คาทอลิกเรา ไปร่วมงานศพ เพื่อนศาสนิกอื่นได้ ครับ

ผมขออนุญาติร่ายยาว นิดนึงนะครับ
หากเราต้องการทำความเข้าใจ ความเชื่อ และคำสั่งสอน ของแต่ละศาสนา วิธีหนึ่ง
ที่จะทำให้เราแตกฉาน คือ การอ่าน ครับ

ถ้าเป็นทางคาทอลิกเราหากจะอ่านให้แตก ฉานเราต้องอ่าน
- พระคัมภีร์ ภาคพันธสัญญาเดิม
- พระคัมภีร์ ภาคพันธสัญญาใหม่

ถ้าเป็นทางฮินดู
- เราต้องอ่านเรื่องของพระเจ้า 3 องค์ คือ พระพรหม ซึ่งเป็นผู้สร้างโลก พระศิวะ
เป็นผู้ทำลาย และพระวิษณุ(พระนารายณ์) เป็นผู้ปกป้องและรักษาโลก ซึ่งก็เหมือน
คาทอลิกเรามี พระตรีเอกนุภาพ เพียงแต่ทางเราเชื่อว่า พระเยซูคือพระเป็นเจ้าแท้และ
มนุษย์แท้

- เราต้องอ่านเรื่องราตรี แห่งพรหม ซึ่งก็เป็นเหตุการณ์น้ำท่วมโลกแบบของคาทอลิก
(ตามพระธรรมเก่า)


ถ้าเป็นทางพุทธ
- เราต้องศึกษาประวัติพระพุทธองค์
- เราต้องอ่าน พระสุตตันตปิฎก เรียกว่า พระสูตร คือพระพุทธพจน์ที่พระพุทธเจ้าทรงแสดง
ณ สถานที่ต่าง ๆ ตามเหตุการณ์และสถานที่ ๆ แตกต่างกันไป แบบพระเยซูเทศนาสั่งสอน
ท่านพุทธทาสท่าน กล่าวไว้ดีมากว่า การสั่งสอนของพระพุทธองค์ กับพระเยซู มีภาษาโลก
กับภาษาธรรม ท่าน พุทธทาสภิกขุได้ ปาฐกถาธรรม เรื่อง

"คริสตธรรม พุทธธรรม" ไว้ ณ ศูนย์ศิลป วิทยาลัยพระคริสตธรรม แห่งสภาคริสตจักร
ประเทศไทย จ.เชียงใหม่ ท่านใดสนใจลองเข้า ไปศึกษา ตาม Link ครับ
http://www.buddhadasa.com/BudChrist/Beunderstand1.html

ศาสนาอิสลาม ก็เหมือนกันครับ คริสต์,อิสลาม และยิว
เรามีรากของศาสนามาเหมือนกัน ซึ่งทั้ง 3 ศาสนา ล้วนเป็นลูกหลานอับบราฮัม ทางอิสลาม
เรียก "อิบรอฮิม" พระเยซูทางอิสลามเรียก นบีอีซา พระแม่มารีย์คือ มัรยัม
นักบุญยอเซฟ อิสลามเรียก ยูซุป

พระเจ้าในศาสนาอิสลาม คือ อัลลอฮ์(ซุบฮานะฮูวะตะอาลา) ทางคาทอลิกเราเรียก
พระยาห์เวห์ หรือพระเยโฮวา

ศาสดาของอิสลาม คือ ท่านนบีมูฮัมหมัด ซอล ลอล ลอ ฮูอาลัย ฮีวาซัลลัม
อิสลามใช้ ฮ.ศ.(ฮิจญเราะฮ์ศักราช)

แต่การแปลง ฮ.ศ. เป็น พ.ศ. หรือ ฮ.ศ. ไม่สามารถนำตัวเลข 543 ลบแบบการแปลง พ.ศ.
เป็น ค.ศ. ได้ เนื่องจาก หิจญ์เราะหฺศักราช (ฮ.ศ.) เป็นการนับปฏิทินตามจันทรคติ(นับ
ดวงจันทร์) ตามจันทรคติของอิสลาม 1 มี = 354 วิธีการคำนวณจึงซับซ้อน เราจึงไม่สามารถ
นำ 622 หรือ 1165 ลบแล้วได้ค่า ฮ.ศ.ในทันที

ฮ.ศ. 1 นั้นเรานับจาก
- ท่านศาสดาอพยพจากมักกะฮ์สู่มะดีนะฮ์ ท่านศาสดาอพยพจากมักกะฮ์โดยมีอบูบักรร่วมเดิน
ทางไกลด้วย ระหว่างทางท่านได้สร้าง มัสญิดกุบาอ์ ซึ่งเป็นมัสญิดหลังแรกที่ถูกสร้างขึ้น ท่าน
ศาสดาเข้าเมืองมะดีนะฮ์ในวันศุกร์ ท่านได้ทำการละหมาดวันศุกร์ร่วมกับพี่น้องมุสลิมที่นั่น ซึ่ง
ถือว่าเป็นการละหมาดวันศุกร์ครั้งแรกของอิสลาม เมื่อถึงเมืองมะดีนะฮ์ ท่านศาสดาได้สร้าง
ความรัก ความเป็นพี่น้องร่วมศรัทธาระหว่างชาวมุฮาญิรีน ผู้อพยพ กับชาวอันซ็อร ผู้ช่วยเหลือ
การอพยพของท่านศาสดามีความสำคัญมากในประวัติศาสตร์อิสลาม มุสลิมจึงถือเอาการอพยพ
ของท่านศาสดามุฮัมมัดเป็นจุดเริ่มของศักราชอิสลาม ซึ่งเรียกว่า ฮิจญเราะฮ์ศักราช ( ฮ.ศ. )
ปีแห่งการอพยพของท่านศาสดามุฮัมมัด


"พี่น้องมุสลิม จะเคร่งคัดในศาสนามาก ไม่มีการบูชา หรือ กราบไหว้รูปเคารพ ผู้กระทำเช่นนี้
ถือว่าเป็นภาคีต่ออัลลอฮฺ (กระทำชิริก) คาทอลิกเราเีรียก "สุเปติซัง" แต่การมาร่วมงานศพ
หรือร่วมกิจกรรมนั้น ทางมุสลิมสามารถมาเข้าร่วมได้ เพราะมุสลิมสอนให้อยู่ร่วมกับผู้อื่นอย่าง
สันติ"

ศาสนาเป็นเรื่องละเอียดอ่อน และต้องอาศัย เวลาทั้งชีวิตในการศึกษา บางคนทั้งชีวิตก็ยัง
ศึกษาไม่แตกฉาน และสำคัญต้องมีคามเชื่อ


ฟรังซิสโกณัฐวุฒิ เดินทางทุกที่ ที่มีพระองค์