ถ้าไม่กินหูฉลามแล้ว ท่านจะตายไหม ?
- salvation7
- Defender of lawS
- โพสต์: 522
- ลงทะเบียนเมื่อ: อาทิตย์ ต.ค. 31, 2010 1:05 am
- ติดต่อ:
บังเอิญผ่านไปเจอ... บทความนี้เข้า อาจจะหลายสัปดาห์ และเป็นข่าวเมือหลายปีก่อน .... อยากจะแบ่งปันกัน....มองได้หลายแง่ หลายมุม บางคนก็จะบอกว่า
- กลุ่มหนึ่ง จะบอกว่า... พระเจ้าให้สัตว์มา ให้เราล่าเนื้อทานได้
(ไม่ผิดธรรมชาติ เพราะพระเจ้าสร้างมาให้เรารับประทาน)
- อีกกลุ่มหนึ่งจะบอกว่า...ทรมานสัตว์
(ดูจากภาพ จากคลิป)
- และอีกหลาย ๆๆ กลุ่ม ก็จะบอกว่า... เป็นความต้องการของสัญลักษณ์ที่บ่งบอกถึงความมั่งมี ???
- และอีกหลาย ๆๆ กลุ่ม ก็จะบอกว่า... แล้วแต่ ...???
แต่ถ้าเราหยุด คิด ว่าสิ่งที่พระเจ้าสร้างมา เราได้ทำร้ายสิ่งมีชิวิต เพื่อเป็นค่านิยมหรือไม่ หรือเราทำเพื่อประโยชน์ของร่างกาย แต่เราลืมคิดไปว่า....เราได้ค้นหาสิ่งที่ดี สิ่งที่เลือก กว่าการทำร้ายแล้วหรือยัง???
ถ้าไม่กินหูฉลามแล้ว ท่านจะตายไหม ? .. หยุดปากเถอะ .. หยุดกินหูฉลาม
สัตว์ที่ได้ฉายานามว่าเป็นผู้ยิ่งใหญ่ใต้ทะเล – ปลาฉลาม คงไม่นึกไม่ถึงว่า ครีบของตัวเองจะนำพาภัยพิบัติสู่ตน
ครีบปลาฉลาม หรือที่คนเรารู้จักและนิยมกันดีในนามหูฉลาม ที่ตั้งอยู่บนโต๊ะอาหาร ซึ่งครีบที่ว่ารวมด้วยครีบหลัง สองข้างตัว และครีบหางปลา เป็นต้น
อันที่จริงแล้วหูฉลามไม่ได้มีรสชาดอะไรเลย หูฉลามที่เรากินกันอยู่ประจำ ที่มีรสชาดเลิศลิ้น นั้นล้วนมาจากเครื่องปรุงที่เสริมเข้าไป จากการวิจัย ครีบปลาฉลามเหล่านี้ไม่ได้มีคุณค่าทางสารอาหารมากไปกว่าอาหารอื่นๆ เลย อาจจะน้อยกว่าแบรนด์ซุปไก่หนึ่งกระปุกด้วยซ้ำ (ถึงกระนั้นก็ไม่ควรกินเช่นกัน) แถมยังจืดชืด แต่สิ่งที่ดึงดูดความสนใจ ไม่พ้นไปจากจำนวนที่มีน้อย และราคาอันสูงของหูฉลาม เป็นอาหารที่หาได้ยาก และยังเป็นตราประทับของความสูงส่งในยศถาบรรดาศักดิ์
ชาวประมงนำปลาฉลามที่พึ่งจับมาย้ายจากเรือประมงมาที่ชายหาด และตัดครีบของมัน ขายให้ลูกค้าในทันที
โรงชำแหระปลาฉลามและเป็นตลาดที่เป็นศูนย์การค้าปลาฉลามที่ใหญ่
เนื่องจากหูฉลามนั้นมีราคาสูง การตลาดก็กว้างใหญ่ การล่าปลาฉลามยิ่งหนักขึ้นทุกวันๆ ปลาฉลามถูกฆ่าจำนวนมาก ทำให้จำนวนปลาฉลามทั้งโลกนั้นลดฮวบลงอย่างรวดเร็ว บวกกับการแพร่พันธุ์ของปลาฉลามนั้นไม่มากเท่าไหร่นัก กว่าปลาฉลามจะโตถึงวัยผสมพันธุ์ ต้องใช้เวลา 10-15 ปี ส่วนใหญ่ก็จะผสมพันธุ์วางไข่กันหนึ่งครั้งต่อสองปี ด้วยเหตุนี้เอง ปลาฉลามจึงต้องเผชิญกับปัญหาสูญพันธุ์ที่กำลังคืบคลานเข้ามา
องค์การอนุรักษ์ธรรมชาติแห่งโลกได้ทำการคาดประมาณเอาไว้ในปีหนึ่งว่า การค้าขายปลาฉลามทั่วโลกนั้นมีมากถึง 1 แสนตัน ทุกๆ ปีปลาฉลามที่ต้องถูกฆ่ามีมากถึง 38-70 ล้านตัว !
คนกำลังตัดครีบของปลาฉลามครีบวัวที่มีขนาดใหญ่
คลิปการชำแหละที่สุดโหด
- กลุ่มหนึ่ง จะบอกว่า... พระเจ้าให้สัตว์มา ให้เราล่าเนื้อทานได้
(ไม่ผิดธรรมชาติ เพราะพระเจ้าสร้างมาให้เรารับประทาน)
- อีกกลุ่มหนึ่งจะบอกว่า...ทรมานสัตว์
(ดูจากภาพ จากคลิป)
- และอีกหลาย ๆๆ กลุ่ม ก็จะบอกว่า... เป็นความต้องการของสัญลักษณ์ที่บ่งบอกถึงความมั่งมี ???
- และอีกหลาย ๆๆ กลุ่ม ก็จะบอกว่า... แล้วแต่ ...???
แต่ถ้าเราหยุด คิด ว่าสิ่งที่พระเจ้าสร้างมา เราได้ทำร้ายสิ่งมีชิวิต เพื่อเป็นค่านิยมหรือไม่ หรือเราทำเพื่อประโยชน์ของร่างกาย แต่เราลืมคิดไปว่า....เราได้ค้นหาสิ่งที่ดี สิ่งที่เลือก กว่าการทำร้ายแล้วหรือยัง???
ถ้าไม่กินหูฉลามแล้ว ท่านจะตายไหม ? .. หยุดปากเถอะ .. หยุดกินหูฉลาม
สัตว์ที่ได้ฉายานามว่าเป็นผู้ยิ่งใหญ่ใต้ทะเล – ปลาฉลาม คงไม่นึกไม่ถึงว่า ครีบของตัวเองจะนำพาภัยพิบัติสู่ตน
ครีบปลาฉลาม หรือที่คนเรารู้จักและนิยมกันดีในนามหูฉลาม ที่ตั้งอยู่บนโต๊ะอาหาร ซึ่งครีบที่ว่ารวมด้วยครีบหลัง สองข้างตัว และครีบหางปลา เป็นต้น
อันที่จริงแล้วหูฉลามไม่ได้มีรสชาดอะไรเลย หูฉลามที่เรากินกันอยู่ประจำ ที่มีรสชาดเลิศลิ้น นั้นล้วนมาจากเครื่องปรุงที่เสริมเข้าไป จากการวิจัย ครีบปลาฉลามเหล่านี้ไม่ได้มีคุณค่าทางสารอาหารมากไปกว่าอาหารอื่นๆ เลย อาจจะน้อยกว่าแบรนด์ซุปไก่หนึ่งกระปุกด้วยซ้ำ (ถึงกระนั้นก็ไม่ควรกินเช่นกัน) แถมยังจืดชืด แต่สิ่งที่ดึงดูดความสนใจ ไม่พ้นไปจากจำนวนที่มีน้อย และราคาอันสูงของหูฉลาม เป็นอาหารที่หาได้ยาก และยังเป็นตราประทับของความสูงส่งในยศถาบรรดาศักดิ์
ชาวประมงนำปลาฉลามที่พึ่งจับมาย้ายจากเรือประมงมาที่ชายหาด และตัดครีบของมัน ขายให้ลูกค้าในทันที
โรงชำแหระปลาฉลามและเป็นตลาดที่เป็นศูนย์การค้าปลาฉลามที่ใหญ่
เนื่องจากหูฉลามนั้นมีราคาสูง การตลาดก็กว้างใหญ่ การล่าปลาฉลามยิ่งหนักขึ้นทุกวันๆ ปลาฉลามถูกฆ่าจำนวนมาก ทำให้จำนวนปลาฉลามทั้งโลกนั้นลดฮวบลงอย่างรวดเร็ว บวกกับการแพร่พันธุ์ของปลาฉลามนั้นไม่มากเท่าไหร่นัก กว่าปลาฉลามจะโตถึงวัยผสมพันธุ์ ต้องใช้เวลา 10-15 ปี ส่วนใหญ่ก็จะผสมพันธุ์วางไข่กันหนึ่งครั้งต่อสองปี ด้วยเหตุนี้เอง ปลาฉลามจึงต้องเผชิญกับปัญหาสูญพันธุ์ที่กำลังคืบคลานเข้ามา
องค์การอนุรักษ์ธรรมชาติแห่งโลกได้ทำการคาดประมาณเอาไว้ในปีหนึ่งว่า การค้าขายปลาฉลามทั่วโลกนั้นมีมากถึง 1 แสนตัน ทุกๆ ปีปลาฉลามที่ต้องถูกฆ่ามีมากถึง 38-70 ล้านตัว !
คนกำลังตัดครีบของปลาฉลามครีบวัวที่มีขนาดใหญ่
คลิปการชำแหละที่สุดโหด
- salvation7
- Defender of lawS
- โพสต์: 522
- ลงทะเบียนเมื่อ: อาทิตย์ ต.ค. 31, 2010 1:05 am
- ติดต่อ:
ภาพการจับฉลามในชายหาดในโมซัมบิก
เมื่อชาวประมงจับปลาฉลามมาได้ ก็จะทำการกรีดครีบปลาฉลามทั้งหมดทั้งเป็น แล้วปล่อยปลาฉลามกลับลงทะเล จากนั้นปลาฉลามก็ได้แต่นอนรอความตายอยู่ใต้ทะเลลึก ในช่วงเวลานี้ ปลาฉลามจะพยายามพลิกตัว แต่ก็ไม่สามารถขยับไปไหนได้ เพราะว่าครีบทั้งหมดของมันได้ถูกตัดไปแล้ว ทั้งครีบหาง หน้าอก และบนหลัง จนเวลาล่วงไปไม่รู้กี่วัน มันจึงจะตายไปด้วยความหิวกระหายและสูญเสียเลือดจำนวนมาก หรือว่าคนที่ตายไปนั้นก็คือตายไป แต่ปลาฉลามที่ตายไปนั้น สมควรตาย!
ปลาฉลามนั้นเป็นสิ่งสำคัญในวงจรปิรามิดในทะเล การลดจำนวนของปลาฉลามจะนำมาซึ่งปัญหาคุกคามของระบบความสัมพันธุ์ของสิ่งมีชีวิต (ecosystem) ในทะเล เป็นเหตุให้ปลาฉลามต้องสูญพันธุ์ และยังก่อปัญหาต่างๆ ต่อ ecosystem ของสิ่งมีชีวิตอื่นๆ อีกด้วย ยกสัตว์บกเป็นตัวอย่าง สิงโตที่ต้องล่าสัตว์กินพืชมาเป็นอาหาร ถึงแม้จะดูโหดร้าย แต่มันก็เป็นการกำจัดสัตว์ที่มีสายพันธุ์(gene) ที่ไม่ดีออกไป กวาดล้างสัตว์ที่อ่อนแอ มีโรค ให้ตัวที่มีกำลังกายแข็งแรง มี gene ที่ดีๆ ดำรงชีวิตสืบทอดต่อไป เช่นกัน ปลาฉลามนั้นก็มีบทบาทเดียวกัน
หญิงชาวฟิลิปปินส์นั่งร้องไห้ข้างซากฉลามวาฬที่ถูกตัดครีบอย่างโหดร้าย
คลังสินค้าในฮ่องกงคนกำลังคัดแยกประเภทหูฉลามที่ได้รับมาจากประเทศออสเตรเลีย
ถ้าดูจากมุมมองของชีววิทยา ปลาฉลามนับเป็นสิ่งมีชีวิตที่น่าพิสมัยยิ่งนัก ประเด็นแรก ปลาฉลามนั้นกำเนิดมาก่อนไดโนเสาเสียอีก คาดประมาณว่าได้มีปลาฉลามอยู่แล้วเมื่อ 250 ล้านปีก่อน สิ่งมีชีวิตชนิดนี้มีลักษณะเฉพาะหลายอย่าง มีประสาทการฟังและการดมกลิ่นที่เฉียบแหลมมาก ปลาฉลามหลายสายพันธุ์สามารถได้ยินเสียงปลาที่ว่ายน้ำอยู่ไกลถึง 2 กิโลเมตรออกไป และยังสามารถดมกลิ่นคาวเลือดอ่อนๆ ที่อยู่ไกลตัวได้อีกด้วย
ถึงแม้สายตาของปลาฉลามจะไม่สู้ดีนัก แต่สามารถมองเห็นสิ่งต่างๆ ในน้ำทะเลที่มืดมิดได้ จำนวนสายพันธุ์ปลาฉลามที่พอรู้กัน ก็มีมากถึง 350 พันธุ์ แถมยังมีสติปัญญาเป็นเลิศอีกด้วย
ในโมซัมบิกคนโชว์กรามกระดูกของฉลาม
ครีบของปลาฉลามให้กำไรอย่างสูง
คลิปซากฉลามใต้ท้องทะเล
หูฉลามตากแห้งในอินโดนีเซีย
ชาวประมงเมื่อจับปลาฉลามมาได้แล้ว ก็จะกรีดสมบัติของมัน – ครีบบนลำตัวทั้งหมด ออกมาทั้งเป็นๆ แล้วก็นำปลาฉลามไร้ครีบที่ยังมีชีวิตอยู่ ที่เต็มไปด้วยบาดแผล ทิ้งกลับลงไปในทะเล เนื่องจากว่าครีบทั้งหมดของมันได้ถูกตัดออกไปแล้ว มันจึงไม่สามารถว่ายน้ำ ไม่สามารถขยับเขยื้อนไปไหนได้เลย ได้แต่จมอยู่ใต้ทะเล รอความตายที่จะมาเยือน และโดยส่วนใหญ่พวกมันจะต้องทนทุกข์ทรมานอยู่หลายวัน จึงจะตายด้วยความหิว !
ตกแต่งร้านหูฉลามในฮ่องกง
ในมัลดีฟส์กระดูกกรามปลาฉลามถูกตั้งโชว์เพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยว
โมซัมบิกกระดูกกรามปลาฉลามนับร้อยถูกแขวนตามผนัง
เนื่องจากว่า ส่วนที่มีค่าที่สุดบนตัวปลาฉลาม ก็คือหูฉลามที่เรากินกันอยู่ทุกวันนี้ และด้วยเหตุที่ว่าร่างกายปลาฉลามนั้นใหญ่ การบรรทุกปลาฉลามหนึ่งตัว พื้นที่ที่ใช้ สามารถนำมาบรรจุหูฉลามของปลาสิบกว่าตัว เมื่อคำนึงถึงผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจ สุดท้ายพวกเรานั้นก็ได้แต่ตักหูฉลามใส่ปากเพื่อความเห่อเหิมในชื่อเสียงยศศักดิ์ และความมั่งมี
กลุ่มมนุษยธรรมนานาชาติร่วมลงนามใน โครงการอนุรักษ์ปลาฉลามในกรุงปักกิ่งเมื่อวันที่ 10 เมษายน 2011
หูฉลามเป็นที่นิยมมากในงานเลี้ยงพิธีแต่งงานในฮ่องกง
อันที่จริงสิ่งที่เรากินกันอยู่ ไม่ใช่หูฉลาม แต่เป็นความต้องการของสัญลักษณ์ที่บ่งบอกถึงความมั่งมี ในงานแต่งงาน หากไม่มีหูฉลามในเมนู ก็จะโดนผู้คนว่าลับหลังเอาได้ ว่าเป็นคนตระหนี่ขี้เหนียว ในสังคมปัจจุบันนี้ ปลาฉลามได้กลายเป็นเครื่องหมายของความมั่งมีไปเสียแล้ว
......
ที่มา : http://webboard.sanook.com/forum/?topic=3522380
-
- ~@
- โพสต์: 2546
- ลงทะเบียนเมื่อ: อังคาร ม.ค. 18, 2005 10:54 pm
กินเพื่อความอยู่รอดไม่บาป แต่กินเพื่อสนองความบาปในตัวนี่ก็อีกเรื่อง
ผมไม่เคยกินเลยอาหารพวกนี้ ทรมานสัตว์
และผมถือกินแต่อาหารทำทำมาจากสัตว์เหล่านี้คือ เป็ด ไก่ ไข่ ปลา(ปลาทับทิม ปลาทู ปลาดุก)หมู(หมูเลี้ยงตามฟาร์ม)(เป็นเนื้อสดตามร้านขายเนื้อ หรืออาหารในร้านกับข้าว)
อาหารและเนื้อต้องห้ามสำหรับผมคือ หมา วัว ควาย เหล่าแมลงสัตว์ประหลาดทั้งหลาย กบเขียด สัตว์ป่า(เช่นเสือ หมี หมูป่า) ค้างคาว จระเข้ ปลาทะเล(เช่นวาฬ ฉลาม) ลิง แกะแพะ นกต่างๆ(อาหารแม้จะไม่ต้องห้าม แต่ถ้ารู้เห็นการฆ่าแบบจะๆแล้วเขาทำอาหารแล้วยกมาให้เรากิน ก็ห้าม แม้จะสัตว์ใหญ่สัตว์เล็ก)
และผมถือกินแต่อาหารทำทำมาจากสัตว์เหล่านี้คือ เป็ด ไก่ ไข่ ปลา(ปลาทับทิม ปลาทู ปลาดุก)หมู(หมูเลี้ยงตามฟาร์ม)(เป็นเนื้อสดตามร้านขายเนื้อ หรืออาหารในร้านกับข้าว)
อาหารและเนื้อต้องห้ามสำหรับผมคือ หมา วัว ควาย เหล่าแมลงสัตว์ประหลาดทั้งหลาย กบเขียด สัตว์ป่า(เช่นเสือ หมี หมูป่า) ค้างคาว จระเข้ ปลาทะเล(เช่นวาฬ ฉลาม) ลิง แกะแพะ นกต่างๆ(อาหารแม้จะไม่ต้องห้าม แต่ถ้ารู้เห็นการฆ่าแบบจะๆแล้วเขาทำอาหารแล้วยกมาให้เรากิน ก็ห้าม แม้จะสัตว์ใหญ่สัตว์เล็ก)
ขอบคุณสำหรับบทความครับ
ชาตินี้จะไม่ขอกินหูฉลาม (ปกติก็ไม่เคยกินอยู่แล้ว อิอิ)
ผมเคยอ่านบทความเกี่ยวกับรังนกนางแอ่นเมื่อนานมาแล้ว ผมหาบทความนั้นไม่เจอแล้ว ใครเจอนำมาแปะไว้ด้วยะครับ อ่านแล้วอยากร้องไห้เลย
นกมันทำรังด้วยน้ำลาย มันทำรังเพื่อที่เตรียมตัวจะฟักไข่
มันอุตส่าห์หนีขึ้นไปทำรังบนที่สูง คนก็ยังตามไปเก็บ
พอคนเก็บรังมันไป มันก็ทำขึ้นมาใหม่ด้วยน้ำลายอย่างยากลำบาก แล้วคนก็เก็บไปอีก
มันก็ทำรังขึ้นอีกอยู่อย่างนี้ ซ้ำไปซ้ำมา
เมื่อใกล้เวลาจะฟักไข่เต็มที รังก็ถูถูกขโมยไปอีก มันก็ต้องเร่งรีบทำรังขึ้นมาอีกโดยใช้น้ำลาย จนน้ำลายมันแห้ง มันจะกระอักเลือดออกมาพร้อมกับน้ำลายที่น้อยนิดเพื่อทำรัง
เคยสังเกตุมั้ยเวลาเรากินรังนก จะมีสีแดงผสมอยู่ด้วย สีแดงนั้นไม่ใช้อะไรเลย มันคือเลือดของนกที่กระอักออกมาพร้อมกับน้ำลายตอนมันทำรังนั่นเอง
แต่สุดท้ายมันทำรังไม่สำเร็จ เพราะคนเก็บเอารังมันไปซ้ำแล้วซ้ำเล่า เมื่อถึงเวลาฟักไข่ แต่ไม่มีรัง มันก็จะฟักไข่กลางอากาศ ไข่ตกลงมากระทบพื้นด้านล่างแตกหมด
ต่อไปนกนางแอ่นก็จะสูนพันธ์
น่าสงสารเจ้านกนางแอ่น
คนหนอคน มีอะไรกินตั้งมากมายแล้วก็ไม่รู้จักพอ
ชาตินี้จะไม่ขอกินหูฉลาม (ปกติก็ไม่เคยกินอยู่แล้ว อิอิ)
ผมเคยอ่านบทความเกี่ยวกับรังนกนางแอ่นเมื่อนานมาแล้ว ผมหาบทความนั้นไม่เจอแล้ว ใครเจอนำมาแปะไว้ด้วยะครับ อ่านแล้วอยากร้องไห้เลย
นกมันทำรังด้วยน้ำลาย มันทำรังเพื่อที่เตรียมตัวจะฟักไข่
มันอุตส่าห์หนีขึ้นไปทำรังบนที่สูง คนก็ยังตามไปเก็บ
พอคนเก็บรังมันไป มันก็ทำขึ้นมาใหม่ด้วยน้ำลายอย่างยากลำบาก แล้วคนก็เก็บไปอีก
มันก็ทำรังขึ้นอีกอยู่อย่างนี้ ซ้ำไปซ้ำมา
เมื่อใกล้เวลาจะฟักไข่เต็มที รังก็ถูถูกขโมยไปอีก มันก็ต้องเร่งรีบทำรังขึ้นมาอีกโดยใช้น้ำลาย จนน้ำลายมันแห้ง มันจะกระอักเลือดออกมาพร้อมกับน้ำลายที่น้อยนิดเพื่อทำรัง
เคยสังเกตุมั้ยเวลาเรากินรังนก จะมีสีแดงผสมอยู่ด้วย สีแดงนั้นไม่ใช้อะไรเลย มันคือเลือดของนกที่กระอักออกมาพร้อมกับน้ำลายตอนมันทำรังนั่นเอง
แต่สุดท้ายมันทำรังไม่สำเร็จ เพราะคนเก็บเอารังมันไปซ้ำแล้วซ้ำเล่า เมื่อถึงเวลาฟักไข่ แต่ไม่มีรัง มันก็จะฟักไข่กลางอากาศ ไข่ตกลงมากระทบพื้นด้านล่างแตกหมด
ต่อไปนกนางแอ่นก็จะสูนพันธ์
น่าสงสารเจ้านกนางแอ่น
คนหนอคน มีอะไรกินตั้งมากมายแล้วก็ไม่รู้จักพอ
แต่ก่อนพิศสวาสกับรังนกมาก แต่เจอข้อความนี้ สงสารจริงๆ คนหนอคนKenneth เขียน:ขอบคุณสำหรับบทความครับ
ชาตินี้จะไม่ขอกินหูฉลาม (ปกติก็ไม่เคยกินอยู่แล้ว อิอิ)
ผมเคยอ่านบทความเกี่ยวกับรังนกนางแอ่นเมื่อนานมาแล้ว ผมหาบทความนั้นไม่เจอแล้ว ใครเจอนำมาแปะไว้ด้วยะครับ อ่านแล้วอยากร้องไห้เลย
นกมันทำรังด้วยน้ำลาย มันทำรังเพื่อที่เตรียมตัวจะฟักไข่
มันอุตส่าห์หนีขึ้นไปทำรังบนที่สูง คนก็ยังตามไปเก็บ
พอคนเก็บรังมันไป มันก็ทำขึ้นมาใหม่ด้วยน้ำลายอย่างยากลำบาก แล้วคนก็เก็บไปอีก
มันก็ทำรังขึ้นอีกอยู่อย่างนี้ ซ้ำไปซ้ำมา
เมื่อใกล้เวลาจะฟักไข่เต็มที รังก็ถูถูกขโมยไปอีก มันก็ต้องเร่งรีบทำรังขึ้นมาอีกโดยใช้น้ำลาย จนน้ำลายมันแห้ง มันจะกระอักเลือดออกมาพร้อมกับน้ำลายที่น้อยนิดเพื่อทำรัง
เคยสังเกตุมั้ยเวลาเรากินรังนก จะมีสีแดงผสมอยู่ด้วย สีแดงนั้นไม่ใช้อะไรเลย มันคือเลือดของนกที่กระอักออกมาพร้อมกับน้ำลายตอนมันทำรังนั่นเอง
แต่สุดท้ายมันทำรังไม่สำเร็จ เพราะคนเก็บเอารังมันไปซ้ำแล้วซ้ำเล่า เมื่อถึงเวลาฟักไข่ แต่ไม่มีรัง มันก็จะฟักไข่กลางอากาศ ไข่ตกลงมากระทบพื้นด้านล่างแตกหมด
ต่อไปนกนางแอ่นก็จะสูนพันธ์
น่าสงสารเจ้านกนางแอ่น
คนหนอคน มีอะไรกินตั้งมากมายแล้วก็ไม่รู้จักพอ
จริงครับ ผมคนนึงที่ชอบทานรังนกมาก ถ้วยละ 300 400 บาทก็ทาน แพงเท่าไหร่ก็ซื้อมาทานแต่ก่อนพิศสวาสกับรังนกมาก แต่เจอข้อความนี้ สงสารจริงๆ คนหนอคน
แต่เมื่อผมได้เจอบทความที่เล่ามา ผมเลิกทานนับตั้งแต่นั้นเลยครับ นี่ก็ 2 ปีกว่าแล้วที่เลิกทาน
ที่ผ่านมา ผมก็ไม่รู้ว่าไอ้เจ้ารังนกนี่มันได้มาอย่างไร ก็คิดว่ามีคนเพาะเลี้ยงจำหน่ายเป็นกิจการ แต่ที่ไหนได้ มาจากธรรมชาติล้วนๆ อย่างนี้ไม่เอาด้วยละครับ โลกเรามีอะไรให้เลือกทานตั้งมากมาย หาอย่างอื่นทานดีกว่า
-
- ~@
- โพสต์: 8259
- ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ม.ค. 17, 2005 9:56 pm
- ที่อยู่: Bangkok
ไม่ตาย เพราะไม่จำเป็นต้องกิน ไม่อร่อย และแพง สู้สำตาไก่ย่าง ต้มแซ่บไม่ได้
มนุษย์ที่พระเจ้าทรงสร้างและบอกว่าดีนัก ทำร้ายโลก และเพื่อนร่วมโลกอย่างมหาโหดที่สุด
มนุษย์ที่พระเจ้าทรงสร้างและบอกว่าดีนัก ทำร้ายโลก และเพื่อนร่วมโลกอย่างมหาโหดที่สุด
-
- โพสต์: 719
- ลงทะเบียนเมื่อ: อังคาร ม.ค. 08, 2008 5:47 am
- ที่อยู่: กาญจนบุรี
Kenneth เขียน:ขอบคุณสำหรับบทความครับ
ผมเคยอ่านบทความเกี่ยวกับรังนกนางแอ่นเมื่อนานมาแล้ว ผมหาบทความนั้นไม่เจอแล้ว ใครเจอนำมาแปะไว้ด้วยะครับ อ่านแล้วอยากร้องไห้เลย
นกมันทำรังด้วยน้ำลาย มันทำรังเพื่อที่เตรียมตัวจะฟักไข่
มันอุตส่าห์หนีขึ้นไปทำรังบนที่สูง คนก็ยังตามไปเก็บ
พอคนเก็บรังมันไป มันก็ทำขึ้นมาใหม่ด้วยน้ำลายอย่างยากลำบาก แล้วคนก็เก็บไปอีก
มันก็ทำรังขึ้นอีกอยู่อย่างนี้ ซ้ำไปซ้ำมา
เมื่อใกล้เวลาจะฟักไข่เต็มที รังก็ถูถูกขโมยไปอีก มันก็ต้องเร่งรีบทำรังขึ้นมาอีกโดยใช้น้ำลาย จนน้ำลายมันแห้ง มันจะกระอักเลือดออกมาพร้อมกับน้ำลายที่น้อยนิดเพื่อทำรัง
เคยสังเกตุมั้ยเวลาเรากินรังนก จะมีสีแดงผสมอยู่ด้วย สีแดงนั้นไม่ใช้อะไรเลย มันคือเลือดของนกที่กระอักออกมาพร้อมกับน้ำลายตอนมันทำรังนั่นเอง
แต่สุดท้ายมันทำรังไม่สำเร็จ เพราะคนเก็บเอารังมันไปซ้ำแล้วซ้ำเล่า เมื่อถึงเวลาฟักไข่ แต่ไม่มีรัง มันก็จะฟักไข่กลางอากาศ ไข่ตกลงมากระทบพื้นด้านล่างแตกหมด
ต่อไปนกนางแอ่นก็จะสูนพันธ์
น่าสงสารเจ้านกนางแอ่น
คนหนอคน มีอะไรกินตั้งมากมายแล้วก็ไม่รู้จักพอ
เอ่อ...อันนี้ผมก็ไม่แน่ใจนะครับ แต่ผมได้ข้อมูลมากอีกสายนึงแฮะ
เขาบอกว่ารังนกพวกนี้ จะเก็บมาหลังจากที่นกทิ้งรังของมันไปแล้วครับ(นกนางแอ่นอพยพตลอดเวลา)
เพราะถ้าไปเก็บตอนมันยังใช้รังอยู่ นกนางแอ่นจะรู้สึกว่าถูกคุกคาม และปีหน้ามันจะไม่มาทำรังบริเวณนั้นอีก
อันนี้ผมดูมาในสารคดีนะครับ จริงเท็จอย่างไรไม่ฟันธง
ส่วนเคสหูฉลาม ที่คนตัดแต่หูแล้วทิ้งตัวมันลงทะเล น่าจะเพราะเนื้อฉลามมันไม่เป็นที่นิยมมั้งครับ(หูมันก็ไม่อร่อยเหมือนกันแหละ เคยกินที่งานแต่งอาครั้งนึง ยังไงก็เหมือนวุ้นเส้นวะ= =") พวกชาวประมงคงคิดว่ายุ่งยากเสียเวลาถ้าจะกำจัดศพ เลยทิ้งไปซะดื้อๆเลย
อ้าว..เหรอครับ ถ้ามันทิ้งรังมันไปแล้วจริงๆอย่างว่าก็โล่งใจหน่อยเอ่อ...อันนี้ผมก็ไม่แน่ใจนะครับ แต่ผมได้ข้อมูลมากอีกสายนึงแฮะ
เขาบอกว่ารังนกพวกนี้ จะเก็บมาหลังจากที่นกทิ้งรังของมันไปแล้วครับ(นกนางแอ่นอพยพตลอดเวลา)
เพราะถ้าไปเก็บตอนมันยังใช้รังอยู่ นกนางแอ่นจะรู้สึกว่าถูกคุกคาม และปีหน้ามันจะไม่มาทำรังบริเวณนั้นอีก
อันนี้ผมดูมาในสารคดีนะครับ จริงเท็จอย่างไรไม่ฟันธง
ส่วนเคสหูฉลาม ที่คนตัดแต่หูแล้วทิ้งตัวมันลงทะเล น่าจะเพราะเนื้อฉลามมันไม่เป็นที่นิยมมั้งครับ(หูมันก็ไม่อร่อยเหมือนกันแหละ เคยกินที่งานแต่งอาครั้งนึง ยังไงก็เหมือนวุ้นเส้นวะ= =") พวกชาวประมงคงคิดว่ายุ่งยากเสียเวลาถ้าจะกำจัดศพ เลยทิ้งไปซะดื้อๆเลย
แต่ถ้ามันเป็นจริงอย่างที่บทความที่ผมกำลังจะนำเสนอก็น่าสงสารนะครับ ไม่รู้ข้อมูลอันไหนจริงหรือไม่จริงอย่างไร
นี่ครับบทความ ไปหามาจนได้
หลายคนคงเคยได้ยินเรื่องของ อาหารเชิงยาที่เรียกว่า "รังนกนางแอ่น"
เป็นที่รู้กันดีว่านกนางแอ่นนั้น เป็นนกเล็กตัวเท่านกกระจอก
มีความน่ารักตรงที่เมื่อจะวางไข่จะจับคู่สร้างรัง และมีความน่าอัศจรรย์
คือ........จะสร้างรัง โดยการถุยน้ำลาย หรือขากเสลดออกมา
ลองนึกภาพว่าถ้าเราต้องถุยน้ำลาย และขากเสลดจนเป็นห้องให้เราเข้าไปพักได้
มันเหงือกแห้ง และเจ็บคอแค่ไหน
แต่แล้วมนุษย์ตัวใหญ่สมองดี ก็ได้ไปแคะทำลายรังมัน ออกมาเอามาต้มกิน
กล่าวคือกินคราบน้ำลาย เสลดแห้งๆ ของนกเพื่อสุขภาพดี สวย และไม่แก่
(ดังโคตรสะนาที่เราเห็นกัน) แต่จะมีกี่คนที่ทราบว่า รังที่ดี (เพื่อการกิน) คือ
รังที่ทำเสร็จใหม่ๆ เพราะนกยังไม่เข้าไปออกไข่และกกไข่ ดังนั้นจะสะอาด
ไม่มีเศษขนเศษมูล และจะมีซักกี่คนที่จะรู้ว่าในหมู่ผู้นิยมกินรังนก
นั่นยังไม่ใช่รังนกที่ดีที่สุด ..รังนกที่ดีที่สุดคือรังนกเกรดเลือด
รังนกเกรดเลือด จะมีราคาแพงมาก เพราะรังนกนั้นจะเจือสีแดงของเลือดนก
ถามว่าทำไมและคืออะไร
เรื่องโหดได้เริ่มที่ ..เมื่อนกพ่อแม่ รู้ว่าตัวแม่กำลังจะวางไข่ นกจะขากถุย
ออกมาทำรังจนได้รังมา เรียกว่าเมื่อเมียท้องก็รีบสร้างบ้านเพื่อครอบครัว
แต่แล้วก็มีคนมาขโมยรังมันไปหน้าด้านๆ นกเหล่านี้ไม่อาจจะไปเรียกร้อง
ตำรวจมาจับขโมยได้ ได้แต่ก้มหน้าขากถุย ใหม่ทำรังต่อไป
แต่แล้ว...........ชีวิตเศร้ายิ่งกว่าละครหลังข่าวก็เริ่มขึ้น เมื่อโดนคนมาขโมย
บ้านไปอีก ทีนี้...ตัวเมียจะเข้าใกล้กำหนดคลอดขึ้นทุกที
สิ่งเดียวที่พวกนกทำคือ เริ่มต้นถุยน้ำลายสร้างรังใหม่ และมันก็ถูกขโมยรัง
เมื่อทำเสร็จ เป็นอย่างนี้ไปเรื่อยๆ จนแม่นกต้องออกไข่
เวลานี้ครอบครัวนกต้องเร่งคายเสลดออกมาเพื่อทำรัง ลองนึกแทนว่าถ้า
เราต้องขากถุยทั้งวันตลอดสัปดาห์อะไรจะเกิดขึ้น.....นั่นคือเหตุที่ทำให้
เลือดปนออกมากับน้ำลายจนรังกลายเป็นสีแดง
ครอบครัวนก หวังเพียงว่าจะมีรังให้ไข่ที่กำลังจะเกิดอยู่รอมร่อ ได้ฟักเป็นตัว
โดยไม่รู้เลยว่านี่คือรังที่ราคาแพงที่สุด ที่ต้องโดนเก็บเป็นแน่
เมื่อเสร็จสิ้นทั้งพ่อนกแม่นกจะเสียเลือดมาก และเมื่อรังที่แลกด้วยเลือด
นี้โดนเก็บ สิ่งที่ตามมาเสมอ คือ การที่พ่อแม่นก และไข่ในท้องแม่นก
นอนตายอยู่ที่พื้นถ้ำ
ละครหลังข่าวเรื่องนี้ จบอย่าง Happy Ending โดยมนุษย์ที่เป็นตัวเอก
หน้าอ่อนกว่าวัย ส่วนตัวประกอบตายตอนจบ
ลองนึกภาพพ่อแม่ของเราสร้างบ้านให้ครอบครัว ขณะที่แม่กำลังท้องแก่
จะคลอดเรา และมีคนมายึดบ้านเรา พ่อแม่เราต้องไปสร้างบ้านใหม่
แล้วโดนยึดอีก ต้องสร้างใหม่อีก ครั้งแล้วครั้งเล่า จนพ่อกับแม่ที่ท้องแก่
กระอักเลือด แล้วสุดท้ายโดนยึดบ้านอีก จนสุดท้ายตายทั้งครอบครัว
ยังหาละครหลังข่าวเรื่องไหนจะโหดร้ายเท่านี้ไม่ได้เลย
เราห้ามเขากินไม่ได้ เราทำได้แค่นี้ เพื่อสักวันเขาจะสำนึกเมื่อมันสายเกินไปที่จะอนุรักษ์
ข้าแต่แม่พระมารีอา สตรีศักสิทธิ์ผู้หยุดสงครามและการเบียดเบียนในโลก บัดนี้มนุษย์คนบาปนั้นน่าสงสารเกินกว่าสัตว์ร้าย เขาเบียดเบียนสัตว์น้อยไปยังสัตว์ใหญ่ทั้งปวงเพื่อความสุขของตนและไม่เห็นทุกข์ของสัตว์ที่ทำ ข้าแต่แม่พระปลาฉลามแม้เป็นสัตว์ที่ดุร้าย กินเนื้อเป็นอาหาร แต่ถึงกระนั้นมันก็ทำเพื่อการอยู่รอด มันก็รักตัวเองเช่นเดียวกับเรา มนุษย์บางกลุ่มผู้ไร้การเห็นอกเห็นใจ แม้มันจะดุร้ายแค่ไหน เขาก็จับมันมาได้ และเอาครีบที่เปรียบเสมือนแขนขาของมันไปกินไปขาย ปล่อยให้มันตายไปอย่างช้าๆ ถ้าเปรียบกับมษุย์ ก็มิต่างอะไรกับเด็กหนุ่มหญิงสาวที่ถูกตัดแขนขารอความตาย ลูกนี้ห้ามอะไรเขามิได้ ลูกขอวิงวอนแม่พระ โปรดรับวิญญาณของฉลามเหล่านี้ไว้ในพระกรุณาอันหาที่สุดมิได้ของแม่พระ ขอให้วิญญาณฉลามที่ถูกทำร้ายอย่างทรมานจากคนบาปนี้ ให้มีความสุขสักครั้งก่อนเกิดใหม่ในอ้อมกอดของพระองค์ เอเมน
(ตอนมันมีชีวิต มันดำรงด้วยสัญชาติญาณการเอาชีวิตรอด แต่พอมันตาย วิญญาณของมันมีจิตสำนึกเช่นคนเรา)
- reccanohono
- โพสต์: 1045
- ลงทะเบียนเมื่อ: อาทิตย์ ส.ค. 03, 2008 7:06 pm
- ที่อยู่: thailand
โดยส่วนตัวเป็นคนที่ไม่ทานหูฉลาม และรังนกอยู่แล้ว
(เนื่องจากไม่ชอบทานของที่แปลกเกินจากปกติที่มี นอกจาก หมู ไก่ กุ้ง ปลา และปลาหมึก)
แต่พอมาเห็นบทความนี้ เลยเพิ่งทราบว่า ได้มาด้วยการทรมานของปลาขนาดนี้เลยเหรอ
คิดสภาพว่า ถ้าเราโดนตัดแขน ตัดขา แล้วเดินไปไหนไม่ได้ ได้แต่นอนรอความตาย
จะเป็นเช่นไรกันหนอ ถ้าเหล่าคนที่ทานปลาฉลามคิดได้ ก็คงไม่มีอาหารที่คิดว่าเลิศรส
แต่แลกมาด้วยความทรมาน และความโหดร้ายขนาดนี้เป็นแน่
(เนื่องจากไม่ชอบทานของที่แปลกเกินจากปกติที่มี นอกจาก หมู ไก่ กุ้ง ปลา และปลาหมึก)
แต่พอมาเห็นบทความนี้ เลยเพิ่งทราบว่า ได้มาด้วยการทรมานของปลาขนาดนี้เลยเหรอ
คิดสภาพว่า ถ้าเราโดนตัดแขน ตัดขา แล้วเดินไปไหนไม่ได้ ได้แต่นอนรอความตาย
จะเป็นเช่นไรกันหนอ ถ้าเหล่าคนที่ทานปลาฉลามคิดได้ ก็คงไม่มีอาหารที่คิดว่าเลิศรส
แต่แลกมาด้วยความทรมาน และความโหดร้ายขนาดนี้เป็นแน่
-
- โพสต์: 3
- ลงทะเบียนเมื่อ: พฤหัสฯ. เม.ย. 26, 2012 11:12 am
ขอเป็นอีกหนึ่งเสียงที่ไม่สนับสนุนให้กินหูฉลามกันนะครับ
- ~@Little lamb@~
- Defender of lawS
- โพสต์: 9396
- ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ม.ค. 17, 2005 3:00 pm
- ติดต่อ:
ไม่ตาย และ ไม่สั่งมากิน
ฝากนี่อีก 1 ครับ
PUPPY SLEEP WITH THE MOTHER THE HORN SAWN.
GEAPRESS - New episode of painful a...gainst poaching of rhinos in South Africa. This time a female to be killed in the region of Zululand. E 'was pushed off a cliff to jump from the pack of dogs of poachers. A phenomenon unknown to most but fast growing. The female was with her cub, which has apparently spent an entire day to reach the base of the cliff. He found his mother dead, with the horn and some killed. They found, virtually immobile, the South African police.
And to think that the government of that country has recently engaged the army for anti-poaching surveillance. Ben 333 rhinos were killed last year, almost three times more than in 2009. The army's presence is particularly active on the border of Zimbabwe and Mozambique. Lock Up is the famous Kruger Park.
Yet the race to dust rhino, which has become more expensive than cocaine, seems to know no end. Only in recent weeks, two white rhinos were killed in the Masai Mara Reserve, Kenya. A trend in large-caliber gunshots and chainsaws to the big horns, continues to rise. This is why the Kenyan authorities have taken a drastic solution. A 16 year old male rhino, apparently already been spotted by poachers, was anesthetized and transferred to Nairobi National Park. He will join 11 other rhinos so already partly transferred from other areas of the African country.
The aggressiveness of the poachers now seems out of control. This past April, in Zimbabwe, did not hesitate to shoot a black rhino which, to protect it, the local authorities had already sawed the horn. Poachers have centered (see article GeaPress) and cut the remaining stumps. The awful thing was that the animal, believed dead, was actually still alive, despite the tremendous hurt and several bullets holes. The rhino horn is none other than keratin, which is the same protein that forms hair and nails (including human). For a stupid belief that gives the horns unlikely healing properties, are killed each year hundreds of rhinos.
PUPPY SLEEP WITH THE MOTHER THE HORN SAWN.
GEAPRESS - New episode of painful a...gainst poaching of rhinos in South Africa. This time a female to be killed in the region of Zululand. E 'was pushed off a cliff to jump from the pack of dogs of poachers. A phenomenon unknown to most but fast growing. The female was with her cub, which has apparently spent an entire day to reach the base of the cliff. He found his mother dead, with the horn and some killed. They found, virtually immobile, the South African police.
And to think that the government of that country has recently engaged the army for anti-poaching surveillance. Ben 333 rhinos were killed last year, almost three times more than in 2009. The army's presence is particularly active on the border of Zimbabwe and Mozambique. Lock Up is the famous Kruger Park.
Yet the race to dust rhino, which has become more expensive than cocaine, seems to know no end. Only in recent weeks, two white rhinos were killed in the Masai Mara Reserve, Kenya. A trend in large-caliber gunshots and chainsaws to the big horns, continues to rise. This is why the Kenyan authorities have taken a drastic solution. A 16 year old male rhino, apparently already been spotted by poachers, was anesthetized and transferred to Nairobi National Park. He will join 11 other rhinos so already partly transferred from other areas of the African country.
The aggressiveness of the poachers now seems out of control. This past April, in Zimbabwe, did not hesitate to shoot a black rhino which, to protect it, the local authorities had already sawed the horn. Poachers have centered (see article GeaPress) and cut the remaining stumps. The awful thing was that the animal, believed dead, was actually still alive, despite the tremendous hurt and several bullets holes. The rhino horn is none other than keratin, which is the same protein that forms hair and nails (including human). For a stupid belief that gives the horns unlikely healing properties, are killed each year hundreds of rhinos.
-
- โพสต์: 690
- ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ มี.ค. 09, 2009 12:00 pm
ขอต่อประเด็นจากเรื่องรังนกนะครับ คือสีแดงที่เห็นมัน"ไม่ใช่เลือดของนก"อย่างที่ใครเข้าใจกันนะครับ เวลานกพวกนี้จะสร้างรังเนี่ยก็จะสร้างรังไว้ติดกับผนังถ้ำ รังที่สร้างออกมาใหม่แรกๆจะมีสีขาว แต่พอนานเข้าจะเปลี่ยนเป็นสีแดง ซึ่งสีแดงนี้เกิดจากธาตุชนิดหนึ่ง(จำไม่ได้แล้วว่าเป็นธาตุอะไร)จากผนังถ้ำได้ซึมเข้าไปในรังนกที่เกาะเป็นเวลานาน หาใช่้เลือดนกอย่างที่คนส่วนใหญ่เข้าใจกัน
นอกเรื่องนิดนึงว่า ความจริงของปลาฉลามในประเทศไทยไม่กินคนนะ จริงๆ ไม่เคยมีข่าวฉลามทำร้ายคนในไทยเลย แต่ว่าเคยมีภาพยนตร์เรื่อง เดอะ บีช นำฉากทะเลประเทศไทยมีฉลามทำร้ายคนจนตาย ที่จริงฉลามกินคนไม่มีในไทย มีแต่ฉลามพันธุ์เล็กๆ ในทางกลับกันฉลามพวกนี้ในไทยก็ถูกนำไปทำอาหาร
ง่ายๆ ฉลามในไทยไม่กินคน แต่คนไทยดันกินฉลามซะนี่
ง่ายๆ ฉลามในไทยไม่กินคน แต่คนไทยดันกินฉลามซะนี่
-
- โพสต์: 719
- ลงทะเบียนเมื่อ: อังคาร ม.ค. 08, 2008 5:47 am
- ที่อยู่: กาญจนบุรี
ไปกินหูมันมากๆ ระวังซักวันมันจะพัฒนาตัวเองมาเป็นแบบนี้นะครับ(ฮา)