แสวงบุญ3 วัน 3 วัด ที่สกลนคร 16-18ธันวาคม 2011
โพสต์แล้ว: อังคาร ธ.ค. 20, 2011 7:07 pm
หากจะเล่าที่มาที่ไปของการแสวงบุญดังกล่าว
ก็คือ เมื่อวันที่13ที่ผ่านมา
ได้พบพี่Little Lambกับพี่Billabong ที่โบสถ์แม่พระฟาติมา
ก็เปรยๆกับพี่ทั้ง2ไว้ว่าอยากไปสกลนคร
เช้าวันต่อมา หม่าม้าของพี่ๆทั้งสองก็โทรมาบอกว่า
ทัวร์ที่หม่าม้าจะไปสกลนคร มีที่ว่าง1ที่พอดีเลย
ผมก็เลยตอบรับคำไป
________________
เราเริ่มเดินทางในคืนพฤหัสที่15
เวลาประมาณ2ทุ่ม ที่วัดเซนต์หลุยส์ สาทร
ฆราวาสกลุ่มนี้ชื่อกลุ่มธิดาศีลมหาสนิท นำโดย
คุณทินกร กิจเจริญ (ฟังประสบการณ์ที่มาของกลุ่มธิดาศีลมหาสนิทได้ที่
http://www.thaicatholicmission.com/main ... -tinnakorn)
เช้าวันศุกร์ เราก็มาถึงสักการะสถานสองคอน
ถ้าผู้ใดยังไม่ทราบประวัติก็เชิญดูนี่ครับ
ซึ่งกำแพงรอบโบสถ์ฝั่งซ้าย
จะเป็นรูปประกอบเหตุการณ์การเป็นมรณสักขี
ขนานกับฝั่งขวา เป็นรูปมรรคากางเขนของพระเยซู
เราพักกันที่นี่
คนมาแสวงบุญที่นี่เยอะมากครับ เมื่อที่พักไม่พอ
หลายคนก็ขนเตนต์มาตั้งกันตามพื้นที่ว่าง
เวลาบ่ายสามโมงของวันศุกร์ก่อนฉลอง
จะเป็นธรรมเนียมของที่นี่ ที่จะทำพิธีอวยพรศีลมหาสนิท
จากสักการะสถาน มาที่่ป่าศักดิ์สิทธิ์(ที่ๆบรรดาบุญราศีเสียชีวิต)
แล้วตอนค่ำเราก็มีมิสซาถวายดอกไม้แด่แม่พระ
บรรยากาศยามค่ำคืน
หลังจากเลิกมิสซาแล้วเจอน้องๆในบอร์ด wisit และlovejesus(cap)และเพื่อนๆของน้องเขา
กำลังคุยกับพ่อต๋อย(พรทวี โสรินทร์)
คุณพ่อก็ใจกว้างชวนพวกเรามากินส้มตำไก่ย่างมือดึกด้วยกัน
หลังจากทานข้าวเสร็จ เราก็มาภาวนากันต่อที่ป่าศักดิ์สิทธิ์
ก่อนแยกย้ายไปที่พัก
6โมงเช้าเราก็มาร่วมมิสซาโดยพ่อต๋อย
เป็นสำหรับบรรดาผู้ทำงานในงานฉลองวัด
คนก็เยอะมากทีเดียว
แวะไปทานมื้อเช้าที่โรงอาหาร
ปรากฎว่าามีข้าวต้มหมูจากหมูบ้านเปโตร สามพรานมาด้วย
หลังจากทานข้าวเสร็จ และกำลังเดินไปเตรียมร่วมมิสซาที่สักการะสถาน
ผมก็พี่คนหนึ่งถ่ายรูปที่ท้องฟ้า
พอหันไปดู ก็เป็นหมู่เมฆที่มีมาตั้งแต่วันศุกร์ เคลื่อนตัวให้แสงแดดปรากฎ
เวลา10โมงก็เป็นมิสซาโดยมี พระคุณเจ้าชูศักดิ์เป็นประธาน
หลังมิสซามีการจูบพระธาตุของ7บุญราศี ทีป่าศักดิ์สิทธิ์
หลังจากที่พิธีที่สองคอนเสร็จแล้ว
คณะทัวร์เราก็ขึ้นรถมา อารามกาปูชิน ราชินีแห่งสันติภาพ สกลนคร
ร่วมมิสซาอุทิศให้คุณวันทนี กิจเจริญ (เจ๊หนี)
ภรรยาของคุณทินกร ซึ่งพระเจ้าได้เรียกกลับสู่อ้อมพระหัตถ์มาแล้ว20วัน
(หลังตู้ศีลไม่ใช่กระจกนะครับ
แต่เป็นอีกห้องหนึ่ง สำหรับไว้ให้ชีลับซึ่งปฎิญาณตนปลีกตัวออกจากสังคมภายนอกมาร่วมิสซา
จะเห็นได้จากไฟในห้องตรงข้ามยังปิดอยู่ เพราะซิสเตอร์มาร่วมมิสซาที่ห้องเล็กๆข้างแทน)
หลังจากร่วมมิสซาเสร็จ เราได้พูดคุยขอคำภาวนาจากซิสเตอร์
จะเห็นได้นะครับว่า แม้ซิสเตอร์จะปลีกวิเวก มีกรงขวางกั้น
แต่ซิสเตอร์ก็ยิ้มแย้มมีความสุข ที่ได้ภาวนากับพระเจ้า อธิษฐานเผื่อคนภายนอก
หลังจากนั้นเราก็มาพักที่โรงแรมMj
เช้าวันอาทิตย์เราได้มาร่วมมิสซาที่ วัดพระคริสตราชา ช้างมิ่ง
จะเห็นได้ว่าเป็นวัดชนบท แต่ก็มีภาพวาดศิลปะต่างๆที่วาดเลียนแบบสากลนิยม ไว้อย่างสวยงาม
ผมถ่ายคร่าวๆไว้แค่นี้นะครับ หากติดใจขอเชิญชวนให้ไปชมเอง^^
เพราะว่านอกจากภาพข้างวัดยังสวยงามแล้ว
บรรดาฆราวาสวัดนี้ยังน่ารักด้วยครับ เตรียมของว่างไว้ให้พวกเราทานมากมาย
ไข่ปิ้ง ที่ทำโดยการเจาะไข่ดิบมากวนผสมกับซอสปรุงรส พริกไทย แล้วเทกลับเขาไปในเปลือกไข่แล้วนึ่งตามด้วยปิ้ง
มีเฉพาะที่สกลนครนะครับ
แถมยังให้โคมดาวกับแต่ละครอบครัวของคณะทัวร์ด้วย
โคมดาวของผม
แล้วเราก็กลับมาสู่กรุงเทพ
______________________
รู้สึกอยากขอบพระคุณพระเจ้ามากมายครับ
สำหรับ
-การเดินทาง
-การพบปะเพื่อนพี่น้อง
-ความศรัทธาของบรรดาผู้มาแสวงบุญที่สองคอน
(ผมเจอสัตบุรุษจากชุมพร และโคราช)
บรรดาผู้ที่ทำงานในวันฉลอง ก็ยังอุตส่าห์ตื่นแต่เช้ามาร่วมมิสซาตั้งแต่6โมง
-รอยยิ้ม อัทธยาศัยของซิสเตอร์กาปูชิน ผู้ปลีกตัวออกจากโลก
-การแบ่งปันของบรรดาสัตบุรุษที่ช้างมิ่ง ที่แม้เขาจะเป็นเพียงชาวบ้านทั่วไป
กลับแบ่งปันให้เรามากมาย
ตั้งใจว่าจะนำประสบการณ์ที่ได้มาเจริญชีวิตครับ
(และเป็นไปได้จะกลับมาแสวงบุญที่นี่อีกบ่อยๆ
)
ขอบคุณทุกท่านที่เข้ามาอ่านครับ
ก็คือ เมื่อวันที่13ที่ผ่านมา
ได้พบพี่Little Lambกับพี่Billabong ที่โบสถ์แม่พระฟาติมา
ก็เปรยๆกับพี่ทั้ง2ไว้ว่าอยากไปสกลนคร
เช้าวันต่อมา หม่าม้าของพี่ๆทั้งสองก็โทรมาบอกว่า
ทัวร์ที่หม่าม้าจะไปสกลนคร มีที่ว่าง1ที่พอดีเลย
ผมก็เลยตอบรับคำไป
________________
เราเริ่มเดินทางในคืนพฤหัสที่15
เวลาประมาณ2ทุ่ม ที่วัดเซนต์หลุยส์ สาทร
ฆราวาสกลุ่มนี้ชื่อกลุ่มธิดาศีลมหาสนิท นำโดย
คุณทินกร กิจเจริญ (ฟังประสบการณ์ที่มาของกลุ่มธิดาศีลมหาสนิทได้ที่
http://www.thaicatholicmission.com/main ... -tinnakorn)
เช้าวันศุกร์ เราก็มาถึงสักการะสถานสองคอน
ถ้าผู้ใดยังไม่ทราบประวัติก็เชิญดูนี่ครับ
ซึ่งกำแพงรอบโบสถ์ฝั่งซ้าย
จะเป็นรูปประกอบเหตุการณ์การเป็นมรณสักขี
ขนานกับฝั่งขวา เป็นรูปมรรคากางเขนของพระเยซู
เราพักกันที่นี่
คนมาแสวงบุญที่นี่เยอะมากครับ เมื่อที่พักไม่พอ
หลายคนก็ขนเตนต์มาตั้งกันตามพื้นที่ว่าง
เวลาบ่ายสามโมงของวันศุกร์ก่อนฉลอง
จะเป็นธรรมเนียมของที่นี่ ที่จะทำพิธีอวยพรศีลมหาสนิท
จากสักการะสถาน มาที่่ป่าศักดิ์สิทธิ์(ที่ๆบรรดาบุญราศีเสียชีวิต)
แล้วตอนค่ำเราก็มีมิสซาถวายดอกไม้แด่แม่พระ
บรรยากาศยามค่ำคืน
หลังจากเลิกมิสซาแล้วเจอน้องๆในบอร์ด wisit และlovejesus(cap)และเพื่อนๆของน้องเขา
กำลังคุยกับพ่อต๋อย(พรทวี โสรินทร์)
คุณพ่อก็ใจกว้างชวนพวกเรามากินส้มตำไก่ย่างมือดึกด้วยกัน
หลังจากทานข้าวเสร็จ เราก็มาภาวนากันต่อที่ป่าศักดิ์สิทธิ์
ก่อนแยกย้ายไปที่พัก
6โมงเช้าเราก็มาร่วมมิสซาโดยพ่อต๋อย
เป็นสำหรับบรรดาผู้ทำงานในงานฉลองวัด
คนก็เยอะมากทีเดียว
แวะไปทานมื้อเช้าที่โรงอาหาร
ปรากฎว่าามีข้าวต้มหมูจากหมูบ้านเปโตร สามพรานมาด้วย
หลังจากทานข้าวเสร็จ และกำลังเดินไปเตรียมร่วมมิสซาที่สักการะสถาน
ผมก็พี่คนหนึ่งถ่ายรูปที่ท้องฟ้า
พอหันไปดู ก็เป็นหมู่เมฆที่มีมาตั้งแต่วันศุกร์ เคลื่อนตัวให้แสงแดดปรากฎ
เวลา10โมงก็เป็นมิสซาโดยมี พระคุณเจ้าชูศักดิ์เป็นประธาน
หลังมิสซามีการจูบพระธาตุของ7บุญราศี ทีป่าศักดิ์สิทธิ์
หลังจากที่พิธีที่สองคอนเสร็จแล้ว
คณะทัวร์เราก็ขึ้นรถมา อารามกาปูชิน ราชินีแห่งสันติภาพ สกลนคร
ร่วมมิสซาอุทิศให้คุณวันทนี กิจเจริญ (เจ๊หนี)
ภรรยาของคุณทินกร ซึ่งพระเจ้าได้เรียกกลับสู่อ้อมพระหัตถ์มาแล้ว20วัน
(หลังตู้ศีลไม่ใช่กระจกนะครับ
แต่เป็นอีกห้องหนึ่ง สำหรับไว้ให้ชีลับซึ่งปฎิญาณตนปลีกตัวออกจากสังคมภายนอกมาร่วมิสซา
จะเห็นได้จากไฟในห้องตรงข้ามยังปิดอยู่ เพราะซิสเตอร์มาร่วมมิสซาที่ห้องเล็กๆข้างแทน)
หลังจากร่วมมิสซาเสร็จ เราได้พูดคุยขอคำภาวนาจากซิสเตอร์
จะเห็นได้นะครับว่า แม้ซิสเตอร์จะปลีกวิเวก มีกรงขวางกั้น
แต่ซิสเตอร์ก็ยิ้มแย้มมีความสุข ที่ได้ภาวนากับพระเจ้า อธิษฐานเผื่อคนภายนอก
หลังจากนั้นเราก็มาพักที่โรงแรมMj
เช้าวันอาทิตย์เราได้มาร่วมมิสซาที่ วัดพระคริสตราชา ช้างมิ่ง
จะเห็นได้ว่าเป็นวัดชนบท แต่ก็มีภาพวาดศิลปะต่างๆที่วาดเลียนแบบสากลนิยม ไว้อย่างสวยงาม
ผมถ่ายคร่าวๆไว้แค่นี้นะครับ หากติดใจขอเชิญชวนให้ไปชมเอง^^
เพราะว่านอกจากภาพข้างวัดยังสวยงามแล้ว
บรรดาฆราวาสวัดนี้ยังน่ารักด้วยครับ เตรียมของว่างไว้ให้พวกเราทานมากมาย
ไข่ปิ้ง ที่ทำโดยการเจาะไข่ดิบมากวนผสมกับซอสปรุงรส พริกไทย แล้วเทกลับเขาไปในเปลือกไข่แล้วนึ่งตามด้วยปิ้ง
มีเฉพาะที่สกลนครนะครับ
แถมยังให้โคมดาวกับแต่ละครอบครัวของคณะทัวร์ด้วย
โคมดาวของผม
แล้วเราก็กลับมาสู่กรุงเทพ
______________________
รู้สึกอยากขอบพระคุณพระเจ้ามากมายครับ
สำหรับ
-การเดินทาง
-การพบปะเพื่อนพี่น้อง
-ความศรัทธาของบรรดาผู้มาแสวงบุญที่สองคอน
(ผมเจอสัตบุรุษจากชุมพร และโคราช)
บรรดาผู้ที่ทำงานในวันฉลอง ก็ยังอุตส่าห์ตื่นแต่เช้ามาร่วมมิสซาตั้งแต่6โมง
-รอยยิ้ม อัทธยาศัยของซิสเตอร์กาปูชิน ผู้ปลีกตัวออกจากโลก
-การแบ่งปันของบรรดาสัตบุรุษที่ช้างมิ่ง ที่แม้เขาจะเป็นเพียงชาวบ้านทั่วไป
กลับแบ่งปันให้เรามากมาย
ตั้งใจว่าจะนำประสบการณ์ที่ได้มาเจริญชีวิตครับ
(และเป็นไปได้จะกลับมาแสวงบุญที่นี่อีกบ่อยๆ
)ขอบคุณทุกท่านที่เข้ามาอ่านครับ
