ท่านมองการอัศจรรย์หรือเรื่องเหนือธรรมชาติอย่างไร

ใครมาใหม่เชิญทางนี้ก่อน ทักทาย ทดลองโพส
ตอบกลับโพส
ภาพประจำตัวสมาชิก
Holy
Defender of lawS
Defender of lawS
โพสต์: 10011
ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ม.ค. 17, 2005 3:06 pm

อังคาร ม.ค. 24, 2012 2:09 am

เราพบว่าในพระคัมภีร์ พระเยซูเจ้าทำสิ่งอัศจรรย์มากมายหลายครั้ง

แต่ในยุคปัจจุบันที่มนุษย์นับถือศาสนาวิทยาศาสตร์ การอัศจรรย์ถูกมองว่าคือเรื่องงี่เง่า งมงาย หลอกลวง จนถึงขนาดพระสงฆ์บางท่านเองเมื่อเทศน์ในมิสซาก็พยายามตีความการอัศจรรย์ในพระคัมภีร์ของพระเยซูไปในทำนองว่าเป็นเพียงเรื่องเปรียบเทียบในเรื่องศีลธรรมคำสอน ไม่ใช่เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจริงตามข้อความที่นักบุญทั้ง4ได้เล่า

เช่นการทวีขนมปัง ก็เทศน์ว่า เป็นเพราะประชาชนทุกคนซ่อนอาหารไว้ พอพระเยซูเริ่มแบ่งอาหาร คนเลยเริ่มเอาอาหารที่ซ่อนไว้ออกมาจนคน5000คน แบ่งคนอื่นด้วยกินกันได้อิ่ม ไม่ใช่เพราะพระเยซูเพิ่มจำนวนมันในฐานะพระเจ้าที่สามารถสร้างได้ทุกอย่าง

อยากเชิญชวนทุกท่านแบ่งปันกันในหัวข้อนี้ครับ
ภาพประจำตัวสมาชิก
Zion
~@
โพสต์: 3777
ลงทะเบียนเมื่อ: อังคาร ม.ค. 18, 2005 8:37 pm
ติดต่อ:

อังคาร ม.ค. 24, 2012 8:59 am

เรื่องเหนือธรรมชาติ
ไม่ใช่เรื่องผิดธรรมชาติ/เป็นไปไม่ได้

ชื่อก็บอกอยู่แล้วว่า "เหนือ"ธรรมชาติ
(SuperNatural)

ถ้าเราบอกว่าการทวีขนมปังสมัยพระเยซูเจ้า ไม่ใช่การทวีขนมปังจริง
แล้วเราจะอธิบายอัศจรรย์อื่นๆที่ยังคงเกิดขึ้นในพระศาสนจักร
หลังจากนั้นจนถึงปัจจุบัน
ว่าอย่างไร?

ถ้ามีคนถามว่า ทำไมถึงเป็นไปได้?
ผมก็จะยืนยันความเชื่อครับว่า "พระเจ้าทรงเป็นปฐมของทุกสิ่ง"

สิ่งที่พระองค์ทำได้ย่อมเหนือกว่า วิทยาการต่างๆที่มนุษย์คิดค้นทั้งในอดีต ปัจจุบัน และอนาคต
(เช่นเดียวกับ การปฎิสนธิเดชะพระจิตเจ้าผ่านพระนางพรหมจารีย์
ก็เป็นเหตุการณ์ที่สูงส่ง และลึกล้ำ ยิ่งกว่าการผสมเทียมใดๆที่วิทยาศาสตร์ได้คิดขึ้น)
แก้ไขล่าสุดโดย Zion เมื่อ อังคาร ม.ค. 24, 2012 9:44 pm, แก้ไขไปแล้ว 1 ครั้ง.
Batholomew
~@
โพสต์: 12724
ลงทะเบียนเมื่อ: อังคาร ม.ค. 18, 2005 2:28 pm
ที่อยู่: Thailand

อังคาร ม.ค. 24, 2012 2:14 pm

ผมมองว่า ไม่มีสิ่งใดที่พระเจ้าจะทรงกระทำไม่ได้
การเหนือธรรมชาติ ก็คือ เหนือธรรมชาติมนุษย์
มนุษย์ไม่มีทางเข้าใจและอธิบายได้ แม้ว่า จะพยายามพึ่งวิทยาศาสตร์ที่มนุษย์คิดขึ้นเองในการอธิบาย
ก็จะหาคำตอบไม่ได้ในบางเรื่องเช่นกัน

"วิถีของพระเจ้าสูงกว่ามนุษย์" เราไม่มีทางเข้าใจอะไร 100 เปอร์เซ็นต์ครับ
ภาพประจำตัวสมาชิก
Andreas
~@
โพสต์: 3131
ลงทะเบียนเมื่อ: อังคาร ม.ค. 18, 2005 7:47 am
ที่อยู่: Bangkok
ติดต่อ:

อังคาร ม.ค. 24, 2012 3:40 pm

ผมคิดว่า หากมีพระสงฆ์ที่พยายามจะอธิบายอัศจรรย์ที่พระเยซูเจ้าทรงกระทำให้ออกมาในแนวอื่น ก็คงมีแค่เรื่องการทวีขนมปังเรื่องเดียว ซึ่งอาจจะอธิบายในแนวสังคมวิทยา และจิตวิทยาได้ ที่ว่าพอคนเห็นการแบ่งปัน ทุกคนที่มีอาหารเก็บไว้กับตัวเอง ก็เริ่มนำออกมาแบ่งปันจนเพียงพอแก่ทุกคน แต่อัศจรรย์อื่น ๆ ก็ยังมีอีกมากที่อธิบายไม่ได้ เช่น การปลุกคนตายให้กลับคืนชีพ การเปลี่ยนน้ำให้เป็นเหล้าองุ่น การเดินบนทะเล การรักษาคนตาบอด การรักษาคนง่อย การรักษาคนโรคเรื้อน ฯลฯ สิ่งเหล่านี้เกินความสามารถของมนุษย์ แต่บางครั้งพระเจ้าทรงสำแดงการอัศจรรย์นี้ผ่านทางบรรดาผู้ศักดิ์สิทธิ์ด้วย

ผมเคยอ่านประวัตินักบุญบางองค์ ท่านก็สามารถทวีจำนวนอาหารให้มากขึ้นได้เหมือนกัน เช่น นักบุญยอห์นบอสโก ท่านต้องเลี้ยงดูเด็กจำนวนมาก บางครั้งอาหารมีไม่พอ แต่ก็สามารถแจกให้เด็กทุกคนทานได้จนอิ่มแล้วยังมีเหลืออีกด้วย

พระศาสนจักรในปัจจุบันไม่ได้ปฏิเสธอัศจรรย์ แต่พระศาสนจักรยังต้องการอัศจรรย์ เป็นต้น พระศาสนจักรในประเทศไทย เรามีบุญราศีถึง 8 องค์ เราต้องการอัศจรรย์แท้จริงเพื่อที่พระศาสนจักรจะได้แต่งตั้งท่านเหล่านี้ให้เป็นนักบุญ แล้วเราก็ยังมีข้ารับใช้พระเจ้าอีก 1 องค์เป็นพระสงฆ์ซาเลเซียนชาวอิตาเลียน ท่านทำงานและตายในเมืองไทย ท่านเหล่านี้จำเป็นต้องมีอัศจรรย์ เราจึงต้องวอนขอพระพรจากพระเจ้าผ่านทางการวอนขอของท่านเหล่านี้ คงไม่มีพระสงฆ์ไทยคนไหนที่กล้าพูดว่าไม่ต้องการอัศจรรย์ เพราะถ้าไม่มีอัศจรรย์ก็ไม่มีนักบุญที่เป็นคนไทย
แก้ไขล่าสุดโดย Andreas เมื่อ พฤหัสฯ. ม.ค. 26, 2012 8:56 pm, แก้ไขไปแล้ว 1 ครั้ง.
ภาพประจำตัวสมาชิก
~@Little lamb@~
Defender of lawS
Defender of lawS
โพสต์: 9396
ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ม.ค. 17, 2005 3:00 pm
ติดต่อ:

อังคาร ม.ค. 24, 2012 11:09 pm

คิดว่าทำไมหลาย ๆคนถึงคิดว่า อัศจรรย์มีแต่ในอดีต
คิดว่าทำไมหลาย ๆคนถึงคิดว่า อัศจรรย์ต้องเกิดกับนักบุญเท่านั้น
คิดว่าทำไมหลาย ๆคนถึงคิดว่า เป็นเรื่องต้องห้าม ห้ามพูดหรือเอ่ยถึง

ในเมื่อความเชื่อของศาสนาเรา ก็ทำอัศจรรย์มาตั้งแต่สร้างโลก จนตลอดทุกยุคทุกสมัย
แม้แต่การแต่งตั้งนักบุญ ก็ยังต้องมีอัศจรรย์ยืนยัน
แล้วทำถึงต้องห้าม ต้องหวาดกลัว กลายเป็นว่า
เราต้องหวาดกลัวเวลาเกิดอัศจรรย์กับเรา ต้องห้ามเล่า ต้องเก็บไว้กับตัว
ต้องอย่าทำตัวโดดเด่น เดี่ยวจะโดนเพ่งเล็ง ทำไมจุดไฟแล้วต้องเอาไปซ้อนในถัง

:s015:
s.gabriel
โพสต์: 1011
ลงทะเบียนเมื่อ: ศุกร์ ก.พ. 27, 2009 2:21 pm

พฤหัสฯ. ม.ค. 26, 2012 2:37 pm

ผมคิดว่าเรื่องราวต่างๆในพระคัมภีร์ที่จดบันทึกเรื่องราวที่เหนือธรรมชาติของพระเยซูเจ้า เป็นเรื่องจริงครับ ไม่มีสิ่งไหนที่พระเจ้ากระทำไม่ได้ ถ้าเราคิดแบบมนุษย์ก็อยากที่จะเป็นไปได้
แต่กับพระเจ้าไม่มีสิ่งไหนที่เป็นไปไม่ได้ ส่วนคนที่ไม่เชื่อ พูดยังไงก็ไม่เชื่อครับ ในยุคนี้เรื่องอัศจรรย์ก็ยังเกิดขึ้นอยู่เสมอ
พระเจ้าสถิตย์กับเราเสมอ
~@
โพสต์: 2546
ลงทะเบียนเมื่อ: อังคาร ม.ค. 18, 2005 10:54 pm

ศุกร์ ม.ค. 27, 2012 6:09 am

มองว่าเป็นสิ่งที่เกินสติปัญญาของมนุษย์จะเข้าใจ และเมื่อมนุษย์ที่เต็มไปด้วยความจองหองไม่เข้าใจก็จะรับไม่ได้ ก็เลยใช้ความรู้ที่มีเท่าหางอึ่งของตัวเองตัดสินว่าไม่จริง ทั้งๆที่มนุษย์รู้จักธรรมชาติของสากลจักรวาลไม่ถึง 1% ด้วยซ้ำ
ภาพประจำตัวสมาชิก
Holy
Defender of lawS
Defender of lawS
โพสต์: 10011
ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ม.ค. 17, 2005 3:06 pm

เสาร์ ม.ค. 28, 2012 12:41 am

ที่น่าสนใจคือ อัศจรรย์มักเกิดกับผู้เชื่อ หรืออีกนัยคือ ความเชื่อคือประตูสู่การมาของอัศจรรย์จากสวรรค์ คนที่ไม่เชื่อโดยมากเลยยิ่งไม่เจอและยิ่งไม่(กล้า)เชื่อต่อไป ส่วนคนที่เชื่อเจอไปแล้วก็ไม่รู้จะทำให้คนไม่เชื่อเจอบ้างได้อย่างไร
TVE
โพสต์: 120
ลงทะเบียนเมื่อ: พุธ เม.ย. 15, 2009 9:09 am

เสาร์ ม.ค. 28, 2012 11:30 pm

ผมเชื่อว่าข้อความในพระคัมภีร์เป็นเรื่องจิง ไม่มีอะไรที่พระเจ้าทำไม่ได้

อยากให้ทุกท่านเพิ่มพูนประจักษ์พยานส่วนตัว ในพระคริสต์ ผ่านการอ่านพระคัมภีร์ สวดอ้อนวอน เข้าโบสถ์ รับใช้งานของพระเจ้าและพี่น้อง

ประจักษ์พยานส่วนตัว จะทวี ความเชื่อ ความศรัทธา ของเรา

:s002:
ตอบกลับโพส