ทารก รอดปาฏิหาริย์ หลังคลอดก่อนกำหนด 5เดือนครึ่ง
โพสต์แล้ว: จันทร์ เม.ย. 09, 2012 8:57 am
ทารกรอดปาฏิหาริย์ แม่ท้องอ่อนน้ำคร่ำแตก แรกคลอดหนักไม่ถึงโล
ทารกผู้ดีรอดปาฏิหาริย์ หลังแม่น้ำคร่ำแตกขณะอายุครรภ์เพียง 22 สัปดาห์ คลอดมาตัวเล็กจิ๋วเท่าฝ่ามือ หนักแค่ 0.45 กิโลกรัม แต่ปัจจุบันอายุ 6 เดือนแล้วและแข็งแรงดีไม่มีโรคแทรกซ้อน...

สำนักข่าวต่างประเทศ รายงานเมื่อ 3 เม.ย. ว่า รัธ แนช วัย 34 ปี จากประเทศอังกฤษ ประสบเรื่องราวร้ายแรงในชีวิตระหว่างตั้งครรภ์ลูกแฝด โดยถุงน้ำคร่ำแตกหลังอุ้มท้องได้เพียงแค่ 22 สัปดาห์ ทำให้เธอต้องสูญเสียลูกสาว แต่ลูกชายตัวน้อยรอดราวปาฏิหาริย์ แม้น้ำหนักตัวแรกคลอดจะหนักไม่ถึง 1 ปอนด์ ราว 0.45 กิโลกรัมก็ตาม
ทั้งนี้ คุณแม่คนดังกล่าว นอนดูอาการที่โรงพยาบาลต่ออีกราว 3 สัปดาห์ ก่อนให้กำเนิดบุตรชายตัวเล็กจิ๋วเท่าฝ่ามือ และอีก 1 สัปดาห์ต่อมาได้ย้ายมาที่โรงพยาบาลควีนอเล็กซานเดอร์ ในเมืองพอร์ทสมัธ เพื่อให้ทีมผู้เชี่ยวชาญด้านการกู้ชีวิตทารกแรกเกิด (neo-natal) ได้ดูแลใกล้ชิด โดยหนูน้อยต้องใช้เครื่องช่วยหายใจ และรับการผ่าตัดบางประการ อาทิ ซ่อมแซมหัวใจรั่ว และตรวจสายตา เพราะกรณีที่เกิดขึ้นอาจส่งผลให้หนูน้อยตาบอดได้

อย่างไรก็ดี ขณะนี้หนูน้อยอายุ 6 เดือนแล้ว และมีร่างกายแข็งแรงสมบูรณ์ดี ไม่มีอาการผิดปกติใดๆ แทรกซ้อน แม้ตอนแรกจะเชื่อว่าโอกาสรอดเท่ากับ 0 เปอร์เซ็นต์ก็ตาม.
โดย ทีมข่าวไทยรัฐออนไลน์
3 เมษายน 2555, 05:00 น.
ภาพจาก
http://www.dailymail.co.uk/health/artic ... weeks.html
ทารกผู้ดีรอดปาฏิหาริย์ หลังแม่น้ำคร่ำแตกขณะอายุครรภ์เพียง 22 สัปดาห์ คลอดมาตัวเล็กจิ๋วเท่าฝ่ามือ หนักแค่ 0.45 กิโลกรัม แต่ปัจจุบันอายุ 6 เดือนแล้วและแข็งแรงดีไม่มีโรคแทรกซ้อน...

สำนักข่าวต่างประเทศ รายงานเมื่อ 3 เม.ย. ว่า รัธ แนช วัย 34 ปี จากประเทศอังกฤษ ประสบเรื่องราวร้ายแรงในชีวิตระหว่างตั้งครรภ์ลูกแฝด โดยถุงน้ำคร่ำแตกหลังอุ้มท้องได้เพียงแค่ 22 สัปดาห์ ทำให้เธอต้องสูญเสียลูกสาว แต่ลูกชายตัวน้อยรอดราวปาฏิหาริย์ แม้น้ำหนักตัวแรกคลอดจะหนักไม่ถึง 1 ปอนด์ ราว 0.45 กิโลกรัมก็ตาม
ทั้งนี้ คุณแม่คนดังกล่าว นอนดูอาการที่โรงพยาบาลต่ออีกราว 3 สัปดาห์ ก่อนให้กำเนิดบุตรชายตัวเล็กจิ๋วเท่าฝ่ามือ และอีก 1 สัปดาห์ต่อมาได้ย้ายมาที่โรงพยาบาลควีนอเล็กซานเดอร์ ในเมืองพอร์ทสมัธ เพื่อให้ทีมผู้เชี่ยวชาญด้านการกู้ชีวิตทารกแรกเกิด (neo-natal) ได้ดูแลใกล้ชิด โดยหนูน้อยต้องใช้เครื่องช่วยหายใจ และรับการผ่าตัดบางประการ อาทิ ซ่อมแซมหัวใจรั่ว และตรวจสายตา เพราะกรณีที่เกิดขึ้นอาจส่งผลให้หนูน้อยตาบอดได้

อย่างไรก็ดี ขณะนี้หนูน้อยอายุ 6 เดือนแล้ว และมีร่างกายแข็งแรงสมบูรณ์ดี ไม่มีอาการผิดปกติใดๆ แทรกซ้อน แม้ตอนแรกจะเชื่อว่าโอกาสรอดเท่ากับ 0 เปอร์เซ็นต์ก็ตาม.
โดย ทีมข่าวไทยรัฐออนไลน์
3 เมษายน 2555, 05:00 น.
ภาพจาก
http://www.dailymail.co.uk/health/artic ... weeks.html