ผมทำอย่างนี้ขัดต่อน้ำพระทัยของพระเป็นเจ้าหรือเปล่า
เรื่องมีอยู่ว่า ภรรยาของผมเธอเป็นคริสเตียน (โปรแตสแตนท์) ความตั้งใจดีของเธอก็คือพยายามประกาศข่าวประเสริฐของพระเป็นเจ้าโดยการแจกใบปลิว เอกสาร สิ่งพิมพ์ เกี่ยวกับเรื่องของพระเป็นเจ้า แก่คนทั่วๆไป ไปที่ไหนทำอะไรเจอคนล่ะแม่แจกดะเลย จนบางครั้งผมเองก็รู้สึกตะขิดตะขวงใจมาก บางที่เธอก็ชอบชวนคนที่เธอแจกให้คุยเกี่ยวกับเรื่องพระเจ้า ประมาณว่าให้กลับใจมาเชื่อพระเจ้า แล้วจะได้ขึ้นสวรรค์ แน่ล่ะ ฟังดูแล้วเหมือนกับว่า อืม... ก็ดีนี่ไม่เห็นจะมีอะไรเลย แต่... ผมไม่ค่อยเห็นด้วยกับวิธีการของเธอซักเท่าไหร่ คือเหมือนกับแบบว่าพกใบปลิวที่จะแจกอยู่ตลอดเวลาเมื่อจะต้องออกไปนอกบ้าน ไม่ว่าจะไปกินข้าวนอกบ้าน ไปเที่ยวพักผ่อน เดินซื้อของในห้างฯลฯ และเธอก็เดินลุยแจกใครต่อใครไปทั่ว มีบ้างที่บางคนก็ไม่รับ มีบ้างที่พอได้อ่านดูแล้วก็วางทิ้งไปแบบว่าไม่สนใจเลย ผมจะทำยังไงดี ผมเคยเถียงกับเธออยู่บ่อยครั้งกับเรื่องนี้ ผมมีความคิดไปว่าเหมือนเธอแจกเพื่อที่เธอจะได้พูดได้ว่า ฉันได้ประกาศเรื่องพระเจ้าแก่คนทั่วไปแล้ว ฉันรับใช้พระเป็นเจ้าแล้ว และก็ยังย้อนมาว่าผมว่า ไม่ประกาศไม่กล้าแจกเพราะอายคน ไม่รับใช้พระเป็นเจ้า ผมอาจจะยอมรับนะว่าจะให้ผมไปเดินแจกใบปลิวใบประกาศให้ใครต่อใคร ผมไม่กล้าหรอก และผมก็คิดว่าวิธีการของเธอมันเหมือนกับตีหัวเข้าบ้าน เหมือนกับแบบว่าฉันแจกแล้วใครอ่านใครเชื่อและทำตามก็รอด ใครไม่เชื่อก็ช่าง แต่ฉันได้ประกาศแล้ว มันจะเป็นไปได้เลยเหรอ ไม่ง่ายไปหน่อยหรือ นี่ผมคิดเอานะ และก็อีกเรื่องที่เธอพูดเกี่ยวกับการที่จะให้คนมาเชื่อ คือเธอจะพูดว่าต้องเลิกนับถือศาสนาเดิม เพราะสิ่งเหล่านั้นไม่ใช่พระเจ้าและไม่ทำให้เรารอดและขึ้นสวรรค์ได้ คือจริงๆแล้วเธอพูดอะไรมากกว่านี้มาก ซึ่งบางครั้งเธอเองก็พูดซะตรงเกินไปจนอาจทำให้คนที่กำลังฟังอยู่นั้นเกิดการต่อต้านอยู่ในใจก็ได้ ผมเองคงจะเล่าให้ฟังได้ไม่หมด เอาเป็นว่าเวลาไปไหนกับเธอผมต้องเจอเรื่องนี้ทุกที เฮ้อ... ผมไม่อยากขัดแย้งกับเธอเลยครับ แต่ก็ไม่รู้จะทำไงดี
ถ้าไม่อยาก ก็ปล่อยให้เธอประกาศข่าวดีไปครับ
แต่ช่วยเตือนเธอ เรื่อง "การประกาศข่าวดีอย่าง อ่อนโยนด้วยครับ"
เพราะ เกิดมันแรง "ตีหัวเข้าบ้าน" อย่างที่คุณว่าจริงๆ
มันก็อาจ "ตีหัวแตก"
ซึ่งผมคิดว่า คงไม่มีใครจะร่วมบ้านกับคนที่ตีหัวเขาแตกหรอกครับ
แต่ช่วยเตือนเธอ เรื่อง "การประกาศข่าวดีอย่าง อ่อนโยนด้วยครับ"
เพราะ เกิดมันแรง "ตีหัวเข้าบ้าน" อย่างที่คุณว่าจริงๆ
มันก็อาจ "ตีหัวแตก"
ซึ่งผมคิดว่า คงไม่มีใครจะร่วมบ้านกับคนที่ตีหัวเขาแตกหรอกครับ
ผมมีความเห็นว่าภรรยาของคุณควรจัดสรรเวลาในการประกาศข่าวประเสริฐให้เป็นเวลานะเช่นหากวันนี้จะไปห้างก็ไม่ควรพกเอาใบประกาศไปด้วยเพราะคนที่เขามาเดินเที่ยวในห้างคงต้องการมาเดินเลือกดูของมากกว่าฟังผู้ประกาศ ลองแนะนำให้เธอเขียนตารางเวลากับสถานที่ที่ต้องไปประกาศสิครับ เช่นวันเสาร์นี้ตลอดวันจะไปประกาศที่ไหนบ้างช่วงเช้าประกาศตามห้องสมุด สวนสาธารณะอะไรประมาณนี้แหละครับ ขอพระเจ้าทรงประทานพระพรนะครับ
เหตุเพราะความเชื่อที่ต่างกันค่ะ พี่เคยเป็นโปรแตสแตนท์มาก่อน
การที่ภรรยาคุณเป็นแบบนั้น เกิดจากคำสอนของโบสถ์ค่ะ (ไม่แน่ใจว่าอยู่โบสถ์ไหน ถ้ายิ่งเป็นโบสถ์แพนทาคอสด้วยล่ะก็ หนักหน่อยค่ะ จะมีอาการแปลก ๆ หลายอย่างแตกต่างกันไป ) ซึ่งทำให้เกิดการร้อนรนของจิตวิญญาณค่ะ
ขอย้ำ เกิดจากการร้อนรนของจิตวิญญาณ ภายในค่ะ ซึ่งคนที่เป็นโปรแตนแตนท์นั้น จะมีการร้อนรนทางจิตวิญาณเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะถ้ายิ่งเป็นโบสถ์แบบที่เขียนไว้ข้างต้น
พี่ถึงได้เลือกที่จะเป็นคาทอลิกมากกว่า เพราะดูเป็นการปรกติและสามารถใช้ชีวิตแบบมนุษย์ปรกติได้มากกว่าค่ะ เข้าใจความรู้สึกคุณค่ะ ไม่อยากให้โกรธภรรยาค่ะ เพราะมันเกิดจากจิตวิญญาณภายในที่ร้อนรนอยากทำอย่างนั้นเองค่ะ ภาวนาเผื่อเธอเยอะ ๆ นะคะ และลองให้มาศึกษาแนวทางของคาทอลิกบ่อยๆ เข้าค่ะ ถ้าภรรยาคุณได้มาเรียนคำสอนที่ถูกต้อง จิตวิญญาณก็จะได้พักสงบในพระเจ้าอย่างแท้จริงค่ะ ภาวนาเผื่อนะคะ พระเจ้าอวยพรค่ะ :)
การที่ภรรยาคุณเป็นแบบนั้น เกิดจากคำสอนของโบสถ์ค่ะ (ไม่แน่ใจว่าอยู่โบสถ์ไหน ถ้ายิ่งเป็นโบสถ์แพนทาคอสด้วยล่ะก็ หนักหน่อยค่ะ จะมีอาการแปลก ๆ หลายอย่างแตกต่างกันไป ) ซึ่งทำให้เกิดการร้อนรนของจิตวิญญาณค่ะ
ขอย้ำ เกิดจากการร้อนรนของจิตวิญญาณ ภายในค่ะ ซึ่งคนที่เป็นโปรแตนแตนท์นั้น จะมีการร้อนรนทางจิตวิญาณเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะถ้ายิ่งเป็นโบสถ์แบบที่เขียนไว้ข้างต้น
พี่ถึงได้เลือกที่จะเป็นคาทอลิกมากกว่า เพราะดูเป็นการปรกติและสามารถใช้ชีวิตแบบมนุษย์ปรกติได้มากกว่าค่ะ เข้าใจความรู้สึกคุณค่ะ ไม่อยากให้โกรธภรรยาค่ะ เพราะมันเกิดจากจิตวิญญาณภายในที่ร้อนรนอยากทำอย่างนั้นเองค่ะ ภาวนาเผื่อเธอเยอะ ๆ นะคะ และลองให้มาศึกษาแนวทางของคาทอลิกบ่อยๆ เข้าค่ะ ถ้าภรรยาคุณได้มาเรียนคำสอนที่ถูกต้อง จิตวิญญาณก็จะได้พักสงบในพระเจ้าอย่างแท้จริงค่ะ ภาวนาเผื่อนะคะ พระเจ้าอวยพรค่ะ :)
แก้ไขล่าสุดโดย nada เมื่อ พุธ มิ.ย. 13, 2012 4:59 am, แก้ไขไปแล้ว 1 ครั้ง.
-
- โพสต์: 690
- ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ มี.ค. 09, 2009 12:00 pm
ผมสงสัยว่าการร้อนรนทางจิตวิญญาณเกิดจากพระเป็นเจ้าหรือป่าว แต่ผมคิดว่าน่าจะเป็นการทำงานของพระจิตเจ้าในรูปแบบหนึ่งนะครับ ซึ่งคงไม่ใช่เรื่องผิด(หรือป่าว)?nada เขียน:เหตุเพราะความเชื่อที่ต่างกันค่ะ พี่เคยเป็นโปรแตสแตนท์มาก
การที่ภรรยาคุณเป็นแบบนั้น เกิดจากคำสอนของโบสถ์ค่ะ (ไม่แน่ใจว่าอยู่โบสถ์ไหน ถ้ายิ่งเป็นโบสถ์แพนทาคอสด้วยล่ะก็ หนักหน่อยค่ะ จะมีอาการแปลก ๆ หลายอย่างแตกต่างกันไป ) ซึ่งทำให้เกิดการร้อนรนของจิตวิญญาณค่ะ
ขอย้ำ เกิดจากการร้อนรนของจิตวิญญาณ ภายในค่ะ ซึ่งคนที่เป็นโปรแตนแตนท์นั้น จะมีการร้อนรนทางจิตวิญาณเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะถ้ายิ่งเป็นโบสถ์แบบที่เขียนไว้ข้างต้น
พี่ถึงได้เลือกที่จะเป็นคาทอลิกมากกว่า เพราะดูเป็นการปรกติและสามารถใช้ชีวิตแบบมนุษย์ปรกติได้มากกว่าค่ะ เข้าใจความรู้สึกคุณค่ะ ไม่อยากให้โกรธภรรยาค่ะ เพราะมันเกิดจากจิตวิญญาณภายในที่ร้อนรนอยากทำอย่างนั้นเองค่ะ ภาวนาเผื่อเธอเยอะ ๆ นะคะ และลองให้มาศึกษาแนวทางของคาทอลิกบ่อยๆ เข้าค่ะ ถ้าภรรยาคุณได้มาเรียนคำสอนที่ถูกต้อง จิตวิญญาณก็จะได้พักสงบในพระเจ้าอย่างแท้จริงค่ะ ภาวนาเผื่อนะคะ พระเจ้าอวยพรค่ะ :)
-
- โพสต์: 690
- ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ มี.ค. 09, 2009 12:00 pm
ผมเชื่อในพระศาสนจักรคาทอลิกครับ(ยังไม่ได้รับศีลล้างบาป) ผมว่าอธิบายให้เข้าใจกันในนี้น่าจะดีกว่านะครับ คนอื่นเค้าจะได้เข้าใจด้วยว่าอะไรเป็นยังไง อย่างที่กล่าวไปน่ะครับ ผมเคยได้ยินว่าการที่เรากระตือรือร้นที่จะประกาศพระวาจานั้นมาจากการทำงานของพระจิตเจ้า ผมว่าถ้ามาจากพระเจ้าเราก็ไม่ควรจะขัดขวาง ผมคิดว่าพระจิตเจ้าทรงกระตุ้นให้จิตใจของคริสตชนเกิดความกระหายที่จะประกาศพระวาจา แต่จะประกาศพระวาจาอย่างไรนั้นก็ขึ้นอยู่กับประสบการณ์และความรู้ความสามารถของตัวบุคคลนั้นๆnada เขียน:อืมม เรื่องนี้คุยกันยาวค่ะ บอกได้มั้ยคะ ว่าโบสถ์อะไร หลังไมค์ดีกว่าค่ะ
-
- โพสต์: 690
- ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ มี.ค. 09, 2009 12:00 pm
ผมก็มีหลักในการประกาศพระวาจาของผมโดยยึดหลักนี้
แสงสว่างส่องโลก มธ. 5:14-16
"ท่านทั้งหลายเป็นแสงสว่างส่องโลก เมืองที่ตั้งอยู่บนภูเขาจะไม่ถูกปิดบัง ไม่มีใครจุดตะเกียงแล้วเอามาวางไว้ใต้ถังแต่ย่อมวางไว้บนเชิงตะเกียง จะได้ส่องสว่างทุกคนในบ้าน ในทำนองเดียวกัน แสงสว่างของท่านต้องส่องแสงต่อหน้ามนุษย์ เพื่อคนทั้งหลายจะได้เห็นกิจการดีของท่าน และสรรเสริญพระบิดาของท่านผู้สถิตในสวรรค์"
อย่าเหยีดหยามสิ่งศักดิ์สิทธิ์ มธ. 7:6
"อย่าให้ของศักดิ์สิทธิ์แก่สุนัข อย่าโยนไข่มุกให้สุกรเพราะมันจะเหยียบย่ำทำให้เสียของ และหันมากัดท่านอีกด้วย"
แสงสว่างส่องโลก มธ. 5:14-16
"ท่านทั้งหลายเป็นแสงสว่างส่องโลก เมืองที่ตั้งอยู่บนภูเขาจะไม่ถูกปิดบัง ไม่มีใครจุดตะเกียงแล้วเอามาวางไว้ใต้ถังแต่ย่อมวางไว้บนเชิงตะเกียง จะได้ส่องสว่างทุกคนในบ้าน ในทำนองเดียวกัน แสงสว่างของท่านต้องส่องแสงต่อหน้ามนุษย์ เพื่อคนทั้งหลายจะได้เห็นกิจการดีของท่าน และสรรเสริญพระบิดาของท่านผู้สถิตในสวรรค์"
อย่าเหยีดหยามสิ่งศักดิ์สิทธิ์ มธ. 7:6
"อย่าให้ของศักดิ์สิทธิ์แก่สุนัข อย่าโยนไข่มุกให้สุกรเพราะมันจะเหยียบย่ำทำให้เสียของ และหันมากัดท่านอีกด้วย"