"ความรัก อากาเป้"
Agape แปลง่ายที่สุดคือ รักของพระเจ้า
ถ้าจะให้ความหมายแค่นั้นมันง่ายเกินไป ดังนั้นจึงขอให้มาศึกษา คำว่ารัก ที่เราใช้กันมากขึ้นทุกวันดังนี้
อากาเป้,อากาปัน ( Agape and Agapan ) คำที่กล่าวนี้เป็นภาษากรีก
เป็นภาษาที่ร่ำรวยที่สุดภาษาหนึ่งในโลก ดังนั้นจะเห็นบ่อยๆว่าความคิดเรื่องหนึ่งๆภาษากรีกคำอธิบาย
ความหมายในแง่มุมต่างๆ เช่นคำว่า
"รัก"
ทั้งไทยและอังกฤษจะใช้คำเดียวกันแล้วเข้าใจถึงความรักทุกชนิด แต่ภาษากรีก มีอย่างน้อย 4 คำ คือ
1.เอโรส
คำนาม (เอราน-คำกริยา) ใช้หมายถึงความรักระหว่างเพศ หรืออาจจะใช้หมายถึงความกระหายทะเยอทะยาน
และเรื่องความรักชาติอย่างรุนแรงก็ได้ (สังเกตว่า คนที่ทำการพลีชีพสังหาร เมื่อเร็วๆนี้คงจำคุณแม่ วัย
๒๒ ปี ชาวปาเลสไตน์ ทิ้งลูกน่ารักวัย ๑๘ เดือน และ ๓ ขวบไว้เบื้องหลัง
โดยตัวเองติดระเบิดพลีชีพสังหารชาวยิว และอีกหลายๆกรณีที่ได้ยินกัน- พีพี )
2.สเตอร์เก
คำนาม (สเตอร์เกน-คำกริยา) มีความหมาย
รักผูกพันฉันญาติ
แต่ใช้ได้กับประชาชนที่มีความรักต่อผู้ปกครองหรือความรักของชนชาติ
แต่ทั่วๆไปก็ใช้ถึงความรักของพ่อแม่ที่มีต่อลูกๆ และลูกๆต่อพ่อแม่
3.ฟิเลีย
คำนาม (ฟิเลน-คำกริยา) มีความรักที่อบอุ่นอยู่ในคำนี้ หรือแปลว่ามอง
ด้วยความรักใคร่ผูกพัน
ใช้ได้ทั้งความรักระหว่างเพื่อนและความรักของสามีภรรยา "ฟิเลน"
แปลได้ตรงคือรักใคร่อย่างทะนุถนอมรักอย่างดูแลเอาใจใส่ "ฟิเลีย"
รักใคร่ฝ่ายเนื้อหนัง
หรือบางครั้งแปลว่าจุมพิตก็ได้
4.อากาเป้
คำนาม (อากาปัน-คำกริยา) คำนี้ใช้มากในพระคัมภีร์พันธสัญญาใหม่
ความรักอากาเป้ หรืออากาปัน คือความรักของคริสต์ที่ต้องปฏิบัติในชีวิตทั้งความคิดและการกระทำ เป็นความรักไม่จำกัดขอบเขตเฉพาะญาติมิตรหรือคนที่ใกล้ชิดเท่านั้น แต่ความรักนี้
ต้องแผ่ขยายออกไปจากกลุ่มของตนเอง ออกไปสู่เพื่อนบ้าน ไปสู่คนทั้งโลก และแม้กระทั่งศัตรู ความรักอากาเป้ เกี่ยวข้องกับความคิด ความตั้งใจ ไม่ใช่อารมณ์ ความรักอะกาเป้เกิดขึ้นได้ต่อเมื่อบุคคลนั้นได้รับความรักของพระเจ้าโดยพระเยซูคริสต์ครอบครองจิตใจแล้วโดยพระองค์ที่สามารถเปลี่ยนแปลงภายในจิตใจผู้เชื่อที่จะสามารถมีความรักที่ไม่มีเงื่อนไขเช่นนี้ได้ เพราะเป็น
ความรักที่บริสุทธิ์เป็นความรักที่ต้องอดทน เป็น
ความรักที่มีแต่การให้ และ
ให้อภัยเสมอ เพราะความรักอะกาเป้ที่พระเยซูทรงสำแดงแก่มนุษย์รักมนุษย์ทั้งๆที่เป็นคนบาป ดื้อด้านต่อต้าน ฯลฯ แต่พระองค์ทรงยอมวายพระชนม์เพื่อเขาทั้งหลาย
..
พระเจ้าทรงมีพระประสงค์ให้ผู้เชื่อสวมใส่ความรักอากาเป้ไว้ในชีวิต ทรงสั่งให้รัก
อดทน ต่อความผิดของคนอื่น ให้รักศัตรู และเพราะความรักอากาเป้นี้แหละที่ทำให้เราอดทนต่อคนที่ด่าที่ข่มเหง ทนต่อคนที่ไม่น่ารัก เป็นต้น
-เพราะความรักอากาเป้นี้แหละที่ทำให้องค์กรรคริสตชน เข้าไปช่วยเหลือด้านสังคมกับคนทุกประเภทไม่ว่าเขาจะเกลียดชัง หรือต่อต้าน
-เพราะความรักอากาเป้นี้แหละ ในช่วงสงครามโโลกครั้งที่ 2 (ค.ศ.1943) จึงเริ่มต้น NGOs
โดยเริ่มจากคริสตชน “คาทอลิก” ( Catholic Relife Service) ถือกำเนิดขึ้นเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติจากสงคราม ต่อมา องค์กร Church World Service ของโปรเตสแตนต์ ถือ กำเนิดในปี ค.ศ.1946 ด้วยวัตถุประสงค์เดียวกัน
-เพราะความรักอากาเป้นี้เอง และต่อมาจึงเกิดกลุ่ม NGOs ขึ้นอีกมากมาย เพราะคำว่ารัก "อากาเป้" ที่คริสตชนได้รวมตัวร่วมมือ สำแดงความรักของพระเจ้า ตามบัญญัติทอง ข้อที่ 2
"จงรักเพื่อนบ้านเหมือนรักตัวเอง"