purgatory แดนไฟชำระก่อนถึงสวรรค์
โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. มิ.ย. 14, 2012 12:30 pm
วันระลึกถึงผู้ตาย คืออะไร
วันระลึกถึงผู้ตาย คือวันรุ่งขึ้นต่อจากวันฉลองนักบุญทั้งหลาย เพื่อให้เราสวดอุทิศ แก่วิญญาณในไฟชำระ โดยเฉพาะวิญญาณที่ไม่มีใครสวดอุทิศให้ (จาก หนังสือ ถาม-ตอบคำสอนพระศาสนจักรคาทอลิก, หน้า 155)
ไฟชำระ (Purgatory) คืออะไร
คือ สถานภาพของผู้ที่ตายในมิตรภาพกับพระเป็นเจ้า แม้จะได้รับการประกันสำหรับชีวิตนิรันดรแล้วก็ตาม แต่ยังต้องชำระตนก่อนที่จะได้เข้าสู่ความบรมสุขในสวรรค์ (จาก หนังสือ ประมวลคำสอนพระศาสนจักรคาทอลิก, ข้อ 210)
บุคคลทั้งหลายที่ตายในพระหรรษทานและมิตรภาพของพระเป็นเจ้า แต่ยังชำระตนให้บริสุทธิ์ไม่เพียงพอ แม้จะมั่นใจว่าจะได้รับความรอดนิรันดร์ เมื่อสิ้นชีวิตแล้วก็ยังต้องรับทรมานเพื่อชำระตนให้บริสุทธิ์ เืพื่อจะได้มาซึ่งศักดิ์สิทธิภาพอันจำเป็นแก่การเ้ข้าสู่ความชื่นชมยินดีของพระเป็นเจ้า (หนังสือคำสอนพระศาสนจักรคาทอลิก ภาค 1, ข้อ 1054)
ผู้ใดจะได้รับโทษในไฟชำระ
ผู้ที่ตายในสถานะพระหรรษทานแต่ยังมีบาปเบาติดอยู่ หรือว่ายังไม่ได้ทำการใช้โทษให้เหมาะสมกับบาปของตนขณะยังอยู่บนโลกนี้จะถูกลงโทษในไฟชำระ
โดยทางสหพันธ์นักบุญบรรดาผู้มีบุญทั้งหลายบนสวรรค์จะทำอะไรเพื่อวิญญาณในไฟชำระและสัตบุรุษบนแผ่นดินนี้ได้
โดยทางสหพันธ์นักบุญ บรรดาผู้มีบุญทั้งหลายบนสวรรค์จะช่วยวิญญาณในไฟชำระ และสัตบุรุษบนแผ่นดินนี้ได้ด้วยการวิงวอนพระเป็นเจ้าเพื่อพวกเขา
โดยทางสหพันธ์นักบุญสัตบุรุษบนแผ่นดินนี้จะช่วยบรรเทาความทุกข์ทรมานของวิญญาณในไฟชำระได้หรือไม่
โดยทางสหพันธ์นักบุญสัตบุรุษบนแผ่นดินนี้จะช่วยบรรเทาความทุกข์ทรมานของวิญญาณในไฟชำระได้ด้วยคำภาวนา การถือศีลอดอาหารและการทำความดีต่างๆ ด้วยพระคุณการุญบริบูรณ์และด้วยการขอมิสซาให้พวกเขา
พระศาสนจักรเรียกการชำระตนให้บริสุทธิ์ครั้งสุดท้ายของผู้ได้รับเลือกสรร ซึ่งแตกต่างอย่างสิ้นเชิงกับการลงโทษผู้ตกนรก ว่า “ไฟชำระ” พระศาสนจักรได้กำหนดหลักความเชื่อเกี่ยวกับไฟชำระไว้โดยเฉพาะ... ธรรมประเพณีของพระศาสนจักร เมื่ออ้างอิงถึงข้อความบางตอนในพระคัมภีร์ ได้พูดถึงไฟที่ชำระให้บริสุทธิ์ ว่า
ส่วนที่เป็นความผิดบางเบาบางประการ ก็เชื่อว่าก่อนการพิพากษามีไฟหนึ่งที่ชำระให้บริสุทธิ์ ตามคำยืนยันขององค์พระผู้ทรงเป็น “ความจริง” โดยกล่าวว่า หากผู้ใดกล่าวผรุสวาจาแช่งด่าพระจิตเจ้า ก็จะไม่ได้รับการอภัย “ทั้งยุคนี้และยุคหน้า” (มธ.12:31) ในประโยคนี้ เราพอจะเข้าใจได้ว่าโทษผิดบางประการอาจอภัยให้ได้ในยุคนี้ แต่โทษผิดอื่นบางประการอาจอภัยให้ได้ในยุคหน้า (น.เกรโกรี องค์ใหญ่ Dial.4,39: PL 77,396; เทียบ มธ.12:31)
(หนังสือ คำสอนพระศาสนจักรคาทอลิก ภาค 1, ข้อ 1031)
ข้อมูลจาก หนังสือ ถาม-ตอบคำสอนพระศาสนจักรคาทอลิก, หน้า 43, 44 , 46
วันระลึกถึงผู้ตาย คือวันรุ่งขึ้นต่อจากวันฉลองนักบุญทั้งหลาย เพื่อให้เราสวดอุทิศ แก่วิญญาณในไฟชำระ โดยเฉพาะวิญญาณที่ไม่มีใครสวดอุทิศให้ (จาก หนังสือ ถาม-ตอบคำสอนพระศาสนจักรคาทอลิก, หน้า 155)
ไฟชำระ (Purgatory) คืออะไร
คือ สถานภาพของผู้ที่ตายในมิตรภาพกับพระเป็นเจ้า แม้จะได้รับการประกันสำหรับชีวิตนิรันดรแล้วก็ตาม แต่ยังต้องชำระตนก่อนที่จะได้เข้าสู่ความบรมสุขในสวรรค์ (จาก หนังสือ ประมวลคำสอนพระศาสนจักรคาทอลิก, ข้อ 210)
บุคคลทั้งหลายที่ตายในพระหรรษทานและมิตรภาพของพระเป็นเจ้า แต่ยังชำระตนให้บริสุทธิ์ไม่เพียงพอ แม้จะมั่นใจว่าจะได้รับความรอดนิรันดร์ เมื่อสิ้นชีวิตแล้วก็ยังต้องรับทรมานเพื่อชำระตนให้บริสุทธิ์ เืพื่อจะได้มาซึ่งศักดิ์สิทธิภาพอันจำเป็นแก่การเ้ข้าสู่ความชื่นชมยินดีของพระเป็นเจ้า (หนังสือคำสอนพระศาสนจักรคาทอลิก ภาค 1, ข้อ 1054)
ผู้ใดจะได้รับโทษในไฟชำระ
ผู้ที่ตายในสถานะพระหรรษทานแต่ยังมีบาปเบาติดอยู่ หรือว่ายังไม่ได้ทำการใช้โทษให้เหมาะสมกับบาปของตนขณะยังอยู่บนโลกนี้จะถูกลงโทษในไฟชำระ
โดยทางสหพันธ์นักบุญบรรดาผู้มีบุญทั้งหลายบนสวรรค์จะทำอะไรเพื่อวิญญาณในไฟชำระและสัตบุรุษบนแผ่นดินนี้ได้
โดยทางสหพันธ์นักบุญ บรรดาผู้มีบุญทั้งหลายบนสวรรค์จะช่วยวิญญาณในไฟชำระ และสัตบุรุษบนแผ่นดินนี้ได้ด้วยการวิงวอนพระเป็นเจ้าเพื่อพวกเขา
โดยทางสหพันธ์นักบุญสัตบุรุษบนแผ่นดินนี้จะช่วยบรรเทาความทุกข์ทรมานของวิญญาณในไฟชำระได้หรือไม่
โดยทางสหพันธ์นักบุญสัตบุรุษบนแผ่นดินนี้จะช่วยบรรเทาความทุกข์ทรมานของวิญญาณในไฟชำระได้ด้วยคำภาวนา การถือศีลอดอาหารและการทำความดีต่างๆ ด้วยพระคุณการุญบริบูรณ์และด้วยการขอมิสซาให้พวกเขา
พระศาสนจักรเรียกการชำระตนให้บริสุทธิ์ครั้งสุดท้ายของผู้ได้รับเลือกสรร ซึ่งแตกต่างอย่างสิ้นเชิงกับการลงโทษผู้ตกนรก ว่า “ไฟชำระ” พระศาสนจักรได้กำหนดหลักความเชื่อเกี่ยวกับไฟชำระไว้โดยเฉพาะ... ธรรมประเพณีของพระศาสนจักร เมื่ออ้างอิงถึงข้อความบางตอนในพระคัมภีร์ ได้พูดถึงไฟที่ชำระให้บริสุทธิ์ ว่า
ส่วนที่เป็นความผิดบางเบาบางประการ ก็เชื่อว่าก่อนการพิพากษามีไฟหนึ่งที่ชำระให้บริสุทธิ์ ตามคำยืนยันขององค์พระผู้ทรงเป็น “ความจริง” โดยกล่าวว่า หากผู้ใดกล่าวผรุสวาจาแช่งด่าพระจิตเจ้า ก็จะไม่ได้รับการอภัย “ทั้งยุคนี้และยุคหน้า” (มธ.12:31) ในประโยคนี้ เราพอจะเข้าใจได้ว่าโทษผิดบางประการอาจอภัยให้ได้ในยุคนี้ แต่โทษผิดอื่นบางประการอาจอภัยให้ได้ในยุคหน้า (น.เกรโกรี องค์ใหญ่ Dial.4,39: PL 77,396; เทียบ มธ.12:31)
(หนังสือ คำสอนพระศาสนจักรคาทอลิก ภาค 1, ข้อ 1031)
ข้อมูลจาก หนังสือ ถาม-ตอบคำสอนพระศาสนจักรคาทอลิก, หน้า 43, 44 , 46
ที่เอามาแบ่งปัน