Belong to the Truth Jesus Christ

เมื่อเช้าไปวัดคุณพ่อยอดชาย เทศน์ได้น่าฟังมาก เลยขอเอามาแบ่งปัน คร่าวๆ
.... คุณพ่อเทศน์บอกว่า ปัจจุบันนี้โลกเป็นยุคข่าวสารดีจิตอลเจริญรุ่งเรือง
พระสันตะปาปาได้มีความห่วงใยคริสตชน และพระสันตะปาปาได้ตรัสถึงการเป็น
คริสตชนเดี๋ยวนี้จะขาดไม่ได้เลย
มี 2 ข้อคือ
1 ความเงียบ เราคริสตชนต้องหาเวลาอยู่เงียบๆ สงบ ไตร่ตรอง รำพึง
เพื่อฟังเสียงภายใน ทุกวันและ
2 พระวาจา เมื่อเราเงียบแล้ว เราคริสตชนต้องอ่านพระวาจาเสมอๆ
เพื่อเป็นอาหารหล่อเลี้ยงฝ่ายวิญญาน
.....น้องๆคิดว่าอย่างไร พี่ว่าอยู่เงียบๆกับพระก็ดีนะ มันเงียบ สงบ สบายๆ
ไม่วุ่นวาย และบางทีอะไรที่คิดไม่ออก หรือมีปัญหา อยู่ดีๆก็คิดออกมาได้
ในเวลาที่เราเงียบๆ อยู่กับพระหรือสวด.....
....และพระวาจา ก็หนุนใจ ให้กำลังใจ เวลาที่เราต้องการความบรรเทาใจเสมอ
บางครั้งอ่านพระวาจาเสร็จ น้ำตาไหล ตื้นตันใจเป็นอะไรที่โดนใจจริงว่า ..
..พระองค์ห่วงใยเรา และรู้ถึงความทุกข์ความต้องการของเรา เหมือน
พระองค์จะบอกว่า "อย่าหวั่นไหวเลย เราอยู่กับลูกเสมอ อย่ากลัวเลย......"
.... ...

อืมๆๆใช่ๆ คุณพ่ออนุรัตน์ วัดผมก็พูดเรื่องนี้เหมือนกันครับ

ง่าพ่อเทศดีจังเลย เเต่วัดเมจิตอนพ่อเทศหลับกันตั้งเเต่มาร์เซอร์ยันเมจิ (จะบาปไหมเนี้ย)

ขอวัดหนู คุณพ่อธีระ ก็เทศน์ที่โดนใจก็มี
- อาหารทางโลก ก็เป็นสิ่งจำเป็น แต่ อาหารฝ่ายวิญญาณก็สำคัญ
- ขอให้เราสละน้ำใจตัวเอง และให้พระนำทาง
- เรื่องเ่ล่าที่คุณพ่อเล่าก็น่าสนใจ มีคนที่เค้าติดเหล้ามากๆ จนไม่มีค่าเรียนให้ลูก ค่าอาหาร ค่าเสื้อผ้า ภรรยาเค้าเลยได้คุยกันให้เค้าไปเข้าเงียบ เค้าก็ยินดีไป และพอกลับมาเค้าก็เปลี่ยนไป เลิกกินเหล้า และพอเค้าได้เจอกับเพื่อนในวงเหล้าก็ได้ชวนให้มานั่งกินด้วย เค้าบอกไปว่าเค้าไม่กินแล้ว เพื่อนๆเลย แซวว่า ได้ไปพบพระคนที่เปลี่ยนน้ำให้เป็นเหล้าองุ่นหน่ะหรอ เค้าก็ตอบไปว่า เค้าได้เปลี่ยน ค่าเหล้า ค่าเบียร์ที่เคยกิน ไปเป็นค่าเทอมลูก ค่าอาหาร ให้กับครอบครัว อาจจะไม่เป๊ะนะคะ ในคำเล่าแต่ว่าทำนองนี้ แหะๆ

rosa-lee เขียน:เมื่อเช้าไปวัดคุณพ่อยอดชาย เทศน์ได้น่าฟังมาก เลยขอเอามาแบ่งปัน คร่าวๆ
.... คุณพ่อเทศน์บอกว่า ปัจจุบันนี้โลกเป็นยุคข่าวสารดีจิตอลเจริญรุ่งเรือง พระสันตะปาปา
ได้มีความห่วงใยคริสตชน และพระสันตะปาปาได้ตรัสถึงการเป็นคริสตชนเดี๋ยวนี้จะขาดไม่ได้เลย
มี 2 ข้อคือ
1 ความเงียบ เราคริสตชนต้องหาเวลาอยู่เงียบๆ สงบ ไตร่ตรอง รำพึง เพื่อฟังเสียงภายใน ทุกวันและ
2 พระวาจา เมื่อเราเงียบแล้ว เราคริสตชนต้องอ่านพระวาจาเสมอๆ เพื่อเป็นอาหารหล่อเลี้ยงฝ่ายวิญญาน
.....น้องๆคิดว่าอย่างไร พี่ว่าอยู่เงียบๆกับพระก็ดีนะ มันเงียบ สงบ สบายๆ ไม่วุ่นวาย และบางที
อะไรที่คิดไม่ออก หรือมีปัญหา อยู่ดีๆก็คิดออกมาได้ ในเวลาที่เราเงียบๆ อยู่กับพระหรือสวด.....
....และพระวาจา ก็หนุนใจ ให้กำลังใจ เวลาที่เราต้องการความบรรเทาใจเสมอ บางครั้งอ่านพระวาจา
เสร็จ น้ำตาไหล ตื้นตันใจเป็นอะไรที่โดนใจจริงว่า ..พระองค์ห่วงใยเรา และรู้ถึงความทุกข์ความต้องการ
ของเรา เหมือนพระองค์จะบอกว่า "อย่าหวั่นไหวเลย เราอยู่กับลูกเสมอ อย่ากลัวเลย......"
.... ...

เห็นด้วยอย่างยิ่งเลยค๊ะ.... ความเงียบที่ซ่อนเร้น ไขปัญหาได้จริง ๆ ค่ะ เมื่อใดเราอยู่กับเสียงอึกทึกมากเกินไป เราจะไม่ได้ยินเสียงพระองค์
เมื่อใดเราวางใจหรือมั่นใจตนเองมากเกินไป ไม่ฟังเสียงพระองค์ งานก็ไม่สมบูรณ์เท่าที่ควร....

ขอบคุณครับ

ยินดีค่ะ... เชิญมาแบ่งปันหนุนใจกันบ่อยๆนะคะ ....