Belong to the Truth Jesus Christ

ความเเตกต่างระหว่าง นิพพาน เเละ อาณาจักรของพระเจ้า

หลาย ๆ คน ชอบ พูด ว่า 2 สิ่งนี้คือสิ่งเดียวกัน

เเต่ในความคิดเห็นส่วนตัว ของเเย็ก คิดว่า " ไม่ใช่ "
( ความเห็นเห็นส่วนตัว )

อย่างเเรก เพราะว่า พระเยซูบอกไว้ชัดเจนอยู่เเล้วว่า พระองค์ เป็นทางนั้น ไม่มีใครไปถึงพระบิดา
( อาณาจักรของพระเจ้า ) ได้ ถ้าไม่มาทางพระองค์

ส่วน นิพาน คือ นิพพาน หมายถึง สภาพที่ดับกิเลสและกองทุกข์แล้ว ภาวะที่เป็นสุขสูงสุด เพราะไร้ทุกข์ เป็นอิสรภาพสมบูรณ์

จะสังเกตุได้ว่า

เราจะไปอาณาจักรของพระเจ้า โดยความเชื่อ ( เรารอดโดยความเชื่อ ไม่ได้โดยบทบัญญัติ )

ส่วนการไปนิพพานนั้น คือ การฝึกฝนตนเอง ให้จิตของตนเอง พ้นจาก กิเลส เเละ รู้ทัน ทุกข์ในใจตนเอง ( พึ่งพาตนเอง โดยการสั่งสมบุญด้วยตนเอง )

เเม้ จะบอก ว่า ทั้งสอง ทาง ต่างก็นำมาซึ่ง การไม่ต้องมาเกิดอีกก็ตาม
เเต่สำหรับเเย็ก ยังคงเชื่อว่า ทั้ง 2 อย่างไม่ใช่สิ่งเดียวกัน เพราะมีความเเตกต่างกันอย่างสิ้งเชิง

เเย็กคิดเเบบนี้ถูกต้องมั้ยครับ ขอคำเเนะนำหน่อย

ทางจากพระเจ้า(คริสต์) ย่อมเเตกต่างจาก ทางจากมนุษย์(พุทธ) เเน่นอนครับ ทางจากมนุษย์นั้นจะมีซักกี่คนที่รอดหลุดพ้น เพราะ ต้องเดินลำพังคนเดียว ทางจากพระเจ้านั้นไม่โดดเดี่ยว เพราะ พระองค์ทรงอยู่กับลูกๆของพระองค์เสมอ

siritawatss เขียน:ทางจากพระเจ้า(คริสต์) ย่อมเเตกต่างจาก ทางจากมนุษย์(พุทธ) เเน่นอนครับ ทางจากมนุษย์นั้นจะมีซักกี่คนที่รอดหลุดพ้น เพราะ ต้องเดินลำพังคนเดียว ทางจากพระเจ้านั้นไม่โดดเดี่ยว เพราะ พระองค์ทรงอยู่กับลูกๆของพระองค์เสมอ

อย่างน้อย ๆ ก็ มีอีกคนที่ติดเหมือนเรา
เเสดงว่าเราไม่ได้นอกคอก
^^

สวัสดีครับ คุณyack

เบื้องต้น...ต้องเข้าใจหลักคิด ก่อนนะครับ ว่า ศาสนาทุกศาสนา มุ่งสอนให้
ทุกคนเป็นคนดี ละเว้นความชั่ว มีความละอาย เกรงกลัวบาป และให้ทาน
ผู้อื่น


นิพพาน = เป็นเรื่องของมนุษย์ ที่สามารถบำเพ็ญเพียร แล้วอยู่ในสภาวะจิต
ในสภาพละแล้วซึ่งกิเลส ดับความทุกข์ เป็นจิตที่เข้าถึงความสงบสูงสุด ...
(แบบ เจ้าชายสิทธัตถะ ทรงค้นพบ และตรัสรู้เป็น พระสัมมาสัมพุทธเจ้า)

ภาคเต็ม อ่านพุทธประวัติ นะครับ จะเข้าใจมากขึ้น
http://www.learntripitaka.com/History/Buddhist.html

ซึ่งกว่าจะเกิด เป็น พระพุทธเจ้า ในชาติที่พระองค์ทรงบรรลุ พระองค์ทรงเกิด
มาแล้ว 10 ชาติ ที่ชาวพุทธเรียก "ทศชาติชาดก"

อาณาจักรพระเจ้า = เป็นพระราชัยสวรรค์ ของพระเจ้า...ซึ่งพระเจ้ามีความยิ่งใหญ่
และเป็นหนึ่งเดียว เป็นหลัก "เทวนิยม" เป็นการใช้สมอง "ซีกขวา" แบบงานศิลปะ
(เป็นจิตนาการสูงสุดของมนุษย์ ที่เหนือกว่าหลัก "ตรรกะ") ผมยกตัวอย่างเช่น
พระแม่มารีย์ ปฏิสนธินิรมล....(ซึ่งมันอธิบายหลักวิทยาศาสตร์ไม่ได้ แต่มันอยู่
สูงกว่า หลัก วิทยาศาสตร์) การที่พระเยซูสิ้นพระชนม์บนไม้กางเขน และเสด็จ
กลับฟื้นคืนชีพ ภายใน 3 วัน ,หรือ การที่พระจิตเสด็จลงมายังอัครสาวก ทำให้
เหล่าสาวกพูดได้ในทุกภาษา

เหล่านี้...เล่าให้ คนไม่เชื่อ ขาดความศรัทธา ฟัง >>> ก็ประดุจหนึ่ง เอางาน
ศิลปะ ไปให้ คนดูไม่เป็นดู



เหมือน อ.ถวัลย์ ดัชนี กล่าวไว้...เรื่องงานศิลปะ


และมนุษย์ ใช้สมอง ซีกขวา สร้างงานศิลปะ ที่ยิ่งใหญ่ อลังการ


แต่พระเจ้าทรงยิ่งใหญ่เหนือ จักรวาล เหนือทุกสิ่งทุกอย่าง ความยิ่งใหญ่ของศิลปะ
ที่รังสรรค์ในยุโรป ที่เราเห็นกัน มันเล็กน้อยมากเมื่อเทียบกับ "พระเจ้า"

นิพพาน กับ พระอาณาจักรสวรรค์
เป็นคนละเรื่องกัน คนละหลักคิดกัน ครับ


โดย : ฟรังซิสโก ณัฐวุฒิ เดินทางทุกที่ ๆ มีพระองค์

ผมชอบเรื่องสมองซีกขวาครับ มันล้ำลึกและมหัศจรรย์มาก ยากเกินที่วิทยาศาสตร์จะอธิบาย
พระเจ้าวิเศษมากครับ ที่สร้างสิ่งซับซ้อนเกินความเข้าใจของตรรกะและเหตุผลจะอธิบาย

ขอบคุณสำหรับคำชี้เเจ้งครับ
^^
ชอบมาก ๆ เลย

โดยการเป็นมนุษย์แล้ว เราไม่มีทางใดเลยที่จะไม่มีความทุกข์ พระเจ้าก็บอกว่าเราจะหมดความทุกข์ก็คือเราได้อยู่กับพระองค์แล้ว แม้แตฅ่พระองค์เองก็ยังทรงทุกข์ใจกับลูกๆที่หลงผิดของพระองค์เลย เนอะ ^^

yack เขียน:ขอบคุณสำหรับคำชี้เเจ้งครับ
^^
ชอบมาก ๆ เลย

-ขอบคุณ ครับ!