aor wachiraporn เขียน:ที่บ้านเป็นพุทธค่ะ ตัวเองเป็นครูอยู่ในโรงเรียนคาทอลิก เคยเข้าร่วมพิธีฉลองวัด ตอนอยู่ในพิธีรู้สึกใจเต้นแรงมาก เห็นเพื่อนๆ รับแผ่นปังแล้วน้ำตาจะไหล บอกไม่ถูก ก็เลยอยากศึกษาพระคริสต์ แต่กลัวที่บ้านจะไม่พอใจ อยากลองเข้าไปร่วมพิธีวันอาทิตย์แต่ก็กลัวเพื่อนร่วมงานจะมองว่าเราฉาบฉวย ไม่รู้จะเริ่มอย่างไรดี แนะนำด้วยนะคะ

สวัสดี ครับ คุณ
aor wachiraporn
เรื่องศาสนา เป็นเรื่องของ
"ความเชื่อ" ส่วนบุคคล ความเชื่อ เรื่อง ลัทธิการปกครอง
อย่าง ศาสนาอย่าง ระบอบการปกครองอย่าง มันมีความสุขขุมคัมภีรภาพ และนำมา
ซึ่ง
"ความสงบ" ก็ได้
"ความแตกแยก" ก็ได้
ไม่เว้น แม้แต่ในครอบครัว
ใน คริสต์ อิสลาม และ พุทธ เอง ยังมีความแตกต่างกันในเรื่องความเชื่อ นิกาย ฯลฯ
ยิว คริสต์ อิสลาม มาจากที่เดียวกัน เป็นลูกหลาน อับราฮัม(อิบรอฮิม) ยังมีความเชื่อ
ที่ต่างกัน ครับ...
แต่สิ่งหนึ่งที่จะทำให้เห็นว่า
"การนับถือศาสนา" แล้ว ทำให้ยกระดับจิตใจ จิตวิญญาณ
มีจิตเป็นสาธารณะ และ เข้าถึง
"แก่น" ของศาสนา คือ การให้ความรักผู้อื่น เหมือนรัก
ตนเอง...การให้อภัย การรู้จักอ่อนน้อมถ่อมตน มีจิตสาธารณะ และมีชีวิตเพื่อรับใช้ผู้อื่น
นั่นแหละครับ คือ
"แก่นของคาทอลิก"
ถ้าเราเดินตามมรรคาศักดิ์สิทธิ์ของพระเยซูอย่างนี้ดี เชื่อ่ว่า
"ครอบครัว"
ก็ต้องยอมรับเรา ในที่สุด เพราะครอบครัวก็ "มีความรัก" ให้เราเช่นกัน เพียงแต่
อยากเห็น "เรา" เป็นคนดี ทั้งต่อคนในครอบครัว และ สังคม ประเทศชาติ
เหมือนที่
"พระพุทธองค์" ทรงบำเพ็ญทุกรกิริยาอยู่ถึง 6 ปี ...เมื่อพระองค์
ทรงเห็นว่าทางของการถึงนิพพานนั้นหาใช้การทรมานพระองค์ไม่ จึงทรงหยุด
การบำเพ็ญทุกรกิริยาหันมาบำรุงพระวรกายโดยปกติ โดยมีพระราชดำริว่า
"เหมือนสายพิณควรจะขึงพอดีจึงจะได้เสียงที่ไพเราะ"
ในขณะนั้ ปัญจวัคคีย์ ทั้ง 5 ได้แก่
โกณฑัญญะ วัปปะ ภัททิยะ มหานามะ
อัสสชิ ก็ไม่เข้าใจพระพุทธองค์ นึงว่าจะมีใจทรงสละละทิ้ง การบำเพ็ญเพียร...
ศิษย์ทั้ง 5 ต่างพากันไปอยู่ที่ป่าอิสิปตนมฤคทายวัน เมืองพาราณสี
(อยู่ ต.สารนาถ ประเทศอินเดีย)
จนพระองค์บรรลุ ตรัสรู้เป็น
พระสัมมาสัมพุทธเจ้า เหล่า
ปัญจวัคคีย์ จึงได้
กลับมาติดตามพระพุทธองค์อีกครั้ง....
รัฐธรรมนูญ ซึ่งเป็น กฏหมายสูงสุดของประเทศ ให้ทุกคนมีเสรีภาพ
ในการนับถือศาสนา
รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2550
หมวด 3
สิทธิและเสรีภาพของชนชาวไทย
มาตรา ๓๗ บุคคลย่อมมีเสรีภาพบริบูรณ์ในการถือศาสนา นิกายของศาสนา
หรือลัทธินิยมในทางศาสนา และย่อมมีเสรีภาพในการปฏิบัติตามศาสนธรรม
ศาสนบัญญัติ หรือปฏิบัติพิธีกรรมตามความเชื่อถือของตน เมื่อไม่เป็น
ปฏิปักษ์ต่อหน้าที่ของพลเมืองและไม่เป็นการขัดต่อความสงบเรียบร้อยหรือ
ศีลธรรมอันดีของประชาชน
ในการใช้เสรีภาพตามวรรคหนึ่ง บุคคลย่อมได้รับความคุ้มครองมิให้รัฐกระทำ
การใด ๆ อันเป็นการรอนสิทธิหรือเสียประโยชน์อันควรมีควรได้ เพราะเหตุที่
ถือศาสนา นิกายของศาสนา ลัทธินิยมในทางศาสนาหรือปฏิบัติตามศาสนธรรม
ศาสนบัญญัติ หรือปฏิบัติพิธีกรรมตามความเชื่อถือ แตกต่างจากบุคคลอื่น
อาชีพ ของคุณ
aor wachiraporn นั้น คือ "ครู" สิ่งที่จะทำให้
"ครู"
ต่าง...จาก
"คนรับจ้างสอนหนังสือ" คือ ครู ต้องเป็นผู้ยกระดับวิญญาณมนุษย์
ให้ "คน" เป็น "มนุษย์"....ซึ่ง
ก่อน ที่จะเป็นเบ้าหลอมคนอื่นได้ จำต้อง
หลอม ตนเอง ให้เข้มแข็งก่อน...และ บททดสอบความเข้มแข็ง ที่พระเจ้า
มอบให้ ก็คือ "ความเข้มแข็งที่จะรับพระองค์เข้าไปสู่จิตวิญญาณ โดยที่
ไม่เสีย
"สันติภาพ" ภายในครอบครัว..."
ดัังพุทธสุภาษิต ที่ว่า :
อตฺตานญฺเจ ตถา กยิรา ยถญฺญมนุสาสติ
ถ้าพร่ำสอนผู้อื่นฉันใด ก็ควรทำตนฉันนั้น
โดย : ฟรังซิสโก ณัฐวุฒิ เดินทางทุกที่ ๆ มีพระองค์