Belong to the Truth Jesus Christ

เรื่องนี้เกิดขึ้นที่วงโยธวาธิต ของโรงเรียนผม
มือถือของอาจารย์ไพสินซึ่งเป็นครูสอนวง หายไป
แล้วบังเอิญรุ่นพี่ของผมดันไปซื้อมือถือรุ่นเดียวกับอาจารย์เข้า
ซึ่งการซื้อก็มีเพื่อนของพี่เขาไปด้วยและคนในวงโยก็รู้
ยกเว้นเหมี่ยว
เหมี่ยวขอดูมือถือพี่เขาก็ไม่ให้ดูพออาจารย์ขอดูพี่เขากลับรีบวิ่ง-
ลงจากอาคาร เพราะวันนั้นพี่เขาต้องรีบกลับบ้าน
พี่เขาก็เลยกลายเป็นผู้ต้องสงสัยไปเลย
วันต่อมา
โรงเรียนเรียกผู้ปกครองมาคุยด้วย
แม่ของพี่เขาบอกให้เขายอมรับไปเถอะ
เพราะว่า
อาจารย์แกเป็นคนไร้ซึ่งเหตุและผล บอกยังไงก็ไม่ฟัง
แต่เรื่องยังไม่จบแค่นั้น
ธันวาเพื่อนของรุ่นพี่ผม ไปด่าไอเหมี่ยว
ไอเหมี่ยวก็เลยไปบอกอาจาร์ยว่ารุ่นพี่ของผมบอกให้เพื่อนมาด่า
ทั้งๆที่ไม่ใช่ อะนะ
อาจารย์เพชรัตน์เพื่อนของอาจารย์ไพสิน
ก็เลยบอกว่าจะประจานพี่เขาในการประชุมระดับ...........

ทั้งๆที่ก็มีพยานรู้เห็นว่าพี่เขาไปซื้อมาจริงๆ
และอีกอย่างวันที่มือถือหาย พี่เขาก็กลับบ้านก่อนที่มันไปอีกด้วย
พี่เขาไม่น่าไปรับสารภาพทั้งที่ไม่ผิดเลย.....
พวกพี่ๆพอมีทางออกใหมครับ

ถ้ารุ่นพี่เป็นคริสก็บอกเขาไปนะครับว่าขอให้อาศัยช่วงเวลานี้ในการพลีกรรมร่วมกับพระเยซูเจ้า สวดภาวนาให้เป็นไปตามพระประสงค์ของพระเป็นเจ้าครับ แต่ถ้าขาไม่ใช่คริสต์....ก็คอยให้กำลังใจและช่วยเขาแล้วกันครับ

จริง ๆ แล้วถ้าไม่ผิดก็ไม่น่ารับสารภาพนะครับ
แปลกจัง

ที่จริงผมเห็นด้วยถ้าไมผิดไม่น่าสารภาพเท่ากับเปิดโอกาสให้ความไม่ถูกต้องและความไม่เป็นธรรมบนโลกนี้ ถ้าเป็นคริสตชนควรขอพระช่วยนำทางและวางใจในพระองค์

ด้วยรักในพระคริสต์

ทำไม ไม่พิสูจน์ ด้วยเบอร์ที่ โทร เข้า-ออก หรือเบอร์ที่เมมไว้ล่ะ

และการซื้อ มันก็มีประวัตินี้ฮะ เช่น ใบเสร็จ คู่มือ การใช้

ไม่ผิด ก็ไม่ควรรับผิด แต่ทำอย่างไร ที่จะพิสูจน์ให้เข้าใจกันฮะ 8)

เครื่องโทรศัพท์มือถือแต่ละเครื่องเนี่ย
มันมี serial number ต่างกันนะ
เอาเครื่องเข้าศูนย์แล้วให้เขาเช็คได้เลย
ถ้าเบอร์เครื่องไปตรงกันก็รู้ได้แล้ว
ส่วนของอาจารย์ที่หายไป กลับไปที่ศูนย์
ก็สามารถที่จะสืบค้นหมายเลขเครื่องได้อยู่แล้ว
ถ้าอาจารย์บริสุทธิ์ใจจริงก็ถ้าให้ไปพิสูจน์กันเลย
และถ้าผลออกมาเด็กไม่ผิด
อยากให้ขอโทษเด็กและผู้ปกครองอย่างเป็นทางการด้วย

พี่เองเคยเจอเหตุการณ์แบบนี้เหมือนกัน
สมัยเรียน ... แบบว่ามีเงินหายในห้องอยู่ระยะหนึ่ง
พี่เองเป็นเด็กที่อาจารย์เค้ามองว่าทำอะรๆช้ากว่า
เพื่อนๆคนอื่นๆ ตลอดเลยมาสงสัยพี่
เรียกผู้ปกครองมาพบเฉยเลย
แต่แม่พี่ก็รู้ดีว่า พี่เองไม่เคยมีนิสัยแบบนั้น
แถมเอาพี่เข้าไปคุยแบบ สามรุมหนึ่ง
ขู่ต่างๆนาๆ ว่าให้พี่รับซะดีๆ จะไม่ทำโทษ
พี่ท้าให้เลย ถ้าคิดว่าพี่ทำก็เรียกแม่มาอีกซิ
ถ้าคิดว่าพี่ผิดจริงก็สั่งลงโทษมาเลย
แล้วจะได้รู้กันไปข้างหนึ่ง
แต่ถ้าหาตัวคนผิดได้ล่ะก็ ช่วยมาขอโทษด้วยนะ
ผลสุดท้าย พวกอาจารย์ไม่กล้าทำอะไรพี่เลย
หลังจากนั้นไม่นานพวกอาจารย์เค้าก็จับตัวคนผิดได้
แต่พวกพี่กับเพื่อนๆไม่รู้นะว่าใคร
เพราะพวกอาจารย์ไม่บอกชื่อ รู้แต่ว่าจับได้แล้ว
และเหตุการณ์เงินหายในชั้นเรียนก็จบไป

ใบเสร็จรับเงินแสดงหลักฐานการซื้อมือถือไงครับ เอาไปแสดง
ป.ล. ปรับสารภาพมั่วๆ เพื่อให้เรื่องจบๆเนี่ย ติดคุกมาหลายรายแล้วนะครับ

เดี๋ยวนี้ เค้าแก้ serial no. ได้นะครับ

บูว่าเขาคงไม่ลงทุนเอาไปแก้ serial no.หรอกฮะ ลองเช็คดูดิ

เออ นั่นดิ

เอาใบคู่มือ กะ ซีเรียลไปเช็คก็รู้แล้วว่าจริงไม่จริงอ่ะ

ขอย้ำว่าพระเยซูเจ้าไม่เคยสอนให้พูดไปมั่วๆนะครับ พระองค์สอนแต่ "ใช่ก็ว่าใช่ ไม่ก็ว่าไม่" และสอนให้ถ่อมตนนบนอบนะครับ *ok

โอ้....ถ้าไปรับสารภาพแล้ว
จะเอาคืนมาก็ยากแล้วคะ

มีอยู่วิธีเดียวคือ
ขนหลักฐานเช่นกล่องใส่ อุปกรณ์ที่มากะเครื่อง
พร้อมกับผู้ปกครองไปหาครู เพื่อยืนยันหลักฐานแหละจ๊ะ

ถ้าไม่ได้เก็บไว้ ก็ยากแล้วหล่ะ