จากหนังสือแม่พระยุคใหม่.....
..ยิ่งคุณรอคอยสวรรค์มากเท่าใด ความปรารถนาของคุณในโลกนี้ก็ยิ่งน้อยลงเท่านั้น
..สิ่งสำคัญไม่ใช่ว่าเราจะมีชีวิตอยู่นานเท่าใด แต่อยู่ที่ว่าเราจะดำเนินชีวิตอย่างไร
..พระเยซูได้จัดเตรียมที่ไว้สำหรับเรา และจัดเตรียมเราไว้สำหรับที่นั้น
..การทดลองของโลกนั้นเล็กน้อย เมื่อเทียบกับชัยชนะแห่งสวรรค์
..ความตายเป็นกำไร เพราะหมายถึงสวรรค์ ความบริสุทธิ์ และพระองค์
..พระบิดาในสวรรค์ทรงยินดี ที่จะทำให้เราเปรมปรีดิ์
..พระคริสต์ผู้ทรงฟื้นคืนพระชนม์จะเสด็จมา รับประชากรของพระองค์ขึ้นไปยังสวรรค์
..คุณต้องต้อนรับพระบุตรของพระเจ้าในวันนี้ เพื่อพรุ่งนี้จะได้อยู่ในสวรรค์ที่สว่างสดใส
..พระกรของพระบิดาในสวรรค์ที่โอบอุ้มบรรดาบุตรของพระองค์นั้นไม่มีวันล้า
..สิ่งที่เราทำเพื่อพระคริสต์ในโลกนี้ จะได้รับการตอบแทนในโลกหน้า
..พระบิดาในสวรรค์ทรงปรารถนาที่จะใช้เวลาที่มีคุณภาพ ร่วมกับบุตรทั้งหลายของพระองค์
..เผชิญหน้ากับความตายด้วยความมั่นใจ เพราะได้วางใจในพระคริสต์
..การพลัดพรากคือกฎของโลก การพบกันคือกฎของสวรรค์
..สวรรค์ถูกเตรียมไว้ เพื่อผู้ที่ผ่านการตระเตรียม
..หากเราพร้อมที่จะตาย เราสามารถมีชีวิตอยู่อย่างแท้จริงได้
..ขณะที่คริสตชนกำลังนมัสการบนโลก ชาวสวรรค์หมู่ใหญ่ก็ร่วมนมัสการไปด้วย
..การได้อยู่กับพระเยซูเจ้าชั่วนิจนิรันดร์นั้น เป็นผลรวมของความสุขทั้งมวล
..เราจะรู้จักความสุขนิรันดร์ได้ ต่อเมื่อเรารู้จักพระเยซูเจ้า
..คุณจะไปใช้เวลาชั่วนิรันดร์ ณ ที่แห่งใด
รอคอยสวรรค์
- siritawatss
- โพสต์: 559
- ลงทะเบียนเมื่อ: อาทิตย์ พ.ย. 18, 2012 8:11 pm
- ที่อยู่: อ มะขาม จ จันทบุรี
- ติดต่อ:
ขอรอคอยด้วยคนครับ
น้ำท่วม 2 ครั้ง เศรษฐกิจพัง สินค้าแพง หนี้แดงทั้งแผ่นดิน คือ ผลงาน “ทักษิณคิด ยิ่งลักษณ์ทำ”
แต่กระนั้นแล้วแท้จริงอยู่ที่ตัวชาวประชาชนด้วยนั่นแล ที่มีรสนิยมเสพติดในด้านหลงใหลค่า่นิยมในรูปแบบวัตถุ.........ได้โปรดอย่าใหลหลงยึดติดในตัวทรัพย์......ตายไปนำไปไม่ได้เลย
อย่ากล่าวโทษฝ่ายนั้น ฝ่ายนี้ว่าเขาดีหรือชั่ว จงมองตัวตนของตัวตนเองเสียก่อน
เขี่ยเศษฟางท่อนไม้นัยน์ตาท่านเสียก่อนดีกว่าไหม?
โลกใบนี้ล้วนมีคนมั่งคั่ง มั่งมี ยากจนคละเคล้ากันไปเป็นตามธรรมดาเพราะผลบุญของตนด้วยกันหมด......
อย่ากล่าวโทษฝ่ายนั้น ฝ่ายนี้ว่าเขาดีหรือชั่ว จงมองตัวตนของตัวตนเองเสียก่อน
เขี่ยเศษฟางท่อนไม้นัยน์ตาท่านเสียก่อนดีกว่าไหม?
โลกใบนี้ล้วนมีคนมั่งคั่ง มั่งมี ยากจนคละเคล้ากันไปเป็นตามธรรมดาเพราะผลบุญของตนด้วยกันหมด......
พวกเราต่างมีเวลาเหลืออยู่น้อยบนโลกดาวดวงนี้เข้าไปในทุกวินาที......ทุกลมหายใจ....ไม่มีผู้ใดทราบว่าวันเวลาที่เหลืออยู่นาฬิกาแห่งชีวิตจะหยุดเมื่อใด?
พวกเรามีความตายรอคอยกันถ้วนหน้า.....เป็นที่ตั้งเท่าเทียมกันหมด อนิจจัง ทุกขัง อนัตตาแล
พวกเรามีความรักอาดูรห่วงใยให้กันและกัน.....ข้ามพรมแดนมิใช่หรือ?
พวกเรามีรอยยิ้มพิมพืใจเหมือนกัน....พวกเราไม่มีใครดี..ใครเลวอยู่ภายในใจ
พวกเรามีเหรียญ 2 ด้านในตัวเดียวกันหมดดั่งหยินหยางเปรียบดั่งพระอาทิตย์พระจันทร์ที่ลอยบนฟากฟ้าทุกคืนวัน
พวกเรามีเลือดเนื้อเชื้อไขกรุีปเดียวกัน.....มิใช่เหรอ?
พวกเรา ณ วันนี้ยังมีลมหายใจอยู่ได้มิใช่เหรอ?
พวกเราควรขอบคุณทุกสิ่งทุกอย่างที่ได้พบเจอเห็นความเป็นไปต่างๆในโลกใบนี้....เพราะมีพวกเราที่เป็นมนุษย์ได้มีโอกาสให้เลือกเรียนรู้จากบุคคลที่เป็นตัวอย่างจากอีกฝ่ายที่เป็นเหรียญ 2ด้าน
โทสะ โมหะ รัก โลภ โกรธ หลงใหล เทิดทูน บูชา คลั่งใคล้ สิ่งเหล่านี้ต้องยอมรับว่าเราทุกตน ทุกชาติ ทุกภาษา ทุกศาสนา ทุกแห่งหนบนผืนแผ่นดินทั่วไป นอกจากนี้ยังมีดาวดวงเดียวกันแบบโลกใบนี้น้อยใหญ่อีกมากมายเกิจจะนับได้........ทุกบ้านในครัวเรือนบนโลกใบนี้ต่างต้องประสบพบเจอเรื่องแบบนี้เหมือนกันหมด.........ถ้าไม่เชื่อ ท่านจงไปเที่ยวท่องเคาะประตูถามไถ่แต่ละครัวเรือนชุมชนดูเถิด
จงขอเถิด แล้วท่านจะได้รับ จงแสวงหาเถิด แล้วท่านจะพบ จงเคาะประตูเถิด แล้วเขาจะเปิดประตูรับท่าน (มัทธิว 7:7)
พวกเรามีความตายรอคอยกันถ้วนหน้า.....เป็นที่ตั้งเท่าเทียมกันหมด อนิจจัง ทุกขัง อนัตตาแล
พวกเรามีความรักอาดูรห่วงใยให้กันและกัน.....ข้ามพรมแดนมิใช่หรือ?
พวกเรามีรอยยิ้มพิมพืใจเหมือนกัน....พวกเราไม่มีใครดี..ใครเลวอยู่ภายในใจ
พวกเรามีเหรียญ 2 ด้านในตัวเดียวกันหมดดั่งหยินหยางเปรียบดั่งพระอาทิตย์พระจันทร์ที่ลอยบนฟากฟ้าทุกคืนวัน
พวกเรามีเลือดเนื้อเชื้อไขกรุีปเดียวกัน.....มิใช่เหรอ?
พวกเรา ณ วันนี้ยังมีลมหายใจอยู่ได้มิใช่เหรอ?
พวกเราควรขอบคุณทุกสิ่งทุกอย่างที่ได้พบเจอเห็นความเป็นไปต่างๆในโลกใบนี้....เพราะมีพวกเราที่เป็นมนุษย์ได้มีโอกาสให้เลือกเรียนรู้จากบุคคลที่เป็นตัวอย่างจากอีกฝ่ายที่เป็นเหรียญ 2ด้าน
โทสะ โมหะ รัก โลภ โกรธ หลงใหล เทิดทูน บูชา คลั่งใคล้ สิ่งเหล่านี้ต้องยอมรับว่าเราทุกตน ทุกชาติ ทุกภาษา ทุกศาสนา ทุกแห่งหนบนผืนแผ่นดินทั่วไป นอกจากนี้ยังมีดาวดวงเดียวกันแบบโลกใบนี้น้อยใหญ่อีกมากมายเกิจจะนับได้........ทุกบ้านในครัวเรือนบนโลกใบนี้ต่างต้องประสบพบเจอเรื่องแบบนี้เหมือนกันหมด.........ถ้าไม่เชื่อ ท่านจงไปเที่ยวท่องเคาะประตูถามไถ่แต่ละครัวเรือนชุมชนดูเถิด
จงขอเถิด แล้วท่านจะได้รับ จงแสวงหาเถิด แล้วท่านจะพบ จงเคาะประตูเถิด แล้วเขาจะเปิดประตูรับท่าน (มัทธิว 7:7)
"ณ บ้านของท่านในวันนี้มี....ผู้ใดเกิดหรือบาดเจ็บหายหน้าหายตาล้มตายบ้างไหม?"
..ยิ่งคุณรอคอยสวรรค์มากเท่าใด ความปรารถนาของคุณในโลกนี้ก็ยิ่งน้อยลงเท่านั้น
..สิ่งสำคัญไม่ใช่ว่าเราจะมีชีวิตอยู่นานเท่าใด แต่อยู่ที่ว่าเราจะดำเนินชีวิตอย่างไร
..พระเยซูได้จัดเตรียมที่ไว้สำหรับเรา และจัดเตรียมเราไว้สำหรับที่นั้น
..การทดลองของโลกนั้นเล็กน้อย เมื่อเทียบกับชัยชนะแห่งสวรรค์
..ความตายเป็นกำไร เพราะหมายถึงสวรรค์ ความบริสุทธิ์ และพระองค์
..พระบิดาในสวรรค์ทรงยินดี ที่จะทำให้เราเปรมปรีดิ์
..พระคริสต์ผู้ทรงฟื้นคืนพระชนม์จะเสด็จมา รับประชากรของพระองค์ขึ้นไปยังสวรรค์
..คุณต้องต้อนรับพระบุตรของพระเจ้าในวันนี้ เพื่อพรุ่งนี้จะได้อยู่ในสวรรค์ที่สว่างสดใส
..พระกรของพระบิดาในสวรรค์ที่โอบอุ้มบรรดาบุตรของพระองค์นั้นไม่มีวันล้า
..สิ่งที่เราทำเพื่อพระคริสต์ในโลกนี้ จะได้รับการตอบแทนในโลกหน้า
..พระบิดาในสวรรค์ทรงปรารถนาที่จะใช้เวลาที่มีคุณภาพ ร่วมกับบุตรทั้งหลายของพระองค์
..เผชิญหน้ากับความตายด้วยความมั่นใจ เพราะได้วางใจในพระคริสต์
..การพลัดพรากคือกฎของโลก การพบกันคือกฎของสวรรค์
..สวรรค์ถูกเตรียมไว้ เพื่อผู้ที่ผ่านการตระเตรียม
..หากเราพร้อมที่จะตาย เราสามารถมีชีวิตอยู่อย่างแท้จริงได้
..ขณะที่คริสตชนกำลังนมัสการบนโลก ชาวสวรรค์หมู่ใหญ่ก็ร่วมนมัสการไปด้วย
..การได้อยู่กับพระเยซูเจ้าชั่วนิจนิรันดร์นั้น เป็นผลรวมของความสุขทั้งมวล
..เราจะรู้จักความสุขนิรันดร์ได้ ต่อเมื่อเรารู้จักพระเยซูเจ้า
..คุณจะไปใช้เวลาชั่วนิรันดร์ ณ ที่แห่งใด
..สิ่งสำคัญไม่ใช่ว่าเราจะมีชีวิตอยู่นานเท่าใด แต่อยู่ที่ว่าเราจะดำเนินชีวิตอย่างไร
..พระเยซูได้จัดเตรียมที่ไว้สำหรับเรา และจัดเตรียมเราไว้สำหรับที่นั้น
..การทดลองของโลกนั้นเล็กน้อย เมื่อเทียบกับชัยชนะแห่งสวรรค์
..ความตายเป็นกำไร เพราะหมายถึงสวรรค์ ความบริสุทธิ์ และพระองค์
..พระบิดาในสวรรค์ทรงยินดี ที่จะทำให้เราเปรมปรีดิ์
..พระคริสต์ผู้ทรงฟื้นคืนพระชนม์จะเสด็จมา รับประชากรของพระองค์ขึ้นไปยังสวรรค์
..คุณต้องต้อนรับพระบุตรของพระเจ้าในวันนี้ เพื่อพรุ่งนี้จะได้อยู่ในสวรรค์ที่สว่างสดใส
..พระกรของพระบิดาในสวรรค์ที่โอบอุ้มบรรดาบุตรของพระองค์นั้นไม่มีวันล้า
..สิ่งที่เราทำเพื่อพระคริสต์ในโลกนี้ จะได้รับการตอบแทนในโลกหน้า
..พระบิดาในสวรรค์ทรงปรารถนาที่จะใช้เวลาที่มีคุณภาพ ร่วมกับบุตรทั้งหลายของพระองค์
..เผชิญหน้ากับความตายด้วยความมั่นใจ เพราะได้วางใจในพระคริสต์
..การพลัดพรากคือกฎของโลก การพบกันคือกฎของสวรรค์
..สวรรค์ถูกเตรียมไว้ เพื่อผู้ที่ผ่านการตระเตรียม
..หากเราพร้อมที่จะตาย เราสามารถมีชีวิตอยู่อย่างแท้จริงได้
..ขณะที่คริสตชนกำลังนมัสการบนโลก ชาวสวรรค์หมู่ใหญ่ก็ร่วมนมัสการไปด้วย
..การได้อยู่กับพระเยซูเจ้าชั่วนิจนิรันดร์นั้น เป็นผลรวมของความสุขทั้งมวล
..เราจะรู้จักความสุขนิรันดร์ได้ ต่อเมื่อเรารู้จักพระเยซูเจ้า
..คุณจะไปใช้เวลาชั่วนิรันดร์ ณ ที่แห่งใด
คำถามคือ “เราพอใจแค่ดีกว่าเพื่อนมนุษย์ด้วยกันเองเท่านั้นหรือ ” “เราไม่คิดจะดีแบบพระเป็นเจ้าบ้างหรือ ”
ต่อเมื่อเรานำชีวิตของเรามาเทียบเคียงกับชีวิตของพระเยซูเจ้าและความศักดิ์สิทธิ์ขององค์พระผู้เป็นเจ้านั่นแหละ คำพูดเดียวที่จะหลุดออกมาจากปากของเราได้คือ... “ข้าแต่พระเจ้า โปรดทรงพระกรุณาต่อข้าพเจ้าคนบาปด้วยเถิด” และเมื่อนั้นเรา “จะได้รับการยกย่องให้สูงขึ้น”
จาก คุณพ่อ เชษฐ์ดนัย ไชยเผือก