"ถอนฟัน" เพื่อไม่ต้องใช้ "แปรงสีฟัน" ไหม?
โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. ต.ค. 16, 2014 5:48 pm
กลุ่มแบ่งปันการรำพึงพระคัมภีร์......
มธ 6: 31-34
...ดังนั้น อย่ากังวลและกล่าวว่า "เราจะกินอะไร? หรือจะดื่มอะไร? หรือเราจะนุ่งห่มอะไร? "
เพราะสิ่งต่างๆเหล่านี้คนต่างศาสนาแสวงหา พระบิดาของท่านผู้สถิตในสวรรค์ทรงทราบ
แล้วว่า ท่านต้องการทุกสิ่งเหล่านี้ จงแสวงหาพระอาณาจักรของพระเจ้า และความชอบธรรม
ของพระองค์ก่อน แล้วพระองค์จะทรงเพิ่มทุกสิ่งเหล่านี้ให้ เพราะฉะนั้น ท่านทั้งหลายอย่า
กังวลถึงวันพรุ่งนี้ เพราะวันพรุ่งนี้จะกังวลสำหรับตนเอง แต่ละวันมีทุกข์พออยู่แล้ว.......
<<<<<<<<<<<<<<<<<<<<<<<<<>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>
<<<<<<<<<<<<<<<<<<<<<<<<<>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>
...ในนครแห่งหนึ่ง ในสมัยที่มนุษย์เริ่มรู้จักทำความสะอาดฟันของตนตอนเช้าด้วยการ
ใช้แปรงสีฟัน ความนิยมการใช้แปรงสีฟันนี้กระจายไปทุกครอบครัว ทุกหมู่บ้าน ทุกจังหวัด
ของนครนี้ เจ้านครจึงมีบัญชาให้สร้างโรงงานทำแปรงฟันแก่ประชาชนของตนแทนการซื้อ
จากนครอื่น ชีวิตของทุกคนก็เป็นสุขสำราญดีด้วยสุขภาพฟันที่ดีทุกคน...
...จนกระทั่งมาวันหนึ่ง เกิดเหตุการณ์ร้ายขึ้น นั่นคือโรงงานทำแปรงสีฟันเกิดไฟไหม้
เครื่องจักร อาคารโรงงานถูกไหม้เป็นจุณไปหมด จึงหมายความว่า ต่อจากนั้นไปจะไม่มี
แปรงสีฟันใหม่มาใช้แล้ว ทุกคนเกิดความทุกข์ในใจ ต่างคนต่างร่ำร้องต่อเจ้านครว่า
ตนเองจะทำอย่างไรดีกับสุขภาพฟันของตน เจ้านครคิดอยู่นาน ปรึกษากับเสนาบดีของตน
จนในที่สุดเกิดความคิดสร้างสรรค์ขึ้นมาอย่างไม่มีใครคาดคิดถึง จึงให้ประกาศราชโองการ
ให้แก่ประชาชนทุกคนว่า " นับแต่นี้ต่อไป ให้ทุกคนถอนฟันของตนทุกซีกหมดทุกคน
พวกเราจะได้ไม่ต้องใช้แปรงสีฟัน..!!!???
...มนุษย์เราช่างมีความคิดสร้างสรรค์เสมอ ไม่ว่าสมัยไหน ท่ามกลางความยากลำบากของ
ชีวิต เรามักจะสรรหาทางออกได้เสมอ แต่ทางออก ทางแก้ไขนี้จะเป็นการแก้ไขสถานการณ์
แก้ไขอุปสรรคได้จริงแท้ประการใดนั้น ก็ขึ้นอยู่กับวิจราณญาณของมนุษย์แต่ละคน แต่ละ
สังคมในสภาพสิ่งแวดล้อม สภาพสังคม วัฒนธรรม ศีลธรรม และศาสนาที่แตกต่างกัน
...เราอาจจะนึกขำถึงทางแก้ไขของเจ้านครท่านนี้ ที่ให้ประชาชนของตนถอนฟันทิ้งเสีย
เพื่อแก้ปัญหาการไม่มีแปรงสีฟันใช้... แต่สภาพนี้ยังมีปรากฎให้เห็นในสังคมมนุษย์ในสมัย
ปัจจุบันนี้ เราคริสตชนแต่ละคนควรพิจราณาตัวเองด้วย ว่าตนเองได้ใช้วิธีแก้ปัญหาแบบ
" ถอนฟัน " เพื่อไม่ต้องใช้ "แปรงสีฟัน " เช่นนี้หรือเปล่า นี่เป็นสิ่งที่ท้าทายเรา ในสมัยปัจจุบัน
มีต่อ...
มธ 6: 31-34
...ดังนั้น อย่ากังวลและกล่าวว่า "เราจะกินอะไร? หรือจะดื่มอะไร? หรือเราจะนุ่งห่มอะไร? "
เพราะสิ่งต่างๆเหล่านี้คนต่างศาสนาแสวงหา พระบิดาของท่านผู้สถิตในสวรรค์ทรงทราบ
แล้วว่า ท่านต้องการทุกสิ่งเหล่านี้ จงแสวงหาพระอาณาจักรของพระเจ้า และความชอบธรรม
ของพระองค์ก่อน แล้วพระองค์จะทรงเพิ่มทุกสิ่งเหล่านี้ให้ เพราะฉะนั้น ท่านทั้งหลายอย่า
กังวลถึงวันพรุ่งนี้ เพราะวันพรุ่งนี้จะกังวลสำหรับตนเอง แต่ละวันมีทุกข์พออยู่แล้ว.......
<<<<<<<<<<<<<<<<<<<<<<<<<>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>
<<<<<<<<<<<<<<<<<<<<<<<<<>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>
...ในนครแห่งหนึ่ง ในสมัยที่มนุษย์เริ่มรู้จักทำความสะอาดฟันของตนตอนเช้าด้วยการ
ใช้แปรงสีฟัน ความนิยมการใช้แปรงสีฟันนี้กระจายไปทุกครอบครัว ทุกหมู่บ้าน ทุกจังหวัด
ของนครนี้ เจ้านครจึงมีบัญชาให้สร้างโรงงานทำแปรงฟันแก่ประชาชนของตนแทนการซื้อ
จากนครอื่น ชีวิตของทุกคนก็เป็นสุขสำราญดีด้วยสุขภาพฟันที่ดีทุกคน...
...จนกระทั่งมาวันหนึ่ง เกิดเหตุการณ์ร้ายขึ้น นั่นคือโรงงานทำแปรงสีฟันเกิดไฟไหม้
เครื่องจักร อาคารโรงงานถูกไหม้เป็นจุณไปหมด จึงหมายความว่า ต่อจากนั้นไปจะไม่มี
แปรงสีฟันใหม่มาใช้แล้ว ทุกคนเกิดความทุกข์ในใจ ต่างคนต่างร่ำร้องต่อเจ้านครว่า
ตนเองจะทำอย่างไรดีกับสุขภาพฟันของตน เจ้านครคิดอยู่นาน ปรึกษากับเสนาบดีของตน
จนในที่สุดเกิดความคิดสร้างสรรค์ขึ้นมาอย่างไม่มีใครคาดคิดถึง จึงให้ประกาศราชโองการ
ให้แก่ประชาชนทุกคนว่า " นับแต่นี้ต่อไป ให้ทุกคนถอนฟันของตนทุกซีกหมดทุกคน
พวกเราจะได้ไม่ต้องใช้แปรงสีฟัน..!!!???
...มนุษย์เราช่างมีความคิดสร้างสรรค์เสมอ ไม่ว่าสมัยไหน ท่ามกลางความยากลำบากของ
ชีวิต เรามักจะสรรหาทางออกได้เสมอ แต่ทางออก ทางแก้ไขนี้จะเป็นการแก้ไขสถานการณ์
แก้ไขอุปสรรคได้จริงแท้ประการใดนั้น ก็ขึ้นอยู่กับวิจราณญาณของมนุษย์แต่ละคน แต่ละ
สังคมในสภาพสิ่งแวดล้อม สภาพสังคม วัฒนธรรม ศีลธรรม และศาสนาที่แตกต่างกัน
...เราอาจจะนึกขำถึงทางแก้ไขของเจ้านครท่านนี้ ที่ให้ประชาชนของตนถอนฟันทิ้งเสีย
เพื่อแก้ปัญหาการไม่มีแปรงสีฟันใช้... แต่สภาพนี้ยังมีปรากฎให้เห็นในสังคมมนุษย์ในสมัย
ปัจจุบันนี้ เราคริสตชนแต่ละคนควรพิจราณาตัวเองด้วย ว่าตนเองได้ใช้วิธีแก้ปัญหาแบบ
" ถอนฟัน " เพื่อไม่ต้องใช้ "แปรงสีฟัน " เช่นนี้หรือเปล่า นี่เป็นสิ่งที่ท้าทายเรา ในสมัยปัจจุบัน
มีต่อ...