7. เรื่อง....หยุดและช่วยทันที....
....ทีราชา เป็นคนขับรถสามล้อในอินเดียที่บัลกาลอร์ มีรายได้จากการ
ขับสามล้อ 200 รูปี ต่อวัน เขาดูแลครอบครัว ภรรยา ลูก ซื้อเสื้อผ้า อาหาร
ส่งลูกเรียน
....วันหนึ่งเขาออกไปทำงานพบคนแก่นอนข้างถนน ตัวสั่น แต่เขาช่วยอะไร
ไม่ได้ เขาไม่มีอะไรที่จะให้ชายแก่คนนั้นเลย
....หลังจากนั้นเขาขับรถกลับบ้านด้วยความรู้สึกไม่สบายใจ เขารู้สึกผิดที่
ไม่ได้ช่วยอะไรเลย เวลาผ่านไป 2 ชั่วโมง เขาขับสามล้อออกมาเพื่อตามหา
คนชรานั้น แต่ว่าไม่พบเสียแล้ว เขาจึงไปถามตำรวจ ตำรวจก็บอกว่าเขาเพิ่ง
ตายเมื่อชั่วโมงที่แล้วนี่เอง
....ทีราชารู้สึกเสียใจมาก เขาจึงเตือนตัวเองอยู่เสมอว่า ไม่ว่าจะพบใครใน
อนาคตจะหยุดและช่วยเหลือทันที
....ต่อจากนั้นไม่นานเขาพบหญิงชราคนหนึ่งศรีษะพันด้วยผ้ามีเลือดไหล
บาดแผลติดเชื้อมีหนอนไชอยู่ตามบริเวณรอบตัว เขาจึงนำหญิงชราคนนั้น
กลับไปบ้านของเขา ช่วยกันดูแลรักษา ให้ที่พักโดนสร้างกระท่อมไว้ข้างๆ
บ้าน ให้หญิงชราอยู่
....เรื่องเล่าถึงในปัจจุบัน เขาหารายได้1.000 รูปี เขาสร้างบ้านพัก
สำหรับคนป่วยบรรจุสมาชิกได้ 150 คน
เรื่องสั้น อ่านสนุก จากหนังสือ by พ่อมี้ (2)
8.เรื่อง...10 รูปี
....แม่ชีเทเรซา เล่าเรื่องให้ฟังว่าเธอเดินไปพบขอทานคนหนึ่ง ขอทานคนนั้น
พูดกับคุณแม่เทเรซาว่า " คุณแม่ทุกๆคนถวายเงินให้คุณแม่เพื่อคนยากจนผม
ก็ด้วยเหมือนกัน "
...แม่ชีเทเรซาเงียบไปสักครู่ แล้วคิดในใจว่าถ้าบอกขอทานว่าไม่รับเงินก็จะ
ทำลายน้ำใจดีของเขา แต่ถ้าบอกว่าตกลงยอมรับเงิน ขอทานคนนี้ก็ต้องอด
ข้าวเย็นวันนี้
...คุณแม่คิดไปคิดมาแล้วก็บอกว่า " ตกลงแม่ยอมรับเงินจากลูก " หลังจากนั้น
ขอทานก็ยิ้มอย่างมีความสุขและควักเงิน 10 รูปี ออกมาให้คุณแม่เทเรซา และ
จากนั้นคุณแม่ก็เดินต่อไปพลางคิดว่า ขอทานคนนี้ได้เสียสละอย่างยิ่งใหญ่
เขาต้องนั่งอยู่กลางแดดทั้งวันเพื่อได้เงินมา 10 รูปี แต่เขากลับนำเงินมาให้
คนที่จนกว่าเขา
9.เรื่อง....ด้วยหัวใจ....
....พระเจ้าอยากประทานสายน้ำที่ใสสะอาดแก่มนุษย์ แต่ก่อนสร้างสายน้ำ
พระองค์ถามว่า "ลูกสามารถให้หัวใจของลูกแก่เราได้ไหม"
ฉันตอบว่า "ใช่...ฉันขอถวายหัวใจให้พระองค์ "
....หลังจากนั้นก็มีสายน้ำที่ใสสะอาดเกิดขึ้น ทั้งมีกุหลาบสีขาวลอยตามสาย
น้ำมากมาย ฉันมองดูด้วยความสุขเพลิดเพลิน ฉันมองจนลืมเวลา กุหลาบขาว
ลอยไปสุดลูกหูลูกตา จนกระทั่งมาถึงสายน้ำอีกสายหนึ่ง มีสีดำส่งกลิ่นเหม็น
สกปรกน่ารังเกียจ ประชาชนแถวสายน้ำโศรกเศร้า ไร้ความหวัง และกุหลาบ
ก็กลายเป็นสีดำ ฉันเข้าใจทันทีเลยว่าคนที่นี่คงตอบพระเจ้าไม่ถูก เขาคงจะ
ตอบว่า " ไม่..ผมไม่ยอมให้หัวใจแก่พระองค์ "
....แม่ชีเทเรซา เล่าเรื่องให้ฟังว่าเธอเดินไปพบขอทานคนหนึ่ง ขอทานคนนั้น
พูดกับคุณแม่เทเรซาว่า " คุณแม่ทุกๆคนถวายเงินให้คุณแม่เพื่อคนยากจนผม
ก็ด้วยเหมือนกัน "
...แม่ชีเทเรซาเงียบไปสักครู่ แล้วคิดในใจว่าถ้าบอกขอทานว่าไม่รับเงินก็จะ
ทำลายน้ำใจดีของเขา แต่ถ้าบอกว่าตกลงยอมรับเงิน ขอทานคนนี้ก็ต้องอด
ข้าวเย็นวันนี้
...คุณแม่คิดไปคิดมาแล้วก็บอกว่า " ตกลงแม่ยอมรับเงินจากลูก " หลังจากนั้น
ขอทานก็ยิ้มอย่างมีความสุขและควักเงิน 10 รูปี ออกมาให้คุณแม่เทเรซา และ
จากนั้นคุณแม่ก็เดินต่อไปพลางคิดว่า ขอทานคนนี้ได้เสียสละอย่างยิ่งใหญ่
เขาต้องนั่งอยู่กลางแดดทั้งวันเพื่อได้เงินมา 10 รูปี แต่เขากลับนำเงินมาให้
คนที่จนกว่าเขา
9.เรื่อง....ด้วยหัวใจ....
....พระเจ้าอยากประทานสายน้ำที่ใสสะอาดแก่มนุษย์ แต่ก่อนสร้างสายน้ำ
พระองค์ถามว่า "ลูกสามารถให้หัวใจของลูกแก่เราได้ไหม"
ฉันตอบว่า "ใช่...ฉันขอถวายหัวใจให้พระองค์ "
....หลังจากนั้นก็มีสายน้ำที่ใสสะอาดเกิดขึ้น ทั้งมีกุหลาบสีขาวลอยตามสาย
น้ำมากมาย ฉันมองดูด้วยความสุขเพลิดเพลิน ฉันมองจนลืมเวลา กุหลาบขาว
ลอยไปสุดลูกหูลูกตา จนกระทั่งมาถึงสายน้ำอีกสายหนึ่ง มีสีดำส่งกลิ่นเหม็น
สกปรกน่ารังเกียจ ประชาชนแถวสายน้ำโศรกเศร้า ไร้ความหวัง และกุหลาบ
ก็กลายเป็นสีดำ ฉันเข้าใจทันทีเลยว่าคนที่นี่คงตอบพระเจ้าไม่ถูก เขาคงจะ
ตอบว่า " ไม่..ผมไม่ยอมให้หัวใจแก่พระองค์ "
10. เรื่อง....สิ่งที่เห็นไม่ได้เป็นอย่างที่คิดเสมอไป.....
....คริสตชน 2 คนเป็นคนร่ำรวยมาก คนหนึ่งเป็นทนายความ อีกคนหนึ่ง
เป็นนักธุระกิจ เดินทางไปรอบโลกด้วยกัน ขณะที่เดินทางไปเที่ยวประเทศ
เกาหลี เดินผ่านข้างถนนสายหนึ่งพร้อมกับมัคคุเทศน์ ทั้งสามคนเห็นคน
2คนอยู่ในทุ่งนา คนหนึ่งเป็นเด็ก คนหนึ่งเป็นคนชราช่วยกันไถนา โดย
ไม่มีควายหรือรถไถนา ทนายความเริ่มหัวเราะและหันไปพูดกับมัคคุเทศน์
ที่มาด้วยกันว่า " ประชาชนที่นี่น่าสงสารจริงๆ "
....มัคคุเทศน์ตอบ " มันไม่ได้เป็นอย่างที่คุณคิดหรอก แท้จริงครอบครัว
คนชรานี้ชื่อ ชีนอย เมื่อตอนเริ่มตั้งชุมชนที่นี่ เขาถวายเงินทุกสิ่งที่มีเพื่อ
สร้างโบสถ์ เขาจึงขายวัวขายควายทั้งหมดที่มี เพื่อไปบำรุงและสร้างวัด
เพราะฉะนั้นเวลาถึงหน้านา เขาก็ไถนากันเอง โดยผู้เป็นตามีหน้าที่เดินไป
ข้างหน้า ส่วนหลานเดินข้างหลัง แล้วช่วยกันไถนา"
....นักท่องเที่ยวตอบ " ความจริงแล้วครอบครัวนี้ไม่ได้ยากจนเลย เขาเสีย
สละทุกอย่างเพื่อชุมชน และไม่ได้น่าสงสารเหมือนที่คุณคิด เขาคิดว่าโชคดี
ที่ได้ขายวัวขายควาย และไม่เคยเสียใจกับสิ่งที่ได้ทำไปเลย "
....คริสตชน 2 คนเป็นคนร่ำรวยมาก คนหนึ่งเป็นทนายความ อีกคนหนึ่ง
เป็นนักธุระกิจ เดินทางไปรอบโลกด้วยกัน ขณะที่เดินทางไปเที่ยวประเทศ
เกาหลี เดินผ่านข้างถนนสายหนึ่งพร้อมกับมัคคุเทศน์ ทั้งสามคนเห็นคน
2คนอยู่ในทุ่งนา คนหนึ่งเป็นเด็ก คนหนึ่งเป็นคนชราช่วยกันไถนา โดย
ไม่มีควายหรือรถไถนา ทนายความเริ่มหัวเราะและหันไปพูดกับมัคคุเทศน์
ที่มาด้วยกันว่า " ประชาชนที่นี่น่าสงสารจริงๆ "
....มัคคุเทศน์ตอบ " มันไม่ได้เป็นอย่างที่คุณคิดหรอก แท้จริงครอบครัว
คนชรานี้ชื่อ ชีนอย เมื่อตอนเริ่มตั้งชุมชนที่นี่ เขาถวายเงินทุกสิ่งที่มีเพื่อ
สร้างโบสถ์ เขาจึงขายวัวขายควายทั้งหมดที่มี เพื่อไปบำรุงและสร้างวัด
เพราะฉะนั้นเวลาถึงหน้านา เขาก็ไถนากันเอง โดยผู้เป็นตามีหน้าที่เดินไป
ข้างหน้า ส่วนหลานเดินข้างหลัง แล้วช่วยกันไถนา"
....นักท่องเที่ยวตอบ " ความจริงแล้วครอบครัวนี้ไม่ได้ยากจนเลย เขาเสีย
สละทุกอย่างเพื่อชุมชน และไม่ได้น่าสงสารเหมือนที่คุณคิด เขาคิดว่าโชคดี
ที่ได้ขายวัวขายควาย และไม่เคยเสียใจกับสิ่งที่ได้ทำไปเลย "
11. เรื่อง....พระเจ้ามีค่ามากกว่าสิ่งใด......
....ครั้งหนึ่งกษัตริย์เรียกโอรสทั้งสามมาเฝ้า วางภาชนะไว้หน้าโอรส
ใบที่หนึ่งทำด้วยทองคำ ใบที่สองทำจากอำพัน ใบที่สามทำจากดินเหนียว
กษัตริย์ให้โอรสเลือกภาชนะเพื่อให้เป็นทรัพย์สมบัติที่มีค่าที่สุด องค์โตก้าว
มาก่อนเลือกภาชนะทองคำจารึกไว้ว่าจักรพรรดิ์ เปิดออกมาก็พบว่าภาชนะ
เต็มไปด้วยเลือด นักปราชญ์ประจำราชสำนักบอกว่า ใครก็ตามต้องการ
ภาชนะและปกครองโลกต้องแลกมาด้วยเลือด โอรสคนที่สองเลือกภาชนะ
อำพันเขียนว่ารุ่งโรจน์ เมื่อเปิดออกก็พบขี้เถ้าจากร่างกายของผู้มีชื่อเสียง
จากโลก นักปราชญ์อธิบายว่า ความยิ่งใหญ่รุ่งโรจน์ของโลกนี้ ที่สุดก็ไร้ค่า
เหมือนขี้เถ้านี่แหละ โอรสองค์สุดท้ายเลือกภาชนะที่ทำด้วยดินเขียนไว้ว่า
พระเจ้า นักปราชญ์และขุนนางทั้งหลายต่างเห็นพ้องว่าภาชนะที่สาม ทำจาก
ดินเหนียว พร้อมจารึกว่าพระเจ้า มีค่ามากกว่าสิ่งทั้งหลายในจักรวาล และเป็น
ขุมทรัพย์ที่ไม่เสื่อมสลายเลย
....ครั้งหนึ่งกษัตริย์เรียกโอรสทั้งสามมาเฝ้า วางภาชนะไว้หน้าโอรส
ใบที่หนึ่งทำด้วยทองคำ ใบที่สองทำจากอำพัน ใบที่สามทำจากดินเหนียว
กษัตริย์ให้โอรสเลือกภาชนะเพื่อให้เป็นทรัพย์สมบัติที่มีค่าที่สุด องค์โตก้าว
มาก่อนเลือกภาชนะทองคำจารึกไว้ว่าจักรพรรดิ์ เปิดออกมาก็พบว่าภาชนะ
เต็มไปด้วยเลือด นักปราชญ์ประจำราชสำนักบอกว่า ใครก็ตามต้องการ
ภาชนะและปกครองโลกต้องแลกมาด้วยเลือด โอรสคนที่สองเลือกภาชนะ
อำพันเขียนว่ารุ่งโรจน์ เมื่อเปิดออกก็พบขี้เถ้าจากร่างกายของผู้มีชื่อเสียง
จากโลก นักปราชญ์อธิบายว่า ความยิ่งใหญ่รุ่งโรจน์ของโลกนี้ ที่สุดก็ไร้ค่า
เหมือนขี้เถ้านี่แหละ โอรสองค์สุดท้ายเลือกภาชนะที่ทำด้วยดินเขียนไว้ว่า
พระเจ้า นักปราชญ์และขุนนางทั้งหลายต่างเห็นพ้องว่าภาชนะที่สาม ทำจาก
ดินเหนียว พร้อมจารึกว่าพระเจ้า มีค่ามากกว่าสิ่งทั้งหลายในจักรวาล และเป็น
ขุมทรัพย์ที่ไม่เสื่อมสลายเลย
12. เรื่อง....จากสิ่งเล็กๆ.....
....นักท่องเที่ยวเดินสำรวจช่องเขาในประเทศฝรั่งเศส เขาได้เห็น
คนชราคนหนึ่งยืนถือถุงเมล็ดพันธุ์พืชอยู่พร้อม กับถุงด้านหลังใส่
เมล็ดพืช เขากำลังขุดหลุมและใส่เมล็ดพืชลงในหลุม เมื่อพบกับ
นักท่องเที่ยวเขาก็บอกนักท่องเที่ยวว่า ที่เขาทำแบบนี้ ก็เพราะภรรยา
และลูกได้เสียชีวิตไปแล้ว เขาไม่รู้ว่าจะใช้เวลาทำอะไร อยากทำสิ่งที่มี
ประโยชน์ หลังจากนั้นนักท่องเที่ยวก็จากไป
....เวลาผ่านไป 25 ปี นักท่องเที่ยวกลุ่มเดิมได้มาท่องเที่ยวที่ประเทศ
ฝรั่งเศสอีกครั้งหนึ่ง เขาต้องประหลาดใจมาก พื้นที่ 2คูณ 5 ไมล์ เขาได้
เห็นป่าสนเป็นแนวยาว พร้อมกับเสียงลมที่พัดมาอย่างไพเราะ มีสัตว์ตัว
เล็กๆ วิ่งตามต้นไม้ รวมทั้งนก กระรอกและแมลง มีดอกไม้ป่านานาชนิด
ขึ้นแถวนั้น เมื่อเห็นดังนั้นนักท่องเที่ยวก็อุทานออกมาว่า
"ทำไมสวยงามขนาดนี้ "
13. เรื่อง....สิ่งสุดท้าย ......
....นักเรียนแคนนาดาชื่อ เทซี่ ฟอร์ท สูญเสียขาเพราะเป็นมะเร็ง เขามีชีวิต
ได้อีก 2-3 ปีเท่านั้น เขาต้องการใช้วันเวลาให้มีคุณค่ามากที่สุด เลยตัดสินใจ
ว่า เขาจะวิ่งข้ามประเทศ แคนาดา เพื่อขอบริจาคสนับสนุนใช้เป็นทุนสำหรับ
ทำวิจัยเพื่อรักษาโรคมะเร็ง 18 เดือนเขาใช้เวลาเพื่อฝึกการใช้ขาเทียม
วันที่ 12 เมษายน 1980 เขาจุมขาลงที่ทะเลแอตแลนติก และเริ่มวิ่ง มีคนสนับ
สนุนเงิน 1 ล้านดอลล่าร์
...ต่อมา 4 เดือน เขาวิ่งต่อไปอีก 3,000 ไมล์ เขาหกล้มเพราะมะเร็งลามไป
ที่ปอด เขาเริ่มลุกขึ้นวิ่งใหม่ ข้ามประเทศแคนาดาสำเร็จ รับเงินบริจาค
24 ล้านดอลล่าร์ หลังจากนั้นไม่นานเขาก็เสียชีวิต..
....นักท่องเที่ยวเดินสำรวจช่องเขาในประเทศฝรั่งเศส เขาได้เห็น
คนชราคนหนึ่งยืนถือถุงเมล็ดพันธุ์พืชอยู่พร้อม กับถุงด้านหลังใส่
เมล็ดพืช เขากำลังขุดหลุมและใส่เมล็ดพืชลงในหลุม เมื่อพบกับ
นักท่องเที่ยวเขาก็บอกนักท่องเที่ยวว่า ที่เขาทำแบบนี้ ก็เพราะภรรยา
และลูกได้เสียชีวิตไปแล้ว เขาไม่รู้ว่าจะใช้เวลาทำอะไร อยากทำสิ่งที่มี
ประโยชน์ หลังจากนั้นนักท่องเที่ยวก็จากไป
....เวลาผ่านไป 25 ปี นักท่องเที่ยวกลุ่มเดิมได้มาท่องเที่ยวที่ประเทศ
ฝรั่งเศสอีกครั้งหนึ่ง เขาต้องประหลาดใจมาก พื้นที่ 2คูณ 5 ไมล์ เขาได้
เห็นป่าสนเป็นแนวยาว พร้อมกับเสียงลมที่พัดมาอย่างไพเราะ มีสัตว์ตัว
เล็กๆ วิ่งตามต้นไม้ รวมทั้งนก กระรอกและแมลง มีดอกไม้ป่านานาชนิด
ขึ้นแถวนั้น เมื่อเห็นดังนั้นนักท่องเที่ยวก็อุทานออกมาว่า
"ทำไมสวยงามขนาดนี้ "
13. เรื่อง....สิ่งสุดท้าย ......
....นักเรียนแคนนาดาชื่อ เทซี่ ฟอร์ท สูญเสียขาเพราะเป็นมะเร็ง เขามีชีวิต
ได้อีก 2-3 ปีเท่านั้น เขาต้องการใช้วันเวลาให้มีคุณค่ามากที่สุด เลยตัดสินใจ
ว่า เขาจะวิ่งข้ามประเทศ แคนาดา เพื่อขอบริจาคสนับสนุนใช้เป็นทุนสำหรับ
ทำวิจัยเพื่อรักษาโรคมะเร็ง 18 เดือนเขาใช้เวลาเพื่อฝึกการใช้ขาเทียม
วันที่ 12 เมษายน 1980 เขาจุมขาลงที่ทะเลแอตแลนติก และเริ่มวิ่ง มีคนสนับ
สนุนเงิน 1 ล้านดอลล่าร์
...ต่อมา 4 เดือน เขาวิ่งต่อไปอีก 3,000 ไมล์ เขาหกล้มเพราะมะเร็งลามไป
ที่ปอด เขาเริ่มลุกขึ้นวิ่งใหม่ ข้ามประเทศแคนาดาสำเร็จ รับเงินบริจาค
24 ล้านดอลล่าร์ หลังจากนั้นไม่นานเขาก็เสียชีวิต..
แก้ไขล่าสุดโดย rosa-lee เมื่อ จันทร์ ก.ย. 28, 2015 11:52 am, แก้ไขไปแล้ว 1 ครั้ง.