เรื่องดีๆจากหนังสือสรรสาระ ชุด (1)
โพสต์แล้ว: จันทร์ ก.ย. 20, 2021 5:24 pm
โรงเรียนแห่งความหวัง
ตอนที่ (1)จากหนังสือสรรสาระ ฉบับเดือนมีนาคม 2546/2003,
โดย Marc Lerner รวบรวมและเพิ่มเติมจาก Google 2021 โดย กอบกิจ ครุวรรณ
หมู่บ้านอาข่า ดอยแม่สลอง เป็นหนึ่งในหมู่บ้านชนกลุ่มน้อยยากจนซึ่งกระจัดกระจาย
อยู่บริเวณชายแดนไทย-พม่า มีปัญหาเรื่องยาเสพติดและเด็กสาวมักถูกพ่อแม่บังคับ
ให้ออกจากโรงเรียน หลังเรียนได้แค่ 2-3 ปี ก่อนถูกนายหน้านำไปขายให้เครือข่าย
ค้าประเวณี
เมื่อ ’สมภพ จันทรากา’ ได้ยินเรื่องนายหน้ามาสัญญากับเด็กสาววัยเพียง 12 ขวบซึ่ง
เป็นลูกสาวของผู้นำหมู่บ้านแห่งนี้ว่า จะให้ทำงานเป็นเด็กเสิร์ฟและทำงานในโรงงาน
เขารู้ความจริงว่า ที่สุดแล้วเด็กเหล่านี้จะถูกบังคับให้ขายบริการทางเพศที่บาร์,
ร้านคาราโอเกะ หรือสถานอาบอบนวด
ครูสมภพและนักสังคมสงเคราะห์ซึ่งขณะนั้นวัย 36 ปี (กุมภาพันธ์ 2536) รีบขี่จักรยานยนต์
คันเก่าไปที่หมู่บ้านนี้และพูดกับผู้นำหมู่บ้านว่า “ลูกน่าจะได้รับสิ่งที่ดีกว่านี้ ถ้าเรียนจบเด็ก
จะมีโอกาสทำงานและสามารถช่วยเหลือครอบครัวได้ตามสมควร” จากนั้นสมภพก็เล่า
ให้ผู้นำหมู่บ้านฟังถึงศูนย์การเรียนของเขาที่แม่สายซึ่งอยู่ไม่ไกลกันนัก เขาบอกว่า ที่ศูนย์ฯ
เด็ก ๆ จะได้เรียนรู้ทักษะที่สามารถนำไปสร้างอนาคตได้อย่างแท้จริงผู้นำหมู่บ้านยัง
คลางแคลงใจอยู่ แต่สมภพก็ไม่ละความพยายาม เขาแวะเวียนไปเยี่ยมที่หมู่บ้านนั้นอีก
หลายครั้งในช่วง 2-3 เดือนต่อมา ในที่สุดผู้นำหมู่บ้านก็ส่งลูกสาวคนเดียวของเขาไปเรียน
ที่ศูนย์การเรียนของสมภพ ปีต่อมามีเด็กสาวเข้าเรียนเพิ่มอีกกว่า 10 คน
สมภพกำลังต่อสู้กับปัญหาของสังคมไทยที่มีมานาน นั่นคือการล่อลวงเด็กสาวมาขายบริการ
ทางเพศ ผู้เชี่ยวชาญหลายคนบอกว่า มีผู้หญิงทำงานในสถานค้าประเวณีทั่วประเทศ
กว่า 200,000 คน
นายหน้าจ่ายเงินค่าตัวให้เด็กสาวพื้นราบหน้าตาดีในราคาคนละ 20,000 บาทเป็นอย่างน้อย
ขณะที่เด็กสาวชาวดอย เช่นชาวอาข่าจะได้ค่าตัวประมาณ 8,000 – 10,000 บาทเนื่องจากไม่
สามารถพูดเจรจาต่อรองกับนายหน้าได้และต้องการดิ้นรนให้หลุดพ้นจากความยากจน
“พ่อแม่เด็กมักไม่รู้หนังสือและเป็นคนซื่อ ๆ” สมภพบอก “ส่วนใหญ่รู้ว่าลูกสาวไม่ได้ทำงานจริง
อย่างที่นายหน้าอ้าง แต่ก็จำต้องขายลูกให้ทั้งที่รู้”
สมภพกับศูนย์การเรียนของเขาช่วยให้เด็กสาวบางคนในหมู่บ้านมีโอกาสใช้ชีวิตที่ดีกว่า
ศูนย์ฯ ที่อำเภอแม่สายเป็นตึก 3 หลังและมีหอประชุมเปิดโล่งขนาดใหญ่ซึ่งปัจจุบันรองรับ
เด็กได้กว่า 200 คนตั้งอยู่บนเนื้อที่ประมาณ 10 ไร่ มีตั้งแต่ศูนย์เด็กเล็กแบบเช้าไปเย็นกลับ
และโรงเรียนระดับประถม ต่อมาเปิดรับเด็กชายด้วย ที่นี่เด็กจะได้เรียนภาษาไทย ภาษาอังกฤษ
เลขคณิต และทักษะพื้นฐานอื่น ๆ มีเด็กสาวในวัยที่เสี่ยงต่อการถูกล่อลวง 65 คน
พักอยู่ที่หอพักของศูนย์แม่สายและอีกแห่งที่ศูนย์ดอยหลวง
โปรดติดตามตอนที่ (2)ในวันพรุ่งนี้
ตอนที่ (1)จากหนังสือสรรสาระ ฉบับเดือนมีนาคม 2546/2003,
โดย Marc Lerner รวบรวมและเพิ่มเติมจาก Google 2021 โดย กอบกิจ ครุวรรณ
หมู่บ้านอาข่า ดอยแม่สลอง เป็นหนึ่งในหมู่บ้านชนกลุ่มน้อยยากจนซึ่งกระจัดกระจาย
อยู่บริเวณชายแดนไทย-พม่า มีปัญหาเรื่องยาเสพติดและเด็กสาวมักถูกพ่อแม่บังคับ
ให้ออกจากโรงเรียน หลังเรียนได้แค่ 2-3 ปี ก่อนถูกนายหน้านำไปขายให้เครือข่าย
ค้าประเวณี
เมื่อ ’สมภพ จันทรากา’ ได้ยินเรื่องนายหน้ามาสัญญากับเด็กสาววัยเพียง 12 ขวบซึ่ง
เป็นลูกสาวของผู้นำหมู่บ้านแห่งนี้ว่า จะให้ทำงานเป็นเด็กเสิร์ฟและทำงานในโรงงาน
เขารู้ความจริงว่า ที่สุดแล้วเด็กเหล่านี้จะถูกบังคับให้ขายบริการทางเพศที่บาร์,
ร้านคาราโอเกะ หรือสถานอาบอบนวด
ครูสมภพและนักสังคมสงเคราะห์ซึ่งขณะนั้นวัย 36 ปี (กุมภาพันธ์ 2536) รีบขี่จักรยานยนต์
คันเก่าไปที่หมู่บ้านนี้และพูดกับผู้นำหมู่บ้านว่า “ลูกน่าจะได้รับสิ่งที่ดีกว่านี้ ถ้าเรียนจบเด็ก
จะมีโอกาสทำงานและสามารถช่วยเหลือครอบครัวได้ตามสมควร” จากนั้นสมภพก็เล่า
ให้ผู้นำหมู่บ้านฟังถึงศูนย์การเรียนของเขาที่แม่สายซึ่งอยู่ไม่ไกลกันนัก เขาบอกว่า ที่ศูนย์ฯ
เด็ก ๆ จะได้เรียนรู้ทักษะที่สามารถนำไปสร้างอนาคตได้อย่างแท้จริงผู้นำหมู่บ้านยัง
คลางแคลงใจอยู่ แต่สมภพก็ไม่ละความพยายาม เขาแวะเวียนไปเยี่ยมที่หมู่บ้านนั้นอีก
หลายครั้งในช่วง 2-3 เดือนต่อมา ในที่สุดผู้นำหมู่บ้านก็ส่งลูกสาวคนเดียวของเขาไปเรียน
ที่ศูนย์การเรียนของสมภพ ปีต่อมามีเด็กสาวเข้าเรียนเพิ่มอีกกว่า 10 คน
สมภพกำลังต่อสู้กับปัญหาของสังคมไทยที่มีมานาน นั่นคือการล่อลวงเด็กสาวมาขายบริการ
ทางเพศ ผู้เชี่ยวชาญหลายคนบอกว่า มีผู้หญิงทำงานในสถานค้าประเวณีทั่วประเทศ
กว่า 200,000 คน
นายหน้าจ่ายเงินค่าตัวให้เด็กสาวพื้นราบหน้าตาดีในราคาคนละ 20,000 บาทเป็นอย่างน้อย
ขณะที่เด็กสาวชาวดอย เช่นชาวอาข่าจะได้ค่าตัวประมาณ 8,000 – 10,000 บาทเนื่องจากไม่
สามารถพูดเจรจาต่อรองกับนายหน้าได้และต้องการดิ้นรนให้หลุดพ้นจากความยากจน
“พ่อแม่เด็กมักไม่รู้หนังสือและเป็นคนซื่อ ๆ” สมภพบอก “ส่วนใหญ่รู้ว่าลูกสาวไม่ได้ทำงานจริง
อย่างที่นายหน้าอ้าง แต่ก็จำต้องขายลูกให้ทั้งที่รู้”
สมภพกับศูนย์การเรียนของเขาช่วยให้เด็กสาวบางคนในหมู่บ้านมีโอกาสใช้ชีวิตที่ดีกว่า
ศูนย์ฯ ที่อำเภอแม่สายเป็นตึก 3 หลังและมีหอประชุมเปิดโล่งขนาดใหญ่ซึ่งปัจจุบันรองรับ
เด็กได้กว่า 200 คนตั้งอยู่บนเนื้อที่ประมาณ 10 ไร่ มีตั้งแต่ศูนย์เด็กเล็กแบบเช้าไปเย็นกลับ
และโรงเรียนระดับประถม ต่อมาเปิดรับเด็กชายด้วย ที่นี่เด็กจะได้เรียนภาษาไทย ภาษาอังกฤษ
เลขคณิต และทักษะพื้นฐานอื่น ๆ มีเด็กสาวในวัยที่เสี่ยงต่อการถูกล่อลวง 65 คน
พักอยู่ที่หอพักของศูนย์แม่สายและอีกแห่งที่ศูนย์ดอยหลวง
โปรดติดตามตอนที่ (2)ในวันพรุ่งนี้