เรื่องดีๆจากหนังสือสรรสาระ ชุด ( 5 )
โพสต์แล้ว: ศุกร์ พ.ย. 26, 2021 6:12 pm
กลับใจ จากหนังสือสรรสาระ
ฉบับเดือนมกราคม 2006 โดย แมรี่ เอ. ฟิสเชอร์
เรียบเรียงโดย กอบกิจ ครุวรรณ
ปลายปี 1999 ฉันซื้อบ้านหลังหนึ่งในย่านไฮแลนด์ปาร์คทางตะวันออกของ
ลอสแอนเจลิส แต่ย่านนี้กำลังเปลี่ยนไป เนื่องจากมีกลุ่มผู้อพยพใหม่ย้ายเข้ามา
อยู่เป็นระลอก และฉันก็เชื่อว่าความสมานฉันท์ระหว่างเชื้อชาติคือสิ่งที่เป็นไปไม่ได้
ทุกปีมีกลุ่มอพยพใหม่นับหมื่น ๆ คนหลั่งไหลเข้ามาอยู่ทางใต้ของรัฐแคลิฟอร์เนีย
เพื่อนบ้านจำนวนมากในย่านที่ฉันอยู่มาจากเม็กซิโก, เอลซัลวาดอร์, ฟิลิปปินส์
และเวียดนาม สิ่งที่เกิดขึ้นนี้จึงเป็นครั้งแรกในชีวิตที่ฉันกลายเป็นชนกลุ่มน้อยซึ่ง
ฉันไม่ชอบเลย ฉันปักใจเชื่อว่าพวกเราไม่มีอะไรที่เหมือนกันเลย ดังนั้นฉันจึงสร้าง
ปราการปิดกั้นตัวเองอยู่ในบ้านสวยทรงสเปนบนเนินเขา ฉันแทบไม่เคยพูดกับ
เพื่อนบ้าน โบกมือให้กันบ้างเป็นครั้งคราวเมื่อนำขยะออกไปทิ้งหรือขับรถสวนกัน
ท่าทีของฉันคงเป็นไปตามที่พวกเขาเชื่อกันมาว่า คนฝรั่งผิวขาว “ไม่เป็นมิตร” ใน
ทำนองเดียวกันฉันก็เชื่อฝังใจว่า ผู้อพยพเป็นพวกดื้อรั้น ไม่ยอมปรับตัวให้กลมกลืน
น่ารัก ฉันรู้สึกรำคาญเมื่อพนักงานขายของเชื้อสายละตินอเมริกันไม่เข้าใจเวลาฉัน
ถามหาสินค้าที่ต้องการ และหงุดหงิดเมื่อซุปเปอร์มาร์เก็ตในละแวกบ้านไม่มีเนยแข็ง
ชนิดที่ฉันชอบ หรือเมื่อเห็นป้ายโฆษณาสินค้าเขียนเป็นภาษาสเปน
ฉันโทรศัพท์แจ้งความกับเจ้าหน้าที่หลายครั้งเมื่อเห็นเพื่อนบ้านประพฤติตัวขวางหู
ขวางตา ผู้หญิงคนหนึ่งจากเอลซัลวาดอร์เลี้ยงไก่ในสนามหลังบ้านซึ่งปลุกฉันตอนตีห้า
ทุกเช้า เมื่อฉันร้องทุกข์ไปยังกรมควบคุมสัตว์ เธอก็ตอบโต้ด้วยการเชือดคอไก่ตัวนั้นซึ่ง
ทำให้ฉันรู้สึกผิดที่เป็นต้นเหตุเร่งให้ไก่ตัวนั้นชะตาขาดก่อนเวลา แต่ฉันก็ให้เหตุผลกับ
ตัวเองว่า เป็นเรื่องจำเป็นที่จะต้องฟื้นฟูความสงบสุขในถิ่นที่อาศัย
เมื่อเพื่อนบ้านจากเม็กซิโกเล่นดนตรีส่งเสียงดัง ฉันโทรศัพท์แจ้งตำรวจซึ่งมาจัดการ
ให้ยุติลงได้ พวกเขาคงเดาได้ว่าฉันเป็นคนแจ้งความ จึงเลิกพูดคุยกับฉัน แต่ฉันก็ให้
เหตุผลกับตัวเองว่า ฉันกำลังยกระดับถิ่นที่อยู่อาศัยให้เป็นไปตามมาตรฐานค่านิยมที่ดี
อย่างไรก็ตาม เมื่อ 2 ปีที่ผ่านมา ฉันได้เปลี่ยนวิถีชีวิตใหม่ภายในช่วงเวลา 2 วัน สาเหตุ
แรกเนื่องจากฉันถูกเลิกจ้าง ก่อนหน้าวันนั้นฉันเคยรับเงินเดือนหลักแสนดอลล่าร์ในฐานะ
นักเขียนอาวุโสของนิตยสารระดับประเทศ สาเหตุที่สองคือแทบจะในวันเดียวกันนั้นเอง
ความสัมพันธ์กับชายที่ฉันรักจบลงอย่างเลวร้าย กล่าวอีกนัยหนึ่งคือสิ่งยึดเหนี่ยวในชีวิต
ของฉันหายไปในบัดดล ฉันจมดิ่งสู่ความทุกข์และไม่รู้ว่าจะดึงตัวเองให้หลุดพ้นออกมา
ได้อย่างไร
ความสูญเสียที่เกิดขึ้นทำให้จิตใจของฉันอ่อนลงและเริ่มเข้าใจวิถีชีวิตของผู้อื่น ฉันเริ่ม
สานสัมพันธ์กับเพื่อนบ้านและโลกรอบตัว ฉันค้นพบว่าพวกเขาเป็นคนน่าทึ่งและไม่มีอคติ
ตามที่ฉันเคยวาดภาพไว้ พวกเขาขยันทำมาหากิน มีศักดิ์ศรีเช่นเดียวกับตัวฉันคือ แสวงหา
ชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีและมีความสุขบ้างตามควร
ฉันเพิ่งรู้ว่า ผู้หญิงจากเอลซัลวาดอร์คนที่เลี้ยงไก่หนีออกจากประเทศพร้อมลูกสาวเล็ก ๆ
สองคนหลังสามีถูกกลุ่มฆ่าสังหาร เธอทำงานเป็นคนทำความสะอาดหาเงินเลี้ยงครอบครัว
และส่งเสียลูกสาวทั้งสองเข้าเรียน
ฉันเพิ่งรู้อีกเช่นกันว่าเพื่อนบ้านอีกคนหนึ่งจากเม็กซิโกมาลอสแอนเจลิส และพูดอังกฤษไม่ได้
เลยเมื่อตอนที่มาถึงเมื่อ 15 ปีก่อน เขาได้งานแรกเป็นคนทำความสะอาดสำนักงาน ต่อมาเป็น
คนขับรถบรรทุกส่งของ ขณะที่เขียนเรื่องนี้เขาเป็นเจ้าของอพาร์ตเมนต์ 3 หลังและมีเงินมากกว่า
ฉันเสียอีก ช่วงคริสต์มาสที่ผ่านมา ฉันให้ไวน์แดงและขนมเค้กเพื่อนบ้านเป็นของขวัญ ส่วนพวก
เขาก็ให้ไม้กระถางและบุรีโต (burrito) ซึ่งเป็นอาหารพื้นเมืองเม็กซิกันแก่ฉันเป็นถาด ๆ
สองเดือนก่อน รถของฉันสตาร์ทไม่ติดและคงต้องโทรฯ เรียกรถยกมาลาก เพื่อนบ้านจาก
กัวเตมาลา ซึ่งทำงานเป็นคนสวนสังเกตเห็นปัญหาของฉัน เขากุลีกุจอเอาสายจั๊มออกมาและ
ช่วยจนสตาร์ทรถได้
ทุกวันนี้ฉันเข้าใจแล้วว่า ชีวิตของพวกเขาและของฉันล้วนประกอบขึ้นด้วยประสบการณ์ที่เป็น
สากลสำหรับเราทุกคน คือมีความหวัง, ความผิดหวัง และความรัก เดือนที่แล้ว ฉันได้ยินเสียง
ไก่ขันแต่เช้าตรู่ ดูเหมือนเพื่อนบ้านจากเอลซัลวาดอร์จะมีไก่ตัวใหม่ และฉันก็ชอบเฝ้ามองมัน
เดินเตร็ดเตร่ไปมาในละแวกบ้าน ไม่รู้เป็นเพราะอะไร แต่มันทำให้ฉันรู้สึกสบายใจอย่างบอกไม่ถูก
***************
ฉบับเดือนมกราคม 2006 โดย แมรี่ เอ. ฟิสเชอร์
เรียบเรียงโดย กอบกิจ ครุวรรณ
ปลายปี 1999 ฉันซื้อบ้านหลังหนึ่งในย่านไฮแลนด์ปาร์คทางตะวันออกของ
ลอสแอนเจลิส แต่ย่านนี้กำลังเปลี่ยนไป เนื่องจากมีกลุ่มผู้อพยพใหม่ย้ายเข้ามา
อยู่เป็นระลอก และฉันก็เชื่อว่าความสมานฉันท์ระหว่างเชื้อชาติคือสิ่งที่เป็นไปไม่ได้
ทุกปีมีกลุ่มอพยพใหม่นับหมื่น ๆ คนหลั่งไหลเข้ามาอยู่ทางใต้ของรัฐแคลิฟอร์เนีย
เพื่อนบ้านจำนวนมากในย่านที่ฉันอยู่มาจากเม็กซิโก, เอลซัลวาดอร์, ฟิลิปปินส์
และเวียดนาม สิ่งที่เกิดขึ้นนี้จึงเป็นครั้งแรกในชีวิตที่ฉันกลายเป็นชนกลุ่มน้อยซึ่ง
ฉันไม่ชอบเลย ฉันปักใจเชื่อว่าพวกเราไม่มีอะไรที่เหมือนกันเลย ดังนั้นฉันจึงสร้าง
ปราการปิดกั้นตัวเองอยู่ในบ้านสวยทรงสเปนบนเนินเขา ฉันแทบไม่เคยพูดกับ
เพื่อนบ้าน โบกมือให้กันบ้างเป็นครั้งคราวเมื่อนำขยะออกไปทิ้งหรือขับรถสวนกัน
ท่าทีของฉันคงเป็นไปตามที่พวกเขาเชื่อกันมาว่า คนฝรั่งผิวขาว “ไม่เป็นมิตร” ใน
ทำนองเดียวกันฉันก็เชื่อฝังใจว่า ผู้อพยพเป็นพวกดื้อรั้น ไม่ยอมปรับตัวให้กลมกลืน
น่ารัก ฉันรู้สึกรำคาญเมื่อพนักงานขายของเชื้อสายละตินอเมริกันไม่เข้าใจเวลาฉัน
ถามหาสินค้าที่ต้องการ และหงุดหงิดเมื่อซุปเปอร์มาร์เก็ตในละแวกบ้านไม่มีเนยแข็ง
ชนิดที่ฉันชอบ หรือเมื่อเห็นป้ายโฆษณาสินค้าเขียนเป็นภาษาสเปน
ฉันโทรศัพท์แจ้งความกับเจ้าหน้าที่หลายครั้งเมื่อเห็นเพื่อนบ้านประพฤติตัวขวางหู
ขวางตา ผู้หญิงคนหนึ่งจากเอลซัลวาดอร์เลี้ยงไก่ในสนามหลังบ้านซึ่งปลุกฉันตอนตีห้า
ทุกเช้า เมื่อฉันร้องทุกข์ไปยังกรมควบคุมสัตว์ เธอก็ตอบโต้ด้วยการเชือดคอไก่ตัวนั้นซึ่ง
ทำให้ฉันรู้สึกผิดที่เป็นต้นเหตุเร่งให้ไก่ตัวนั้นชะตาขาดก่อนเวลา แต่ฉันก็ให้เหตุผลกับ
ตัวเองว่า เป็นเรื่องจำเป็นที่จะต้องฟื้นฟูความสงบสุขในถิ่นที่อาศัย
เมื่อเพื่อนบ้านจากเม็กซิโกเล่นดนตรีส่งเสียงดัง ฉันโทรศัพท์แจ้งตำรวจซึ่งมาจัดการ
ให้ยุติลงได้ พวกเขาคงเดาได้ว่าฉันเป็นคนแจ้งความ จึงเลิกพูดคุยกับฉัน แต่ฉันก็ให้
เหตุผลกับตัวเองว่า ฉันกำลังยกระดับถิ่นที่อยู่อาศัยให้เป็นไปตามมาตรฐานค่านิยมที่ดี
อย่างไรก็ตาม เมื่อ 2 ปีที่ผ่านมา ฉันได้เปลี่ยนวิถีชีวิตใหม่ภายในช่วงเวลา 2 วัน สาเหตุ
แรกเนื่องจากฉันถูกเลิกจ้าง ก่อนหน้าวันนั้นฉันเคยรับเงินเดือนหลักแสนดอลล่าร์ในฐานะ
นักเขียนอาวุโสของนิตยสารระดับประเทศ สาเหตุที่สองคือแทบจะในวันเดียวกันนั้นเอง
ความสัมพันธ์กับชายที่ฉันรักจบลงอย่างเลวร้าย กล่าวอีกนัยหนึ่งคือสิ่งยึดเหนี่ยวในชีวิต
ของฉันหายไปในบัดดล ฉันจมดิ่งสู่ความทุกข์และไม่รู้ว่าจะดึงตัวเองให้หลุดพ้นออกมา
ได้อย่างไร
ความสูญเสียที่เกิดขึ้นทำให้จิตใจของฉันอ่อนลงและเริ่มเข้าใจวิถีชีวิตของผู้อื่น ฉันเริ่ม
สานสัมพันธ์กับเพื่อนบ้านและโลกรอบตัว ฉันค้นพบว่าพวกเขาเป็นคนน่าทึ่งและไม่มีอคติ
ตามที่ฉันเคยวาดภาพไว้ พวกเขาขยันทำมาหากิน มีศักดิ์ศรีเช่นเดียวกับตัวฉันคือ แสวงหา
ชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีและมีความสุขบ้างตามควร
ฉันเพิ่งรู้ว่า ผู้หญิงจากเอลซัลวาดอร์คนที่เลี้ยงไก่หนีออกจากประเทศพร้อมลูกสาวเล็ก ๆ
สองคนหลังสามีถูกกลุ่มฆ่าสังหาร เธอทำงานเป็นคนทำความสะอาดหาเงินเลี้ยงครอบครัว
และส่งเสียลูกสาวทั้งสองเข้าเรียน
ฉันเพิ่งรู้อีกเช่นกันว่าเพื่อนบ้านอีกคนหนึ่งจากเม็กซิโกมาลอสแอนเจลิส และพูดอังกฤษไม่ได้
เลยเมื่อตอนที่มาถึงเมื่อ 15 ปีก่อน เขาได้งานแรกเป็นคนทำความสะอาดสำนักงาน ต่อมาเป็น
คนขับรถบรรทุกส่งของ ขณะที่เขียนเรื่องนี้เขาเป็นเจ้าของอพาร์ตเมนต์ 3 หลังและมีเงินมากกว่า
ฉันเสียอีก ช่วงคริสต์มาสที่ผ่านมา ฉันให้ไวน์แดงและขนมเค้กเพื่อนบ้านเป็นของขวัญ ส่วนพวก
เขาก็ให้ไม้กระถางและบุรีโต (burrito) ซึ่งเป็นอาหารพื้นเมืองเม็กซิกันแก่ฉันเป็นถาด ๆ
สองเดือนก่อน รถของฉันสตาร์ทไม่ติดและคงต้องโทรฯ เรียกรถยกมาลาก เพื่อนบ้านจาก
กัวเตมาลา ซึ่งทำงานเป็นคนสวนสังเกตเห็นปัญหาของฉัน เขากุลีกุจอเอาสายจั๊มออกมาและ
ช่วยจนสตาร์ทรถได้
ทุกวันนี้ฉันเข้าใจแล้วว่า ชีวิตของพวกเขาและของฉันล้วนประกอบขึ้นด้วยประสบการณ์ที่เป็น
สากลสำหรับเราทุกคน คือมีความหวัง, ความผิดหวัง และความรัก เดือนที่แล้ว ฉันได้ยินเสียง
ไก่ขันแต่เช้าตรู่ ดูเหมือนเพื่อนบ้านจากเอลซัลวาดอร์จะมีไก่ตัวใหม่ และฉันก็ชอบเฝ้ามองมัน
เดินเตร็ดเตร่ไปมาในละแวกบ้าน ไม่รู้เป็นเพราะอะไร แต่มันทำให้ฉันรู้สึกสบายใจอย่างบอกไม่ถูก
***************