เรื่องดีๆจากหนังสือสรรสาระ (ชุดที่ 8 )
โพสต์แล้ว: พุธ ม.ค. 19, 2022 11:07 pm
สะพานเชื่อมใจ ตอนที่ (1)
จากหนังสือสรรสาระฉบับเดือนกุมภาพันธ์ 2007
โดย โรเบิร์ต คีเนอร์ และจากวิกิพีเดีย 2021 เรียบเรียงโดย กอบกิจ ครุวรรณ
โทนี่ (Toni Rüttimann) ชาวสวิส เกิดในปี 1967 ที่เมือง Pontresina ซึ่งอยู่ในหุบเขาเล็ก ๆ
เขามีชีวิตที่สุขสบายตั้งแต่เล็ก ก่อนจบมัธยมปลาย 2 สัปดาห์ เกิดแผ่นดินไหวครั้งใหญ่ที่
เอกวาดอร์ (6 มี.ค.1987) ประเทศที่โทนี่รู้จักผ่านการอ่านหนังสือ เด็กหนุ่มวัย 19 ปีรู้สึก
ตระหนกกับภาพที่เห็นในโทรทัศน์ที่เห็นคนหลายพันคนเสียชีวิตและไร้บ้าน
เพื่อน ๆ ของโทนี่ถูกเกณฑ์เป็นทหาร 6 เดือนตามที่ทางการบังคับ แต่ทางการปฏิเสธการเป็น
ทหารของโทนี่เพราะเป็นโรคผิวหนัง อย่างไรก็ตาม “ความรู้สึกอยากจะทำอะไรสักอย่างที่ดี”
รบกวนจิตใจเขา และที่สุดเขาก็ตัดสินใจไปเอกวาดอร์
“แกจะทำอะไรได้ พูดภาษาสเปนก็ไม่ได้ด้วยซ้ำ” พ่อพูดเย้ยหยัน พ่อของเขาเป็นผู้จัดการร้าน
ขายเคมีภัณฑ์ “ผมรู้ พ่อพูดถูก” โทนี่ตอบ “แต่ถึงอย่างไรผมก็จะไป เพราะผมอยากทำอะไร
ที่เป็นประโยชน์ต่อเพื่อนมนุษย์”
เขารวบรวมเงินบริจาคจากเพื่อนนักเรียนและเพื่อนบ้านได้ประมาณ 300,000 บาท และใช้เงิน
ออมของตัวเองซื้อตั๋วเครื่องบินไปกรุงกีโต (Quito) เมืองหลวงของเอกวาดอร์ เขาไปถึงที่นั่น
โดยพกความกระตือรือร้นเต็มเปี่ยมกับเงินฟรังก์สวิสเต็มกระเป๋า (1 ฟรังก์สวิส = 35 บาท)
และยังไม่รู้ว่าจะใช้เงินที่รับบริจาคมาอย่างไร
โทนี่ใช้เวลา 3 วันไปกับการนั่งรถโดยสาร โบกรถ ล่องแพและเดินเท้าเพื่อไปให้ถึงหมู่บ้าน
ฟลอร์ เดล วาเญ (Flor del Valle) ที่อยู่ห่างจากกรุงกีโต 450 กม.และเป็นหมู่บ้านที่โทนี่รับรู้
จากสื่อว่ากำลังต้องการสะพานใหม่ด่วนที่สุดเนื่องจากแผ่นดินไหวตัดขาดชาวบ้านจากโลก
ภายนอก พวกเขากำลังจะตายเพราะไม่สามารถไปพบแพทย์หรือไปโรงพยาบาลได้ทันเวลา
โปรดติดตามตอนที่ (2) ในวันพรุ่งนี้
จากหนังสือสรรสาระฉบับเดือนกุมภาพันธ์ 2007
โดย โรเบิร์ต คีเนอร์ และจากวิกิพีเดีย 2021 เรียบเรียงโดย กอบกิจ ครุวรรณ
โทนี่ (Toni Rüttimann) ชาวสวิส เกิดในปี 1967 ที่เมือง Pontresina ซึ่งอยู่ในหุบเขาเล็ก ๆ
เขามีชีวิตที่สุขสบายตั้งแต่เล็ก ก่อนจบมัธยมปลาย 2 สัปดาห์ เกิดแผ่นดินไหวครั้งใหญ่ที่
เอกวาดอร์ (6 มี.ค.1987) ประเทศที่โทนี่รู้จักผ่านการอ่านหนังสือ เด็กหนุ่มวัย 19 ปีรู้สึก
ตระหนกกับภาพที่เห็นในโทรทัศน์ที่เห็นคนหลายพันคนเสียชีวิตและไร้บ้าน
เพื่อน ๆ ของโทนี่ถูกเกณฑ์เป็นทหาร 6 เดือนตามที่ทางการบังคับ แต่ทางการปฏิเสธการเป็น
ทหารของโทนี่เพราะเป็นโรคผิวหนัง อย่างไรก็ตาม “ความรู้สึกอยากจะทำอะไรสักอย่างที่ดี”
รบกวนจิตใจเขา และที่สุดเขาก็ตัดสินใจไปเอกวาดอร์
“แกจะทำอะไรได้ พูดภาษาสเปนก็ไม่ได้ด้วยซ้ำ” พ่อพูดเย้ยหยัน พ่อของเขาเป็นผู้จัดการร้าน
ขายเคมีภัณฑ์ “ผมรู้ พ่อพูดถูก” โทนี่ตอบ “แต่ถึงอย่างไรผมก็จะไป เพราะผมอยากทำอะไร
ที่เป็นประโยชน์ต่อเพื่อนมนุษย์”
เขารวบรวมเงินบริจาคจากเพื่อนนักเรียนและเพื่อนบ้านได้ประมาณ 300,000 บาท และใช้เงิน
ออมของตัวเองซื้อตั๋วเครื่องบินไปกรุงกีโต (Quito) เมืองหลวงของเอกวาดอร์ เขาไปถึงที่นั่น
โดยพกความกระตือรือร้นเต็มเปี่ยมกับเงินฟรังก์สวิสเต็มกระเป๋า (1 ฟรังก์สวิส = 35 บาท)
และยังไม่รู้ว่าจะใช้เงินที่รับบริจาคมาอย่างไร
โทนี่ใช้เวลา 3 วันไปกับการนั่งรถโดยสาร โบกรถ ล่องแพและเดินเท้าเพื่อไปให้ถึงหมู่บ้าน
ฟลอร์ เดล วาเญ (Flor del Valle) ที่อยู่ห่างจากกรุงกีโต 450 กม.และเป็นหมู่บ้านที่โทนี่รับรู้
จากสื่อว่ากำลังต้องการสะพานใหม่ด่วนที่สุดเนื่องจากแผ่นดินไหวตัดขาดชาวบ้านจากโลก
ภายนอก พวกเขากำลังจะตายเพราะไม่สามารถไปพบแพทย์หรือไปโรงพยาบาลได้ทันเวลา
โปรดติดตามตอนที่ (2) ในวันพรุ่งนี้