เรื่องดีๆจากหนังสือสรรสาระ (ชุดที่10)
โพสต์แล้ว: อังคาร ก.พ. 15, 2022 11:17 pm
ผู้หญิงตกรถไฟ ตอนที่ (1)
จากหนังสือสรรสาระ ฉบับเดือนกุมภาพันธ์ 2012
โดย เทเวน คานาล เรียบเรียงโดย กอบกิจ ครุวรรณ
เช้าวันศุกร์ที่ 10 ธันวาคม 2010 ‘โรมา ตาลรีชา’ วัย 21 ปีมาถึงที่ทำงานแต่เช้าด้วยความ
แจ่มใส เธอจบปริญญาตรีด้านพาณิชยศาสตร์ และทำงานแผนกติดต่อลูกค้ามาได้สองปี
เธอรักงานนี้มาก เพราะทำให้เธอได้พูดคุยกับลูกค้าและรู้จักเพื่อนใหม่ ๆ ที่นั่น หลังเลิก
งานเย็นวันนั้น เธอกับเพื่อน ๆ ไปที่ห้องอาหารของบริษัท พูดคุยเฮฮาหยอกล้อกันและวาง
แผนเที่ยววันหยุดสุดสัปดาห์ จากนั้นโรมาก็เดินทางกลับบ้านตามลำพังเพื่อไปกินมื้อค่ำ
พร้อมหน้าพ่อแม่กับน้องชาย และคุยโทรศัพท์นาน ๆ กับวิชัย คู่หมั้นของเธอ
เธอเดินไปถึงสถานีรถไฟฟ้าสายชานเมืองของมุมไบที่อยู่ห่างจากที่ทำงานราว 5 นาที
เวลา18.32 น.รถไฟฟ้าเคลื่อนมาจอดที่สถานีเป็นเวลา 20 วินาที ผู้โดยสารต่างกรูกันเข้าไป
ในตู้โดยสาร 12 ตู้ที่อัดแน่นจนแทบหายใจไม่ออกซึ่งเป็นภาพปกติที่พบเห็นได้ทั้งในและรอบ ๆ
มหานครที่มีผู้คนแออัดมากที่สุดของอินเดีย (ราว 23 ล้านคน) โรมาเบียดตัวแทรกเข้าไปใน
“ตู้โดยสารเฉพาะสุภาพสตรี”ได้สำเร็จ รถไฟกระชากออกตัวไปข้างหน้า โรมาซึ่งถูกเบียดเสียด
อยู่ในหมู่ผู้หญิงคนอื่น ๆ อยู่ได้ครู่หนึ่ง จู่ๆ ก็ถูกผลัก เธอพยายามหาที่ว่างเพื่อยืนให้มั่นคงแต่ก็
ต้องตกใจเสียหลัก มือของเธอเอื้อมคว้าราวเหล็กเหนือศีรษะแต่พบความว่างเปล่า ขณะที่ตัวเธอ
ถูกเหวี่ยงออกจากรถ เสียงคำรามกึกก้องของรถไฟกลบเสียงร่างของโรมาที่กระแทกพื้นเบื้องล่าง
ห่างออกจากตัวรถไปเมตรกว่า เธอสลบไป
‘พาเลศวร’ วัย 20 ปียืนอยู่ใกล้ประตูรถไฟอีกขบวนหนึ่งซึ่งแล่นสวนมา เขาแทบไม่เชื่อสิ่งที่เพิ่งเห็น
นั่นคือหญิงสาวสวมชุดอินเดีย (ชุดซาลวาร์กามีช) สีดำนอนอยู่ข้างรางรถไฟ มีเสียงหวีดร้องด้วย
ความตกใจดังมาจากตู้ที่เขายืนอยู่ “มีผู้หญิงอยู่ข้างรางรถไฟ” หลายคนตะโกนบอก
พาเลศวรคว้าสายโซ่ฉุกเฉินสีแดงของรถไฟโดยอัตโนมัติและลนลานดึงมันลงมา รถไฟกรีดเสียง
ห้ามล้อขณะชะลอความเร็ว เขากวาดสายตาดูคนในตู้โดยสารซึ่งล้วนมีสีหน้าระแวดระวังตัว
“ไปช่วยกันเถอะ!” เขาตะโกน แต่ก็ไม่มีผู้ใดอาสา อาจไม่กล้าเข้าไปเกี่ยวข้องหรือกลัวตัวเองจะ
เดือดร้อนใจของพาเลศวรเต้นแรงทีเดียวขณะเบียดตัวมาจนถึงประตูแล้วกระโดดลงจากรถไฟที่
ยังเคลื่อนอยู่ช้า ๆ ตอนที่ตัวถึงพื้น เขารู้สึกเจ็บแปลบที่ข้อเท้า แต่ไม่เป็นอะไรมาก เขาลุกขึ้นยืน
และพบว่าพื้นรองเท้าฟองน้ำคู่เก่าฉีกขาดเนื่องจากการกระโดดลงมา จากนั้นก็รีบวิ่งตามรางขณะที่
รถไฟเริ่มเร่งความเร็วขึ้นอีกครั้งและลับตาไป
โปรดติดตามตอนที่ (2) ในวันพรุ่งนี้
จากหนังสือสรรสาระ ฉบับเดือนกุมภาพันธ์ 2012
โดย เทเวน คานาล เรียบเรียงโดย กอบกิจ ครุวรรณ
เช้าวันศุกร์ที่ 10 ธันวาคม 2010 ‘โรมา ตาลรีชา’ วัย 21 ปีมาถึงที่ทำงานแต่เช้าด้วยความ
แจ่มใส เธอจบปริญญาตรีด้านพาณิชยศาสตร์ และทำงานแผนกติดต่อลูกค้ามาได้สองปี
เธอรักงานนี้มาก เพราะทำให้เธอได้พูดคุยกับลูกค้าและรู้จักเพื่อนใหม่ ๆ ที่นั่น หลังเลิก
งานเย็นวันนั้น เธอกับเพื่อน ๆ ไปที่ห้องอาหารของบริษัท พูดคุยเฮฮาหยอกล้อกันและวาง
แผนเที่ยววันหยุดสุดสัปดาห์ จากนั้นโรมาก็เดินทางกลับบ้านตามลำพังเพื่อไปกินมื้อค่ำ
พร้อมหน้าพ่อแม่กับน้องชาย และคุยโทรศัพท์นาน ๆ กับวิชัย คู่หมั้นของเธอ
เธอเดินไปถึงสถานีรถไฟฟ้าสายชานเมืองของมุมไบที่อยู่ห่างจากที่ทำงานราว 5 นาที
เวลา18.32 น.รถไฟฟ้าเคลื่อนมาจอดที่สถานีเป็นเวลา 20 วินาที ผู้โดยสารต่างกรูกันเข้าไป
ในตู้โดยสาร 12 ตู้ที่อัดแน่นจนแทบหายใจไม่ออกซึ่งเป็นภาพปกติที่พบเห็นได้ทั้งในและรอบ ๆ
มหานครที่มีผู้คนแออัดมากที่สุดของอินเดีย (ราว 23 ล้านคน) โรมาเบียดตัวแทรกเข้าไปใน
“ตู้โดยสารเฉพาะสุภาพสตรี”ได้สำเร็จ รถไฟกระชากออกตัวไปข้างหน้า โรมาซึ่งถูกเบียดเสียด
อยู่ในหมู่ผู้หญิงคนอื่น ๆ อยู่ได้ครู่หนึ่ง จู่ๆ ก็ถูกผลัก เธอพยายามหาที่ว่างเพื่อยืนให้มั่นคงแต่ก็
ต้องตกใจเสียหลัก มือของเธอเอื้อมคว้าราวเหล็กเหนือศีรษะแต่พบความว่างเปล่า ขณะที่ตัวเธอ
ถูกเหวี่ยงออกจากรถ เสียงคำรามกึกก้องของรถไฟกลบเสียงร่างของโรมาที่กระแทกพื้นเบื้องล่าง
ห่างออกจากตัวรถไปเมตรกว่า เธอสลบไป
‘พาเลศวร’ วัย 20 ปียืนอยู่ใกล้ประตูรถไฟอีกขบวนหนึ่งซึ่งแล่นสวนมา เขาแทบไม่เชื่อสิ่งที่เพิ่งเห็น
นั่นคือหญิงสาวสวมชุดอินเดีย (ชุดซาลวาร์กามีช) สีดำนอนอยู่ข้างรางรถไฟ มีเสียงหวีดร้องด้วย
ความตกใจดังมาจากตู้ที่เขายืนอยู่ “มีผู้หญิงอยู่ข้างรางรถไฟ” หลายคนตะโกนบอก
พาเลศวรคว้าสายโซ่ฉุกเฉินสีแดงของรถไฟโดยอัตโนมัติและลนลานดึงมันลงมา รถไฟกรีดเสียง
ห้ามล้อขณะชะลอความเร็ว เขากวาดสายตาดูคนในตู้โดยสารซึ่งล้วนมีสีหน้าระแวดระวังตัว
“ไปช่วยกันเถอะ!” เขาตะโกน แต่ก็ไม่มีผู้ใดอาสา อาจไม่กล้าเข้าไปเกี่ยวข้องหรือกลัวตัวเองจะ
เดือดร้อนใจของพาเลศวรเต้นแรงทีเดียวขณะเบียดตัวมาจนถึงประตูแล้วกระโดดลงจากรถไฟที่
ยังเคลื่อนอยู่ช้า ๆ ตอนที่ตัวถึงพื้น เขารู้สึกเจ็บแปลบที่ข้อเท้า แต่ไม่เป็นอะไรมาก เขาลุกขึ้นยืน
และพบว่าพื้นรองเท้าฟองน้ำคู่เก่าฉีกขาดเนื่องจากการกระโดดลงมา จากนั้นก็รีบวิ่งตามรางขณะที่
รถไฟเริ่มเร่งความเร็วขึ้นอีกครั้งและลับตาไป
โปรดติดตามตอนที่ (2) ในวันพรุ่งนี้