ประวัตินักบุญอย่างย่อ เดือนมีนาคม (วันที่ 1-15)

ใครมาใหม่เชิญทางนี้ก่อน ทักทาย ทดลองโพส
ตอบกลับโพส
ภาพประจำตัวสมาชิก
rosa-lee
โพสต์: 6637
ลงทะเบียนเมื่อ: ศุกร์ ม.ค. 29, 2010 2:37 pm

พฤหัสฯ. มี.ค. 03, 2022 10:44 pm

ฉลองนักบุญ วันที่ ๑ มีนาคม
นักบุญดาวิดแห่งเวลส์
St. David of Wales

ดาวิด (ปี ๕๒๐-๖๐๑) เป็นนักบุญอุปถัมภ์ของเวลส์ และเป็นชาวเวลส์คนเดียวที่รับ
การประกาศเป็นนักบุญ ชื่อเล่นของท่านคือ Aquaticus (คนดื่มน้ำ) เพราะท่านเป็น
ผู้นำของคณะนักพรตที่ไม่ดื่มไวน์หรือเบียร์แต่ดื่มเพียงน้ำ แม้ท่านจะเป็นหนึ่งในนักบุญ
มีชื่อเสียงที่สุดของอังกฤษ แต่ก็ไม่มีประวัติชีวิตอย่างเป็นทางการ กล่าวกันว่าท่านตั้ง
อารามสิบหรือสิบสองแห่งในเวลส์และอังกฤษ มีวัดมากกว่า ๕๐ แห่งในยุคก่อนการปฏิรูป
พระศาสนจักรที่อุทิศแด่ท่านในตอนใต้ของเวลส์

ท่านเป็นสังฆราชของ Menevia ซึ่งเป็นเมืองสำคัญที่เชื่อมต่อเวลส์กับไอร์แลนด์ในยุคนั้น
มีผู้กล่าวว่าท่านมีอายุยืนนานถึง ๑๔๗ ปี
สันตะปาปากัลลิสตุส ที่ ๒ ตั้งท่านเป็นนักบุญในปี ๑๑๒๐

CR. : Sinapis

………………… บทภาวนาวอนขอนักบุญ …………………
พระเจ้าพระบิดาของเรา พระองค์ทรงมอบพระสังฆราชนักบุญเดวิดแก่พระศาสนจักรเวลส์
เพื่อธำรงศรัทธาและเป็นแบบอย่างแห่งความสมบูรณ์แบบของคริสตังในโลกที่เปลี่ยนแปลงนี้
ขอท่านช่วยให้เรายึดมั่นในคุณค่าที่นำมาซึ่งชีวิตนิรันดร์ โดยทางพระเยซูคริสต์องค์
พระผู้เป็นเจ้าของเรา พระบุตรของพระองค์ผู้เป็นพระเจ้า ทรงพระชนม์และครอบครอง
ร่วมกับพระองค์ในพระตรีเอกภาพแห่งพระจิตเจ้าตลอด ไปเป็นนิตย์กาลเทอญอาเมน
(เสนอความต้องการส่วนตัวเเด่นักบุญ...)
นักบุญเดวิดแห่งเวลส์ช่วยวิงวอนเพื่อพวกเราเทอญอาเมน
แก้ไขล่าสุดโดย rosa-lee เมื่อ ศุกร์ มี.ค. 01, 2024 8:04 pm, แก้ไขไปแล้ว 1 ครั้ง.
ภาพประจำตัวสมาชิก
rosa-lee
โพสต์: 6637
ลงทะเบียนเมื่อ: ศุกร์ ม.ค. 29, 2010 2:37 pm

พฤหัสฯ. มี.ค. 03, 2022 10:46 pm

ฉลองนักบุญ วันที่ ๒ มีนาคม
นักบุญชาดแห่งลิชฟีลด์
St. Chad of Lichfield

ชาด (เสียชีวิตปี ๖๗๒) เป็นอธิการของอาราม Lastingham ท่านได้รับการอภิเษกเป็น
สังฆราชแห่งYork ภายใต้สภาวะไม่ปรกติอัครสังฆราชธีร์โอดอร์แห่ง Canterbury
จึงไม่ยอมรับตำแหน่งของท่าน ชาดยอมตามอย่างยินดีต่อคำตัดสินของธีร์โอดอร์ซึ่งทำ
ให้ธีร์โอดอร์ประทับใจในความถ่อมตนของท่าน ภายหลังธีร์โอดอร์จึงอภิเษกให้ชาด
เป็นสังฆราชแห่ง Lichfield

ชาดเป็นนายชุมพาที่อุทิศตนต่อผู้อยู่ภายใต้การดูแล ท่านได้รับความเคารพนับถือว่า
เป็นนักบุญทันทีที่สิ้นใจด้วยโรคระบาดในวันที่ ๒ มีนาคม ๖๗๒

CR. : Sinapis
ภาพประจำตัวสมาชิก
rosa-lee
โพสต์: 6637
ลงทะเบียนเมื่อ: ศุกร์ ม.ค. 29, 2010 2:37 pm

พฤหัสฯ. มี.ค. 03, 2022 10:48 pm

ฉลองนักบุญ วันที่ ๓ มีนาคม
นักบุญแคทเธอรีน เดรกเซล
St. Katharine Drexel

แคทเธอรีน เดรกเซล (๑๘๕๘-๑๙๕๕) หรือที่คนทั่วไปเรียกว่าคุณแม่เดรกเซล เป็นผู้ก่อตั้ง
คณะซิสเตอร์แห่งศีลมหาสนิท ( Sisters of the Blessed Sacrament) และผู้บุกเบิกการ
ศึกษาแก่ชาวแอฟริกันอเมริกัน และชาวพื้นเมืองอเมริกัน

แคทเธอรีนเป็นลูกสาวของนายธนาคารผู้มั่งคั่งแห่งเมืองฟิลาเดลเฟีย เธอได้รับแรงบันดาลใจ
จากพระสันตะปาปาเลโอ ที่ 13 ที่สนับสนุนให้ดำเนินตามตัวอย่างพ่อแม่ผู้มีจิตใจเมตตาการุณย์

ปี ๑๘๘๙ แคทเธอรีนสละทรัพย์สินทั้งหมดของตัวเอง
(คิดเป็นเงินประมาณ ๘๐ ล้านเหรียญ หรือ ๒,๔๐๐ ล้านบาท) และอุทิศชีวิตเพื่อทำงานช่วยเหลือ
คนยากจน เธอเข้าคณะซิสเตอร์เมอซี่เมื่ออายุ ๓๐ปี แต่รู้สึกถึงกระแสเรียกพิเศษให้ทำงานธรรมทูต
กับชาวแอฟริกันอเมริกันและชาวพื้นเมืองอเมริกัน เธอทำงานต่ำต้อยทุกชนิดในอารามและถือ
คำสาบานยากจนอย่างซื่อสัตย์

ปี ๑๘๙๑ แคทเธอรีนตั้งคณะนักบวช และตั้งโรงเรียนสำหรับชนเผ่าอเมริกันแห่งแรกในเมือง Sante Fe
รัฐนิวเม็กซิโก สามปีต่อมาเธอสร้างโรงเรียนอีก ๑๑ แห่งในเขตสงวนของชาวพื้นเมืองอเมริกัน
(อินเดียนแดง) และโรงเรียนเกือบหนึ่งร้อยแห่งสำหรับชาวแอฟริกันอเมริกัน (คนผิวดำ) ในเขต
ชนบทและเมืองทางภาคใต้ ปี ๑๙๑๕ เธอก่อตั้งโรงเรียนอบรมครูที่จะเติบโตก้าวหน้าจนเป็น
มหาวิทยาลัยคาทอลิกแห่งแรกและแห่งเดียวสำหรับคนแอฟริกันอเมริกัน คือ Xavier University
ในนิวออร์ลีน

แคทเธอรีนเสียชีวิตในวันที่ ๓ มีนาคม ๑๙๕๕
ได้รับประกาศเป็นนักบุญโดยพระสันตะปาปายอห์นปอล ที่ ๒ ในวันที่ ๑ ตุลาคม ๒๐๐๐
เธอเป็นชาวอเมริกันผู้เกิดในประเทศคนที่สองที่ได้รับแต่งตั้งเป็นนักบุญ

CR. : Sinapis
ภาพประจำตัวสมาชิก
rosa-lee
โพสต์: 6637
ลงทะเบียนเมื่อ: ศุกร์ ม.ค. 29, 2010 2:37 pm

ศุกร์ มี.ค. 11, 2022 8:46 pm

ฉลองนักบุญ วันที่ ๔ มีนาคม
นักบุญกาสิมีร์แห่งโปแลนด์
St. Casimir of Poland

กาสิมีร์ (๑๔๕๘-๘๔) เป็นนักบุญองค์อุปถัมภ์ของลิธัวเนียโปแลนด์และรัสเซีย
ท่านเกิดที่คราคูฟ เป็นโอรสองค์ที่สามของกษัตริย์โปแลนด์ ท่านปฏิเสธคำสั่ง
ของพระบิดาให้ยกทัพรบสู้กับประเทศคริสตชนอื่นๆ และให้สมรสกับธิดา
จักรพรรดิเฟรเดอริก ที่ ๓

กาสิมีร์เลือกที่จะใช้ชีวิตถือโสดและเคร่งครัดทรมานตน ท่านตายเมื่ออายุ ๒๖ ปี
ด้วยวัณโรค ท่านได้รับประกาศเป็นนักบุญในปี ๑๕๒

CR. : Sinapis
ภาพประจำตัวสมาชิก
rosa-lee
โพสต์: 6637
ลงทะเบียนเมื่อ: ศุกร์ ม.ค. 29, 2010 2:37 pm

ศุกร์ มี.ค. 11, 2022 8:48 pm

ฉลองนักบุญ วันที่ ๕ มีนาคม
นักบุญยอห์น โยเซฟ แห่งไม้กางเขน
St. John Joseph of the Cross

ยอห์น โยเซฟ (ปี ๑๖๕๔-๑๗๓๔) เดิมชื่อ Carlo Gaetano เกิดบนเกาะ Ischia
ทางฝั่งทะเลตะวันตกของอิตาลีตรงข้ามกับเมืองเนเปิ้ล

เมื่ออายุ ๑๖ ปีท่านเข้าคณะฟรานซิสกัน ได้รับชื่อยอห์น โยเซฟ แห่งไม้กางเขน
ท่านบวชเป็นสงฆ์ปี ๑๖๗๗ และอุทิศตนแก่งานอภิบาลด้านศีลอภัยบาปและให้คำแนะนำ
ด้านชีวิตภายใน เมื่อคณะตั้งแขวงใหม่ท่านได้รับเลือกเป็นอธิการเจ้าคณะ เมื่อสิ้นสุดวาระ
ก็ขอกลับไปอยู่ในอารามแห่งเดิม ใช้ชีวิตอย่างสงบ แต่ท่านมักจะมีผู้ติดตามมาขอคำแนะนำ
หรือการอวยพรอยู่เสมอ ท่านสิ้นใจวันที่ ๕ มีนาคม

ท่านได้รับการประกาศเป็นนักบุญในปี ๑๘๓๙ ท่านเป็นนักบุญอุปถัมภ์ของ Ischia
ซึ่งเป็นบ้านเกิดของท่านเอง

CR. : Sinapis
ภาพประจำตัวสมาชิก
rosa-lee
โพสต์: 6637
ลงทะเบียนเมื่อ: ศุกร์ ม.ค. 29, 2010 2:37 pm

ศุกร์ มี.ค. 11, 2022 8:49 pm

ฉลองนักบุญ วันที่ ๖ มีนาคม
นักบุญโกเล็ต
St. Colette

โกเล็ตเป็นผู้ก่อตั้งคณะนักบุญคลาราผู้ยากไร้ชาวโกเล็ต (Colettine Poor Clares)
เธอเกิดเมื่อวันที่ ๑๓ มกราคม ๑๓๘๑ เมื่ออายุ ๑๗ ปี เธอเป็นกำพร้า เธอสละมอบ
ทรัพย์มรดกให้คนยากไร้

เธอดำเนินชีวิตสันโดษที่ Corby และไม่ช้าก็เป็นที่รู้จักในความศักดิ์สิทธิ์และปรีชาญาณ
ปี ๑๔๐๖ เธอออกจากห้องพำนักเพื่อตอบรับต่อความฝันที่ชักจูงเธอให้ปฏิรูปคณะคลารา
ผู้ยากจน เธอรับชุดนักบวชคณะคลาราและได้รับการแต่งตั้งเป็นอธิการิณีของทุกอารามที่เธอปฏิรูป

แม้จะได้ถูกต่อต้านอย่างหนักแต่เธอก็ไม่ย่อท้อ เธอตั้งอาราม ๑๗ แห่งที่ใช้พระวินัยปฏิรูป
และรื้อฟื้นอารามก่อนๆ ด้วย เธอมีประสบการณ์ปีติศานต์และนิมิตของพระมหาทรมาน และเธอ
ทำนายล่วงหน้าถึงการตายของเธอ เธอสิ้นใจที่อารามเมือง Ghent เบลเยี่ยม

เธอรับประกาศเป็นนักบุญเมื่อปี ๑๘๐๗

CR. : Sinapis
ภาพประจำตัวสมาชิก
rosa-lee
โพสต์: 6637
ลงทะเบียนเมื่อ: ศุกร์ ม.ค. 29, 2010 2:37 pm

ศุกร์ มี.ค. 11, 2022 8:50 pm

ฉลองนักบุญ วันที่ ๗ มีนาคม
นักบุญแปร์เปตูอา และนักบุญเฟลีซีตัส
Sts. Perpetua and Felicity

แปร์เปตูอาและเฟลีซีตัส เป็นมรณสักขีที่ตายเพื่อยืนยันความเชื่อพร้อมกับเพื่อนคนอื่นๆ
ในปี ๒๐๓ แปร์เปตูอาเกิดที่เมืองคาร์เธจในแอฟริกาเหนือ แม่ของเธอเป็นคริสตชน
ส่วนพ่อเป็นคนต่างศาสนา เธอถือตามความเชื่อของแม่ เมื่ออายุ ๒๒ ปีแปร์เปตูอาถูกจับ
ขังคุกเพราะไม่ยอมทิ้งศาสนา ขณะอยู่ในคุกเธอต้องดูแลลูกของเธอซึ่งเพิ่งคลอดและต้อง
ทนรับการลงทัณฑ์ทรมานต่างๆ นานา แปร์เปตูอาถูกสังหารในสนามกีฬาต่อหน้าสาธารณชน

เฟลีซีตัสเป็นทาสหญิงซึ่งติดคุกพร้อมกับแปร์เปตูอา ในเวลานั้นเธอตั้งครรภ์แล้ว ภายหลังรับ
ทัณฑ์ทรมานนานาชนิด เฟลีซีตัสก็ถูกสังหารในสนามกีฬาพร้อมกับแปร์เปตูอา ไม่กี่วันก่อนถึง
วันประหารเธอให้กำเนิดลูกสาวซึ่งได้ถูกนำไปเลี้ยงดูอย่างลับๆ จากเพื่อนคริสตชน เฟลีซีตัส
เป็นนักบุญองค์อุปถัมภ์ของสตรีที่เป็นหมัน

CR. : Sinapis
ภาพประจำตัวสมาชิก
rosa-lee
โพสต์: 6637
ลงทะเบียนเมื่อ: ศุกร์ ม.ค. 29, 2010 2:37 pm

ศุกร์ มี.ค. 11, 2022 8:54 pm

ฉลองนักบุญ วันที่ ๘ มีนาคม
นักบุญยอห์นแห่งพระเจ้า
St. John of God

ยอห์น (ปี ๑๔๙๕-๑๕๕๐) เดิมชื่อ Ciudad ท่านเป็นผู้ก่อตั้งคณะ Brothers Hospitallers
(ภราดาผู้ดูแลคนเจ็บป่วย)

ท่านเกิดใน Montemor-o-Novo ประเทศโปรตุเกส พระสงฆ์คนหนึ่งนำท่านไปสเปน
ท่านทำหน้าที่เป็นคนเลี้ยงแกะจนอายุ ๒๒ ปีจึงได้เข้าเป็นทหารในกองทัพ รบกับพวกฝรั่งเศส
และเติร์ก ชีวิตที่อยู่กับความรุนแรง มีการปล้นฆ่าทำให้ท่านละทิ้งความเชื่อ ดำเนินชีวิตอย่าง
ไร้ศีลธรรม

เมื่ออายุ ๔๐ ปีท่านพบประสบการณ์ทำให้กลับใจ ท่านเกือบเสียชีวิต แต่ท่านเชื่อว่าพระนางมารีย์
ทรงช่วยท่านไว้ท่านเดินทางจาริกแสวง บุญตามเส้นทาง Santiago de Compostela Cathedral
อันมีชื่อเสียงแต่โบราณ ท่านอยากไปทำงานช่วยเหลือทาสที่เป็นคริสตชนในแอฟริกาเหนือเพื่อจะ
รับโอกาสเป็นมรณสักขีแต่พ่อฟังแก้บาปคณะฟรังซิสกันคนหนึ่งชักชวนให้ท่านเปลี่ยนใจ ท่านกลับ
ไปยิบรอลต้าเพื่อสอนความเชื่อด้วยการเดินทางจากเมืองหนึ่งไปอีกเมืองหนึ่ง พร้อมกับขายหนังสือ
ศรัทธาและภาพศักดิ์สิทธิ์

ท่านได้รับแรงบันดาลใจใหญ่หลวงจากการเทศน์ครั้งหนึ่งของนักบุญยอห์นแห่งอาวีลา ท่านสาบานว่า
จะดำเนินชีวิตศักดิ์สิทธิ์แต่ในระยะแรก ท่านถือปฏิบัติการใช้โทษบาปและกิจศรัทธาอย่างสุดโต่งเกินไป
จนถูกส่งเข้าโรงพยาบาลคนโรคจิต ยอห์นแห่งอาวีลาไปเยี่ยมและแนะนำให้ท่านใช้พลังในการดูแล
คนป่วยและคนยากไร้ สุขภาพจิตของท่านดีขึ้นในเกือบทันที ท่านเช่าบ้านหลังหนึ่งในกรานาดา
และรับผู้ป่วยเข้ามาพัก

เมื่อท่านไม่ต้องพันผ้าพันแผลให้คนเจ็บป่วย หรือเข้าแยกยุติการต่อสู้ระหว่างพวกเขา ท่านจะออกไป
ขอทานตามถนนเพื่อให้ได้รับอาหารและของใช้จำเป็น มีคนอื่นๆ สนใจและเข้ามาร่วมช่วยงานจนเป็น
คณะนักบวช ที่นี่สังฆราชแห่งกรานาดาตั้งชื่อใหม่ให้ท่านว่ายอห์นแห่งพระเจ้า

ท่านตายเมื่ออายุ ๕๕ ปีในวันที่ ๘ มีนาคม ๑๕๕๐ และได้รับการประกาศเป็นนักบุญในปี ๑๖๙๐
ท่านเป็นนักบุญอุปถัมภ์ของคนขายหนังสือ

CR. : Sinapis
ภาพประจำตัวสมาชิก
rosa-lee
โพสต์: 6637
ลงทะเบียนเมื่อ: ศุกร์ ม.ค. 29, 2010 2:37 pm

ศุกร์ มี.ค. 11, 2022 8:55 pm

ฉลองนักบุญ วันที่ ๙ มีนาคม
นักบุญฟรังซิสกา ชาวโรม
St. Frances of Rome

ฟรังซิสกา (ปี ๑๓๘๔-๑๔๔๐) เป็นผู้ตั้งคณะ Oblates of Tor de'Specchi ซึ่งเป็นกลุ่มสตรี
ช่วยเหลือคนจนโดยไม่ต้องถือคำปฏิญาณ เธอเป็นนักบุญองค์อุปถัมภ์ของแม่หม้าย

ฟรังซิสกาเธอเกิดในครอบครัวร่ำรวยของโรม และแต่งงานเมื่ออายุ ๑๓ ปี หลังจากลูก ๒ คน
จากจำนวน ๖ คนเสียชีวิต ฟรังซิสกาได้ตั้งคณะสตรีอุทิศตนรับใช้คนยากจน โดยเฉพาะใน
โรงพยาบาล พวกเธอเป็นที่รู้จักในชื่อ Oblates of Mary แต่ภายหลังเป็น
Oblates of Tor de'Specchi ตามชื่อหอคอย Specchi ซึ่งอารามของพวกเธอตั้งอยู่

หลังจากสามีเสียชีวิตในปี ๑๔๓๖ ฟรังซิสกาเข้าอยู่ในหมู่คณะนี้และได้เป็นอธิการเป็นเวลา ๔ ปี
เธอสิ้นใจในวันที่ ๙ มีนาคม ๑๔๔๐ ช่วงท้ายของชีวิต เธอยังชีพด้วยการรับประทานขนมปังแห้ง
และผักเป็นครั้งคราวเท่านั้น
Cr : Sinapis
ภาพประจำตัวสมาชิก
rosa-lee
โพสต์: 6637
ลงทะเบียนเมื่อ: ศุกร์ ม.ค. 29, 2010 2:37 pm

ศุกร์ มี.ค. 11, 2022 8:57 pm

ฉลองนักบุญ วันที่๑๐ มีนาคม
มรณสักขี๔๐ คนแห่งเซบัสเตีย
Forty Martyrs of Sebastea

Sebastea หรือ Sebaste เป็นเมืองหนึ่งในตุรกีปัจจุบัน

มรณสักขีเหล่านี้เป็นกลุ่มทหารที่ถูกสังหารในปี ๓๒๐ เพราะยึดมั่นในความเชื่อคริสตชน
ยุคนั้นเป็นช่วงเบียดเบียนศาสนาโดยจักรพรรดิ Licinius

ผู้ปกครองเมืองเซบัสเตียพยายามหว่านล้อมว่าจะไว้ชีวิตหากพวกเขาละทิ้งความเชื่อแต่ไม่เป็นผล
เขาจึงสั่งให้เปลื้องเสื้อผ้าทุกคนและจับลงแช่ในทะเลสาบที่น้ำเย็นแทบเป็นน้ำแข็ง ที่ริมฝั่ง เขาสั่ง
ให้ก่อกองไฟและต้มน้ำอุ่นเพื่อเย้ายวนให้เปลี่ยนใจ ทหารคนหนึ่งยอมแพ้ แต่ปรากฏว่าทหารอีก
คนหนึ่ง ซึ่งไม่ใช่ คริสตชนสมัครเข้าแทนที่ทันที ทหารคนนั้นกลับใจเป็นคริสต์ในเวลานั้นเอง
แล้วในท่ามกลางอากาศหนาวเย็น ทุกคนก็เสียชีวิต

CR. : Sinapis
ภาพประจำตัวสมาชิก
rosa-lee
โพสต์: 6637
ลงทะเบียนเมื่อ: ศุกร์ ม.ค. 29, 2010 2:37 pm

ศุกร์ มี.ค. 11, 2022 8:58 pm

ฉลองนักบุญ วันที่ ๑๑ มีนาคม
นักบุญอูโลจิอุสแห่งคอร์โดบา
St. Eulogius of Cordoba

อูโลจิอุส (เสียชีวิตปี ๘๕๙) เกิดในครอบครัวร่ำรวยในเมืองที่มุสลิมยึดครอง ท่านบวช
เป็นพระสงฆ์และอุทิศตนทำงานช่วยคนเจ็บป่วย ท่านถูกจับคุมขังพร้อมกับสังฆราชและ
นักบวชคนอื่นๆ เพราะอ่านพระวรสารให้สตรีสองคนที่กำลังจะถูกสังหารเพราะยึดมั่น
ความเชื่อ เพื่อเป็นเกียรติแก่พวกเธอทั้งสองอูโลจิอุสจึงเขียนบันทึกเรื่องความเป็น
มรณสักขีของพวกเธอ

เมื่ออัครสังฆราชทอเลโดเสียชีวิต อูโลจิอุสได้ถูกเลือกเป็นผู้สืบทอด แต่ท่านไม่ได้มีชีวิตนาน
พอจะรับตำแหน่ง ท่านถูกจับตัวคุมขังและตัดศีรษะในวันที่ ๑๑ มีนาคม เพราะให้ที่พำนักแก่
คนกลับใจจากศาสนาอิสลาม และเพราะท่านไม่ยอมปฏิเสธความเชื่อ

CR. : Sinapis
ภาพประจำตัวสมาชิก
rosa-lee
โพสต์: 6637
ลงทะเบียนเมื่อ: ศุกร์ ม.ค. 29, 2010 2:37 pm

อาทิตย์ มี.ค. 13, 2022 3:39 pm

ฉลองนักบุญ วันที่ ๑๒ มีนาคม
นักบุญแม็กซิมีเลียน
St. Maximilian

แม็กซิมีเลียน (เสียชีวิตปี ๒๙๕) ปฏิเสธจะเข้าเป็นทหารในกองทัพโรมัน เมื่อท่านถูกให้เลือกว่า
จะเข้ากองทัพหรือตาย ท่านตอบว่า "ท่านตัดศีรษะข้าพเจ้าเถิด ข้าฯ ไม่ใช่ทหารของโลกนี้
เพราะข้าฯ เป็นทหารของพระเจ้า"

เมื่อพวกเขาบอกท่านว่ามีคริสตชนที่เป็นทหารในกองทัพ พวกนั้นมีตำแหน่งทหารรักษาพระองค์
ของจักรพรรดิ แม็กซิมีเลียนตอบว่า "พวกเขารู้สิ่งที่เหมาะที่สุดสำหรับพวกเขา ข้าฯ เป็นคริสตชน
และข้าฯไม่อาจทำสิ่งที่ผิด"

ท่านถูกตัดศีรษะในเมือง Theveste ใน Numidia (อัลจีเรียปัจจุบัน) ร่างของท่านถูกฝังในเมืองคาร์เธจ
Cr : Sinapis

:s002:
แก้ไขล่าสุดโดย rosa-lee เมื่อ อาทิตย์ มี.ค. 13, 2022 3:41 pm, แก้ไขไปแล้ว 1 ครั้ง.
ภาพประจำตัวสมาชิก
rosa-lee
โพสต์: 6637
ลงทะเบียนเมื่อ: ศุกร์ ม.ค. 29, 2010 2:37 pm

อาทิตย์ มี.ค. 13, 2022 3:40 pm

ฉลองนักบุญ วันที่ ๑๓ มีนาคม
นักบุญโรเดริค
St. Roderick

โรเดริคเป็นพระสงฆ์ในเมือง Cabra ประเทศสเปน ซึ่งอยู่ใต้การเบียดเบียนคริสตชน
โดยชาวมัวร์

โรเดริคมีน้องสองคน คนหนึ่งเป็นมุสลิม อีกคนเป็นคาทอลิกทิ้งศาสนา วันหนึ่ง ท่านพยายาม
ระงับการโต้เถียงของคนทั้งสองแต่กลับถูกทุบตีจนสิ้นสติ น้องคนที่เป็นมุสลิมนำท่านผ่านไป
ตามถนน ประกาศว่าท่านต้องการจะเป็นมุสลิม และยังบอกผู้มีอำนาจปกครองว่าโรเดริค
ได้กลับใจนับถืออิสลามแล้ว

เมื่อโรเดริครู้สึกตัว ท่านปฏิเสธสิ่งที่น้องท่านพูด ท่านบอกว่าท่านยังคงถือความเชื่อคาทอลิก
ผู้มีอำนาจปกครองกล่าวหาโรเดริคว่าถือความเชื่อผิด ท่านถูกคุมขังขณะอยู่ในคุก ท่านพบ
ชายคนหนึ่งชื่อโซโลมอน ซึ่งถูกจับเพราะข้อหาถือความเชื่อผิดเช่นกัน

หลังถูกคุมขังยาวนาน ทั้งสองถูกตัดศีรษะ

Cr :: Sinapis

:s002:
ภาพประจำตัวสมาชิก
rosa-lee
โพสต์: 6637
ลงทะเบียนเมื่อ: ศุกร์ ม.ค. 29, 2010 2:37 pm

จันทร์ มี.ค. 14, 2022 3:33 pm

ฉลองนักบุญ วันที่ ๑๔ มีนาคม
นักบุญมาทิลดา
St. Matilda

มาทิลดา เป็นราชินีแห่งเยอรมนีเธอเป็นมเหสีของกษัตริย์เฮนรี ที่ ๑ แต่เป็นหม้าย
ในปี ๙๓๖ เธอสนับสนุนพระโอรสให้ขึ้นครองบัลลังก์

มาทิลดาเป็นคนใจบุญสุนทาน เธอช่วยเหลือแจกจ่ายข้าวของให้ประชาชนที่ตกทุกข์ได้ยาก
จนเธอถูกโอรสและพระสวามีตำหนิ เธอจึงมอบมรดกทรัพย์สินทุกอย่างคืน และออกไปดำเนิน
ชีวิตในชนบท แต่ภายหลัง พวกโอรสของเธอได้ขอโทษ และขอให้เธอคืนกลับมาราชวัง

ช่วงปีท้ายๆ ของชีวิต มาทิลดาอุทิศตนให้กับการสร้างวัด คอนแวนต์ และอารามมากมาย
เธอเสียชีวิตที่อารามใน Quedlinburg และถูกฝังร่วมกับพระสวามีที่จากเธอไปก่อน

CR. : Sinapis
ภาพประจำตัวสมาชิก
rosa-lee
โพสต์: 6637
ลงทะเบียนเมื่อ: ศุกร์ ม.ค. 29, 2010 2:37 pm

อังคาร มี.ค. 15, 2022 12:15 pm

ฉลองนักบุญ วันที่ ๑๕ มีนาคม
นักบุญหลุยส์ เดอ มาริลลัก
St. Louise de Marillac

หลุยส์เกิดในปี ๑๕๙๑ ใกล้เมือง Meux ฝรั่งเศส เธอได้รับการศึกษาจากอาราม
คณะโดมินิกัน เธอแต่งงานกับ Antony LeGras ในปี ๑๖๑๓

หลังจากสามีเสียชีวิตในปี ๑๖๒๕ หลุยส์ก็คิดจะเข้าคณะนักบวช เธอพบนักบุญวินเซนต์เดอ ปอล
และขอให้ท่านเป็นพ่อวิญญาณ ท่านให้กำลังใจและแนะนำจนหลุยส์ตั้งกลุ่มสตรีอุทิศตน
เพื่อดูแลคนป่วยคนยากจนและผู้ถูกทอดทิ้ง ต่อมากลุ่มนี้เติบโตจนเป็นคณะนักบวชชื่อ
Daughters of Charity (คณะธิดาเมตตาธรรม) ได้รับการรับรองจากสันตะสำนักในปี ๑๖๕๕

สมาชิกของคณะได้ทำงานในโรงพยาบาล บ้านเด็กกำพร้าและสถาบันอื่นๆ
ที่ช่วยผู้ถูกทอดทิ้งทั่วประเทศฝรั่งเศส

หลุยส์เสียชีวิตที่ปารีสในปี ๑๖๖๐ พระสันตะปาปาปีโอ ที่ ๑๑
ประกาศตั้งเธอเป็นนักบุญในปี ๑๙๓๔และให้เธอเป็นนักบุญองค์อุปถัมภ์
ผู้ทำงานช่วยเหลือสังคมในปี ๑๙๖๐

CR. : Sinapis
ภาพประจำตัวสมาชิก
rosa-lee
โพสต์: 6637
ลงทะเบียนเมื่อ: ศุกร์ ม.ค. 29, 2010 2:37 pm

พฤหัสฯ. มี.ค. 02, 2023 8:34 pm

:s002: :s002:
ภาพประจำตัวสมาชิก
rosa-lee
โพสต์: 6637
ลงทะเบียนเมื่อ: ศุกร์ ม.ค. 29, 2010 2:37 pm

ศุกร์ มี.ค. 01, 2024 5:13 pm

:s007: :s002:


💒 ชีวประวัติ นักบุญวินเซนต์ เฟอร์เรอร์ (Saint Vincent Ferrer)

นักบุญวินเซนต์ เฟอร์เรอร์ เป็นนักบวชคณะดอมินิกัน (Dominican Order - OP) เกิดที่เมืองบาเลนเซีย
(Valencia) ประเทศสเปน เมื่อวันที่ 23 มกราคม ประมาณปีค.ศ. 1350 เสียชีวิตที่เมืองวานส์ (Vannes)
แคว้นเบรอตาญ (Brittany) ประเทศฝรั่งเศส เมื่อวันที่ 5 เมษายน ปีค.ศ. 1418 ได้รับการประกาศเป็น
นักบุญโดยพระสันตะปาปาคัลลิสตัส ที่ 3 (Pope Callistus III) ในปีค.ศ. 1455 มีการประกาศอย่างเป็น
ทางการโดยพระสันตะปาปาปิอุสที่ 2 (Pope Pius II) ในปีค.ศ. 1458 เพื่ออนุมัติให้มีวันฉลอง
ในวันที่ 6 เมษายน ของทุกปี แต่ปกติแล้วจะมีการฉลองในวันที่ 5 เมษายน ของทุกปี

“ไม่ว่าจะทำอะไรก็ตาม อย่าคิดถึงตัวเอง แต่คิดถึงพระเจ้า” - นักบุญวินเซนต์ เฟอร์เรอร์ นักบุญวินเซนต์
เกิดในครอบครัวที่มีเกียรติและมีศรัทธาทางศาสนา โดยมี “วิลเลียม เฟอร์เรอร์ (William Ferrer)”
ชาวอังกฤษ กับ “คอนสแตนเทีย มิเกล (Constantia Miguel)” สตรีชาวสเปน เป็นครอบครัว
นักบุญวินเซนต์ เริ่มทำอัศจรรย์ตั้งแต่ยังเด็ก อัศจรรย์ก็เริ่มในวันที่ท่านเกิดและในศีลล้างบาปของท่าน
ในวันเดียวกันที่เมืองบาเลนเซีย และเมื่อ อายุได้ 5 ขวบ ท่านก็รักษาเด็กข้างบ้านที่ป่วยหนักได้ พระพร
เหล่านี้และธรรมชาติที่งดงามในด้านบุคลิกและนิสัยทำให้ท่านกลายเป็นที่สนใจตั้งแต่ยังเด็ก

บิดา-มารดาของท่านได้ปลูกฝังให้นักบุญวินเซนต์มีความศรัทธาอย่างแรงกล้าต่อพระเจ้าและ
พระมารดาของพระองค์ ตลอดจนความรักอันยิ่งใหญ่ต่อคนยากจน ท่านอดอาหารเป็นประจำทุกวั
นพุธและวันศุกร์ด้วยการทานขนมปังกับดื่มน้ำเปล่าตั้งแต่ยังเด็ก อดเนื้อ และเรียนรู้ที่จะละทิ้งความ
ฟุ่มเฟือยเพื่อนำเงินไปซื้อของที่จำเป็น เมื่อบิดา-มารดาของท่านเห็นว่า นักบุญวินเซนต์มองบรรดา
คนยากจนเป็นสมาชิกของพระคริสต์ และเห็นว่าท่านปฏิบัติต่อพวกเขาด้วยความรักและความเมตตา
พวกท่านก็แต่งตั้งให้นักบุญวินเซนต์เป็นผู้แจกจ่ายทานอันมากมายของพวกท่าน พวกท่านแบ่งทรัพย์สิน
ของพวกท่านให้กับนักบุญวินเซนต์ 3 ส่วน ซึ่งนักบุญวินเซนต์แบ่งปันทรัพย์สินทั้งหมดให้กับบรรดาคน
ยากจนภายในเวลา 4 วัน

นักบุญวินเซนต์เริ่มศึกษาวิชาพื้นฐานเมื่ออายุได้ 8 ขวบ ศึกษาปรัชญาเมื่ออายุได้ 12 ปี และศึกษา
เทววิทยาเมื่ออายุได้ 14 ปี ตามที่ทุกคนคาดไว้ ท่านเข้าเรียนที่อารามคณะโดมินิกันแห่งบาเลนเซีย
และได้รับชุดนักบวชนี้เมื่อวันที่ 5 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 1367 รูปลักษณ์ของท่านราวกับทูตสวรรค์และการ
กระทำของท่านศักดิ์สิทธิ์มาก จนดูเหมือนว่าไม่มีทางเลือกวิถีชีวิตอื่นใดสำหรับท่านอีกแล้ว นอกจาก
การอุทิศชีวิตของท่านแด่พระเจ้า

ทันทีที่ท่านตัดสินใจเลือกวิถีชีวิตนี้ ปีศาจก็ผจญท่านด้วยสิ่งล่อลวงที่น่ากลัวที่สุด แม้แต่บิดา-มารดา
ของท่านซึ่งเคยสนับสนุนวิถีชีวิตนักบวช ก็ยังขอร้องให้ท่านออกจากอาราม แต่ด้วยการสวดภาวนา
และความศรัทธา โดยเฉพาะการสวดภาวนาต่อพระแม่มารีย์และทูตสวรรค์อารักขาของท่าน
นักบุญวินเซนต์จึงเอาชนะความยากลำบากของท่านได้และจบการเป็นนักบวชผู้ฝึกหัดหรือโนวิส

ท่านถูกส่งไปศึกษาที่เมืองบาร์เซโลนา (Barcelona) ประเทศสเปน และได้รับแต่งตั้งให้เป็นผู้อ่าน
ด้านปรัชญาที่เมืองเลริดา (Lerida) ซึ่งเป็นมหาวิทยาลัยที่มีชื่อเสียงที่สุดในแคว้นกาตาลุญญา
(Catalonia) ก่อนอายุ 21 ปี ขณะอยู่ที่นั่นท่านได้ตีพิมพ์บทความ 2 เล่ม

ในปีค.ศ. 1373 ท่านถูกส่งไปที่เมืองบาร์เซโลนาเพื่อเทศน์สอน แม้ว่าท่านจะปกครองบรรดาสังฆนุกร
เท่านั้น เมืองนี้กำลังประสบปัญหาขาดแคลนอาหาร และกำลังรอคอยอย่างสิ้นหวังกับการขนส่งข้าวโพด
ที่ล่าช้า นักบุญวินเซนต์ได้ทำนายไว้ในบทเทศน์ว่า เรือจะมาถึงก่อนค่ำ และแม้ว่าอธิการจะตำหนิท่านที่
ทำนายเช่นนั้น แต่เรือก็มาถึงในวันนั้น บรรดาประชาชนที่เปี่ยมด้วยความสุข รีบไปที่อารามเพื่อประกาศ
ให้นักบุญวินเซนต์เป็นประกาศก อย่างไรก็ตาม อธิการคิดว่า ควรเปลี่ยนความคิดของท่านจาก
คำสรรเสริญเยินยอดังกล่าว

เรื่องเล่าอีกเรื่องหนึ่งเล่าว่า มีเด็กเร่ร่อนกลุ่มหนึ่งได้เรียกร้องความสนใจของท่านไปที่หนึ่งในสมาชิก
เด็กเร่ร่อนซึ่งนอนเหยียดตัวอยู่กลางฝุ่น โดยแกล้งตายอยู่ใกล้กับท่าเรือกราวน์ (Port of Grao) พวกเขา
ตะโกนว่า "เขาตายแล้ว ช่วยชุบชีวิตเขาให้กลับมามีชีวิตอีกครั้งด้วยเถิด!"

“อืม” วินเซนต์ตอบ “เขาแกล้งตาย แต่ดูสิ เขาตายจริงๆแล้ว” นี่คือวิธีที่คนเราจะโกหกได้ชัดเจน นั่นคือ
การมองว่า มันเป็นเรื่องจริง และกลายเป็นเรื่องจริง เด็กคนนั้นได้ตายจริง ทุกคนต่างหวาดกลัว พวกเขา
วิงวอนให้นักบุญวินเซนต์ทำอะไรบางอย่าง พระเจ้าทรงทำให้ท่านคืนชีพเด็กคนนั้นขึ้นมา

ในปี ค.ศ. 1376 วินเซนต์ถูกย้ายไปที่เมืองตูลูส (Toulouse) เป็นเวลา 1 ปี และศึกษาต่อ นักบุญวินเซนต์
ศึกษาพระคัมภีร์และภาษาฮีบรูมาโดยเฉพาะ จึงมีความพร้อมที่จะเทศน์สอนชาวยิว ท่านได้รับแต่งตั้งเป็น
พระสงฆ์ที่เมืองบาร์เซโลนาในปีค.ศ. 1379 และกลายเป็นสมาชิกในราชสำนักของพระคาร์ดินัลเปโตร
เดอ ลูนา (Cardinal Pedro de Luna) ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นของมิตรภาพอันยาวนานที่จบลงด้วยความเศร้าโศก
ของทั้งคู่ (พระคาร์ดินัล เดอ ลูนา ได้ลงคะแนนเสียงให้กับพระสันตะปาปาเออร์บัน ที่ 6 (Pope Urban VI)
ในปี ค.ศ. 1378 แต่เชื่อมั่นว่า การเลือกตั้งครั้งนี้ไม่ถูกต้อง จึงเข้าร่วมกับกลุ่มพระคาร์ดินัลที่เลือกโรเบิร์ต
แห่งเจนีวา (Robert of Geneva) เป็นพระสันตะปาปาเคลเมนต์ ที่ 7 (Pope Clement VII) ภายหลัง
ในปีเดียวกัน ทำให้เกิดความแตกแยก)

หลังจากถูกเรียกตัวกลับประเทศแล้ว นักบุญวินเซนต์ก็เทศน์สอนที่อาสนวิหารในเมืองบาเลนเซียได้
อย่างประสบความสำเร็จระหว่างปี ค.ศ. 1385 - ค.ศ. 1390 และมีชื่อเสียงในด้านความสามารถในการ
พูดจาไพเราะและมีประสิทธิภาพในการชักชวนชาวยิวให้กลับใจ “แรบไบเปาโลแห่งบูร์โกส
(Rabbi Paul of Burgos“ ผู้ที่จะเป็นบิชอปแห่งการ์ตาเฮนา (Cartagena) หนึ่งในบรรดาผู้กลับใจชาวยิว
และชาวแขกมัวร์จำนวน 30,000 คนของนักบุญวินเซนต์ และท่านนักบุญช่วยฟื้นคืนความศรัทธาของผู้ที่
หลงผิด อัศจรรย์มากมายของท่าน ความเข้มแข็งและความไพเราะของเสียงของท่าน ความบริสุทธิ์และ
ความชัดเจนในหลักคำสอน รวมกันทำให้การเทศน์สอนของท่านมีประสิทธิผลและเป็นไปตามหลักคำสอน

แน่นอนว่าความสำเร็จของนักบุญวินเซนต์ในฐานะนักเทศน์ทำให้คนอื่นๆอิจฉาและทำให้ท่านถูกใส่ร้าย
เพื่อนร่วมงานของท่านเชื่อว่า พวกเขาสามารถแก้ไขสถานการณ์การใส่ร้ายได้โดยแต่งตั้งให้ท่านเป็นอธิการ
ของอารามในเมืองบาเลนเซีย ท่านถอนตัวออกไปชั่วระยะหนึ่งเพื่อไม่ให้ใครรู้ แต่ท่านถูกเรียกตัวให้ไปเทศน์
ในเทศกาลมหาพรตในปีค.ศ. 1381 ที่เมืองบาเลนเซีย และท่านไม่สามารถปฏิเสธที่จะใช้พระพรในการพูด
ซึ่งดึงดูดผู้คนได้ดีและเรียบง่าย รวมถึงบรรดาพระสงฆ์ที่จ้องจับผิด , บรรดานักบวช และบรรดานักวิชาการ
ที่ไม่เชื่อในพระศาสนจักรให้มาหาท่านได้

พระคาร์ดินัลเปโตร เดอ ลูนา ผู้ดื้อรั้นและทะเยอทะยาน ได้ทำให้นักบุญวินเซนต์เป็นส่วนหนึ่งของภาระ
หน้าที่ของเขา นับตั้งแต่ปีค.ศ. 1390 เป็นต้นมา นักบุญวินเซนต์ได้เทศน์สอนในทุกที่ในเขตอำนาจของ
พระคาร์ดินัลเปโตร เดอ ลูนา รวมถึงในราชสำนักแห่งอาวีญง ซึ่งนักบุญวินเซนต์ได้มีโอกาสเป็นพระสงฆ์
ผู้ฟังแก้บาปของพระสันตะปาปา เมื่อพระคาร์ดินัลเปโตร เดอ ลูนาได้รับการแต่งตั้งเป็นผู้ต่อต้าน
พระสันตะปาปาเบเนดิกต์ที่ 13 (Antipope Benedict XIII) ในปีค.ศ. 1394

ความชั่วร้าย 2 ประการที่ร้องขอการเยียวยาในสมัยของนักบุญวินเซนต์ ได้แก่ ความหย่อนยานทาง
ศีลธรรมที่เกิดจากโรคระบาดครั้งใหญ่ และ ความอื้อฉาวของการแตกแยกของพระสันตะปาปา สำหรับ
เรื่องแรก ท่านเทศน์สอนอย่างไม่เหน็ดเหนื่อยเกี่ยวกับความชั่วร้ายในสมัยนั้น ท่านพยายามอย่างเต็มที่
เพื่อนำความสงบเรียบร้อยออกมาจากความสับสนวุ่นวาย ในที่สุด นักบุญวินเซนต์ก็เชื่อว่า คำกล่าวอ้าง
ของมิตรสหายของท่านเป็นเท็จ และเร่งเร้าให้พระคาร์ดินัลเปโตร เดอ ลูนา คืนดีกับพระสันตะปาปาเออร์บันที่ 6

ท่านทำหน้าที่เป็นผู้พระสงฆ์ผู้ฟังแก้บาปแก่ราชินีโยลันดาแห่งอารากอน (Queen Yolanda of Aragon)
ตั้งแต่ปีค.ศ. 1391 ถึง ค.ศ. 1395 ท่านถูกศาลศาสนากล่าวหาว่า เป็นคนนอกรีต เพราะท่านสอนว่ายูดาส
ได้ทำการชดใช้ความผิด แต่ข้อกล่าวหานี้ถูกยกฟ้องโดยผู้ต่อต้านพระสันตะปาปาเบเนดิกต์ที่ 13
(Antipope Benedict XIII) ซึ่งได้เผาเอกสารของศาลศาสนาเกี่ยวกับนักบุญวินเซนต์และแต่งตั้งให้ท่าน
เป็นพระสงฆ์ผู้ฟังแก้บาป

พระสันตะปาปาเบเนดิกต์ทรงเสนอตำแหน่งบิชอปแก่นักบุญวินเซนต์ แต่ท่านปฏิเสธ ท่านทุกข์ใจกับ
การแตกแยกครั้งใหญ่และตำแหน่งที่ไม่ยอมเปลี่ยนของพระสันตะปาปาเบเนดิกต์ นักบุญวินเซนต์จึงแนะนำ
ให้พระองค์หารือกับคู่แข่งชาวโรมันของพระองค์ แต่พระสันตะปาปาเบเนดิกต์ทรงปฏิเสธ นักบุญวินเซนต์
จำเป็นต้องตัดขาดจากพระคาร์ดินัลเปโตร เดอ ลูนาอย่างไม่เต็มใจในปีค.ศ. 1398 ความตึงเครียดจาก
ความขัดแย้งระหว่างมิตรภาพและความจริงทำให้นักบุญวินเซนต์ล้มป่วยอย่างร้ายแรงในปีค.ศ. 1398
ระหว่างที่ท่านล้มป่วย ท่านเห็นนิมิตซึ่งพระเยซูคริสตเจ้า (Jesus Christ) , นักบุญดอมินิกแห่งกุซมาน
(Saint Dominic of Guzmán) และนักบุญฟรังซิสแห่งอัสซีซี (Saint Francis of Assisi) ได้สั่งสอนให้
เทศนาการชดใช้บาปเมื่อใดก็ตามที่ท่านต้องการ และท่านก็หายจากอาการป่วยอย่างอัศจรรย์

หลังจากที่ท่านนักบุญฟื้นตัวแล้ว ท่านได้ร้องขอให้ได้รับอนุญาตให้อุทิศตนเพื่องานประกาศข่าวดี
ท่านเทศน์สอนในชุมชนคาร์เพนทราส (Carpentras) , นครอาร์ล (Arles) , เมืองแอ็กซ์ (Aix) ,
และเมืองมาร์เซย์ (Marseilles) โดยมีผู้เข้าฟังจำนวนมาก ระหว่างปีค.ศ. 1401 ถึง ค.ศ. 1403 นักบุญ
ได้เทศนาในจังหวัดโดฟีเน (Dauphiné) , ภูมิภาคซาวอย (Savoy) และในหุบเขาแอลป์ (Alpine Valleys)
จากนั้นจึงเดินทางไปต่อที่เมืองลูเซิร์น (Lucerne) , เมืองโลซาน (Lausanne) , หุบเขาทาเรนแตส
(Tarentaise Valley) , เมืองเกรอน็อบล์ (Grenoble) และเมืองตูริน (Turin) ท่านเป็นผู้พูดที่ประสิทธิภาพมาก
ถึงขนาดที่แม้จะพูดได้แค่ภาษาสเปน แต่หลายคนก็มองว่าเขาเป็นผู้พูดได้หลายภาษา “โบนิฟาซ (Boniface)”
พี่ชายของท่านเป็นอธิการของอารามแกรนด์ ชาร์เทรอส (Grande Chartreuse) และจากการเทศนา
ของวินเซนต์ บุคคลสำคัญหลายคนจึงได้เข้ามาในอารามแห่งนี้

เชื่อกันว่าอัศจรรย์เกิดขึ้นกับท่าน ในปีค.ศ. 1405 นักบุญวินเซนต์อยู่ที่เมืองเจนัว (Genoa) และเทศน์
ต่อต้านเครื่องประดับศีรษะแฟนตาซีที่สตรีชาวลิกูเรียน (Ligurian) สวมใส่ และเครื่องประดับศีรษะเหล่านี้
ก็ถูกดัดแปลงมา “เป็นการกระทำที่น่าอัศจรรย์ที่สุดของท่าน” นักเขียนชีวประวัติของท่านคนหนึ่งเล่าไว้
จากเมืองเจนัว ท่านขึ้นเรือไปที่พื้นที่แฟลนเดอร์ส (Flanders) ต่อมาที่ประเทศเนเธอร์แลนด์ มีตารางเวลา
ให้ท่านรักษาวันละ 1 ชั่วโมง ในแคว้นกาตาลุญญา (Catalonia) คำภาวนาของท่านทำให้แขนขาที่เหี่ยว
ของเด็กชายพิการชื่อ “จอห์น โซเลอร์ (John Soler)” ซึ่งแพทย์ของเขา วินิจฉัยว่า รักษาไม่หาย ซึ่งต่อมาเขา
ได้รับตำแหน่งบิชอปแห่งบาร์เซโลนา ในเมืองซาลามังกา (Salamanca) ในปีค.ศ. 1412 ท่านได้คืนชีพที่ตาย
ไปแล้วให้ฟื้นขึ้นมา อัศจรรย์ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดอาจเกิดขึ้นที่จังหวัดโดฟีเน ในพื้นที่ที่เรียกว่า “โวปูต (Vaupute)”
หรือ “หุบเขาแห่งการฉ้อฉล (Valley of Corruption)” ชาวพื้นเมืองที่นั่นป่าเถื่อนมากจนไม่มีพระสงฆ์คนไหน
จะไปเยี่ยมพวกเขา นักบุญวินเซนต์ซึ่งพร้อมที่จะทนทุกข์ทรมานทุกอย่างเพื่อให้ได้วิญญาณ เสี่ยงชีวิต
ด้วยความชื่นชมยินดีท่ามกลางคนชั่วร้ายที่ถูกทิ้งเหล่านี้ ทำให้พวกเขากลับใจจากความผิดพลาดและ
ความชั่วร้ายของพวกเขา หลังจากนั้นชื่อของหุบเขาแห่งนี้จึงถูกเปลี่ยนชื่อเป็น “วัลเพียว (Valpure)”
หรือ “หุบเขาแห่งความบริสุทธิ์ (Valley of Purity)” ซึ่งเป็นชื่อที่ยังคงใช้มาจนถึงปัจจุบัน
แก้ไขล่าสุดโดย rosa-lee เมื่อ เสาร์ มี.ค. 15, 2025 1:51 pm, แก้ไขไปแล้ว 1 ครั้ง.
ภาพประจำตัวสมาชิก
rosa-lee
โพสต์: 6637
ลงทะเบียนเมื่อ: ศุกร์ ม.ค. 29, 2010 2:37 pm

เสาร์ มี.ค. 15, 2025 1:34 pm

นักบุญวินเซนต์เทศน์สอนอย่างไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย โดยพลังอำนาจเหนือธรรมชาติของพระเจ้า
ซึ่งได้มาจากการอดอาหาร , การสวดภาวนา และการพลีกรรมของท่าน ชื่อเสียงของงานประกาศ
ข่าวดีของนักบุญวินเซนต์นั้นโด่งดังมากจนพระเจ้าเฮนรีที่ 4 (King Henry IV) แห่งอังกฤษ ทรงส่ง
ข้าราชบริพารไปหาท่านพร้อมกับจดหมายขอร้องให้ท่านเทศน์สอนในอาณาจักรของพระองค์
กษัตริย์ทรงส่งเรือลำหนึ่งไปรับท่านจากชายฝั่งของฝรั่งเศส และท่านได้รับการต้อนรับอย่างดีเยี่ยม
นักบุญวินเซนต์ใช้เวลาพอสมควรในการให้คำแนะนำที่เป็นประโยชน์แก่พระองค์เองและราษฎร
ของพระองค์ และท่านเทศน์สอนในเมืองสำคัญต่างๆของประเทศอังกฤษ , ประเทศสกอตแลนด์
และประเทศไอร์แลนด์ เมื่อท่านกลับไปที่ประเทศฝรั่งเศส แล้วท่านก็ยังคงเทศน์สอนเช่นเดียวกัน
ตั้งแต่เขตการปกครองกัสกอญ (Gascony) ไปจนถึงแคว้นปีการ์ดี (Picardy)

การเทศน์สอนของนักบุญวินเซนต์กลายเป็นกระบวนการที่แปลกประหลาด แต่ได้ผลอย่างน่าอัศจรรย์
นักบุญวินเซนต์สามารถดึงดูดผู้คนได้หลายร้อยคน ซึ่งครั้งหนึ่งมีมากกว่า 10,000 คน โดยติดตาม
ท่านจากที่หนึ่งไปยังอีกที่หนึ่งโดยแต่งกายเหมือนผู้แสวงบุญ บรรดาพระสงฆ์ในคณะจะร้องเพลงมิสซา
ทุกวัน , สวดบทสวดภาวนา และโปรดศีลมหาสนิทแก่ผู้ที่กลับใจในคำสอนของนักบุญวินเซนต์ ผู้ชาย
และผู้หญิงเดินทางเป็นกลุ่มโดยแยกกัน สวดบทเร้าวิงวอนและบทภาวนาขณะที่เดินเท้าเปล่าไปตาม
ถนนจากเมืองหนึ่งไปยังอีกเมืองหนึ่ง พวกเขาสอนคำสอนในที่ที่จำเป็น ก่อตั้งโรงพยาบาล และฟื้นคืน
ความศรัทธาที่เกือบจะสูญสลายไปในช่วงที่เกิดโรคระบาด

ข้อความในบทเทศน์ของท่าน คือ การพลีกรรม , การพิพากษาครั้งสุดท้าย และชีวิตนิรันดร เช่นเดียว
กับนักบุญยอห์น บัปติสต์ (Saint John the Baptist) อีกคนหนึ่ง ซึ่งเปรียบได้กับทูตสวรรค์ เช่นเดียวกับ
นักบุญวินเซนต์ในงานศิลปะพื้นบ้าน ท่านเดินทางผ่านถิ่นทุรกันดารเพื่อร้องเรียกผู้คนให้ปรับเส้นทาง
ของพระเจ้าให้ตรง แม้จะด้วยเหตุผลอื่นก็ตาม ผู้ทำบาปเกรงกลัวการพิพากษา จึงฟังบทเทศน์สอนอัน
น่าสนใจของท่าน และผู้ที่ดื้อรั้นที่สุดก็ถูกท่านชี้แนะให้ละทิ้งบาปและรักพระเจ้า ท่านได้ทำอัศจรรย์
มากมาย ซึ่งบางอัศจรรย์ยังคงปรากฏในสุภาษิตของสเปนจนถึงทุกวันนี้ ผู้ที่กลับใจเพราะท่าน ได้แก่
นักบุญเบอร์นาดินแห่งเซียนา (Saint Bernardine of Siena) และ มาร์กาเร็ตแห่งซาวอย (Margaret of Savoy)

ท่านเดินทางกลับประเทศสเปนในปีค.ศ. 1407 แม้ว่าเมืองกรานาดา (Granada) จะอยู่ภายใต้การ
ปกครองของชาวแขกมัวร์ แต่ท่านก็เทศน์สอนได้สำเร็จ และว่ากันว่าชาวยิวและชาวแขกมัวร์หลายพัน
คนกลับใจและขอรับศีลล้างบาป บทเทศน์ของท่านมักจะจัดขึ้นกลางแจ้ง เนื่องจากวัดมีขนาดเล็กเกินไป
สำหรับผู้ที่ต้องการฟังบทเทศน์ของท่าน

ในปีค.ศ. 1414 สภาคอนสแตนซ์ (Council of Constance) พยายามยุติการแตกแยกครั้งใหญ่
ซึ่งขยายตัวขึ้นตั้งแต่ปีค.ศ. 1409 โดยมีผู้เรียกร้องบัลลังก์พระสันตะปาปาถึง 3 คน สภาปลดยอห์น
ที่ 23 (John XXIII) ออกจากตำแหน่ง และเรียกร้องให้เบเนดิกต์ ที่ 13 (Benedict XIII) กับ เกรกอรี ที่ 12
(Gregory XII) ลาออก เพื่อจัดการเลือกตั้งใหม่ เกรกอรี ที่ 12 เต็มใจ แต่เบเนดิกต์ ที่ 13 ดื้อรั้น
นักบุญวินเซนต์พยายามเกลี้ยกล่อมเบเนดิกต์ ที่ 13 ให้สละราชสมบัติอีกครั้ง แต่ก็ไม่สำเร็จอีก แต่
นักบุญวินเซนต์ซึ่งทำหน้าที่เป็นผู้พิพากษาในคดีประนีประนอมที่เทศบาลคาสเป้ (Caspe) เพื่อตัดสิน
การสืบราชบัลลังก์ ได้มีอิทธิพลต่อการเลือกตั้งเฟอร์ดินานด์ (Ferdinand) เป็นกษัตริย์แห่งกัสติยา
(Castile) เฟอร์ดินานด์ซึ่งยังคงเป็นเพื่อนกับเบเนดิกต์ ที่ 13 ได้ใช้ความคิดเห็นของนักบุญวินเซนต์
ในเรื่องนี้เป็นพื้นฐานในการกระทำของเขา และวางแผนการปลดเบเนดิกต์ ที่ 13 ออก
อยากในปีค.ศ. 1416 ซึ่งยุติการแตกแยกทางตะวันตก

หนังสือของท่านเรื่อง “บทความเรื่องชีวิตฝ่ายวิญญาณ (Treatise on the Spiritual Life)” ยังคง
มีคุณค่าสำหรับจิตวิญญาณที่จริงจัง ในหนังสือนั้น ท่านเขียนว่า : "ท่านปรารถนาที่จะศึกษาเพื่อประโยชน์
ของผลประโยชน์ของตัวท่านมั้ย? ให้ความศรัทธามาคู่กับการศึกษาของท่านทั้งหมด และศึกษาให้น้อยลง
เพื่อให้ตัวเองท่านใดเองมีความรู้มากกว่าที่จะเป็นนักบุญ ปรึกษาพระเจ้ามากกว่าหนังสือของท่าน และขอ
พระองค์ด้วยความอ่อนน้อมถ่อมตนเพื่อทำให้ท่านเข้าใจสิ่งที่ท่านอ่าน การศึกษาทำให้ท่านเหนื่อยล้าและ
หมดแรงใจ ไปเป็นครั้งคราวเพื่อชโลมมันที่พระบาทของพระเยซูคริสตเจ้าภายใต้ไม้กางเขนของพระองค์
ช่วงเวลาแห่งการพักผ่อนในบาดแผลศักดิ์สิทธิ์ของพระองค์ให้พลังใหม่และแสงสว่างใหม่ ขัดจังหวะการ
ประยุกต์ใช้ของท่านด้วยคำภาวนาสั้นๆ แต่เร่าร้อนและหลั่งไหล อย่าเริ่มต้นหรือสิ้นสุดการศึกษาของท่าน
แต่ด้วยการภาวนา วิทยาศาสตร์เป็นของขวัญจากพระบิดาแห่งแสงสว่าง ดังนั้นอย่าคิดว่ามันเป็นเพียงงาน
ของจิตใจหรือความอุตสาหะของท่านเอง"

ดูเหมือนว่า นักบุญวินเซนต์จะปฏิบัติตามสิ่งที่ท่านเทศน์สอน ท่านมักจะเตรียมบทเทศน์ที่เชิงไม้กางเขนเสมอ
ทั้งเพื่อขอแสงสว่างจากพระเยซูผู้ถูกตรึงกางเขน และเพื่อดึงความรู้สึกจากสิ่งนั้นมาใช้เพื่อให้ผู้ฟังรู้สึกสำนึกผิด
และรักพระเจ้า

นักบุญวินเซนต์ยังเทศน์สอนแก่นักบุญโคเล็ตต์ (Saint Colette) และบรรดาแม่ชีของเธอด้วย และเธอเอง
ที่บอกท่านว่า ท่านจะต้องตายที่ประเทศฝรั่งเศส ซึ่งเป็นความจริง นักบุญวินเซนต์ใช้เวลา 3 ปีสุดท้ายของชีวิต
ในประเทศฝรั่งเศส โดยส่วนใหญ่อยู่ในแคว้นนอร์มังดี (Normandy) กับ แคว้นเบรอตาญ และท่านเสียชีวิต
ในวันพุธของสัปดาห์ศักดิ์สิทธิ์ที่เมืองวานส์ ในแคว้นเบรอตาญ หลังจากกลับมาจากการเทศน์สอนที่
เมืองนองต์ (Nantes) วันฝังศพของท่านเป็นวันฉลองใหญ่ที่มีผู้คนมาร่วมมากมาย

นักบุญวินเซนต์ เฟอร์เรอร์เป็นนักบุญอุปถัมภ์สถานเลี้ยงเด็กกำพร้าในประเทศสเปน กับ ชาวประมง
ชาวเบรตัน (Breton) ยังคงขอความช่วยเหลือจากท่านในยามพายุ แล้วท่านยังเป็นผู้อุปถัมภ์ผู้นำผู้ก่อตั้ง
และรักษาโรคลมบ้าหมู , ไข้ และอาการปวดหัว

CR. : https://www.royalacademy.org.uk/art-art ... ent-ferrer

ปล. หากมีการแปลผิดพลาดประการใด หรือข้อมูลผิดพลาด แอดมินก็ขออภัย ณ ที่นี้ด้วยนะครับ

💝 หากท่านชอบบทความความสามารถโดเนทเพื่อสนับสนุนมาได้ที่
ธนาคารทีเอ็มบีธนชาต (ttb)
235-2-54394-2

ขอพระเจ้าสถิตกับท่านทุกคนนะครับ 💒💒😇😇
#คริสต์ #คาทอลิก #คริสต์ศรัทธา #ชีวประวัติ #นักบุญ #ประวัติศาสตร์ #นักบุญวินเซนต์เฟอร์เรอร์
#คณะดอมินิกัน #นักเทศน์ #เทศน์ #แพร่ธรรม #ประกาศข่าวดี #ประกาศข่าวประเสริฐ #ประวัติศาสตร์
#อัศจรรย์ #ศักดิ์สิทธิ์ #catholic #SaintVincentFerrer #DominicanOrder
#OrderOfPreachers #OP #preacher

CR. : คริสต์ศรัทธา
https://www.facebook.com/share/p/1Ey3hd ... tid=wwXIfr
ตอบกลับโพส